ประสบการณ์ห่อหมก (?) พิศวง

ปกติไม่ค่อยมาเขียนเรื่องการทำอาหารเท่าไร ก็รู้ๆ อยู่ว่าฝีมือแบบนี้เอามาลงก็อายเขาเปล่าๆ
แต่วันนี้มันฮากับฝีมือการทำอาหารของตัวเองแบบสุดๆ ก็เลยอยากมาเล่าให้ฟังขำๆ

คืออยู่ดีๆ อยากกินห่อหมก
แน่นอนว่า อยู่ต่างประเทศ แถมเป็นเมืองต่างจังหวัดแบบนี้ จะให้เดินออกไปหาซื้อกินได้ทันทีมันก็เป็นไปไม่ได้
เอาวะ ทำเองเลยก็แล้วกัน เกิดกำลังใจฮึกเหิมเหมือนกำลังจะขึ้นชกชิงเหรียญโอลิมปิก เปิดเน็ตดูสูตรทันที
ในเว็บ www.ezythaicooking.com ซึ่งเป็นเว็บที่เราพึ่งพาบ่อยครั้งยามต้องทำอาหารไทย บอกว่าส่วนผสมของห่อหมกปลา ได้แก่

เนื้อปลา 300g
ใบกะหล่ำปลี 5 ใบ (แต่ทำจริงๆ 3 ใบก็เหลือล้นแล้ว ไม่รู้กะหล่ำเราใบใหญ่หรือว่าเรางก)
แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
ผักชี 10 ใบ
พริกชี้ฟ้าซอย
ใบมะกรูดซอย
น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ
กะทิ 1 กระป๋อง
ไข่ 2  ฟอง
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ

จดไว้แล้วไปซูเปอร์มาเก็ตทันที อันไหนหาได้ก็เอา หาไม่ได้ก็ทดแทนด้วยอย่างอื่น
เริ่มเลย ทำกระทงก่อน ในสูตรบอกให้ใช้ใบตอง แต่ไม่มีอ่ะ เลยเอาฟอยล์มากรุกล่องทับเปอร์แวร์เป็นกระทงไปแทน ใหญ่ขนาดสามคนโอบ กะว่าทำทีเดียวกินได้ทั้งสัปดาห์



ที่เห็นตรงมุมซ้ายนั่นคือกะหล่ำที่ซอยแล้ว กะหล่ำเมืองนอกแข็งกว่ากะหล่ำไทยมาก กาบแข็ง ใบหนา ไม่อร่อยเท่าไร แต่มันมีอยู่แค่นี้ศรีก็ต้องทน
ซอยเสร็จแล้วเพิ่งนึกถึงที่ครูสุพัตราสอนในวิชา สปช. ได้ ว่าถ้าจะลวกผักให้ลวกก่อนหั่น เพราะถ้าหั่นแล้วเอาไปลวกสารอาหารจะละลายไหลไปกับน้ำหมด
โธ่ วิตามินซีของฉานนน



ต่อไป เตรียมเนื้อปลาไว้ใส่ห่อหมก ไปตลาดได้ปลาค็อด (cod) มา เป็นปลาเนื้อขาวที่อังกฤษนิยมนำมาทำ fish and chips
ราคาถูกมาก เมื่อเทียบกับปลาอื่นๆ อย่างชิ้นนี้ 230g ราคา £1.90 หรือ 95 บาทโดยประมาณ ในขณะที่ปลาแซมอน ชิ้นนิดเดียวก็ £3 หรือ 150 บาทกว่าแล้ว
เอามาแบ่งสับละเอียดครึ่งนึง เก็บไว้หั่นหนาๆครึ่งนึง เนื้อปลาเป็นฝอยๆ สับละเอียดง่ายมาก



ตามมาด้วยใบมะกรูด หาสดไม่ได้ก็ต้องเอาแบบแห้ง จริงๆ ซื้อที่ร้านขายของเอเชียจะถูกกว่ามาก แต่วันนี้ไม่มีเวลาไปเลยจำใจต้องซื้อยี่ห้อฝรั่งมา แพงอีกแล้ว กล่องนิดเดียวตั้ง £1.40 หรือประมาณ 70 บาท เอามาแช่น้ำอุ่นก่อนแล้วซอยเส้นๆ



ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ ลวกกะหล่ำไปเลยละกัน



ความพินาศมันเริ่มขึ้นตอนจะผสมเครื่องแกง 555 ขอเรียกว่าความพินาศหมายเลขหนึ่ง
ในสูตรบอกว่า ให้ผสมเครื่องแกงเผ็ด กับกะที เข้าด้วยกันจนเนียนดี เราก็เปิดตู้ หยิบกระป๋องเครื่องแกงเผ็ด
ปรากฏว่า หมด!! เหลือแต่กระป๋องเปล่าๆ ตั้งไว้หลอกตาซะยังงั้น
เอายังไงดีล่ะทีนี้ เวรรรรร ส่วนผสมก็เตรียมไว้ซะพร้อมมูล
คุ้ยตู้ไปๆมาๆ เจอพริกแกงข้าวซอยที่ซื้อมาจากเชียงใหม่



มองซ้ายมองขวาไม่มีใครเห็น ก็เทพรวดเลยละกัน สีมันแดงๆ เหมือนกัน น่าจะใช้แทนกันได้ เนาะๆ เนาะๆ (ชวนเชื่อตัวเองสุดฤทธิ์)
ผสมกับกะทิ สีสวยน่าดู



พอเนียนดีแล้วก็ผสมเนื้อปลาที่สับไว้ลงไป แล้วผสมให้เข้ากัน



จากนั้นกรุกระทงฟอยล์ที่ทำไว้ด้วยกะหล่ำที่ลวกแล้ว ตามด้วยเนื้อปลาที่หั่นเต๋าเอาไว้ แหมสวยงาม



เทเครื่องแกงที่ผสมไว้ลงไป แหมก็ยังสวยงาม (เรอะ)



ย้ายไปนึ่ง คือลังถึงไฟฟ้าอันนี้แม่แฟนให้มา ปกติใช้นึ่งผัก หรือซาลาเปาแช่แข็งอะไรแบบนี้ มีความร้อนระดับเดียว แถมฝาหายไปแล้ว เลยต้องใช้ฝาหม้อแทน เป็นที่มาของความพินาศหมายเลขสอง คือตอนนึ่ง เห็นเลยว่าฝามันไม่พอดี แล้วทำให้ไอน้ำหยดใส่ห่อหมกเยอะมาก แทนที่จะหยดลงข้างๆ แบบว่าเจิ่งนองเหมือน กทม. หน้าฝน



นึ่งไปได้ประมาณ 10 นาที รู้สึกเหมือนลืมอะไรไปในชีวิต ย้อนกลับไปอ่านสูตรห่อหมกใหม่ซิ
แว้กกกกก ลืมใส่ไข่!!!!! ลืมแบบลืมสนิทเลยอ้ะ
ละล้าละลัง ทำไงดีวะเนี่ย จะคลุกลงไปยังไงดี หรือว่าจะช่างมันดี ไม่ต้องใส่หรอกมาถึงขนาดนี้แล้ว
สุดท้าย ตัดสินใจยกออกมาเทกลับลงไปในชาม เพื่อที่จะผสมไข่ลงไป โอ๊ยฮาตัวเอง 555
กะหล่งกะหล่ำ เนื้อปงเนื้อปลาที่อุตส่าห์เรียงไว้อย่างสวยงาม ♪ไม่เหลืออะไรเลย แหลกสลายลงไปกับตา♪
พอเทกลับลงกระทงใหม่ สภาพนี่สมปุดสมปุ้ย อีเหละเขละขละรวมกัน ดูไม่ด๊ายยยเลย
จึงบังเกิดเป็นพินาศหมายเลขสามด้วยประการฉะนี้

ในสูตรบอกว่านึ่ง 30 นาที แต่นี่ล่อไปเกือบ 50 คือดูไม่เป็นน่ะว่ามันสุกหรือยัง
แต่สุดท้ายเมื่อลองเอาช้อนแคะดู แล้วชิม อืมมมม น่าจะสุกแล้วนะ
พอราดหัวกะทิ โรยใบมะกรูดฝอยและพริกเส้นแล้วก็ดูสวยงามดีทีเดียว



ด้านเนื้อสัมผัสนั้นก็ขอบอกเลยว่า ร่วนมาก 555 คือห่อหมกที่เคยกินมันจะตักเป็นชิ้นๆได้ เนื้อเหมือนฟองน้ำหยุ่นๆ หน่อย แต่ของเรานี่แบบว่า ร่วนซุย ชนิดใช้ปลูกกุหลาบได้งามดีทีเดียว แฉะน้ำนิดๆ และรสชาติไม่เข้มข้นเท่าไร ทำให้นึกขึ้นได้ ว่าเราก็ลืมใส่น้ำปลาน้ำตาลนี่หว่า โอ๊ยยยยย

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็กินได้นะ อาจจะเพราะทั้งเราและแม่แฟนกินจืดทั้งคู่ แต่ถามว่าตกลงนี่มันห่อหมกหรือเปล่า ก็ไม่แน่ใจ เป็นที่มาของชื่อห่อหมกพิศวงในวันนี้ คือไม่รู้ว่าตกลงกรูทำอะไรลงไปวะเนี่ย 555
จริงๆเรียกข้าวซอยนึ่งน่าจะถูกกว่า



ข้อคิดที่ได้ในวันนี้ คือ ก่อนทำอาหาร กรุณาตรวจดูเครื่องปรุงให้หมดทุกอย่างเสียก่อนลงมือ ไม่งั้นจะเสียใจ 555

ขอบคุณที่กดเข้ามาดูกันจ้า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่