สมัยผมยังเป็นเด็ก อยู่บ้านนอก ต่างจังหวัด
ครั้นมีงานบุญ งานบวช หรืองานประเพณีอื่นๆ
เพื่อนบ้าน ก็จะมาช่วยงาน โดยแบ่งงานกันไป
พวกผู้ชาย ตื่นแต่ตี 4 มาล้มหมู วัว จากนั้นก็แบ่งหน้าที่ไปใครแล่เนื้อ ใครฟักลาบ ขั้วข้าว ทำลาบ ต้ม ก้อย
ส่วนผมเด็กทำอะไรไม่เป็น ก็ไปเจียวน้ำมันหมู ก็นำหนังหมูติดมันมาทอดกับกระทะร้อนๆ
แล้วได้น้ำมันก็จะออกมา เหลือเป็นกากหมู ตักออกไปกินต่อได้
น้ำมันก็ไห่(กรอก)ใส่หม้อปิดฝาไว้ใช้ทอด 9ล9 ต่อไป
ส่วนพวกผู้หญิง-ชาย บ้างก็ก่อไฟหูงหาอาหาร หูงข้าวเหนียว ตัดไบตองทำขนมเทียน ขนมสอดไส้ ข้าวต้มมัด บ้างก็ทำพานบายสีสู่ขวัญ เตรียมนิมนต์พระสวด 9ล9
แต่ที่เห็นทำกันเป็นทีมใหญ่ๆ ก็พวกผู้หญิงกับเด็กๆ ปลอกมะพร้าวแก่ (ปลอกยากมาก) ต้องใช้ปลายมีดโต้สับจิกก่อนแล้วเอียงงัดออกมาทีละน้อยๆ
จากนั้นก็เล็มเส้นกระโป๋ให้เรียบสะอาด แล้วใช้สันมีดเคาะรอบๆให้ค่อยๆแตกครึ่งออกมา น้ำมะพร้าวกระเฉาะ รีบหาขันมารอง เดั๋ยวก่อน(กินน้ำมะพร้าวเป็บ) แบ่งทุกคนกิน รอยยิ้มชื่นใจ .... น้า เฮ้ย! จาวมะพร้าว อันใหญ่เท่ากำปั้น งัดออกมาแบ่งทุกคนกินกันอีก อร่อยเหอะ!
ไม่นานก็ได้ยินเสียง ครืดๆ ๆ ๆ เสียงขูดมะพร้าวจร้า ขูดกระต่ายกัน 5-6 คน
มะพร้าวขูดส่วนที่หอมหวานและนัว มากที่สุดจะอยู่ตอนช่วงแรกๆ ผมมักจะชอบกินส่วนนั้นบ่อยๆ จนน้าบ่นรีบๆขูด มัวแต่กินอยู่ได้ @*@
ตอนขูดต้องดูเนื้อมะพร้าวดีดี ให้กินเสมอๆนะ เดี๋ยวจะได้เนื้อกะลาจะไม่สวย ขม
จากนั้นก็จะไปคั้นเอากระทิ เอาเนื้อมะพร้าวมาใส่ผ้าขาวกรอง แล้วบีบเอาได้หัวกระทิออกมา เป็นกระทิที่มัน หวาน มีคุณภาพที่สุด (คงเป็นที่มาของคำว่า คัดเอาเด็กเก่งหัวกระทิกระมัง)
กากที่เหลือยังไม่ทิ้งมาผสมน้ำอุ่นแล้วคั้นกระทิออกมาให้มากที่สุด
จากนั้นก็เอากระทิไปทำอาหาร ขนม อื่นๆมากมาย แม้กระทั่กกากก็เอาไปใส่ใส้ขนม ตากแดด กลับมาใช้ใหม่หมด
พอถึงเวลาอาหารทุกคนก็มาทานข้าวปลาร่วมกันและช่วยกันทำงานต่อ เตรียมงาน 3-5 วัน งานอีก 2-3 วัน เก็บงานอีก 1 วัน ทุกขั้นตอนกระบวนการทุกคนช่วยเหลือกันอย่าไม่มีเกี่ยงงอน
นึกถึงภาพบรรยากาศวิถีชีวิตชาวบ้าน ที่มีความเรียบง่าย เอื้อเฟื้อแผื่อแผ่ที่ชาวบ้านมีให้กัน งานบุญต่างๆ ก็เป็นความทรงจำที่ดีรู้สึกดีที่ได้มี ปสก.เช่นนั้น
ทุกวันนี้เรามาอยู่ในสังคมเมือง เนื่องจาก ครอบครัว งานและธุรกิจส่วนตัว ก็ทำให้ไม่มีบรรยากาศแบบนับนั้นตั้งแต่สมัยเด็กๆ เช้าทำงานเย็นกลับบ้าน สรรงสรรคบ้าง BackPack บ้าง ภาระ ปัญหา ความเร่งด่วนเร่งรีบ ความเครียดจากการงานสังคม งานนั่งโต๊ะ ไม่ออกกำลังกาย อาหารจานด่วน อาหารสังเคราะห์ ประดิษฐ์ขึ้นมา ของสังคมที่ต้องหาเงิน เพื่อซื้อวัตถุให้เราพึงพอใจ แต่จิตใจ และสุขภาพร่างกายกลับเสื่อมถอยลง
หากเลือกได้ รวยแล้ว หรือมีอิสรภาพทางการเงิน ก็ขอเลือกวิถี สมัยพ่อแม่ปู่ย่าตายาย คงจะดีกว่าแน่
อ้าว! พิมมาตั้งนาน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ น้ำมันหมู กระทิ และวิตถีชีวิตละ
สมัยนั้น ปู่ย่า ตายาย ส่วนมากก็เป็นโรคแก่ชราสิ้นบุญ อายุมากๆ 89 95 98 บ้างก็ 104 ก็มี ส่วนที่ตายเร็วก็กินเหล้าขาว กับสูบบุหรี่ ไม่มีใคร เป็นโรคเสื่อมเบาหวาน หัวใจ มะเร็ง กันสักคนเหมือนทุกวันนี้ ทุกคนแข็งแรงกันทั้งนั้น ทั้งๆที่ ใช้น้ำมันหมูเจียว กินกระทิ จากมะพร้าว และอีกส่วนไม่มีภาวะเครียด ทำนาทำไร่ได้ออกกำลังกาย
ผิดกับสังคมปัจจุบัน ความเครียดสูง งานนั่งโต๊ะไม่ออกกำลังกาย ไขมันทรานซ์ เต็มบ้านเต็มเมือง น้ำตาลอีกตัวดีเลย อาหารผ่านการประดิษฐ์สังเคราะห์มาก ในระดับอุสาหกรรม สารเร่ง สารพิษ ดินประสิว ปงชูรสปลอม แท้ ฟอมาลีน มรพิษอากาศ น้ำ ยาฆ่าแมลง แม้กระทั่วไข่ปลอม อาหารปลอมก็ยังมี เฮ้อ!
คนป่วยทุกวันนี้มากๆๆๆๆครับ อ้วน เบาหวาน ความดัน หัวใจ สโตรก อัมพฤกอัมพาด มะเล็ง 9ล9 อัตราการป้วยและเสียชีวิตด้วยโรคเสื่อมก็มากขึ้นเรื่อยๆครับ
ยังงัยก็ฝากผู้มีหน้าที่ช่วยดูแลผู้บริโภคที่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ได้ปลอดภัยมากกว่านี้ กฎหมายควบคุม การให้ความรู้ประชาชน การตรวจและจับ การสาธารณสุขเชิงรุกและป้องกัน ไม่แค่เพียงเจ็บป่วยและมารักษาพึ่งหมอพี่งยาเพียงอย่าเดียว
#น้ำมันหมู กระทิ วิถีชีวิตสมัยปู่ย่าตายาย
ครั้นมีงานบุญ งานบวช หรืองานประเพณีอื่นๆ
เพื่อนบ้าน ก็จะมาช่วยงาน โดยแบ่งงานกันไป
พวกผู้ชาย ตื่นแต่ตี 4 มาล้มหมู วัว จากนั้นก็แบ่งหน้าที่ไปใครแล่เนื้อ ใครฟักลาบ ขั้วข้าว ทำลาบ ต้ม ก้อย
ส่วนผมเด็กทำอะไรไม่เป็น ก็ไปเจียวน้ำมันหมู ก็นำหนังหมูติดมันมาทอดกับกระทะร้อนๆ
แล้วได้น้ำมันก็จะออกมา เหลือเป็นกากหมู ตักออกไปกินต่อได้
น้ำมันก็ไห่(กรอก)ใส่หม้อปิดฝาไว้ใช้ทอด 9ล9 ต่อไป
ส่วนพวกผู้หญิง-ชาย บ้างก็ก่อไฟหูงหาอาหาร หูงข้าวเหนียว ตัดไบตองทำขนมเทียน ขนมสอดไส้ ข้าวต้มมัด บ้างก็ทำพานบายสีสู่ขวัญ เตรียมนิมนต์พระสวด 9ล9
แต่ที่เห็นทำกันเป็นทีมใหญ่ๆ ก็พวกผู้หญิงกับเด็กๆ ปลอกมะพร้าวแก่ (ปลอกยากมาก) ต้องใช้ปลายมีดโต้สับจิกก่อนแล้วเอียงงัดออกมาทีละน้อยๆ
จากนั้นก็เล็มเส้นกระโป๋ให้เรียบสะอาด แล้วใช้สันมีดเคาะรอบๆให้ค่อยๆแตกครึ่งออกมา น้ำมะพร้าวกระเฉาะ รีบหาขันมารอง เดั๋ยวก่อน(กินน้ำมะพร้าวเป็บ) แบ่งทุกคนกิน รอยยิ้มชื่นใจ .... น้า เฮ้ย! จาวมะพร้าว อันใหญ่เท่ากำปั้น งัดออกมาแบ่งทุกคนกินกันอีก อร่อยเหอะ!
ไม่นานก็ได้ยินเสียง ครืดๆ ๆ ๆ เสียงขูดมะพร้าวจร้า ขูดกระต่ายกัน 5-6 คน
มะพร้าวขูดส่วนที่หอมหวานและนัว มากที่สุดจะอยู่ตอนช่วงแรกๆ ผมมักจะชอบกินส่วนนั้นบ่อยๆ จนน้าบ่นรีบๆขูด มัวแต่กินอยู่ได้ @*@
ตอนขูดต้องดูเนื้อมะพร้าวดีดี ให้กินเสมอๆนะ เดี๋ยวจะได้เนื้อกะลาจะไม่สวย ขม
จากนั้นก็จะไปคั้นเอากระทิ เอาเนื้อมะพร้าวมาใส่ผ้าขาวกรอง แล้วบีบเอาได้หัวกระทิออกมา เป็นกระทิที่มัน หวาน มีคุณภาพที่สุด (คงเป็นที่มาของคำว่า คัดเอาเด็กเก่งหัวกระทิกระมัง)
กากที่เหลือยังไม่ทิ้งมาผสมน้ำอุ่นแล้วคั้นกระทิออกมาให้มากที่สุด
จากนั้นก็เอากระทิไปทำอาหาร ขนม อื่นๆมากมาย แม้กระทั่กกากก็เอาไปใส่ใส้ขนม ตากแดด กลับมาใช้ใหม่หมด
พอถึงเวลาอาหารทุกคนก็มาทานข้าวปลาร่วมกันและช่วยกันทำงานต่อ เตรียมงาน 3-5 วัน งานอีก 2-3 วัน เก็บงานอีก 1 วัน ทุกขั้นตอนกระบวนการทุกคนช่วยเหลือกันอย่าไม่มีเกี่ยงงอน
นึกถึงภาพบรรยากาศวิถีชีวิตชาวบ้าน ที่มีความเรียบง่าย เอื้อเฟื้อแผื่อแผ่ที่ชาวบ้านมีให้กัน งานบุญต่างๆ ก็เป็นความทรงจำที่ดีรู้สึกดีที่ได้มี ปสก.เช่นนั้น
ทุกวันนี้เรามาอยู่ในสังคมเมือง เนื่องจาก ครอบครัว งานและธุรกิจส่วนตัว ก็ทำให้ไม่มีบรรยากาศแบบนับนั้นตั้งแต่สมัยเด็กๆ เช้าทำงานเย็นกลับบ้าน สรรงสรรคบ้าง BackPack บ้าง ภาระ ปัญหา ความเร่งด่วนเร่งรีบ ความเครียดจากการงานสังคม งานนั่งโต๊ะ ไม่ออกกำลังกาย อาหารจานด่วน อาหารสังเคราะห์ ประดิษฐ์ขึ้นมา ของสังคมที่ต้องหาเงิน เพื่อซื้อวัตถุให้เราพึงพอใจ แต่จิตใจ และสุขภาพร่างกายกลับเสื่อมถอยลง
หากเลือกได้ รวยแล้ว หรือมีอิสรภาพทางการเงิน ก็ขอเลือกวิถี สมัยพ่อแม่ปู่ย่าตายาย คงจะดีกว่าแน่
อ้าว! พิมมาตั้งนาน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ น้ำมันหมู กระทิ และวิตถีชีวิตละ
สมัยนั้น ปู่ย่า ตายาย ส่วนมากก็เป็นโรคแก่ชราสิ้นบุญ อายุมากๆ 89 95 98 บ้างก็ 104 ก็มี ส่วนที่ตายเร็วก็กินเหล้าขาว กับสูบบุหรี่ ไม่มีใคร เป็นโรคเสื่อมเบาหวาน หัวใจ มะเร็ง กันสักคนเหมือนทุกวันนี้ ทุกคนแข็งแรงกันทั้งนั้น ทั้งๆที่ ใช้น้ำมันหมูเจียว กินกระทิ จากมะพร้าว และอีกส่วนไม่มีภาวะเครียด ทำนาทำไร่ได้ออกกำลังกาย
ผิดกับสังคมปัจจุบัน ความเครียดสูง งานนั่งโต๊ะไม่ออกกำลังกาย ไขมันทรานซ์ เต็มบ้านเต็มเมือง น้ำตาลอีกตัวดีเลย อาหารผ่านการประดิษฐ์สังเคราะห์มาก ในระดับอุสาหกรรม สารเร่ง สารพิษ ดินประสิว ปงชูรสปลอม แท้ ฟอมาลีน มรพิษอากาศ น้ำ ยาฆ่าแมลง แม้กระทั่วไข่ปลอม อาหารปลอมก็ยังมี เฮ้อ!
คนป่วยทุกวันนี้มากๆๆๆๆครับ อ้วน เบาหวาน ความดัน หัวใจ สโตรก อัมพฤกอัมพาด มะเล็ง 9ล9 อัตราการป้วยและเสียชีวิตด้วยโรคเสื่อมก็มากขึ้นเรื่อยๆครับ
ยังงัยก็ฝากผู้มีหน้าที่ช่วยดูแลผู้บริโภคที่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ได้ปลอดภัยมากกว่านี้ กฎหมายควบคุม การให้ความรู้ประชาชน การตรวจและจับ การสาธารณสุขเชิงรุกและป้องกัน ไม่แค่เพียงเจ็บป่วยและมารักษาพึ่งหมอพี่งยาเพียงอย่าเดียว