เมื่อสาวไทยอยากฟังฝรั่งรู้เรื่องแต่เธอไม่ขยัน

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ทุกคน นี่เป็นครั้งแรกที่โพสต์กระทู้ใน pantip คืออยากแชร์ประสบการณ์การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ที่ตอนนี้ก็ยังไม่เก่ง แต่มันพัฒนาจาก 0 มาไกล และต้องขออภัยไว้ในที่นี้ถ้าหากใช้ภาษาไม่สละสลวย หรือพิมพ์ผิดพลาดตกหล่นประการใด

          ขอท้าวความก่อนเลยว่าเป็นคนที่เรียนในระบบถึง ม.3 ความรู้ภาษาอังกฤษเกือบเป็นศูนย์ ท่องได้ a-z , ตัวเลข วัน, เดือนนี่จำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ศัพท์ที่จำขึ้นใจมี 3 คำ คือ cat=แมว,  bat=ค้างคาว, rat=หนู
นอกนั้นจำได้คับคล้ายคับคาเท่านั้น แต่อ่านออกหมดเลยว่าสะกดว่าอะไร บางคำก็แอบเข้าใจความหมาย คาดว่าถ้าใส่ใจมากกว่านี้จะวามารถอ่านออกเขียนได้คล่อง
          พอเรียนจบ กศน.ม.6 ก็ทำงานพร้อมเรียนภาคค่ำ มีวิชาภาษาอังกฤษอยู่ 1 ตัว ได้เกรดมาแบบ งง งง เพราะไม่รู้เรื่องอะไรเลย จำแนวข้อสอบที่อาจารย์บอกไปสอบเท่านั้น แต่พอจบ ปวส. การบัญชีปุ้บ ความรู้สึกมันอยากเรียนต่อ ป.ตรี แต่ไม่อยากเรียนบัญชี หรืออะไรที่มันเกี่ยวกับบริหาร แต่มันไปทางไหนได้ยากเพราะจบ ปวส.บริหาร และมีที่เปิดบริหารแต่เป็น ภาษาอังกฤษธุรกิจ ก็ใช่ว่าจะชอบภาษาอังกฤษหรอกนะคะ แต่มันเป็นตัวเลือกที่เจอและตอบโจทย์ ณ ตอนนั้น ตอนเข้าไปเรียนแรก ๆ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย สอบพรีเทสได้คะแนนบ๊วยสุด แต่ต่อมาก็พัฒนาขึ้นมาบ้างแต่ก็ไม่ได้มากมาย จนเรียนจบได้พื้นฐานไวยากรณ์มาไม่น้อย เขียน อ่านเกือบคล่อง แต่เกรดก็ไม่ได้สวยงาม แต่สารภาพเลยว่าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ นึกศัพท์ไม่ออก และปัญหาใหญ่คือ ฟังไม่รู้เรื่อง ว่าฝรั่งพูดอะไร เคยเรียนกับอาจารย์ต่างชาติแค่คนเดียว ก็กลัว ไม่กล้าพูดกับเค้า แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย ได้วุฒิมาก็สมัครงานอะไรไปเรื่อย แต่เริ่มคุยกับต่างชาติตามเวปไซต์หาคู่บ้าง จุดประสงค์ คือ อยากฝึกภาษา แต่ด้วยความที่ไม่อยากเจอก็ได้แค่แชท และมีพื้นฐานการเขียน การอ่านมาจากการเรียนในมหาวิทยาลัย 2 ปีครึ่ง นั่นเอง
          ยอมรับเลยว่าการแชททำให้พัฒนาทักษะการอ่าน เขียน ได้ดีมาก แต่ไม่ได้มาชี้นำให้เพื่อน ๆ ไปแชทกับต่างชาติแบบจริงจังนะคะ เพราะในเวปหาคู่ส่วนใหญ่จะมีการหลอกลวง และไม่จริงจังสูงพอสมควรจากประสบการณ์ที่เจอมา จนมาได้รู้จักกับเจ้านายที่รู้จักและได้ทำงานโดยใช้เฟสบุ้คเปนสื่อกลาง แต่ก็ไม่ได้พัฒนาอะไรสักเท่าไร ครั้งแรกที่เจอกัน คือ คุยงานกันไม่รู้เรื่อง มันก็เลยเป็นแรงฮึดให้เริ่มต้นจริงจังในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษบ้าง บางอารมณ์  เพราะยังสามารถคุยกับภรรยาที่เป็นคนไทยของเค้าได้ จึงไม่ค่อยจริงจังเท่าไร แต่อมรับว่าฟังเค้าไม่รู้เรื่องเลย ตอนนั้น ทั้งที่เค้าก็พยายามพูดง่าย ๆ จึงทำให้รู้ว่าเราอ่อนภาษาอังกฤษขนาดไหน จากที่เคยคิดว่าตัวเองพัฒนาจาก 0 มาถึง 70% แล้ว แต่เปล่าเลย มาถึงแค่ 2-3 % ได้ ในเรื่องการพูดและยังเป็น 0 ในเรื่องการฟัง ....., ช็อคไหมล่ะ เด็กเอกอังกฤษธุรกิจ พูดอังกฤษก็ไม่ได้ ฟังก็ไม่ออก เวลาใครรู้ว่าเรียนจบเอกนี้มา เค้าก็คาดหวังว่าเราคงเก่ง แต่มันไม่เป็นแบบนั้นเลย 5555555 มันเป็น 0 ไม่เคยโทษอาจารย์เลย มันเป็นเพราะเราไม่ใส่ใจ ไม่จริงจัง ไม่รักมันจริง เท่านั้นเอง
          

เกริ่นมายาวมาก ขอมาต่อครั้งหน้านะคะว่าทำไมถึงสามารถฟังออกบ้างแล้ว ตอนนี้ รับรองว่าไม่ได้จริงจัง นั่งเครียดแน่นอน เพราะไม่ได้เป็นคนขยันขนาดนั้น แต่มันมีวิธีค่ะ

ขอบคุณที่สละเวลาอ่านนะคะ หวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้สำหรับคนที่รู้สึกท้อแท้กับการเริ่มต้นฝึกฝนภาษาอังกฤษ อย่าเพิ่งท้อจนถอดใจนะคะ ...., เดี๋ยวว่างแล้วจะรีบมาเล่าต่อค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่