กระทู้นี้ เป็นกระทู้รีวิวที่ 30 ครับ เย่!! (เย่ทำไม?)
จากบทความอันนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://anngle.org/th/j-gourmet/gourmet/mentsuyustarbuck.html
"โซเมงน้ำซุปสูตรสตาร์บัคส์" นำพามาซึ่งความสนใจใคร่รู้ของข้าพเจ้ายิ่งนัก
แต่เนื่องจากค้นตู้เย็นที่บ้านแล้ว พบอุด้งสองพันปีเก็บเอาไว้โดยไม่มีใครแตะต้อง
ก่อนที่อุด้งจะกลายเป็นฟอสซิลแล้วกลายเป็นน้ำมันให้ใครมาขุด
ก็เลยขอเปลี่ยนจากเส้นโซเมงเป็นเส้นอุด้งแทนละกันครับ คิดว่ามันคงไม่ต่างอะไรกันมากมายนัก
ห๊ะ! อะไรนะ? มันคนละอย่างกัน?
มันก็เส้น ๆ เหมือนกันแหละ กินแล้วก็ย่อยเหมือนกัน อย่าเรื่องมากน่า
สิ่งที่ต้องเตรียม
1. เส้นอุด้ง - หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำและชั้นตามทั่วไป
2. น้ำซุปอุด้ง - ก็ไปซื้อที่เดียวกับห้างข้างบนครับ
3. อเมรินาโก้เย็นสตาร์บัคส์ - อันนี้ก็ต้องไปซื้อที่ร้านสตาร์บัคส์ที่เดียว สาขาใดแล้วแต่ความลำบาก
ถ้าแถวบ้านใครไม่มี ฝากเพื่อนที่บ้านอยู่ใกล้สตาร์บัคส์ซื้อให้ แล้วให้โอนผ่านธนาคารมาก็ไม่ได้ครับ
เอาละ เริ่มล่ะนะ
1. อุด้งพร้อม
2. น้ำซุปอุด้งพร้อม
3. อเมริกาโน่เย็นสตาร์บัคส์พร้อม... อันนี้ผมซื้อแก้วกลางมา แต่มาค้นพบทีหลังว่าจริง ๆ แก้วเล็กก็พอแล้ว
4. เอ้า ต้อม ๆ กันเข้ามา ถ่ายรูป ชีสสสสส... (หมายเหตุ : ไม่มีชีสในภาพแต่อย่างใด)
5. นำเส้นอุด้งไปต้มให้สุกครับ
6. ระหว่างรอเส้นสุก เราก็มาเตรียมน้ำซุปกัน ถามว่าผสมเท่าไหร่? อันนี้ให้ดูข้างขวดน้ำซุปครับ
สูตรนี้ถ้ากินแบบร้อน ใช้ซุป 1 ส่วนต่อน้ำเปล่า(ณ ที่นี้คือกาแฟ) 6 ส่วน
แบบเย็น ใช่ซุป 1 ต่อน้ำเปล่า 2
ผมทำแบบเย็นก็ใช้อัตราส่วน 1 : 2 ครับ
ถ้าไม่เวิร์คเราค่อยมาปรับกันทีหลังตามที่ชอบที่ชอบละกันครับ
7. เทลงไปผสมกันได้เลยครับ ซุปกับกาแฟนี่ต้องเกิดมาคู่กันแน่ ๆ
เพราะว่าผสมหรือไม่ผสมก็ดูไม่ออกครับ มันสีเดียวกันเลยกลืนกันไปเลย
คนซักพัก ให้น้ำซุปเข้ากัน
8. เส้นแฮปปี้แล้ว เราก็ตักขึ้นมาได้
9. พร้อมแล้ว
10. คีบเส้นไปจุ่มในน้ำซุปสตาร์บัคส์อันขึ้นชื่อลือกาแฟ
11. เธอเห็นน้ำซุปนั่นไหม? มันซึมเข้าไปให้เธอ
อิตาดาคิมัส!!
ซู้ด!!!
โอ้ว!! นี่มันอร่อยกว่าที่คาดไว้
ต้นฉบับเขาบอกว่ามีกลิ่นคล้าย ๆ กลิ่นหอมของถ่านย่างไก่
แต่ผมไม่รู้ว่าถ่านย่างไก่มันกลิ่นยังไง ไม่เคยกินถ่าน ก็เลยบอกไม่ได้เหมือนกัน
รสชาติน้ำซุปเข้ากันได้กับกาแฟได้อย่างไม่น่าเชื่อ
มีรสเค็ม ๆ ของปลาแห้ง รสสาหร่ายหน่อย ๆ ตบด้วยกลิ่นของกาแฟ
เจือด้วยรสขมของกาแฟปะปน เกิดคอนทราสต์ในปากเปรียบดังรสชาติของชีวิต
แต่ช้าแต่ สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหารฉันใด
การกินเมนูนี้ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ฉันนั้น เพราะว่าแรก ๆ มันก็โอเคอยู่
แต่พอผ่านการกินไปเรื่อย ๆ ซักระยะหนึ่ง ท่านจะค้นพบว่าความขมค่อย ๆ ซึมแผ่ซ่านไปทั่วทั้งปาก
ดั่งความขมขื่นที่ออสโมซิสเข้าไปในแต่ละชั้นของเซลล์ เริ่มทำลายระบบประสาทสัมผัส
คราวนี้ความรู้สึกเอ็นจอยกับอาหารจะค่อย ๆ หมดไป
จนเริ่มเกิดคำถามขึ้นในใจ เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง จุดที่กินกาแฟกับอุด้งปนความขมขื่น
เริ่มเกิดความผะอืดผะอม จิ้มน้ำซุปให้น้อยลง จนกลายมากินเส้นเปล่า ๆ บ้าง
ถึงจุดนึงเส้นหมด ก็ถือว่าจบภารกิจ
12. เส้นหมดแต่น้ำซุปเหลือเป็นแกลลอน เลยรียูสด้วยการรดน้ำต้นไม้ครับ
สรุป
1. อร่อยตอนแรก กินไปซักพักจะไม่อร่อย กลายเป็นความผะอืดผะอม
2. ถ้าอยากลองจริง ๆ กาแฟแก้วเล็กก็พอแล้วจริง ๆ นะ แล้วก็ใส่ซุปเยอะ ๆ กาแฟน้อย ๆ ให้ซุปเป็นหลัก กาแฟเป็นรองดีกว่าครับ
3. ตอนตักอุด้งออกจากหม้อต้ม ให้ระวังปลายเส้นสะบัด น้ำร้อนมันจะกระเด็นมาลวกได้ด้วยแหละ... อูย...
จบเมนูแรกไปเรียบร้อย
เนื่องจากว่าทิ้งช่วงไปนาน เลยจะแถมอีกเมนูไปเลยละกันครับ
เป็นรีวิวแบบ 2 in 1 ปุฮิปุฮิ(ลองหัวเราะแบบใหม่)
จากกระทู้ฮอตฮิตติดลมบนอันนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://pantip.com/topic/33945265
กระแส "เต้าหู้เย็น" ที่มาแรงในช่วงที่ผ่านมา ผมเองก็อยากจะลองทำบ้างเหมือนกันครับ
แต่จะให้ผมทำแล้วแต่งหน้ามุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งด้วยผลไม้หรือขนมทั่วไปมันก็กระไรอยู่
ระดับผู้นำเทรนด์ที่ไม่มีใครตามอย่างเรา มันต้อง...
"เต้าหู้เย็นชาเขียวแกงกะหรี่หมู"
ลุยเลยละกัน
1. วัตถุดิบพร้อม ผมเปลี่ยนเด็กนรกเศร้าโศกเป็นผงชาเขียวแทนนะครับ
สูตรอะไรใส่เท่าไหร่ ให้ตามกระทู้ต้นทางไปเลยนะครับ กระทู้นี้เน้นทำกินเองเป็นหลักครับ
2. ใส่วัตถุดิบ ลงไปต้ม ๆ ๆ ๆ พอเริ่มอุ่นก็ใส่ผงวุ้นลงไป แต่นี่ไม่มีผงวุ้น มีแต่เจลาติน ก็ใช้ได้เหมือนกัน
3. คนคลุกเคล้าให้เข้าเครื่อง จนแน่ใจว่าละลายเข้ากันได้อย่างดีงามเรียบร้อย
4. นำมากรองกับตะแกรงสองสามรอบตามเค้าว่า
5. ดูสีเขียวสดใส แลงามตา ผมทิ้งไว้บนโต๊ะชั่วโมงนึง ให้มันเย็นลงก่อน
พอมันเย็นพอ ๆ กับอุณหภูมิห้องแล้ว ก็ค่อยเอาไปใส่ตู้เย็นครับ (ก็อบวิธีเขามาทั้งดุ้นนั่นแหละ)
6. เต้าหู้แช่ตู้เย็นไปแล้วสองชั่วโมง ณ จุดนี้แน่ใจแล้วว่าเต้าหู้พร้อม
เราก็มาเตรียมแกงกะหรี่กันดีกว่า และแน่นอนว่าคนขยันอย่างข้าพเจ้า ก็เลือกใช้แกงกะหรี่สำเร็จรูป
ของดีมีคุณภาพอีกแล้วครับท่าน ช่างขยันเสียจริงนะเราเนี่ย
7. ข้างกล่องมันบอกว่าให้ต้มทั้งซองในน้ำเดือด ประมาณ 3 - 5 นาที ชีวิตช่างสะดวกสบายเสียนี่กระไร
(หม้อเดิมตั้งแต่ต้นกระทู้ยันท้ายกระทู้ ล้างทุกรอบแล้วนะ บอกไว้ก่อน)
8. เต้าหู้เย็นรสชาเขียวพร้อมแล้ว พยายามทุบ ๆ ให้เต้าหู้เย็นมันหลุดออกมา มันก็ไม่ออก
เลยต้องค่อย ๆ เอามีดแซะตามขอบชามอย่างประณีต...
9. แม้จะประณีต แต่ก็มิได้นำพา... ออกมาเป็นก้อนสไลม์ เหมือนผลผลิตจากเอเลี่ยน
10. ไหน ๆ ก็ไม่มีอะไรจะเสียมากไปกว่านี้แล้ว เอาช้อนขูด ๆ มันออกมาเลยละกัน
กลายมาเป็นก้อนสไลม์ขี้เปอะอะไรซักอย่าง บางส่วนมีสีเขียวเข้มดั่งมอสส์ขึ้น
อย่าดูว่าเป็นอาหาร ให้ดูเป็นงานอาร์ตแอ๊ปฉะแต็กไปละกันครับ
ส่วนแกงกะหรี่ที่ต้มไว้เมื่อกี้ก็พร้อมเสิร์ฟพอดี เทลงไปเลย
11.
โอ้มายบุ้ดด้า!!
นี่มันหน้าตาสยองขวัญกว่า Exocist ออกแนวอาหารมะนาวต่างดุ๊ดมากกว่าอาหารมนุษย์โลก
จานที่เอามาใส่ก็ดันพอดีเกิน น้ำแกงกับวุ้นที่ละลายก็ไหลย้อยออกมาข้าง ๆ นิดหน่อยแต่ไม่น้อย
เอาเถอะ มาถึงจุดนี้แล้ว กลับตัวก็ไม่ได้
กินเลยละกัน
อุ้ม!!
รสชาติเต้าหู้เย็นชาเขียว ออกแนวหวานเย็น
ส่วนรสชาติแกงกะหรี่หมู ออกแนวเครื่องเทศเข้มข้น ร้อน และเผ็ด
โอ้ว!! คอนทราสต์!! คอนทราสต์อีกแล้ว
หวานด้วย เผ็ดด้วย โดนตรงแกงก็ร้อน โดนตรงเต้าหู้ก็เย็น
แต่แกงจะมีอิทธิพลเหนือกว่าเต้าหู้ เพราะรสจัดจ้านกว่า
ทำให้รสแกงข่มรสหวานของเต้าหู้ได้พอสมควร ยกเว้นจะตักเต้าหู้คำใหญ่ ๆ
แล้วใส่แกงแจมนิด ๆ อันนั้นก็จะได้รสชาติเต้าหู้ชาเขียวที่มีกลิ่นแกงนิดหน่อย
เอาจริง ๆ ถ้ากินในแต่ละคำด้วยปริมาณพอ ๆ กัน กลิ่นชาเขียวแทบจะดับไปเลย
ความแรงมันสู้กลิ่นเครื่องแกงกะหรี่ไม่ได้ครับ
ก็กินได้นะ ไม่เลวร้าย กลาง ๆ ไม่ขมขื่นอะไร
ไม่ต้องกลัวสำรอกเมทัลด้วย
12. ลืมถ่ายจานตอนกินหมด ถ่ายจานที่อยู่ในซิงค์ตอนกำลังจะล้างไปแทนละกันเนอะ (เพื่อ?)
สรุป
1. อร่อยกว่าที่คิด จะขัด ๆ หน่อยก็ตรงอุณหภูมิมันต่างกันนี่แหละ
2. แต่ถ้าถามว่าจะทำกินอีกไหม?.... โน่ว!!!
3. เต้าหู้เย็น ตอนเจอแกงร้อน ๆ มันจะละลายไปบางส่วนกลายเป็นน้ำนะ
ควรเตรียมชามใหญ่ ๆ ที่รองรับน้ำได้พอสมควร ดีกว่าใส่จานแบน ๆ แล้วล้นออกมาครับ
ต่อไปเป็นช่วงของแถม
วันนี้ขอนำเสนอ ขนมปังหมีอินดี้ฝีมือน้องสาวคนเดิม
... โนคอมเมนต์ = =
แค่นี้นะ ซียา
*Edit แก้คำผิดเหมือนเดิมครับ
[CR] Review : อุด้งกาแฟสตาร์บัคส์ & เต้าหู้เย็นชาเขียวแกงกะหรี่หมู
กระทู้นี้ เป็นกระทู้รีวิวที่ 30 ครับ เย่!! (เย่ทำไม?)
จากบทความอันนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
"โซเมงน้ำซุปสูตรสตาร์บัคส์" นำพามาซึ่งความสนใจใคร่รู้ของข้าพเจ้ายิ่งนัก
แต่เนื่องจากค้นตู้เย็นที่บ้านแล้ว พบอุด้งสองพันปีเก็บเอาไว้โดยไม่มีใครแตะต้อง
ก่อนที่อุด้งจะกลายเป็นฟอสซิลแล้วกลายเป็นน้ำมันให้ใครมาขุด
ก็เลยขอเปลี่ยนจากเส้นโซเมงเป็นเส้นอุด้งแทนละกันครับ คิดว่ามันคงไม่ต่างอะไรกันมากมายนัก
ห๊ะ! อะไรนะ? มันคนละอย่างกัน?
มันก็เส้น ๆ เหมือนกันแหละ กินแล้วก็ย่อยเหมือนกัน อย่าเรื่องมากน่า
สิ่งที่ต้องเตรียม
1. เส้นอุด้ง - หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำและชั้นตามทั่วไป
2. น้ำซุปอุด้ง - ก็ไปซื้อที่เดียวกับห้างข้างบนครับ
3. อเมรินาโก้เย็นสตาร์บัคส์ - อันนี้ก็ต้องไปซื้อที่ร้านสตาร์บัคส์ที่เดียว สาขาใดแล้วแต่ความลำบาก
ถ้าแถวบ้านใครไม่มี ฝากเพื่อนที่บ้านอยู่ใกล้สตาร์บัคส์ซื้อให้ แล้วให้โอนผ่านธนาคารมาก็ไม่ได้ครับ
เอาละ เริ่มล่ะนะ
1. อุด้งพร้อม
2. น้ำซุปอุด้งพร้อม
3. อเมริกาโน่เย็นสตาร์บัคส์พร้อม... อันนี้ผมซื้อแก้วกลางมา แต่มาค้นพบทีหลังว่าจริง ๆ แก้วเล็กก็พอแล้ว
4. เอ้า ต้อม ๆ กันเข้ามา ถ่ายรูป ชีสสสสส... (หมายเหตุ : ไม่มีชีสในภาพแต่อย่างใด)
5. นำเส้นอุด้งไปต้มให้สุกครับ
6. ระหว่างรอเส้นสุก เราก็มาเตรียมน้ำซุปกัน ถามว่าผสมเท่าไหร่? อันนี้ให้ดูข้างขวดน้ำซุปครับ
สูตรนี้ถ้ากินแบบร้อน ใช้ซุป 1 ส่วนต่อน้ำเปล่า(ณ ที่นี้คือกาแฟ) 6 ส่วน
แบบเย็น ใช่ซุป 1 ต่อน้ำเปล่า 2
ผมทำแบบเย็นก็ใช้อัตราส่วน 1 : 2 ครับ
ถ้าไม่เวิร์คเราค่อยมาปรับกันทีหลังตามที่ชอบที่ชอบละกันครับ
7. เทลงไปผสมกันได้เลยครับ ซุปกับกาแฟนี่ต้องเกิดมาคู่กันแน่ ๆ
เพราะว่าผสมหรือไม่ผสมก็ดูไม่ออกครับ มันสีเดียวกันเลยกลืนกันไปเลย
คนซักพัก ให้น้ำซุปเข้ากัน
8. เส้นแฮปปี้แล้ว เราก็ตักขึ้นมาได้
9. พร้อมแล้ว
10. คีบเส้นไปจุ่มในน้ำซุปสตาร์บัคส์อันขึ้นชื่อลือกาแฟ
11. เธอเห็นน้ำซุปนั่นไหม? มันซึมเข้าไปให้เธอ
อิตาดาคิมัส!!
ซู้ด!!!
โอ้ว!! นี่มันอร่อยกว่าที่คาดไว้
ต้นฉบับเขาบอกว่ามีกลิ่นคล้าย ๆ กลิ่นหอมของถ่านย่างไก่
แต่ผมไม่รู้ว่าถ่านย่างไก่มันกลิ่นยังไง ไม่เคยกินถ่าน ก็เลยบอกไม่ได้เหมือนกัน
รสชาติน้ำซุปเข้ากันได้กับกาแฟได้อย่างไม่น่าเชื่อ
มีรสเค็ม ๆ ของปลาแห้ง รสสาหร่ายหน่อย ๆ ตบด้วยกลิ่นของกาแฟ
เจือด้วยรสขมของกาแฟปะปน เกิดคอนทราสต์ในปากเปรียบดังรสชาติของชีวิต
แต่ช้าแต่ สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหารฉันใด
การกินเมนูนี้ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ฉันนั้น เพราะว่าแรก ๆ มันก็โอเคอยู่
แต่พอผ่านการกินไปเรื่อย ๆ ซักระยะหนึ่ง ท่านจะค้นพบว่าความขมค่อย ๆ ซึมแผ่ซ่านไปทั่วทั้งปาก
ดั่งความขมขื่นที่ออสโมซิสเข้าไปในแต่ละชั้นของเซลล์ เริ่มทำลายระบบประสาทสัมผัส
คราวนี้ความรู้สึกเอ็นจอยกับอาหารจะค่อย ๆ หมดไป
จนเริ่มเกิดคำถามขึ้นในใจ เรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง จุดที่กินกาแฟกับอุด้งปนความขมขื่น
เริ่มเกิดความผะอืดผะอม จิ้มน้ำซุปให้น้อยลง จนกลายมากินเส้นเปล่า ๆ บ้าง
ถึงจุดนึงเส้นหมด ก็ถือว่าจบภารกิจ
12. เส้นหมดแต่น้ำซุปเหลือเป็นแกลลอน เลยรียูสด้วยการรดน้ำต้นไม้ครับ
สรุป
1. อร่อยตอนแรก กินไปซักพักจะไม่อร่อย กลายเป็นความผะอืดผะอม
2. ถ้าอยากลองจริง ๆ กาแฟแก้วเล็กก็พอแล้วจริง ๆ นะ แล้วก็ใส่ซุปเยอะ ๆ กาแฟน้อย ๆ ให้ซุปเป็นหลัก กาแฟเป็นรองดีกว่าครับ
3. ตอนตักอุด้งออกจากหม้อต้ม ให้ระวังปลายเส้นสะบัด น้ำร้อนมันจะกระเด็นมาลวกได้ด้วยแหละ... อูย...
จบเมนูแรกไปเรียบร้อย
เนื่องจากว่าทิ้งช่วงไปนาน เลยจะแถมอีกเมนูไปเลยละกันครับ
เป็นรีวิวแบบ 2 in 1 ปุฮิปุฮิ(ลองหัวเราะแบบใหม่)
จากกระทู้ฮอตฮิตติดลมบนอันนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กระแส "เต้าหู้เย็น" ที่มาแรงในช่วงที่ผ่านมา ผมเองก็อยากจะลองทำบ้างเหมือนกันครับ
แต่จะให้ผมทำแล้วแต่งหน้ามุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งด้วยผลไม้หรือขนมทั่วไปมันก็กระไรอยู่
ระดับผู้นำเทรนด์ที่ไม่มีใครตามอย่างเรา มันต้อง...
"เต้าหู้เย็นชาเขียวแกงกะหรี่หมู"
ลุยเลยละกัน
1. วัตถุดิบพร้อม ผมเปลี่ยนเด็กนรกเศร้าโศกเป็นผงชาเขียวแทนนะครับ
สูตรอะไรใส่เท่าไหร่ ให้ตามกระทู้ต้นทางไปเลยนะครับ กระทู้นี้เน้นทำกินเองเป็นหลักครับ
2. ใส่วัตถุดิบ ลงไปต้ม ๆ ๆ ๆ พอเริ่มอุ่นก็ใส่ผงวุ้นลงไป แต่นี่ไม่มีผงวุ้น มีแต่เจลาติน ก็ใช้ได้เหมือนกัน
3. คนคลุกเคล้าให้เข้าเครื่อง จนแน่ใจว่าละลายเข้ากันได้อย่างดีงามเรียบร้อย
4. นำมากรองกับตะแกรงสองสามรอบตามเค้าว่า
5. ดูสีเขียวสดใส แลงามตา ผมทิ้งไว้บนโต๊ะชั่วโมงนึง ให้มันเย็นลงก่อน
พอมันเย็นพอ ๆ กับอุณหภูมิห้องแล้ว ก็ค่อยเอาไปใส่ตู้เย็นครับ (ก็อบวิธีเขามาทั้งดุ้นนั่นแหละ)
6. เต้าหู้แช่ตู้เย็นไปแล้วสองชั่วโมง ณ จุดนี้แน่ใจแล้วว่าเต้าหู้พร้อม
เราก็มาเตรียมแกงกะหรี่กันดีกว่า และแน่นอนว่าคนขยันอย่างข้าพเจ้า ก็เลือกใช้แกงกะหรี่สำเร็จรูป
ของดีมีคุณภาพอีกแล้วครับท่าน ช่างขยันเสียจริงนะเราเนี่ย
7. ข้างกล่องมันบอกว่าให้ต้มทั้งซองในน้ำเดือด ประมาณ 3 - 5 นาที ชีวิตช่างสะดวกสบายเสียนี่กระไร
(หม้อเดิมตั้งแต่ต้นกระทู้ยันท้ายกระทู้ ล้างทุกรอบแล้วนะ บอกไว้ก่อน)
8. เต้าหู้เย็นรสชาเขียวพร้อมแล้ว พยายามทุบ ๆ ให้เต้าหู้เย็นมันหลุดออกมา มันก็ไม่ออก
เลยต้องค่อย ๆ เอามีดแซะตามขอบชามอย่างประณีต...
9. แม้จะประณีต แต่ก็มิได้นำพา... ออกมาเป็นก้อนสไลม์ เหมือนผลผลิตจากเอเลี่ยน
10. ไหน ๆ ก็ไม่มีอะไรจะเสียมากไปกว่านี้แล้ว เอาช้อนขูด ๆ มันออกมาเลยละกัน
กลายมาเป็นก้อนสไลม์ขี้เปอะอะไรซักอย่าง บางส่วนมีสีเขียวเข้มดั่งมอสส์ขึ้น
อย่าดูว่าเป็นอาหาร ให้ดูเป็นงานอาร์ตแอ๊ปฉะแต็กไปละกันครับ
ส่วนแกงกะหรี่ที่ต้มไว้เมื่อกี้ก็พร้อมเสิร์ฟพอดี เทลงไปเลย
11. โอ้มายบุ้ดด้า!!
นี่มันหน้าตาสยองขวัญกว่า Exocist ออกแนวอาหารมะนาวต่างดุ๊ดมากกว่าอาหารมนุษย์โลก
จานที่เอามาใส่ก็ดันพอดีเกิน น้ำแกงกับวุ้นที่ละลายก็ไหลย้อยออกมาข้าง ๆ นิดหน่อยแต่ไม่น้อย
เอาเถอะ มาถึงจุดนี้แล้ว กลับตัวก็ไม่ได้
กินเลยละกัน
อุ้ม!!
รสชาติเต้าหู้เย็นชาเขียว ออกแนวหวานเย็น
ส่วนรสชาติแกงกะหรี่หมู ออกแนวเครื่องเทศเข้มข้น ร้อน และเผ็ด
โอ้ว!! คอนทราสต์!! คอนทราสต์อีกแล้ว
หวานด้วย เผ็ดด้วย โดนตรงแกงก็ร้อน โดนตรงเต้าหู้ก็เย็น
แต่แกงจะมีอิทธิพลเหนือกว่าเต้าหู้ เพราะรสจัดจ้านกว่า
ทำให้รสแกงข่มรสหวานของเต้าหู้ได้พอสมควร ยกเว้นจะตักเต้าหู้คำใหญ่ ๆ
แล้วใส่แกงแจมนิด ๆ อันนั้นก็จะได้รสชาติเต้าหู้ชาเขียวที่มีกลิ่นแกงนิดหน่อย
เอาจริง ๆ ถ้ากินในแต่ละคำด้วยปริมาณพอ ๆ กัน กลิ่นชาเขียวแทบจะดับไปเลย
ความแรงมันสู้กลิ่นเครื่องแกงกะหรี่ไม่ได้ครับ
ก็กินได้นะ ไม่เลวร้าย กลาง ๆ ไม่ขมขื่นอะไร
ไม่ต้องกลัวสำรอกเมทัลด้วย
12. ลืมถ่ายจานตอนกินหมด ถ่ายจานที่อยู่ในซิงค์ตอนกำลังจะล้างไปแทนละกันเนอะ (เพื่อ?)
สรุป
1. อร่อยกว่าที่คิด จะขัด ๆ หน่อยก็ตรงอุณหภูมิมันต่างกันนี่แหละ
2. แต่ถ้าถามว่าจะทำกินอีกไหม?.... โน่ว!!!
3. เต้าหู้เย็น ตอนเจอแกงร้อน ๆ มันจะละลายไปบางส่วนกลายเป็นน้ำนะ
ควรเตรียมชามใหญ่ ๆ ที่รองรับน้ำได้พอสมควร ดีกว่าใส่จานแบน ๆ แล้วล้นออกมาครับ
ต่อไปเป็นช่วงของแถม
วันนี้ขอนำเสนอ ขนมปังหมีอินดี้ฝีมือน้องสาวคนเดิม
... โนคอมเมนต์ = =
แค่นี้นะ ซียา
*Edit แก้คำผิดเหมือนเดิมครับ