เราเรียนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัยแล้ว ตอนนี้อยู่ปี 3 เทอม 2 เรื่องของเรื่องเลยที่อยากจะมาระบายก็คือ เรื่องการทำงานกลุ่มที่ต้องทำวิจัย โดยกลุ่มของเราข้างต้นในตอนแรกมีกันอยู่ 4 คน เป็นผู้หญิงหมดเลย และทุกคนในห้องเขาก็มีกลุ่มและจับกลุ่มกันไปครบหมดแล้ว แต่จะมีตัวซีเคร็ทที่เหลืออีก 3 คน ที่เป็นผู้ชายที่ยังไม่มีกลุ่ม และอาจารย์ก็ได้เดินมาหาทางกลุ่มเราและเหมือนจะให้เรารับ 3 คนนี้เข้ากลุ่มด้วย โดยอาจารย์ได้เดินเข้ามาพูดให้เรารับ 3 คนนี้เข้าด้วย พวกเธอเป็นเสาหลักให้ได้ ทั้งที่เราและเพื่อนที่เหลือ ไม่ได้อยากได้ 3 คนนี้เข้ามาร่วมกลุ่มเพราะรู้นิสัยการทำงาน ความใส่ใจ การกระตือรือร้นอยากที่จะทำงานมันไม่มีเลย แม้กระทั่งงานอื่นๆที่เห็นผ่านๆมา 3 คนนั้น เหมือนมาเรียนเพื่อเช็คชื่อให้ผ่านๆไป แค่นั้น
การทำงานก็ได้เริ่มขึ้น นั่นก็คือ การทำวิจัยบทแรกและการทำแบบสอบถาม คือ เราไม่ไว้ใจหรือมั่นใจที่จะมอบหมายให้ 3 คนนั้นได้เข้ามามีส่วนร่วมทำเพราะเราเป็นคนที่ต้องการอยากให้ทำงานที่ได้มอบหมายไปนั้นมันทำออกมาจากใจจริงๆ ไม่ได้ทำแบบส่งๆ ช่วยหาข้อมูลแบบส่งๆ มา เพราะสุดท้ายแล้วเราก็ต้องมานั่งเหนื่อยนั่งหาข้อมูลหรือเรียบเรียงใหม่เองอีกอยู่ดี ในส่วนนี้ เราก็เลยทำกับเพื่อนอีกคน
ก็ทำไปแล้วให้อาจารย์ไปตรวจดูต่างๆ แต่ต้องขอบอกเลยก่อนว่าอาจารย์ท่านนี้เขาจะมักมีการพูดหรือสื่อสารที่ไม่ค่อยดีและไม่ค่อยโอเค อย่างเช่นว่าเขาต้องการแบบนี้ๆ แต่เขาก็ไม่สามารถพูดหรืออธิบายออกมาให้ได้ตรงตามที่เขาต้องการ จึงทำให้เราต้องได้ยินหรือรับฟังคำพูดของเขาที่พูดออกมาในบางครั้งก็ไม่ค่อยจะดี การพูดที่เอาอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องทั้งที่ตัวเองเป็นอาจารย์ และทุกการเอาวิจัยในส่วนแรกไปให้เขาตรวจเราจะต้องโดนอะไรแบบนี้ตลอด ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกแย่มากๆ จนบางทีก็ อดใจ ไม่ไหวที่จะไม่ให้รับรู้หรือนึกคิด ก่อนหน้าที่ไม่ได้อะไรมากก็ยังสามารถปล่อยผ่านไปได้อยู่
วนกลับมาที่ 3 คนนั้น คือ เพื่อนไม่ได้มีความกระตือรือร้นอยากที่จะช่วยจริงๆ มีเพียงแค่ส่งแชทมาว่า ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้เลยนะ ....ทุกคนคิดว่าอย่างไรหรอคะ ในจุดๆนี้ที่เราไม่ได้ให้งานเขาก็เพราะว่า ถ้าให้เขารับผิดชอบจริงๆงานมันจะออกมาไม่ดีหรือผิดพลาดหรือไม่รู้เรื่องอะไรเลย เข้าใจฟีลแบบนี้ไหมคะ เราที่เห็นการทำงานต่างๆในห้องหรือแม้การเรียนของพวกเขาก็คือไม่ได้ใส่ใจอะไรเลย และพอมาทำงานกลุ่มเราเลยแทบจะไม่ได้ให้อะไร 3 คนนั้นทำ แม้กระทั่งตอนที่เราเอางานไปให้อาจารย์ตรวจ 3 คนนั้นยังไม่ทราบถึงการทำงานหรือแม้กระทั่งชื่อเรื่องเลยค่ะว่ากลุ่มเราทำวิจัยเรื่องอะไร เราที่ทั้งทำทั้งที่งานอื่นของตัวเราเองก็มี เราก็ทำจนดึกดื่น และพอได้คะแนน ทุกคนในกลุ่มมันก็จะได้คะแนนเท่ากันหมด เราเลยคิดว่ามันไม่แฟร์ที่เขาจะได้
เราเลยเข้าไปปรึกษาอาจารย์ว่าจะเอา 3 คนนี้ออก แต่ไปๆมาๆก็ไม่สามาถเอาออกได้เพราะได้มีการคุยกันกับอาจารย์อีกท่านเขาขอให้เรายังเอา 3 คนนั้นไว้ อาจจะแบ่งภาระงานให้ 3 คนนั้น ออกแรงกาย มากกว่าที่จะต้องมานั่งทำรายงานในส่วนที่มันเป็นวิชาการ จริงๆเรายืนยันว่าจะไม่ได้อยากได้เราจะเอาออกแต่สุดท้ายมันก็ไม่เป็นผล
จริงๆ ก่อนนั้นมันมีเรื่องเพราะสาเหตุที่เราไม่อยากได้เขาเพราะเขาทำงานออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็นสำหรับอายุเท่านี้แล้ว คือแบบว่าเราโตแล้ว แต่การทำงานออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็นเราเลยไม่โอเคมากๆ ทั้งหมดมันเลยตกมาที่เราต้องเป็นคนทำสะส่วนมากกับเพื่อนๆที่เหลือ
จริงๆอยากระบายมากกว่านี้ แต่บางทีมันก็ไม่สามารถสื่อสารออกมาเป็นคำพูดได้อย่างที่ใจต้องการ ...
แค่อยากได้กำลังใจดีๆ หรือคำพูดดีๆ ที่จะทำให้รู้สึกใจชื้นและอยากทำให้ตัวเองมีความคิดและมีกำลังใจในการทำงานกลุ่มร่วมกับคนแบบนี้ต่อไปจนกว่าจะทำครบจบทุกบท
อยากปล่อยใจ อยากให้ตัวเองผ่อนคลาย ไม่เครียด เพราะที่ผ่านมาก็แอบซึมคนเดียว ทั้งเหนื่อย และร้องไห้ เพราะรู้สึกท้อ
ช่วยให้กำลังใจดีๆ ปลอบใจสักนิดได้ไหมคะ รู้สึกว่าชีวิตในตอนนี้อะไรๆก็ยากไปหมดเลย 😅😅
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ พิมพ์ผิดพลาดหรือพิมพ์งงๆไปหน่อยต้องขออภัยด้วยนะคะ 🤍
แค่อยากระบายความเครียดและขอกำลังใจในการใช้ชีวิตที่จะทำให้เราเหนื่อยน้อยลง
การทำงานก็ได้เริ่มขึ้น นั่นก็คือ การทำวิจัยบทแรกและการทำแบบสอบถาม คือ เราไม่ไว้ใจหรือมั่นใจที่จะมอบหมายให้ 3 คนนั้นได้เข้ามามีส่วนร่วมทำเพราะเราเป็นคนที่ต้องการอยากให้ทำงานที่ได้มอบหมายไปนั้นมันทำออกมาจากใจจริงๆ ไม่ได้ทำแบบส่งๆ ช่วยหาข้อมูลแบบส่งๆ มา เพราะสุดท้ายแล้วเราก็ต้องมานั่งเหนื่อยนั่งหาข้อมูลหรือเรียบเรียงใหม่เองอีกอยู่ดี ในส่วนนี้ เราก็เลยทำกับเพื่อนอีกคน
ก็ทำไปแล้วให้อาจารย์ไปตรวจดูต่างๆ แต่ต้องขอบอกเลยก่อนว่าอาจารย์ท่านนี้เขาจะมักมีการพูดหรือสื่อสารที่ไม่ค่อยดีและไม่ค่อยโอเค อย่างเช่นว่าเขาต้องการแบบนี้ๆ แต่เขาก็ไม่สามารถพูดหรืออธิบายออกมาให้ได้ตรงตามที่เขาต้องการ จึงทำให้เราต้องได้ยินหรือรับฟังคำพูดของเขาที่พูดออกมาในบางครั้งก็ไม่ค่อยจะดี การพูดที่เอาอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องทั้งที่ตัวเองเป็นอาจารย์ และทุกการเอาวิจัยในส่วนแรกไปให้เขาตรวจเราจะต้องโดนอะไรแบบนี้ตลอด ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกแย่มากๆ จนบางทีก็ อดใจ ไม่ไหวที่จะไม่ให้รับรู้หรือนึกคิด ก่อนหน้าที่ไม่ได้อะไรมากก็ยังสามารถปล่อยผ่านไปได้อยู่
วนกลับมาที่ 3 คนนั้น คือ เพื่อนไม่ได้มีความกระตือรือร้นอยากที่จะช่วยจริงๆ มีเพียงแค่ส่งแชทมาว่า ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้เลยนะ ....ทุกคนคิดว่าอย่างไรหรอคะ ในจุดๆนี้ที่เราไม่ได้ให้งานเขาก็เพราะว่า ถ้าให้เขารับผิดชอบจริงๆงานมันจะออกมาไม่ดีหรือผิดพลาดหรือไม่รู้เรื่องอะไรเลย เข้าใจฟีลแบบนี้ไหมคะ เราที่เห็นการทำงานต่างๆในห้องหรือแม้การเรียนของพวกเขาก็คือไม่ได้ใส่ใจอะไรเลย และพอมาทำงานกลุ่มเราเลยแทบจะไม่ได้ให้อะไร 3 คนนั้นทำ แม้กระทั่งตอนที่เราเอางานไปให้อาจารย์ตรวจ 3 คนนั้นยังไม่ทราบถึงการทำงานหรือแม้กระทั่งชื่อเรื่องเลยค่ะว่ากลุ่มเราทำวิจัยเรื่องอะไร เราที่ทั้งทำทั้งที่งานอื่นของตัวเราเองก็มี เราก็ทำจนดึกดื่น และพอได้คะแนน ทุกคนในกลุ่มมันก็จะได้คะแนนเท่ากันหมด เราเลยคิดว่ามันไม่แฟร์ที่เขาจะได้
เราเลยเข้าไปปรึกษาอาจารย์ว่าจะเอา 3 คนนี้ออก แต่ไปๆมาๆก็ไม่สามาถเอาออกได้เพราะได้มีการคุยกันกับอาจารย์อีกท่านเขาขอให้เรายังเอา 3 คนนั้นไว้ อาจจะแบ่งภาระงานให้ 3 คนนั้น ออกแรงกาย มากกว่าที่จะต้องมานั่งทำรายงานในส่วนที่มันเป็นวิชาการ จริงๆเรายืนยันว่าจะไม่ได้อยากได้เราจะเอาออกแต่สุดท้ายมันก็ไม่เป็นผล
จริงๆ ก่อนนั้นมันมีเรื่องเพราะสาเหตุที่เราไม่อยากได้เขาเพราะเขาทำงานออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็นสำหรับอายุเท่านี้แล้ว คือแบบว่าเราโตแล้ว แต่การทำงานออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็นเราเลยไม่โอเคมากๆ ทั้งหมดมันเลยตกมาที่เราต้องเป็นคนทำสะส่วนมากกับเพื่อนๆที่เหลือ
จริงๆอยากระบายมากกว่านี้ แต่บางทีมันก็ไม่สามารถสื่อสารออกมาเป็นคำพูดได้อย่างที่ใจต้องการ ...
แค่อยากได้กำลังใจดีๆ หรือคำพูดดีๆ ที่จะทำให้รู้สึกใจชื้นและอยากทำให้ตัวเองมีความคิดและมีกำลังใจในการทำงานกลุ่มร่วมกับคนแบบนี้ต่อไปจนกว่าจะทำครบจบทุกบท
อยากปล่อยใจ อยากให้ตัวเองผ่อนคลาย ไม่เครียด เพราะที่ผ่านมาก็แอบซึมคนเดียว ทั้งเหนื่อย และร้องไห้ เพราะรู้สึกท้อ
ช่วยให้กำลังใจดีๆ ปลอบใจสักนิดได้ไหมคะ รู้สึกว่าชีวิตในตอนนี้อะไรๆก็ยากไปหมดเลย 😅😅
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ พิมพ์ผิดพลาดหรือพิมพ์งงๆไปหน่อยต้องขออภัยด้วยนะคะ 🤍