[SR] Let's Eat : สีฟ้า ร้านในตำนานวัยเยาว์ ก้าวสู่ปีที่ 80แล้ว มีทั้งเมนูอบหม้อดิน เป็ดย่างสีฟ้าและอีกมากมาย

สีฟ้า ร้านในตำนานวัยเยาว์ ทั้งเมนูอบหม้อดิน เป็ดย่างสีฟ้าและอีกมากมาย


ถ้านึกถึงสีฟ้าสิ่งแรกที่ผมนึกขึ้นได้ก็น่าจะเป็นสโลแกนที่ว่า "อย่าลืม สีฟ้า เวลาหิว" แล้วอีกอย่างนึงที่นึกขึ้นได้เวลานึกถึงสีฟ้าก็คือ "ข้าวหน้าไก่ราชวงศ์" นอกเหนือจากนี้แล้วผมก็ยังนึกไม่ค่อยออกจริงๆ ด้วยความที่มีตัวเลือกร้านอาหารสัญชาติอื่นๆที่เข้ามาเปิดกันมากจนนับไม่กันไม่ไหว ทำให้ชื่อสีฟ้าในความรู้สึกผมค่อยๆเลือนหายไปทีละน้อย แต่นั้นก็เป็นเพียงแค่ความรู้สึกผม ซึ่งสวนทางกับสาขาของสีฟ้าเอง ที่เจริญงอกงามแตกออกมาทั้งหมด16สาขาแล้วในปัจจุบัน โดยทุกสาขาจะเน้นปรุงสุกสดใหม่ก่อนเสิร์ฟถึงมือลูกค้าทุกครั้ง โดยมีทีมงานสุ่มตรวจคุณภาพและรสชาติของอาหารทุกสาขา เพื่อให้อาหารทุกจานของสีฟ้าคงคุณภาพดั้งเดิมไว้ไม่เปลี่ยน


สีฟ้า ผมถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ของร้านอาหารไทยเลยก็ว่าได้ เพราะเปิดมาตั้งแต่ ปีค.ศ.1936 สาขาแรกที่เปิดก็คือสาขาราชวงศ์ เป็นย่านธุรกิจสำคัญมากๆในอดีต และร้านอาหารดังๆหลายๆร้านก็ถือกำเนิดในย่านนั้น หรือแม้กระทั่งเมนูอาหารหลายๆอย่างที่ตามท้ายด้วยคำว่า "ราชวงศ์" ก็มาจากร้านอาหารในยุคนั้น หรือเป็นสูตรอาหารจากยุคนั้นเช่นกันครับ


ชื่อร้าน สีฟ้า มาจากร้านในยุคแรกทาผนังเป็นสีฟ้าครับ ทำให้เวลาคนผ่านไปมาแถวราชวงศ์เลยเรียกกันติดปากไปเลยว่าร้านสีฟ้า ลูกค้าของสีฟ้าในยุคแรกๆ ส่วนใหญ่จะเป็นเหล่าไฮโซทั้งหลาย และภาพที่ติดตาของสมัยนั้นจะเป็นภาพเหล่าลูกค้าสั่งอาหารแล้วเสิร์ฟทานกันบนรถเลย


สาขาที่ผมมาทานเป็นสาขาสยามครับ สาขานี้เปิดมาพร้อมๆกับการกำเนิดขึ้นของสยามแสควร์เลยก็ว่าได้ครับ และเป็นสาขาแรกที่ทำให้ผมรู้จักสีฟ้าด้วย เพราะผมมาเรียนพิเศษตั้งแต่เด็กๆ และเป็นแหล่งรวมตัวของเพื่อนๆในยุคขาสั้นของผมด้วย








ขนมจีบ (85บาท) เป็นขนมจีบหมูผสมกุ้งครับ ชิ้นนึงไม่ใหญ่มาก รสชาติค่อนข้างเฉยๆมากสำหรบผมครับ ธรรมดาหรืออาจเป็นเพราะผมไปติดใจขนมจีบกุ้งคำโต หอมเนื้อกุ้งไปแล้วมั้งครับ





เกี๊ยวกรอบ (65บาท) เมนูนี้ทีแรกผมนึกว่าเป็นเหมือนเกี๊ยวทั่วๆไปครับ แต่พอพยิบชิ้นแรก อ้าวแป้งแตก แสดงถึงความกรอบบบมากๆ ผมเลยต้องเบามือซักนิดนึง พอทานเข้าไปก็รู้สึกว่ามีกลิ่นที่ไม่เหมือนทั่วๆไป เลยทางทางร้าน เค้าบอกว่าของสีฟ้าจะผสมไข่ในตัวแป้งเกี๊ยวมากเป็นพิเศษ เลยทำให้เมนูนี้ไม่แตกต่าง และไม่เหมือนเกี๊ยวทั่วๆไปแน่นอนครับ





ข้าวหน้าไก่ไข่ดาว(85บาท) เมนูดั้งเดิมและขึ้นชื่อของที่นี่ หลายคนมักเรียกติดปากว่าข้าวหน้าไก่ราชวงศ์ ยุคแรกของข้าวหน้าไก่ของร้านนี้จะเป็นสูตรแต้จิ๋วซึ่งน้ำราดจะเป็นสีอ่อน และได้ปรับเปลี่ยนสูตรมาเป็นสูตรไหหลำซึ่งตัวซอสจะมีสีเข้มกว่า ส่วนไก่จะใช้ส่วนน่องไก่อย่างเดียวครับ เสิร์ฟมาคู่กับกุนเชียงและไข่ดาว เมนูนี้ผมไม่ได้ทานมานานนนนนนมากๆครับ ตั้งแต่เด็กเลยก็ว่าได้ รสชาติยังพอคุ้นๆลุ้นอยู่บ้าง รสชาติจะไม่เค็มมาก จะเบาๆทานง่ายๆครับ






บะหมี่แห้งอัศวิน(120บาท) บะหมี่ในตำนานของร้านสีฟ้าเลยก็ว่าได้ครับ เริ่มจากนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในสมัยก่อนมักถูกเรียกว่าอัศวิน แล้วก็ชอบสั่งบะหมี่แบบใส่เครื่องเยอะๆ เลยถูกเรียกติดปากกันมาจนกลายเป็นเมนูบะหมี่อัศวินครับ บะหมี่ที่นี่จะเสิร์ฟแต่บะหมี่แห้งเท่านั้นครับ เพราะเส้นจะมีส่วนผสมของไข่ไก่เยอะ ถ้าเสิร์ฟใส่น้ำซุปมาเส้นจะเละเร็วมากครับ เมนูนี้ค่อนข้างครบเครื่องเลยครับ มีทั้งเซี่งจี๊ กุ้ง หมูแดง หมูหวาน ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง ฮื่อก้วย เนื้อไก่ และเนื้อปู เมนูนี้ผมว่าอร่อยดี ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเลยครับ ลูกชิ้นที่นี่ทางสีฟ้าทำเองทุกขั้นตอนครับ และไม่ผสมแป้งเลย






ข้าวไข่ข้นกุ้ง (110บาท) เมนูนี้ผมเคยทานจากร้านอื่นๆมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็เพิ่งรู้ว่าร้านนี้ก็เป็นต้นตำรับที่ขายเมนูนี้มาอย่างยาวนานมากๆครับ เมนูนี้จะไม่เหมือนไข่เจียวนะครับ เพราะเค้าปรุงสุกแค่ด้านเดียวให้อีกฝั่งนึงเยิ้มๆหน่อย แล้วพยายามแซะเพื่อไม่ให้ติดกระทะ เวลาเทลงข้าวจะได้สวยงาม แค่นี้ก็ได้ข้าวไข่ข้นแล้วครับ เพิ่มมูลค่าได้อีกมากเลยทีเดียว






อีหมี่ (130บาท) เป็นอีกหนึ่งจานเด็ดของสีฟ้าครับ ด้วยกรรมวิธีการทำเส้นของสีฟ้า ที่เน้นใส่ไข่มากเป็นพิเศษ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นบะหมี่ไข่ล้วนเลยก็ว่าได้ครับ นำมาทอดให้พอกรอบๆก่อน แล้วค่อยเอาใส่หม้อดินพร้อมน้ำซุปแล้วอบต่ออีกหน่อย ให้น้ำซุปซึมเข้าไปในเส้น เสิร์ฟมากับไก่ฉีกและแฮมครับ เมนูนี้รสชาติจะออกจืดๆไปหน่อยครับ แต่ทานคู่ซอสเปรี้ยวก็เข้ากันดีครับ






ผัดไทยกุ้งสด 150บาท เป็นเมนูเบสิคของคนไทย รวมถึงต่างชาติไปแล้วครับ เมนูนี้เป็นเมนูที่ไม่ต้องปรุงนะครับ อร่อยครบรสอยู่แล้ว เปรี้ยว เค็ม หวาน แต่ไม่เผ็ดนะครับ ถ้าใครชอบเผ็ดอาจจะขอพริกป่นใส่ได้ครับ




ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าปลากระพง 150บาท เมนูนี้ทางร้านเอาปลากระพงมาทอดให้พอกรอบ ผัดเส้นให้หอม ใส่ขิง เห็ดหอม หมูชิ้นและหมูแดง เครื่องมาค่อนข้างแน่นเลย หอมอร่อยดี ส่วนตัวผมชอบมากๆครับ






ขนมจีนน้ำยา 120บาท เมนูนี้จะมีขนมจีนมาให้5ขยุ้มครับ เสิร์ฟมาพร้อมผัก 6ชนิด ทั้งใบแมงลัก ถั่วงอกลวก มะระลวก ไชโป๊ดอง ถั่วฝักยาวและพริกสด รวมถึงไข่ต้มด้วยครับ






แกงพริกขี้หนูเนื้อน่อง 220 บาท เมนูนี้ถ้าดูแต่ชื่ออย่างเดียวอาจจะไม่คุ้นเท่าไหร่ครับ แต่จริงๆแล้วก็คือแกงเขียวหวานครับ เครื่องแกงเข้มข้น ครบรสดีครับ แต่ตัวเนื้อออกจะแข็งและเหนียวไปหน่อย




หมูแดง140บาท






เป็ดย่าง175บาท เป็ดย่างตำรับกวางตุ้ง เมนูยอดนิยมของร้านสีฟ้ามาอย่างยาวนาน เนื้อเป็ดชิ้นหนานุ่มมาก มันน้อย หนังกรอบอ่อนๆและไม่เหม็นสาบเลยครับ










ไอศครีมทุเรียน 90บาท รสชาติเข้มข้นมากๆ ผมทานคำแรกแล้วนึกถึงทุเรียนแช่ฟรีสเลยครับ ซึ่งโดยส่วนตัวผมก็ทำแบบนี้ที่บ้านอยู่แล้ว อร่อยมากๆครับ


บัวลอยเผือก 55บาท แต่ผมสั่งเป็นไอติมกะทิคู่กันไปด้วยในถ้วยเดียวครับ 85บาท เหมือนทานบัวลอยเผือกกับน้ำกะทิแต่แค่เปลี่ยนเป็นไอติมกะทิแทน





ชามะนาวเย็น น้ำผึ้งเชียงแสน 75บาท แก้วนี้ใช้น้ำผึ้งแท้ๆจากเชียงแสนมาเป็นตัวชูโรงครับ หอม หวาน เปรี้ยว สดชื่นมากๆครับ



ก้าวสู่ปีที่80ของสีฟ้า ทางร้านเลยมีกิจกรรมสำหรับลูกค้าให้ร่วมสนุกกัน คือเมื่อทานอาหารครบ500บาท จะได้จับคูปอง1ใบ ในแต่ละคูปองจะมีมูลค่าอยู่ไว้แลกซื้อเมนูอาหารที่กำหนดในแต่ละช่วงราคาได้ อย่างเช่น สมมุติจับได้คูปองมูลค่า8บาท สามารถแลกซื้อ "ไอศครีม 1ลูก" (กะทิ, วนิลา, กาแฟ, ช็อคโกแลต, โยเกิร์ตมะม่วง, โยเกิร์ตบลูเบอร์รี่, โยเกิร์ตสตรอเบอร์รี่และโยเกิร์ตพีช) และขนมหวาน อย่างลอดช่อง บัวลอยเผือก ได้ในราคา8บาท

ถ้าจับได้คูปองมูลค่า 18บาท สามารถแลกซื้ออาหารทานเล่นอย่าง ปอเปี๊ยะสด เกี๊ยวกรอบ ขนมจีบ ขนมจีบทอดเต้าหู้ทอด เผือกทอดและไชเท้าทอด ได้ในราคา18บาท

และถ้าจับได้คูปองมูลค่า28บาท สามารถแลกซื้ออาหารจานหลัก อย่างข้าวหน้าไก่ราชวงศ์ไข่ดาว ข้าวอบขาหมู ข้าวอบเนื้อ ข้าวอบเต้าหู้หมูแดง ข้าวอบไก่ ข้าวอบซี่โครงหมูเต้าซี่ เย็นตาโฟ บะหมี่แห้งราชวงศ์ อีหมี่ โกยซีหมี่ก๋วยเตี๋ยวคลุกไก่ ก๋วยเตี๋ยวแห้งเนื้อสับใส่ไข่ ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าหมูสับ ได้ในราคา28บาทเท่านั้นครับ