ต่อจากตอนที่ 2.....
6 ก.ค. ออกจาก Lugano สวิสฯ มุ่งหน้าสู่ Milano Centrale อิตาลี เพื่อไปต่อรถที่ Genova อิตาลี (ภาษาไทย คือ เจนัว) ปลายทางอยู่ที่ โมนาโก เป็นการนั่งรถเปลี่ยนประเทศ (EC, IC, ICN) ปกติค่าโดยสารคนละ 1,400 บาท แต่เรามีตั๋ว EURail Pass เราจ่ายค่าที่นั่งคนละ 390 บาท เท่ากับประหยัดไปได้คนละ 1,010 บาท ความจริงถ้าเราไปรถธรรมดาเราก็ไม่ต้องเพิ่มค่าที่นั่ง แต่ต้องต่อรถหลายครั้ง ประกอบกับในตารางรถไฟไม่มีบอกไว้เราจึงต้องไปซื้อตั๋วที่นั่ง

จาก Genova เราเดินทางเลาะลงใต้ไปต่อรถที่ Ventiniglia เป็นเส้นทางสาย Riviara-Mediteranian ทัศนียภาพริมฝั่งทะเลน้ำตื้น มองเห็นก้อนหินใต้น้ำ ตรงไหนที่พอจะมีทรายอยู่บ้าง จะมีคนทุกเพศทุกวัยเล่นน้ำอยู่เต็มไปหมด ทั้งๆ ที่เป็นบ่ายวันจันทร์ เท่าที่เห็นไม่น่าจะเป็นคนต่างถิ่น อีกด้านหนึ่งของทางรถไฟเต็มไปด้วยดอกไม้ ส่วนใหญ่เป็นดอกยี่โถดอกใหญ่พราวเกือบตลอดเส้นทาง อิตาลีช่างสวยงามจริงๆ
จากเวนตินิเกลีย อิตาลี ถึงโมนาโก ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง สถานีมอนติคาร์โลเป็นสถานีรถไฟเพียงแห่งเดียวในโมนาโกเป็นสถานีรถไฟในอุโมงค์ยาวและกว้างใหญ่ สีสว่างติดไฟพราวดูเหลืองอร่ามสวยมาก ทางเดินเข้าออกจากสถานีก็เป็นอุโมงค์ยาวประมาณ 500 เมตร มีทางเดินเลื่อนเหมือนในสนามบิน 3 ช่วง ช่วงละประมาณ 100 เมตร เดินออกจากสถานีซื้อตั๋วพาส 24 ชม. คนละ 5.5 ยูโร นั่งรถบัสชมเมืองจนความมืดเข้าครอบงำ ถนนเมืองนี้เต็มไปด้วยอุโมงค์ รถแต่ละสายเข้าอุโมงค์ไม่ซ้ำกัน ทุกสายผ่านท่าเรือเพราะท่าเรือโอบประเทศไว้ สอบถามคนท้องถิ่นทราบว่ารถบัสที่ผ่านคาสิโน มีสาย 1 2 6 และ 10

ก่อนถึงคาสิโนมี Buddha Bar ด้านหน้ามีรูปพระพุทธรูปอยู่ตรงป้ายด้วย สงสัยว่าคนที่ต่อสู้เพื่อพระพุทธศาสนาไม่รู้หรืออย่างไรไม่เห็นมีใครทำเรื่องคัดค้าน ประเทศเล็กๆนี้ด้านหนึ่งเป็นภูเขา ตั้งบ้านเรือนขึ้นไปบนเขา ที่ราบติดทะเลเป็นย่านธุรกิจ ลงไปเป็นท่าเรือตลอดชายฝั่ง ทุกอย่างในโมนาโกดูหรูหราโอ่อ่า มีไม้ดอกสารพัดทั้งยี่โถ พู่ระหง ชบา พุทธรักษา ผกากรอง กุหลาบ,ฯลฯ มีนักท่องเที่ยวเดินกันคึกคักโดยเฉพาะที่คาสิโน เราเจอต้นมะตูมแขกด้วย เสียดายตอนเดินผ่านไม่ได้แหงนดูไม่งั้นเสร็จเราแน่ๆ เพราะชอบมาก รสชาติ อมเปรี้ยว อมฝาดและมัน เวลาเคี้ยวมีกลิ่นหอมขึ้นจมูก เป็นผักเคียงที่อยากให้ทุกคนได้ทดลอง
กลับเข้าไปที่โมนาโกกันต่อ ประเทศนี้มี พื้นที่ 1.95 ตร.กม. ประชากร 3.5 หมื่นคน รายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปี 18,600 $ ภาษาทางการ ฝรั่งเศส เมืองหลวง ชื่อ โมนาโก สกุลเงินยูโร(EUR) (38.19 บาท : 1) เวลาช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมง อยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นประเทศเอกราชที่เล็กที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ถ้าไม่นับวาติกันเป็นอันดับ 1 แต่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก ประชากรส่วนใหญ่พูดภาษาฝรั่งเศส ตั้งอยู่ริมสายน้ำสีนำเงินอันเก่าแก่ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สถานที่มีมนต์ขลังและร่ำรวย Palais Princier เดิมเป็นวังที่ประทับของเจ้าหญิงเกรซ ปัจจุบันเป็นพระราชวังของพระโอรสของเจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 ตั้งอยู่บนยอดเขาของ Monaco-Ville สถานที่ที่มีชื่อเสียงคือมอนติคาร์โล เมืองที่เจิดจ้าด้วยแสงแดดและเงินตรา
ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้ยิ้มแย้มแจ่มใส มีอัธยาศัยดี ดูเหมือนว่ามีแต่คนที่ทำงานใช้แรงงานเท่านั้นที่ไม่รู้ภาษาอังกฤษ นอกนั้นสามารถสื่อสารได้ดี ยามเย็นและค่ำคืนจนท.ตำรวจทำงานแข็งขัน แต่สถานีรถไฟปิดทำการทุกห้อง ใครจะโดยสารรถไฟถ้าไม่ติดต่อในเวลาทำการ ก็ต้องใช้บริการเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ เราได้รับความช่วยเหลือในการซื้อตั๋วพาสจากมาดามท่าทางสุภาพและเอื้ออาทร เราขึ้นรถคันเดียวกับเธอ เธอบอกให้เราลงเมื่อถึงป้ายที่จะไปคาสิโน แต่ความจริงรถขึ้นเขาไปจอดที่ป้ายหน้าคาสิโนด้วย เรามองตามหลังรถไปอย่างเสียดายที่เราต้องเดินขึ้นเขาไปอีก 1 ป้าย ป้ายที่เราลงอยู่เยื้องกับ Buddha Bar
[CR] ลุงกับป้าตะลุยยุโรป 64 วัน 33 ประเทศ[ตอนที่ 3] หลงใหลไปกับสถาปัตยกรรม โมนาโก-ฝรั่งเศส-สเปน-โปรตุเกส-เบลเยี่ยม
6 ก.ค. ออกจาก Lugano สวิสฯ มุ่งหน้าสู่ Milano Centrale อิตาลี เพื่อไปต่อรถที่ Genova อิตาลี (ภาษาไทย คือ เจนัว) ปลายทางอยู่ที่ โมนาโก เป็นการนั่งรถเปลี่ยนประเทศ (EC, IC, ICN) ปกติค่าโดยสารคนละ 1,400 บาท แต่เรามีตั๋ว EURail Pass เราจ่ายค่าที่นั่งคนละ 390 บาท เท่ากับประหยัดไปได้คนละ 1,010 บาท ความจริงถ้าเราไปรถธรรมดาเราก็ไม่ต้องเพิ่มค่าที่นั่ง แต่ต้องต่อรถหลายครั้ง ประกอบกับในตารางรถไฟไม่มีบอกไว้เราจึงต้องไปซื้อตั๋วที่นั่ง
จาก Genova เราเดินทางเลาะลงใต้ไปต่อรถที่ Ventiniglia เป็นเส้นทางสาย Riviara-Mediteranian ทัศนียภาพริมฝั่งทะเลน้ำตื้น มองเห็นก้อนหินใต้น้ำ ตรงไหนที่พอจะมีทรายอยู่บ้าง จะมีคนทุกเพศทุกวัยเล่นน้ำอยู่เต็มไปหมด ทั้งๆ ที่เป็นบ่ายวันจันทร์ เท่าที่เห็นไม่น่าจะเป็นคนต่างถิ่น อีกด้านหนึ่งของทางรถไฟเต็มไปด้วยดอกไม้ ส่วนใหญ่เป็นดอกยี่โถดอกใหญ่พราวเกือบตลอดเส้นทาง อิตาลีช่างสวยงามจริงๆ
จากเวนตินิเกลีย อิตาลี ถึงโมนาโก ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง สถานีมอนติคาร์โลเป็นสถานีรถไฟเพียงแห่งเดียวในโมนาโกเป็นสถานีรถไฟในอุโมงค์ยาวและกว้างใหญ่ สีสว่างติดไฟพราวดูเหลืองอร่ามสวยมาก ทางเดินเข้าออกจากสถานีก็เป็นอุโมงค์ยาวประมาณ 500 เมตร มีทางเดินเลื่อนเหมือนในสนามบิน 3 ช่วง ช่วงละประมาณ 100 เมตร เดินออกจากสถานีซื้อตั๋วพาส 24 ชม. คนละ 5.5 ยูโร นั่งรถบัสชมเมืองจนความมืดเข้าครอบงำ ถนนเมืองนี้เต็มไปด้วยอุโมงค์ รถแต่ละสายเข้าอุโมงค์ไม่ซ้ำกัน ทุกสายผ่านท่าเรือเพราะท่าเรือโอบประเทศไว้ สอบถามคนท้องถิ่นทราบว่ารถบัสที่ผ่านคาสิโน มีสาย 1 2 6 และ 10
ก่อนถึงคาสิโนมี Buddha Bar ด้านหน้ามีรูปพระพุทธรูปอยู่ตรงป้ายด้วย สงสัยว่าคนที่ต่อสู้เพื่อพระพุทธศาสนาไม่รู้หรืออย่างไรไม่เห็นมีใครทำเรื่องคัดค้าน ประเทศเล็กๆนี้ด้านหนึ่งเป็นภูเขา ตั้งบ้านเรือนขึ้นไปบนเขา ที่ราบติดทะเลเป็นย่านธุรกิจ ลงไปเป็นท่าเรือตลอดชายฝั่ง ทุกอย่างในโมนาโกดูหรูหราโอ่อ่า มีไม้ดอกสารพัดทั้งยี่โถ พู่ระหง ชบา พุทธรักษา ผกากรอง กุหลาบ,ฯลฯ มีนักท่องเที่ยวเดินกันคึกคักโดยเฉพาะที่คาสิโน เราเจอต้นมะตูมแขกด้วย เสียดายตอนเดินผ่านไม่ได้แหงนดูไม่งั้นเสร็จเราแน่ๆ เพราะชอบมาก รสชาติ อมเปรี้ยว อมฝาดและมัน เวลาเคี้ยวมีกลิ่นหอมขึ้นจมูก เป็นผักเคียงที่อยากให้ทุกคนได้ทดลอง
กลับเข้าไปที่โมนาโกกันต่อ ประเทศนี้มี พื้นที่ 1.95 ตร.กม. ประชากร 3.5 หมื่นคน รายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปี 18,600 $ ภาษาทางการ ฝรั่งเศส เมืองหลวง ชื่อ โมนาโก สกุลเงินยูโร(EUR) (38.19 บาท : 1) เวลาช้ากว่าไทย 5 ชั่วโมง อยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นประเทศเอกราชที่เล็กที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ถ้าไม่นับวาติกันเป็นอันดับ 1 แต่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก ประชากรส่วนใหญ่พูดภาษาฝรั่งเศส ตั้งอยู่ริมสายน้ำสีนำเงินอันเก่าแก่ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สถานที่มีมนต์ขลังและร่ำรวย Palais Princier เดิมเป็นวังที่ประทับของเจ้าหญิงเกรซ ปัจจุบันเป็นพระราชวังของพระโอรสของเจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 ตั้งอยู่บนยอดเขาของ Monaco-Ville สถานที่ที่มีชื่อเสียงคือมอนติคาร์โล เมืองที่เจิดจ้าด้วยแสงแดดและเงินตรา
ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้ยิ้มแย้มแจ่มใส มีอัธยาศัยดี ดูเหมือนว่ามีแต่คนที่ทำงานใช้แรงงานเท่านั้นที่ไม่รู้ภาษาอังกฤษ นอกนั้นสามารถสื่อสารได้ดี ยามเย็นและค่ำคืนจนท.ตำรวจทำงานแข็งขัน แต่สถานีรถไฟปิดทำการทุกห้อง ใครจะโดยสารรถไฟถ้าไม่ติดต่อในเวลาทำการ ก็ต้องใช้บริการเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ เราได้รับความช่วยเหลือในการซื้อตั๋วพาสจากมาดามท่าทางสุภาพและเอื้ออาทร เราขึ้นรถคันเดียวกับเธอ เธอบอกให้เราลงเมื่อถึงป้ายที่จะไปคาสิโน แต่ความจริงรถขึ้นเขาไปจอดที่ป้ายหน้าคาสิโนด้วย เรามองตามหลังรถไปอย่างเสียดายที่เราต้องเดินขึ้นเขาไปอีก 1 ป้าย ป้ายที่เราลงอยู่เยื้องกับ Buddha Bar
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น