รบกวนผู้รู้ช่วยหาทางออกให้ทีค่ะ

เรื่องมีอยู่ว่า น้าชายเป็นลูกจ้างประจำและเกษียณแล้ว มีเงินบำนาญ เอาที่ดินไปยื่นกู้เพื่อมาทำบ้าน จำนวน 7 แสนกว่าบาท ต่อมาลูกเขยได้ขอไปไถ่ถอนที่ดินนั้นแล้วกู้เพิ่มเติมอีกจากนายทุนนอกระบบ ซึ่งความที่รักลูกและลูกเขยเลยยินยอมเซ็นต์เอกสารให้ ไปไถ่ถอนที่ดินออกจากธนาคารเป็นจำนวนเงิน 7 แสนกว่าบาท และในวันเดียวกัน ก็ไปทำสัญญาจำนองบ้านและที่ดิน ที่สำนักงานที่ดิน โดยในสัญญาระบุ จำนวนเงินกู้ 1500000 บาท และดอกเบี้ยร้อยละ 15 บาทต่อปี น้าก็ยินยอมเซ็นต์เอกสาร แต่เงินนอกเหนือจาก 7 แสนกว่าบาทที่ลูกเขยและเจ้าหนี้ไปไถ่ถอนมานั้น น้าไม่ได้รับเงินสักบาทเดียว ตอนทำกู้เขาก็คุยกันสองคน น้าเป็นเพียงเจ้าของและลูกหนี้แค่เซ็นต์เอกสาร จนมาใกล้จะครบกำหนดที่ต้องจ่ายคืนเจ้าหนี้แล้ว เจ้าหนี้มาทวงถามดอกเบี้ย ให้น้าชายจ่ายดอกเบี้ย เพราะไอ้ลูกเขยมันไม่ยอมจ่ายตั้งแต่กู้มาเลย แต่เจ้าหนี้เพิ่งมาบอกน้าและมาถามเอาดอกเบี้ยกับน้า และมาบอกว่าจะครบกำหนดแล้วหากไม่มีเงินมาไถ่ถอนจะยึดที่ดินและบ้าน ตอนนี้จะครบกำหนดสัญญาไถ่ถอนสิ้นเดือนนี้แล้วค่ะ ถ้าเขายึดน้าก็ไม่มีบ้านจะอยู่ ที่ดินทำมาหากินก็ไม่มีเลยค่ะ ไม่รู้จะไปทางไหนทำอย่างไรดี ตอนแรกไม่กล้าจะเข้ามาสอบถามแต่มันถึงที่สุดแล้วไม่รู้จะทำอย่างไรดี บ้านจะโดนยึดที่ดินทำมาหากินก็จะโดนยึด เพราะในสัญญาระบุที่ดินสองแปลง คือบ้านและที่นาค่ะ ตอนนี้ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร เงินก็ไม่มีไปคืนเขา ไปถามเอากับลูกเขย มันก็ดุก็ว่า และมันบอกมันไม่มีเงิน อยากจะกู้เงิน ไปถามที่ธกส. เอกสารการกู้เงินก็เป็นตั้ง กว่าจะถึงคิวเรากู้คงโดนยึดบ้านไปแล้ว ถ้ากู้ได้เร็วก็คงดี ช่วยด้วยนะคะ สงสารน้ามาก เราก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร ขอบคุณมากค่ะ