ผีบังตา ไม่ใช่ผีอิสลามนะคับ มารยาผีที่สะพานพระรามหก

กระทู้สนทนา
"เซอร์ไพร้ส์ที่ไม่มีวันลืม ถึงตอนนี้เราเลิกกันมา5ปีแล้ว ก้ยังไม่ลืมเหตุการนี้เชื่อสิ"

สวัสดีคับ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกนะคับ
ใช้ความเชื่อส่วนบุคคลนะคับ ใครไม่เชื่อขออย่าลบหลู่
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดกับตัวเองเมื่อ5ปีที่แล้ว
เริ่มเรื่องเลยแล้วกันเนอะ

เรากับแฟนคบกันมา2ปี เราบ้านอยู่แถวจรัญฯ แฟนเราบ้านอยู่ปากเกร็ด (ไกลโคดด)  ที่เราคุยกันไว้ก้คือคนละครึ่งทางนั่นคือ จะเจอกันเมเจอร์นนท์เพราะ รถประจำทางจากบ้านเราคือสาย 175 สุดสาย ท่าน้ำนนท์ แล้วก้จะนั่งรถสองแถวต่อไปปากเกรด ตอนนั้นเรายังเรียนอยู่ คือจะนอนบ้านแฟนได้แค่ อาทิตละ 2 วัน คือเสาอาทิต ระหว่างนั่งรถเมข้ามสะพานพระราม7 ก้จะเห็นสะพานข้างๆ ก้คือ สะพานพระราม6 สะพานเป็นรางรถไฟ เราก้จะเห็นคนบนสะพานบ้าง ส่วนที่เห็นบ่อยๆคือ คนที่ตกปลา แต่สิ่งที่ไม่เคยเห็นเลยคือ "รถไฟ"
เราเรียนหนังสือวัน อังคาร-เสาร์ ส่วนแฟนเรา เรียน จัน-ศุกร์
เช้าวันจันเราคุยตกลงกัน แฟนตกลงจะโดดเรียนมาหา เพราะว่าคิดถึง 5555 เราก้ไม่ปฏิเสธ แฟนนั่งรถเมมาหาเราที่บ้าน ก้ กินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง ตามประสาวัยรุ่น
...แต่พอใกล้เวลาตอนเย็น เวลาที่เราต้องแยกกัน 17:00 น. เราสองคนออกไปรอรถเมที่น่าปากซอย. สาย175
นั่งไปได้เพลินๆถึง พระราม7 เราลุกไปกดกริ่ง เซอร์ไพร์แฟน แฟนก้ลงรถแบบงงๆ ว่า ทำไมลงฝั่งนี้(คือยังไม่ข้ามสะพานพระราม7). เราก้บอกว่า เออน่ะนั่งเล่นแปปนึงยังไม่มืดเท่าไหร่เลย

...ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเซอร์ไพร้ที่ไม่มีวันลืม...
เราพาแฟนเดินเลาะๆไปถึงตีนสะพานพระราม6 (สะพานรางรถไฟ) ปีนขึ้นไปจนอยู่บนรางรถไฟ สำหรับเรา สะพานนี้ถือว่ามีความโรแมนติกนะ เวลาเรานั่งรถผ่าน แล้วมองมา แต่พอมาได้ยืน ตรงนี้ ความรู้สึกมัน ..แป้ววววว.. บอกไม่ถูก แต่ก้นะ ตั้งใจจะพาแฟนมายืนกลางสะพาน ชมวิว ดูพระอาทิตตกดิน ก้ต้องใจดีสู้เสือ
เราสองคนเดินไปตามรางรถไฟ สะพานนี้จะมีทางเดิน 2 ฝั่ง ข้างทางรถไฟ ตอนอยู่บนบกเราก้เดินตามทางรถไฟเลย แต่พอเริ่มอยู่บนน้ำ ขาสั่นๆๆ แบบว่าก้าวขาผิดนี่ได้ลงไปคุยกับปลาสวายได้เลย ก้เลยเปลี่ยนมาเดินทางคนเดิน รู้สึกมั่นคงกว่า
..ที่เดิมเวลาเดิม แต่ไม่มีคนเหมือนเดิม..
วันนี้ไม่มีคนสักคนอยู่บนสะพานนี้ รู้สึกเคว้งนิดๆ เงียบสงบมาก เราก้เดินคุยกันไปเรื่อยๆ แบบว่า อย่าเงียบสิใจคอไม่ดีเลย 55555
แต่ภาพบนสะพานนั้นสวยประทับใจมากทำให้ลืมความกลัวไปชั่วขณะ แต่สิ่งที่จะเจอต่อไปนั้นสิ ถ้ารู้ว่าเดินต่อไปข้างหน้าจะเจออะไร ... คงยอมเดินกลับทางเก่า!!


สิ่งแรกที่เจอ งู กรี๊ดดดดดสิไอ... ความแมนหายไปพริบตา งูอยู่บนรางรถไฟ พันๆอยู่ตัวเท่าแขน คงเลื้อยมาจากฝั่ง เพราะตอนเราปีนขึ้นมาก้ มีต้นไม้ปลูกสองทางข้างทางรถไฟ ดีนะไม่ได้เดินบนราง ไม่งั้นกระโดดน้ำตายแน่ คิดสถาพเดินกางแขนชิว ตามองลงไปข้างล่างเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาก้าวทีละก้าว แล้วก้าวต่อไปเจองู!!! แต่โชคดีที่ไม่ห้าวเดินทางรถไฟ เราอยู่ทางเดินเลยแบบเดินเบียดๆให้ริมที่สุดแล้วก้พากันวิ่งให้ไกลที่สุด ยังหัวเราะออกอยู่ แต่ตอนนั้นยังไม่เอะใจอะไร (ถึงแค่กลางสะพานนะ) แต่แฟนเราใจเสียละดูจากการที่บีบมือเราแน่น เรารู้สึกได้ เราเลยยืนมองทางซ้ายขวาว่า เดินต่อไปฝั่งนู้น กับเดินกลับ อันไหนใกล้กว่า แต่ก้นะยิ้มอยู่กลางสะพาน - -" เราเลยบอกอีกครึ่งทางเอง เดียวก้ถึงแล้วนะ ไม่ต้องกลัว
..เดินต่อไปอีกสัก200เมตรได้..
เจออะไรรู้มั้ยคับ!!

สิ่งที่สอง หมา
...แต่ไม่มีชีวิต เป็นศพหมาที่ตายคารางรถไฟ แมลงวันเรียกพวกมาสวดมนต์บนศพหมา สภาพแบบแบบติดราง เหมือนโดนรถไฟทับ แต่ตอนนั้นเริ่มตะหงิดๆ ตรงที่ เราไม่เคยเห็นรถไฟผ่านสะพานนี้ คิดในใจ มีรถไฟวิ่งอยู่หรอเนี่ยย
...หรือเวลาที่เรานั่งรถผ่าน ไม่มีรอบรถไฟผ่าน สองจิตสองใจ
เรามองหน้าแฟน แฟนเอามือปิดจมูกแล้วแบบน้ำตาคลอ เหมือนจะอ้วก เราก้ งง งง งง งง งง หมดละหมดกัน เอาไงดี เราถามแฟนว่า โอเคป่าว
แฟนบอกว่า "เดินต่อไปจะเจออะไรอีกมั้ย"

เราตอบกลับไปให้ไวเลยว่า "เดินต่อไปเค้าไม่รู้หรอกว่าจะเจออะไรอีก แต่ถ้าเดินกลับไปอะเจองูแน่ๆ "

เอาน่าไม่มีไรแล้วมั้ง !! มั้ง. มุ่งน่าเดินต่อให้ถึงฝั่ง พอใกล้ถึง สิ่งที่เห็นมาแต่ไกลดลยคือ !! อะไรรู้มั้ยคับบ ซีนีม่าา


เดี๋ยวมาต่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่