หมอเซลฟี่ตัวเองในห้องผ่าตัดในขณะที่มีคนไข้ผ่าตัดสมองอยู่ มีความผิดไหมครับ?

กระทู้คำถาม
หมอโพสรูปเซลฟี่ตัวเองในห้องผ่าตัดในขณะที่มีคนไข้ผ่าตัดสมอง พร้อมข้อความที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโรฮิงญาและนักข่าวท่านหนึ่ง ที่มีคนแชร์เป็นจำนวนมากตอนนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ถามความรู้นะครับ
1.หมอเซลฟี่ตัวเองในห้องผ่าตัดในขณะที่มีคนไข้ผ่าตัดสมองอยู่ มีความผิดไหมครับ?
2.หมอเซลฟี่ตัวเองในห้องผ่าตัดในขณะที่มีคนไข้ผ่าตัดสมองอยู่ สมควรทำไหมครับ?
3.โพสภาพคนไข้ และฟิล์มเอ็กซเรย์สมองของคนไข้ ถึงแม้จะไม่เห็นหน้าคนไข้ ต้องขออนุญาติคนไข้หรือผู้ปกครองคนไข้ก่อนไหมครับ?

ขอความกรุณาอยู่ในประเด็น ขอความกรุณาไม่เอาประเด็นที่เรื่องเกี่ยวกับโรฮิงญาและนักข่าวนะครับ

*แก้ไขเพิ่มเติมข้อมูล 21/05/15 02:15

ข้อมูลคนไข้ที่ผมทราบ จากการโพสภาพและข้อความของคุณหมอ
1.เพศ
2.อายุ
3.ภาพฟิล์มเอ็กซเรย์
4.ผ่าตัดสมอง
5.เลือดออก cerebellum
6.โรงพยาบาลที่เข้ารักษา
7.เชื้อชาติผู้ป่วย
8.หมอผู้รักษา
9.วันมีผ่าโดยประมาณ
10.อำเภอและจังหวัดที่ผู้ป่วยอาศัย

คำตอบที่ได้มาส่วนหนึ่ง
1.ห้องผ่าตัดจะไม่ใช่โซนปลอดเชื้อทั้งห้อง(ไม่ได้แปลว่าสกปรกนะครับ) จะมีส่วนที่ปลอดเชื้อจัดไว้เป็นโซนบริเวณที่มีการผ่าตัด
2.แพทย์มีสิทธิและมีความจำเป็นที่จะนำโทรศัพท์เข้าห้องผ่าตัด เพื่อติดต่อกับเจ้าหน้าที่อื่นภายนอกในเหตุฉุกเฉินต่างๆ แต่จะไม่นำเข้าไปในโซนที่จัดไว้เป็นโซนปลอดเชื้อในห้องผ่าตัด
3.แพทย์ขออนุญาติถ่ายรูปแล้ว แต่ยังไม่ยืนยันว่าขอเผยแพร่ด้วยการโพสทางเฟซบุ๊คไว้ด้วยไหม

*แก้ไขข้อมูลเพิ่มเติม 21/5/15 10:55 และแก้คำผิด "เผยแพร่"
สอบถามเพิ่มเติมครับ
1.ขออนุญาติถ่ายรูปแล้ว ต้องขออนุญาติเผยแพร่ว่าจะโพสทางเฟซบุ๊คทั้งข้อมูลคนไข้กับรูปด้านหลังคนไข้ ด้วยไหมครับ?
2.ญาติกล้าปฏิเสธไม่ให้ถ่าย กับหมอที่กำลังจะผ่าตัดสมองลูกตัวเองไหม?
3.ส่วนใหญ่จะขอถ่ายเพื่อประโยชน์ในกับศึกษาการรักษา อันนี้เข้าข่ายนั้นไหม?

ขอความกรุณาอยู่ในประเด็น ขอความกรุณาไม่เอาประเด็นที่เรื่องเกี่ยวกับโรฮิงญาและนักข่าวนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 86
ณ  ปัจจุบัน  คนไม่ทำอะไรคือคนไม่ผิด

ถามว่าผิดไหม  ถ้าเอาแบบให้ตายไปข้างหนึ่ง  การกระทำทุกอย่างไม่มีอะไรถูก 100%
แต่ถ้าให้ชั่งน้ำหนักว่า ถูกหรือผิดมากกว่ากัน

ขอเข้าข้างเจตนาดีของคุณหมอค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 21
มีคนโยงกับข่าวหลายข่าว ของจีนว่าผิด ดูหมอถ่ายต้องการอวดหรือสนุกสนานไหม

อ่านข่าวดู =>ทั้งนี้ เหตุฉาวนี้เกิดขึ้นในห้วงที่เกิดความตึงเครียดระหว่างเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกับผู้ป่วยในสังคมจีน โดยผู้ป่วยมักร้องเรียนว่าได้รับการรักษาพยาบาลที่แย่ แถมต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลราคาแพง โดยเฉพาะต้องติดสินบนหมอและพยาบาลให้ดูแลคนไข้ของพวกเขาอย่างดีด้วย

เคสของจีนเขาเก็บค่ารักษาแพงจ่ายใต้โต๊ะ มีข่าวไม่ดี และยังมาถ่ายเล่นทำให้สังคมไม่เห็นเห็นด้วย

มาดูเคสไทย
อันนี้เขาถ่ายมาไม่มีการเล่น ไม่มีการชูสองนิ้ว แถมวิงวอนให้ถ้าจะเสนอข่าวโรฮิงญา ถ้าจะช่วยมาช่วยคนพวกนี้ก่อนไหม

ผมว่าบางทีอยากเสนอให้คนเห็นด้วยแต่ใส่มาไม่หมด ผมว่าคนพวกนี้มันคิดอะไรกันอยู่นะ

สรุปคือ ความต้องการของจขกทคือ

หมอรักษาผู้ป่วยฟรี เห็นข่าวโรฮิงญา เลยถ่ายรูปแล้วมาว่านักข่าวว่าถ้าจะทำข่าวช่วยโรฮิงญา มาทำข่าวช่วยคนต้องการรักษาและด้อยโอกาสตามชายแดนดีกว่าไหม

จขกท ตัดทุกอย่างและจะชี้ว่าหมอถ่ายรูปในห้องผ่าตัดคือผิด

บางคนก็เอาข่าวมาตีว่าที่จีนก็มีโดนทำโทษไปแล้ว (ข่าวภายในละ) สรุปหมอทุเรศ

คำนี้ผมชอบเลยนะ ดราม่าไม่ดูกาลเทศะ
ความคิดเห็นที่ 33
ถ้าถ่าย Selfie หน้าตัวเอง ธรรมดา ไม่มีระบุว่า เพิ่งผ่าตัดคนไข้
และผ่าตัดจริงๆ คนที่ผ่าตัดก็เป็นคนต่างด้าวจริง เค้าทำงาน เก็บเงินก็ไม่ได้ ต้องใช้ภาษีประชาชนไปจ่ายให้

ถามหน่อยใครจะสนใจ
ใครจะแชร์ครับ

พักงานก็ดีเหมือนกันครับ ประชาชนจะได้ไม่ต้องรักษา ตายๆไปให้หมด
เป็นหมอ ทำดีก็เสมอตัว พูดเรื่องจริงก็อ้างจรรยาบรรณ อ้างจังเลยเนี้ย ประชาชน
รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับจรรยาบรรณแพทย์บ้าง
รักษา คิดเงิน ก็บอกหมอไม่มีจรรยาบรรณ

แต่พอตัวเองจะใช้เงิน ไอโฟน สตาบัค หลุยติ้งต้อง อะไรก็ได้ ให้กูดูรวย
แต่พอต้องจ่ายค่ารักษาเท่านั้นหล่ะ....
จรรยาบรรณแพทย์อยู่ไหน!!! (อันนี้ นอกเรื่องแต่อยากระบาย อยากให้คิด หมอก็คน กรอบอะไรที่มันไม่พอดีมากไป มันก็ไม่มีใครอยากอยู่หรอก)
(แล้วไม่ต้องถาม ทำไมหมอไปโรงบาลเอกชนเยอะ เพราะอยู่รัฐบาลมันเรื่องเยอะอย่างนี้ไง เงินก็น้อย งานก็หนัก เวรที 48 ชั่วโมง คนบ้าไรทำงาน 48 ชั่วโมง คิดสภาพ มนุษย์เงินเดือนทำงาน 48 ชั่วโมงสิ ปกติ เค้าติดต่อกัน ก็ 8 ชั่วโมงป่ะ = 6 เท่า คนธรรมดา คิดเยอะๆหน่อยประชาชน)
ความคิดเห็นที่ 12
ไม่ผิดนะครับ ต้องขออนุญาติผู้ป่วยก่อน ผมเคยเห็นภาพแบบนี้หลายภาพบนอินเตอเนต ตราบใดที่คนถ่ายเขาไม่เจตนาอวดหรือเล่น เขาก็ไม่ผิดนะครับ
และเท่าที่อ่านมาผมว่าหมอกำลังช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ด้อยโอกาส ในการศึกษาและใช้ข่าวโรฮิงญาให้คนมาสนใจสิ่งที่เขาทำให้สังคมนะครับ

จากการอ่านที่คุณโพสผมว่าคุณกำลังจับผิด ผมว่าคุณควรพิจารณาตัวเองก่อนว่ากำลังทำอะไรและต้องการอะไร
ในทางสร้างสรรค์ก็ดีไป แต่ผมไม่คิดอย่างนั้นนะครับ
ความคิดเห็นที่ 56
ขอให้ความเห็นนะครับ ผมเป็นหมอที่จบด้านสารสนเทศสุขภาพ และสนใจศึกษาเรื่อง health information privacy และ social media เป็นพิเศษ ครับ

การถ่ายภาพในโรงพยาบาลโพสต์ลง social media ของแพทย์ จะผิดหรือไม่ ต้องพิจารณาหลักการดังนี้ครับ

1. การกระทำดังกล่าว เป็นการทำให้เกิดความเสียหายหรืออันตรายต่อผู้ป่วยโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรหรือไม่

ตรงนี้เป็นหลักจริยธรรมทางการแพทย์ ว่า ในการทำหน้าที่ของเรา ต้องไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ป่วยโดยไม่จำเป็น หากมีการกระทำใดที่อาจเกิดอันตรายต่อผู้ป่วยได้ ต้องชั่งน้ำหนักความเสี่ยง (risks) กับประโยชน์ต่อผู้ป่วย (benefits) ก่อนเสมอ และ risks ไม่ควรสูงกว่า benefits เราเรียกหลักการนี้ว่า non-maleficence (หมอเราจะคุ้นกับคำว่า "First, do no harm" ดีครับ) เช่น ถ้าจะเอาคนไข้ไปผ่าตัด ซึ่งอาจเกิดอันตรายต่อผู้ป่วยได้ ต้องมีเหตุผลทางการแพทย์ว่าการผ่าตัดดังกล่าวเราหวังว่าจะมีประโยชน์อย่างไรต่อผู้ป่วย และประโยชน์นั้น "คุ้มค่า" เมื่อเทียบกับความเสี่ยง (นอกจากนี้ หากผู้ป่วยรู้ตัวและตัดสินใจเองได้ก็ต้องขออนุญาตก่อนทำอะไรกับตัวผู้ป่วยก่อนเสมอ เพราะถือว่าผู้ป่วยควรมีสิทธิเลือกว่าตนยอมรับความเสี่ยงนั้นหรือไม่ อันนี้เป็นอีกหนึ่งหลักการ เรียกว่า autonomy ยกเว้นกรณีฉุกเฉิน)

ในเรื่องการถ่ายภาพผู้ป่วย มีประเด็นที่ต้องพิจารณาว่า ความเสี่ยงหรืออันตรายต่อผู้ป่วย อยู่ตรงไหนได้บ้าง
- ถ้าภาพถ่ายหรือข้อมูลอื่นๆ ที่โพสต์ ทำให้รู้ได้ว่าตัวตนของผู้ป่วยคือใคร ก็จะเป็นการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วย ว่าเขาได้รับการผ่าตัด (และอาจทำให้คาดเดาเรื่องโรคต่างๆ ได้) ซึ่งก็ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และอาจทำให้ผู้ป่วยเสียความเป็นส่วนตัว รวมทั้งอาจเสียชื่อเสียงหรือเกิดความเสียหายอื่นๆ กรณีเช่นนี้ หากไม่มีประโยชน์ต่อผู้ป่วยอย่างชัดเจน ก็แสดงว่า risk มากกว่า benefits ก็จะผิดหลัก non-maleficence และหากไม่ได้ขออนุญาตผู้ป่วยก่อน และอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้ป่วยได้ ก็ผิดหลัก autonomy ด้วย

- ถ้าการถ่ายภาพหรือการโพสต์บน social media ดังกล่าว เป็นการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองเพื่อผู้ป่วย ณ ขณะนั้น เช่น มีหน้าที่ผ่าตัด หรือดมยาสลบ แล้วเอาเวลาที่ควรดูแลผู้ป่วยไปถ่ายภาพเล่น หรือเล่น social media (โดยไม่มีเหตุผลอื่นที่สมควร เช่น กำลังสื่อสารเรื่องงาน หรือกรณีฉุกเฉิน) ก็แสดงว่าไม่ถือประโยชน์ของผู้ป่วยเป็นหลัก ก็อาจผิดหลักจริยธรรมอีกหนึ่งข้อ คือ beneficence (การยึดประโยชน์ของผู้ป่วยเป็นสำคัญ) ครับ

กรณีนี้ ภาพผู้ป่วยที่โพสต์ ไม่เห็นใบหน้า ภาพเอกซเรย์ที่โพสต์ อ่านตัวหนังสือที่เป็นชื่อหรือเลขที่ผู้ป่วยไม่ได้ และข้อความที่โพสต์ก็ไม่ได้ระบุตัวตนผู้ป่วยไว้ในประการที่คนอื่นจะทราบได้ว่าเป็นใคร ดังนั้น การโพสต์ภาพที่ติดภาพผู้ป่วยในกรณีนี้ จึงไม่ทำให้เกิด risk ต่อผู้ป่วยคนนี้ จึงไม่ผิดหลัก non-maleficence และไม่มีเหตุที่ต้องขออนุญาตผู้ป่วย (เพราะไม่มีความเสี่ยงในการกระทำอะไรต่อร่างกายหรือข้อมูลผู้ป่วยตั้งแต่ต้น) จึงไม่ผิดหลัก autonomy

หากคุณหมอโพสต์ภาพนี้ในระหว่างที่เสร็จจากการผ่าตัด หรือระหว่างรอผ่าตัด ซึ่งในช่วงเวลานั้นไม่สามารถดูแลผู้ป่วยได้ (เช่น รอกระบวนการอย่างอื่นของเจ้าหน้าที่อยู่) ก็ไม่ผิดหลัก beneficence ครับ

2. ไม่ว่าจะผิดจริยธรรมตามข้อ 1 หรือไม่ การถ่ายภาพที่ติดผู้ป่วยแล้วโพสต์บน social media ดังกล่าว เหมาะสมหรือไม่ สมควรทำหรือไม่

ตรงนี้เป็นเรื่องที่อาจแตกต่างแล้วแต่มุมมองครับ มีหลายเหตุการณ์ที่แพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ โพสต์ภาพท่าทางของตนหรือข้อความที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ค่อยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อวิชาชีพ หรืออาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือเกิดความรู้สึกไม่ดีต่อแพทย์ผู้นั้น หรือต่อวิชาชีพได้ กรณีดังกล่าวก็อาจมีประเด็นที่แพทย์พึงระมัดระวังและพิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบก่อนจะโพสต์ครับ

สำหรับประเด็นเรื่อง "ความเหมาะสม" นี้ ไม่ใช่เรื่อง "ความถูกต้อง" และเนื่องจากเป็นมุมมองของแต่ละคนที่อาจแตกต่างกันได้ (subjective) ดังที่เห็นความหลากหลายในคำตอบในกระทู้นี้ ผมจึงไม่ขอให้ความเห็นแบบฟันธงในประเด็นนี้ครับ และย่อมเป็นสิทธิของทุกท่านที่จะวิพากษ์วิจารณ์และให้เหตุผลว่าท่านเห็นว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม แต่แม้ท่านจะเห็นว่าไม่เหมาะสม หรือรู้สึกไม่แน่ใจ นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าการกระทำนั้นจะเป็น "ความผิด" เสมอไป หากท่านใดเห็นว่าเป็นการวางตัวของแพทย์ที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งก็อาจพิจารณาส่งเรื่องให้กับแพทยสภาพิจารณาได้ครับ แต่ส่วนตัวผมมองว่า ภาพและข้อความที่โพสต์ ไม่ได้แสดงถึงความไม่เหมาะสมอย่างรุนแรง มากพอที่ผมคิดว่าแพทยสภาควรดำเนินการสอบสวนแต่อย่างใดครับ อย่างไรก็ตาม ข้อทักท้วงของท่านที่เห็นว่าไม่เหมาะสมก็ย่อมเป็นสิ่งที่แพทย์ท่านนี้และแพทย์ท่านอื่นสมควรรับฟังและนำมาพิจารณาประกอบการวางตัวในอนาคต

เรื่องเนื้อหาที่โพสต์ ในเรื่องโรฮิงญา และเรื่องที่คุณหมอคนนี้ต้องการ raise ประเด็นขึ้นมาให้สังคมทราบ เกี่ยวกับการให้บริการทางการแพทย์แก่คนต่างด้าว ก็เป็นประเด็นที่อาจมีความเห็นได้หลากหลายในสังคม และก็คงไม่มีผิดถูก และย่อมเป็นสิทธิของแพทย์ท่านนี้ที่จะแสดงความเห็นส่วนตัวได้ หากไม่ผิดหลักจริยธรรมของวิชาชีพครับ

3. ทั้งนี้ทั้งนั้น หากทางโรงพยาบาลมีกฎระเบียบเกี่ยวกับการใช้ smart phone, การใช้ social media หรือการถ่ายภาพของบุคลากรเป็นการเฉพาะ ก็เป็นหน้าที่ของแพทย์ท่านนี้ด้วยที่จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบดังกล่าวครับ และผมสนับสนุนส่งเสริมให้ทุกโรงพยาบาลและทุกองค์กรมีนโยบายด้าน social media รวมทั้งความเป็นมืออาชีพ (professionalism) ในการปฏิบัติงาน และมีกระบวนการสร้างความตระหนักและความสำคัญในเรื่องนี้กับบุคลากรทุกระดับอย่างต่อเนื่องครับ

4. เรื่องการนำมือถือไปใช้ในห้องผ่าตัด ก็มีผู้ชี้แจงแล้วนะครับ ก็ตามนั้นครับ สามารถนำไปใช้ได้ในห้องผ่าตัด ตามกระบวนการทำงานที่เป็นที่ยอมรับกันตามปกติครับ ทั้งนี้ ยกเว้นทางโรงพยาบาลกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น

5. แต่ผมเห็นด้วยกับหลายท่านในที่นี้ว่า hashtag ของคุณหมอท่านนี้ อ่านยากและน่ารำคาญมาก....ความเห็นส่วนตัวนะครับ ท่านย่อมมีสิทธิเห็นต่างครับ ยิ้ม
ความคิดเห็นที่ 11
มิตรสหายท่านหนึ่งกล่าวว่า ด่านักข่าวผู้กำลังดังตอนนี้ ทำให้หมอคนนี้เป็นคนดี ดังนั้นไม่ผิดครับ
ทำใจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่