ระบายนะคะ ถามอะไรแม่ไม่ค่อยตอบ เรารู้สึกเหมือนไม่ได้รับความใส่ใจ (ความในใจของลูก)

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะ พึ่งผ่านมาเมื่อกี้เอง 555+
คือเรามาสังเกตว่าช่วงนี้ (ไม่รู้ว่าเป็นปีๆแล้วรึเปล่านะคะ)
เวลาเราถามอะไรแม่ไม่ค่อยตอบเรา คือเราต้องถามย้ำ บางครั้งแม่ก็ตอบ บางครั้งแม่ก็ไม่ตอบ
คือเรารู้สึกแย่นิดๆค่ะ เหมือนไม่รับการใส่ใจ คือส่วนมากเราก็ถามเรื่องชีวิต หรือถามเรื่อยเปื่อย
แต่ช่วงนี้ที่ถามบ่อยสุดคือเรื่องงานเราค่ะ เราเป็นคนชอบพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
แต่เราก็ไม่เข้าใจว่าแม่ไม่ได้ยิน หรือได้ยินแต่ไม่ตอบเรา

เมื่อกี้เราก็ถามคำถามแม่ แต่แม่ก็ไม่ตอบ
เราก็ตื้อว่าทำไมแม่ถึงไม่ตอบเราค่ะ
ประมาณว่า ไม่ตอบคำถามเรา เพราะเกลียดเราหรือเปล่า?
ผลคือแม่ก็บอกว่าเราชอบมาถามตอนเค้ากำลังยุ่งๆ
เราเลยบอกว่าไปว่า แล้วจะให้เราถามตอนไหน พอละครโฆษณาแม่ก็เล่นโทรศัพท์ พอละครมาแม่ก็ดูต่อ
แม่ก็หันมายิ้มค่ะ เราเลยถามว่าทำไมแม่ยิ้ม เพราะที่พูดเป็นเรื่องจริงใช่ไหม
แม่ก็แนวๆว่าใช่ค่ะ
(ปกติแม่ไม่ค่อยยิ้มกับเราค่ะ นานๆจะยิ้มที อย่างเช่นเราเล่าบางเรื่องที่ตลกมาก หรือทำอะไรเซอร์ไพรซ์)
คือเราก็ไม่รู้ว่าคำว่า "ว่าง" ของแม่คือตอนไหน
อย่างเวลาที่เราเจอกัน คือตอนเรานั่งรถไปกับแม่ตอนเช้า เจอกันหลังเรากลับจากมหาลัย ขับรถเข้าบ้าน แม่ดูละคร อาบน้ำ สวดมนต์ นอน
คือเรางงมากว่า นิยามของคำว่า "ว่าง" นั้นคืออะไร?

เราเคยไปบ้านเพื่อนเราครั้งหนึ่ง
เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากค่ะ
เราเคยขนาดว่า เรากลับมากินข้าวกับพ่อแม่เราเองหลังจากกลับจากบ้านของเพื่อนค่ะ
เรากินไปกลั้นน้ำตาไปค่ะ คือคนละฟิว แล้วเรารู้สึกเหมือน ความอบอุ่นที่ครอบครัวน่าจะมี อยู่ที่ไหน

ส่วนมากเวลาเราพูดอะไร เหมือนเราพูดอยู่คนเดียวค่ะ

เราไม่ได้ต้องการให้แม่ปรับตัวเข้าหาเรานะคะ
เราไม่ได้เป็นเด็กที่จะเรียกร้องอะไรแบบนั้น เพราะเรารู้ว่าแบบนั้นคือสิ่งที่ขอมากเกินไป
เพราะตอนนี้เวลามีปัญหาอะไร เราก็ปรึกษาเพื่อน อาจารย์ หรือรุ่นพี่ ญาติผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ท่านที่เราเคารพและไว้ใจ
ทั้งๆที่เราอยากเป็นลูกที่พูดทุกอย่างให้พ่อแม่ฟัง แล้วพ่อแม่ก็สนทนากับเรา
(ทุกวันนี้ก็พูดนะคะ แต่เหมือนนักประกาศข่าวรายวันเลย พูดคนเดียว ไม่มีการโต้ตอบ ไม่ใช่การสนทนา)
แต่เพราะแบบนี้ เราเลยต้องหันไปพึ่งพาคนอื่น
เราก็ไม่ใช่คนฉลาดอะไรขนาดนั้น ก็มีปัญหาที่แก้ไม่ตก ก็อยากมีที่ปรึกษา

เราฝากคนที่เป็นแม่หรือพ่อคนนะคะ
ว่าเวลาลูกถามคุณๆ อยากให้คุณพ่อคุณแม่สนใจกับคำถามของลูก
และตอบคำตอบนั้นด้วยความรักและใส่ใจ
เราโชคดีที่ไม่ได้คิดไปในทางลบมาก แล้วกลายเป็นไว้ใจเพื่อนหรือคนอื่นมากกว่าคนในครอบครัว
แต่ถึงจะพยายามเข้าใจนะคะ แต่ในใจลึกๆเราก็มีบ้างว่า ทำไมเวลาเราคุยอะไร ถามอะไร แม่ไม่ตอบเราเลย

แต่เราก็คิดว่าเราอาจจะเปลี่ยนอะไรไม่ได้นะคะ
เพราะว่าเราลองเปิดใจหลายครั้งแล้ว แต่สุดท้ายก็เหมือนเดิม
เราก็เข้าใจนะคะ ว่าเราโตแล้ว อายุก็จะ 22 แล้ว แต่เราก็คิดว่าเรายังอ่อนต่อโลกอีกเยอะ
เราก็อยากให้พ่อแม่เป็นที่ปรึกษาให้เราในการดำเนินชีวิต การทำงาน แล้วก็คุยกับแบบสนุกสนาน

กับคุณพ่อเราโอเคนะคะ เพราะถ้าท่านตอบคือท่านตอบเลย แต่ถ้าท่านไม่ว่างเราจะรู้ (คือท่านงานเยอะค่ะ เวลาท่านไม่ว่างคือไม่ว่างเลย แบบคุยโทรศัพท์ เช็คงาน) เขียนไปจะร้องไห้คะ..... พ่อไม่เคยบอกกับเราเลยว่า "ไม่ว่าง" คือถ้าเรามีปัญหา ขอแค่บอกว่า "ป๊า หนูมีปัญหา....." ท่านก็พร้อมจะฟังและให้คำแนะนำที่ตรงประเด็นที่สุด (ท่านมีประสบการณ์ในชีวิตสูงค่ะ คำตอบของท่านจะเป็นคำตอบที่ตรง คือไม่มีกุสโบายหรือเอาใจมาก แต่จะตอบในสิ่งที่เป็นสัจธรรม)

สุดท้ายนี้ เราอยากฝากคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านนะคะ
ว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่
หรือคู่ที่แต่งงานและวางแผนจะมีลูก
ว่าเวลาคุณมีลูก ขอให้ใส่ใจลูก ไม่ใช่ประคบประหงมค่ะ
แต่เวลาลูกถามอะไร ขอให้ใส่ใจกับคำถาม ขอให้คุณตอบอย่างจริงใจและตั้งใจ
เพราะว่าคำตอบนั้นเป็นความรู้และแนวทางที่ลูกจะนำไปใช้
การที่เค้าถามอะไรคุณ คือเค้ามีความสนใจ และไว้ใจ อยากได้คำตอบจากคุณค่ะ
ลูกจะรู้สึกผูกพันธ์และรู้สึกมีความสุขนะคะกับชีวิต เพราะพวกเค้าจะมีที่ยึดเหนี่ยว
ว่าเวลามีปัญหาเราไปหาพ่อแม่
ไม่ใช่ไปหาเพื่อนหรือรุ่นพี่ค่ะ

คือเรารู้ว่าคงมีการเปลี่ยนแปลงได้ยาก
และเราก็ไม่ใช่เด็กที่คิดไม่เป็น แต่เรามีแอบน้อยใจ หรือแอบรู้สึกเศร้านิดๆค่ะ
เราพยายามเข้าใจว่า แม่อาจจะมีนิสัยแบบนี้เนอะ ถ้าจะให้ท่านเปลี่ยนเพื่อเรา ก็ยากมากค่ะ
แล้วเราก็ไม่อยากให้เป็นการเปลี่ยนเพราะบังคับ แต่อยากให้แม่คุยเพราะแม่อยากคุยกับเรา หรืออยากตอบเองโดยธรรมชาติ
หรืออาจเป็นเพราะเราไม่สนิทกับรึเปล่า? หรือพูดกันได้แค่บางเรื่อง?
รุ่นน้องคนนึงบอกเราว่า อย่าพยายามมาให้คนอื่นมาเข้าใจเรา (คือสมัยก่อนเราชอบถามว่าทำไมคนไม่เข้าใจเราค่ะ)
แต่บางครั้งเราก็ท้อนะคะ ท้อจนเราไม่อยากพูดหรือถาม
เพราะอาจจะเหมือนเราพูดคนเดียวอีก
แต่ใจนึงถ้าเราทำแบบนั้น เราก็กลัวว่าแม่จะเหงาค่ะ
แบบถ้าเราเงียบ คือบ้านเงียบมาก เราเป็นตัวเจี๊ยวจ๊าวที่สุดของบ้านแล้ว

เราโชคดีที่มีหลายๆท่านเป็นที่พึ่งพิง และขอขอบคุณทุกๆท่านที่ให้คำแนะนำที่ดีเสมอมา
เพื่อนดีเปรียบเหมือนญาติสนิทจริงๆค่ะ
ยังไงถ้ามีใครเป็นแบบเรานะคะ... การเลือกคบเพื่อนดีสำคัญมากค่ะ
อย่าไปประชดเรียกร้องความสนใจหรือทำตัวเกเรนะคะ
ให้เป็นคนดีของพ่อแม่เหมือนเดิม ถึงไม่ดีมาก แต่ก็ไม่สร้างปัญหาให้พ่อแม่

ที่เราตั้งกระทู้นี้ ส่วนหนึ่งคืออยากระบายค่ะ ขอบพระคุณพื้นที่ทางพันทิพย์มากๆนะคะ
และขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่