เหตุเกิดวันที่ 22 สิงหาคม คะ ที่ตลาดขายส่งพืชผักใน จ อุดรธานี
สถานที่จะเป็นการแบ่งเขตเป็นล็อคๆสำหรับให้รถเข้าจอดเปิดท้ายขาย
แต่ตรงที่เราอยู่เราไม่ได้เอารถเข้าจอด แต่ทำเป็นคอกสำหรับกั้นเด็ก
และสถานที่ตายตัวเปลี่ยนไม่ได้กำหนดไว้ชัดเจนว่าล็อคนี้ของใคร
ล็อคที่อยู่ติดกัน เอารถเข้ามาจอด แต่นางไม่ดับเครื่องรถ เพราะลูกนางนอนในรถ
นานเข้า กลิ่นท่อไอเสียมันก็เริ่มแรงขึ้น จนเรารู้สึกเวียนหัว ก็ต้องรีบอุ้มลูกเดินหลบออกไปจากตรงนั้น
ทั้งที่เราก็ต้องขายของเหมือนกัน แต่มันอยู่ไม่ได้จริงๆ มันเหม็นเวียนหัวมาก แล้วก็สงสารลูกด้วย
เด็กเล็กแค่ 2 ขวบเอง เราก็ต้องอุ้มลูกไปยืนหลบไกลๆ พอคนมาซื้อของค่อยเดินกลับมาขาย
ขนาดลูกค้าที่มาซื้อยังทักว่า "กลิ่นอะไรอะพี่" เค้าไม่ได้ยินเสียเครื่องรถไงคะ มันมาแต่กลิ่น
เราก็บอกรถข้างๆติดเครื่องไว้กลิ่นท่อไอเสีย เค้ายังพูดว่า
"โหกลิ่นแรงมากคงจอดนานแล้วสิ ทำไมพี่ไม่บอกให้เค้าดับเครื่อง สงสารเด็ก ดมกลิ่นนานๆไม่ดีนะ"
ไอ้เราก็ไม่อยากมีเรื่องเนอะ แต่นานเข้าก็ทนไม่ไหวละ จะเป็นลมอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่า อะคนเราอยู่ด้วยกันอาศัยกัน คงจะขอกันได้
ก็เลยเดินไปพูดว่า " แม่คะ ดับเครื่องให้หน่อย กลิ่นท่อไอเสียมันแรงมากเลย "
คำตอบที่ได้จากนางคือ "ดับไม่ได้ ลูกนอนหน้ารถ "
เราก็เลยพูดว่า " เอามานอนข้างนอก ก็ได้นี่คะ ติดเครื่องทิ้งไว้ กลิ่นมันแรง นี่ก็เด็กๆทั้งนั้นเลย"
นางก็ตอบกลับมา "ไม่ได้ ข้างนอกมันร้อน จะอะไรกันนักหนา จอดก็จอดที่ของตัวเองไม่ได้ไปจอดที่ของคนอื่นสักหน่อย อย่ามีปัญหาเยอะ"
โอ้แม่เจ้า !!! นี่คือคำตอบของผู้ใหญ่ คุณให้ลูกคุณนอนในรถเปิดแอร์ให้เย็นสบาย แต่ลูกคนอื่นก็ต้องมาดมกลิ่นท่อไอเสียกันสินะ
ข้างนอกก็มีที่ให้นอน มีพัดลมเปิดได้ เอาลูกมานอนแล้วเปิดพัดลมให้ไมไ่ด้หรือไง ใช่ที่คุณจอดในที่ของคุณ แล้วกลิ่นละ
คุณล็อคมันไว้ในที่ของคุณไม่ให้มัน กระจัดกระจายมาในที่ของคนอื่นได้หรือเปล่าคะ ถ้าได้ก็เอาเลย ใครจะไปอยากยุ่งกับคุณ
ใครก็อยากอยู่อย่างสงบไม่อยากมีปัญหาหรอก ยิ่งอยู่ติดกันแล้ว ก็ควรจะเกรงใจมีน้ำใจถ้อยทีถ้อยอาศัย จริงมั้ยคะ
คนเราถ้าทุกคนมีความเกรงใจคนอื่น คิดถึงใจเค้าใจเรา ปัญหาก็คงไม่เกิดหรอก
แล้วนางยังพูดต่อ " ทีเราเอาของไปไว้ล็อคของเรา เค้ายังไม่ว่าไม่พูดสักคำ "
โอ๊ะ คือนั้นมันของใครกัน เราอะมีความเกรงใจคนค่า รู้ว่าล็อคใครล็อคมัน และก็เสียเงินจองเสียเงินเช่า
เราไม่เอาของไปไว้ที่คนอื่น รบกวนคนอื่นแบบนั้นหรอก
" ก่อนจะพูดสืบดูก่อนนะคะ ว่าของของใคร เอามาไว้ ที่นี่ไม่รู้เรื่องด้วยหรอกว่าใครเอามาไว้ ที่แน่ๆไม่ใช่ของที่นี่แน่นอน คนที่นี่มีความเกรงใจคน ถ้ามันไม่ใช่ของคุณ มาว่างเกะกะล็อคของคุณ ขนไปทิ้งเลยคะ เพราะไม่ใช่ของเรา"
พูดดีๆขอร้อนนางแล้ว นางไม่ยอม จน รปภ ต้องมาไกล่เกลี่ย แต่นางก็ไม่ยอม ยืนยันว่านางไม่ได้จอดทุกวันนี่
ก็ใช่คะไม่ได้ทำทุกวัน แต่มันก็หลายครั้งแล้ว กลิ่นมันแรงมาก เราไม่เข้าใจหรอกว่าคุณเองทนได้ไง
แต่สำหรับเราแล้ว มันเหม็นมาก จะมาพูดว่า คนอื่นไม่มีปัญหา มีแต่เราแค่นี้ ก็ล็อคที่ติดกับคุณอีกฝั่งไป 2 ล็อค เค้าไม่อยู่ตอนคุณมานี่คะ
มีแค่เรานี่ที่อยู่ตอนคุณมา จะมาว่ามีแต่เราได้ไง ขนาดลูกค้ามาซื้อยังพูดเลย
แล้วยังพูดอีกว่า คนเราไม่ได้อยู่คนเดียวนะ ต้องมีน้ำใจกันบ้าง
โอ้!!! นั้นเป็นสิ่งที่คุณต้องบอกตัวเองเปล่าคะ เพราะสิ่งที่คุณทำ มันไม่ได้บ่งบอกถึงความมีน้ำใจกับคนรอบข้างเลยนะ
สุดท้าย เลยต้องขึ้นไปไกล่เกลี่ยกัน กับเจ้าหน้าที่ตลาด เค้าก็ปรับข้อหาทะเลาะกัน 500 บาท แล้วเค้าก็ให้เบอร์โทรติดต่อไป
ถ้ามีอีกให้เราโทรตามได้เลย เค้าจะจัดการให้ไม่ต้องไปทะเลาะกัน
โอเค ก็ยังดี อย่างน้อยเราก็ได้ที่พึ่ง เพราะเราไม่อยากมีเรื่องกับใครหรอก ก็ต้องทำมาหากิน สงสารลูกด้วย
ถึงแม้นางจะไม่รู้สำนึกด้วยซ้ำว่านางทำอะไรผิดหรือเปล่า ก็ปล่อยให้นางไปทำที่อื่นต่อละกัน
ก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องสีสเปย์นะ เค้าเอามาพ่นของที่เค้าแพ็คส่งลูกค้าทุกวัน ช่วงนั้นนี่ เราพึ่งคลอดลูกมาใหม่ๆ แม่ลูกอ่อนคะ ได้กลิ่นที
เวียนหัว อาเจียน เราก็ไปขอให้ รปภ มาช่วยบอกหน่อย ก็ไม่ฉีดนะ แต่ต่อมาก็ยังทำเหมือนเดิม เราก็ไปบอกเจ้าหน้าที่ตลาด เค้าก็บอกแจ้ง รปภ จัดการเลย
รปภ ก็มาครั้งเดียวนั้นละ แล้วก็ไม่มาอีก เราก็ต้องทน คนเราก็อยากจะหาที่พึ่งพาได้ ก็คิดแล้วละว่าจะไป เทศบาลให้เจ้าหน้าที่เข้ามาจัดการให้
ใช้ กม พระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ.2535 มาตรา 25 แต่ก็ยังไม่มีเวลา ต้องทำมาหากิน ต้องเข้าใจ Singer Mom
ก็ไม่อยากมีปัญหา ต้องทนกันต่อไป เพราะเคยขอกับเจ้าตัวเค้าแล้วนะ ตอนนั้นเค้าก็ไม่ว่าอะไร แต่ก็คือ ไม่สนใจสิ่งที่เราขอไง
ก็ยังทำทุกวัน
และก็มีเรื่อง ชอบมาจอดรถมอเตอร์ไซค์ หน้าล็อคขวางทางขายของเรา แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร เราก็จะบอกว่า "ขยับรถให้หน่อยคะ"
ก็พอรู้ว่า เค้าไม่พอใจ แต่ก็ชั่งเถอะ มันขวางทางขายของเรา ลูกค้าจะเดินเข้าร้านก็ลำบาก หน้าร้านตัวเองไม่จอด
จนวันหนึ่งนางไปจอดฝั่งตรงข้ามค่า ทางนั้นอยู่ดีๆโวยวายดังลั่นเลย ทะเลาะรุนแรง ว่าขวางหน้าร้านเค้า แต่นางไม่ยอมเอารถออก
จนทางร้านเอารถมาจอดหน้าร้านนางบ้าง ทางนั้นแรงมากๆ ยังไงก็ไม่ยอม โวยวายเสียงดังไม่แคร์สายตาใคร
ตอนนั้นนางก็พูดว่า " บอกกันดีๆ ก็จะเอาออกให้ แต่นี่พูดไม่ดี "
จนเจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาไกล่เกลี่ยเช่นเคย เราเองก็พลอยได้ประโยชน์ไปด้วย เพราะนางก็ไม่เอารถไปจอดหน้าร้านใคร แม้แต่ร้านเราเอง
ที่อยู่ติดกัน ก็นะ ก็คนเป็นสะแบบนี้ อยากบอกเลยว่าพูดดีๆก็ได้ เพราะขนาดเราพูดดีๆ ขอคุณดีๆ คุณยังไม่ทำให้เลย คือต้องเกิดเรื่องใช่ปะ
มันถึงจะแก้ปัญหาได้
ลงรูปยังไม่ได้รออยู่คะ นี่คือรถนางคะ ถ่ายตอนที่นางขับออกไป
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=862892010461651&set=a.213520288732163.52499.100002225795036&type=1&theater 
รู้สึกอย่างไร!! กับคนที่จอดรถแต่ติดเครื่องทิ้งไว้เป็นเวลานาน ด้วยเหตุมีเด็กนอนในรถ
สถานที่จะเป็นการแบ่งเขตเป็นล็อคๆสำหรับให้รถเข้าจอดเปิดท้ายขาย
แต่ตรงที่เราอยู่เราไม่ได้เอารถเข้าจอด แต่ทำเป็นคอกสำหรับกั้นเด็ก
และสถานที่ตายตัวเปลี่ยนไม่ได้กำหนดไว้ชัดเจนว่าล็อคนี้ของใคร
ล็อคที่อยู่ติดกัน เอารถเข้ามาจอด แต่นางไม่ดับเครื่องรถ เพราะลูกนางนอนในรถ
นานเข้า กลิ่นท่อไอเสียมันก็เริ่มแรงขึ้น จนเรารู้สึกเวียนหัว ก็ต้องรีบอุ้มลูกเดินหลบออกไปจากตรงนั้น
ทั้งที่เราก็ต้องขายของเหมือนกัน แต่มันอยู่ไม่ได้จริงๆ มันเหม็นเวียนหัวมาก แล้วก็สงสารลูกด้วย
เด็กเล็กแค่ 2 ขวบเอง เราก็ต้องอุ้มลูกไปยืนหลบไกลๆ พอคนมาซื้อของค่อยเดินกลับมาขาย
ขนาดลูกค้าที่มาซื้อยังทักว่า "กลิ่นอะไรอะพี่" เค้าไม่ได้ยินเสียเครื่องรถไงคะ มันมาแต่กลิ่น
เราก็บอกรถข้างๆติดเครื่องไว้กลิ่นท่อไอเสีย เค้ายังพูดว่า
"โหกลิ่นแรงมากคงจอดนานแล้วสิ ทำไมพี่ไม่บอกให้เค้าดับเครื่อง สงสารเด็ก ดมกลิ่นนานๆไม่ดีนะ"
ไอ้เราก็ไม่อยากมีเรื่องเนอะ แต่นานเข้าก็ทนไม่ไหวละ จะเป็นลมอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่า อะคนเราอยู่ด้วยกันอาศัยกัน คงจะขอกันได้
ก็เลยเดินไปพูดว่า " แม่คะ ดับเครื่องให้หน่อย กลิ่นท่อไอเสียมันแรงมากเลย "
คำตอบที่ได้จากนางคือ "ดับไม่ได้ ลูกนอนหน้ารถ "
เราก็เลยพูดว่า " เอามานอนข้างนอก ก็ได้นี่คะ ติดเครื่องทิ้งไว้ กลิ่นมันแรง นี่ก็เด็กๆทั้งนั้นเลย"
นางก็ตอบกลับมา "ไม่ได้ ข้างนอกมันร้อน จะอะไรกันนักหนา จอดก็จอดที่ของตัวเองไม่ได้ไปจอดที่ของคนอื่นสักหน่อย อย่ามีปัญหาเยอะ"
โอ้แม่เจ้า !!! นี่คือคำตอบของผู้ใหญ่ คุณให้ลูกคุณนอนในรถเปิดแอร์ให้เย็นสบาย แต่ลูกคนอื่นก็ต้องมาดมกลิ่นท่อไอเสียกันสินะ
ข้างนอกก็มีที่ให้นอน มีพัดลมเปิดได้ เอาลูกมานอนแล้วเปิดพัดลมให้ไมไ่ด้หรือไง ใช่ที่คุณจอดในที่ของคุณ แล้วกลิ่นละ
คุณล็อคมันไว้ในที่ของคุณไม่ให้มัน กระจัดกระจายมาในที่ของคนอื่นได้หรือเปล่าคะ ถ้าได้ก็เอาเลย ใครจะไปอยากยุ่งกับคุณ
ใครก็อยากอยู่อย่างสงบไม่อยากมีปัญหาหรอก ยิ่งอยู่ติดกันแล้ว ก็ควรจะเกรงใจมีน้ำใจถ้อยทีถ้อยอาศัย จริงมั้ยคะ
คนเราถ้าทุกคนมีความเกรงใจคนอื่น คิดถึงใจเค้าใจเรา ปัญหาก็คงไม่เกิดหรอก
แล้วนางยังพูดต่อ " ทีเราเอาของไปไว้ล็อคของเรา เค้ายังไม่ว่าไม่พูดสักคำ "
โอ๊ะ คือนั้นมันของใครกัน เราอะมีความเกรงใจคนค่า รู้ว่าล็อคใครล็อคมัน และก็เสียเงินจองเสียเงินเช่า
เราไม่เอาของไปไว้ที่คนอื่น รบกวนคนอื่นแบบนั้นหรอก
" ก่อนจะพูดสืบดูก่อนนะคะ ว่าของของใคร เอามาไว้ ที่นี่ไม่รู้เรื่องด้วยหรอกว่าใครเอามาไว้ ที่แน่ๆไม่ใช่ของที่นี่แน่นอน คนที่นี่มีความเกรงใจคน ถ้ามันไม่ใช่ของคุณ มาว่างเกะกะล็อคของคุณ ขนไปทิ้งเลยคะ เพราะไม่ใช่ของเรา"
พูดดีๆขอร้อนนางแล้ว นางไม่ยอม จน รปภ ต้องมาไกล่เกลี่ย แต่นางก็ไม่ยอม ยืนยันว่านางไม่ได้จอดทุกวันนี่
ก็ใช่คะไม่ได้ทำทุกวัน แต่มันก็หลายครั้งแล้ว กลิ่นมันแรงมาก เราไม่เข้าใจหรอกว่าคุณเองทนได้ไง
แต่สำหรับเราแล้ว มันเหม็นมาก จะมาพูดว่า คนอื่นไม่มีปัญหา มีแต่เราแค่นี้ ก็ล็อคที่ติดกับคุณอีกฝั่งไป 2 ล็อค เค้าไม่อยู่ตอนคุณมานี่คะ
มีแค่เรานี่ที่อยู่ตอนคุณมา จะมาว่ามีแต่เราได้ไง ขนาดลูกค้ามาซื้อยังพูดเลย
แล้วยังพูดอีกว่า คนเราไม่ได้อยู่คนเดียวนะ ต้องมีน้ำใจกันบ้าง
โอ้!!! นั้นเป็นสิ่งที่คุณต้องบอกตัวเองเปล่าคะ เพราะสิ่งที่คุณทำ มันไม่ได้บ่งบอกถึงความมีน้ำใจกับคนรอบข้างเลยนะ
สุดท้าย เลยต้องขึ้นไปไกล่เกลี่ยกัน กับเจ้าหน้าที่ตลาด เค้าก็ปรับข้อหาทะเลาะกัน 500 บาท แล้วเค้าก็ให้เบอร์โทรติดต่อไป
ถ้ามีอีกให้เราโทรตามได้เลย เค้าจะจัดการให้ไม่ต้องไปทะเลาะกัน
โอเค ก็ยังดี อย่างน้อยเราก็ได้ที่พึ่ง เพราะเราไม่อยากมีเรื่องกับใครหรอก ก็ต้องทำมาหากิน สงสารลูกด้วย
ถึงแม้นางจะไม่รู้สำนึกด้วยซ้ำว่านางทำอะไรผิดหรือเปล่า ก็ปล่อยให้นางไปทำที่อื่นต่อละกัน
ก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องสีสเปย์นะ เค้าเอามาพ่นของที่เค้าแพ็คส่งลูกค้าทุกวัน ช่วงนั้นนี่ เราพึ่งคลอดลูกมาใหม่ๆ แม่ลูกอ่อนคะ ได้กลิ่นที
เวียนหัว อาเจียน เราก็ไปขอให้ รปภ มาช่วยบอกหน่อย ก็ไม่ฉีดนะ แต่ต่อมาก็ยังทำเหมือนเดิม เราก็ไปบอกเจ้าหน้าที่ตลาด เค้าก็บอกแจ้ง รปภ จัดการเลย
รปภ ก็มาครั้งเดียวนั้นละ แล้วก็ไม่มาอีก เราก็ต้องทน คนเราก็อยากจะหาที่พึ่งพาได้ ก็คิดแล้วละว่าจะไป เทศบาลให้เจ้าหน้าที่เข้ามาจัดการให้
ใช้ กม พระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ.2535 มาตรา 25 แต่ก็ยังไม่มีเวลา ต้องทำมาหากิน ต้องเข้าใจ Singer Mom
ก็ไม่อยากมีปัญหา ต้องทนกันต่อไป เพราะเคยขอกับเจ้าตัวเค้าแล้วนะ ตอนนั้นเค้าก็ไม่ว่าอะไร แต่ก็คือ ไม่สนใจสิ่งที่เราขอไง
ก็ยังทำทุกวัน
และก็มีเรื่อง ชอบมาจอดรถมอเตอร์ไซค์ หน้าล็อคขวางทางขายของเรา แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร เราก็จะบอกว่า "ขยับรถให้หน่อยคะ"
ก็พอรู้ว่า เค้าไม่พอใจ แต่ก็ชั่งเถอะ มันขวางทางขายของเรา ลูกค้าจะเดินเข้าร้านก็ลำบาก หน้าร้านตัวเองไม่จอด
จนวันหนึ่งนางไปจอดฝั่งตรงข้ามค่า ทางนั้นอยู่ดีๆโวยวายดังลั่นเลย ทะเลาะรุนแรง ว่าขวางหน้าร้านเค้า แต่นางไม่ยอมเอารถออก
จนทางร้านเอารถมาจอดหน้าร้านนางบ้าง ทางนั้นแรงมากๆ ยังไงก็ไม่ยอม โวยวายเสียงดังไม่แคร์สายตาใคร
ตอนนั้นนางก็พูดว่า " บอกกันดีๆ ก็จะเอาออกให้ แต่นี่พูดไม่ดี "
จนเจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาไกล่เกลี่ยเช่นเคย เราเองก็พลอยได้ประโยชน์ไปด้วย เพราะนางก็ไม่เอารถไปจอดหน้าร้านใคร แม้แต่ร้านเราเอง
ที่อยู่ติดกัน ก็นะ ก็คนเป็นสะแบบนี้ อยากบอกเลยว่าพูดดีๆก็ได้ เพราะขนาดเราพูดดีๆ ขอคุณดีๆ คุณยังไม่ทำให้เลย คือต้องเกิดเรื่องใช่ปะ
มันถึงจะแก้ปัญหาได้
ลงรูปยังไม่ได้รออยู่คะ นี่คือรถนางคะ ถ่ายตอนที่นางขับออกไป
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=862892010461651&set=a.213520288732163.52499.100002225795036&type=1&theater