ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ
http://pantip.com/topic/33571230
คริสโตเฟอร์ได้กลิ่นไฟ
แม้สายตาจะยังตกอยู่ใต้คำสาป ความรู้สึกเบาในเนื้อตัวบอกให้รู้ว่าเกราะท่อนบนของเขาถูกถอดออก เหลือเพียงเสื้อแขนยาวเก่าๆ ข้อมือของเขาถูกมัดไขว้หลังเอาไว้ เมื่อเขาลองขยับ ก็พบว่าปลายเชือกผูกกับข้อเท้าทั้งสองข้าง ดาบยักษ์ของเขาหายไปไหนไม่รู้
เสียงครางเบาๆ อย่างคนเพิ่งรู้สึกตัวดังมาจากทางซ้าย บอกให้รู้ว่าทริสก็ถูกจับมาเช่นกัน
“ทริส เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า” เขาถาม “เราอยู่ที่ไหน”
“ข้าไม่รู้ นางแม่มดจับตัวเรามา” ทริสตอบ น้ำเสียงร้อนรน “ท่านเซอร์คอร์นเวลล์ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ชอบที่แคบ”
มีอะไรแปลกๆ จากน้ำเสียงของทริส คริสโตเฟอร์คิด แต่เขาก็พูดต่อไป “คงเป็นนางแม่มดที่ทำให้ป่านี้ได้ชื่อว่าป่าแม่มด ทริส ท่านมองเห็น บอกข้าได้ไหมว่านางแม่มดรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร”
“นางสวยมาก ผมสลวยราวเส้นไหมทองคำ ดวงตาเป็นประกายสีมรกต แต่นางก็มีอำนาจน่ากลัว ก่อนที่ท่านจะตื่น นางได้ทรมานข้าโดยไม่ต้องแม้แต่จะยกนิ้ว พวกเราคงหนีนางไม่พ้นเป็นแน่”
“เจ้าคิดอย่างนั้นหรือ” คริสโตเฟอร์นึกขอบคุณที่แม่มดที่จับกุมเขามาที่ไม่ได้ถอดเกราะท่อนล่างของเขาออก โดยเฉพาะที่เท้าที่มีเงี่ยงแหลมคมประดับอยู่ “เราต้องหนีออกไปได้สิ”
“ท่าน... ท่านบอกแผนให้เรารู้ได้ไหม แขนของเราเจ็บปวดเหลือเกิน”
คริสโตเฟอร์ได้ยินเสียงขยับแขนทั้งสองข้าง เสียงถอนหายใจด้วยความทรมาน
...แขนทั้งสองข้าง...
“เราก็จะต้องหาโอกาสเมื่อแม่มดเข้ามาหาเรา แล้วข้าก็จะใช้พละกำลังมหาศาลที่ข้ามีดึงเชือกเปื่อยๆ นี่ให้ขาดออกแล้วก็รวบตัวแม่มดไว้ ในนิทานเกี่ยวกับแม่มดป่า เมื่อถูกรวบแขนแนบตัวแล้วก็ไม่อาจใช้มือร่ายคาถาได้”
“ท่านเซอร์คอร์นเวลล์ช่างรอบรู้ มีแผนการที่ร้ายกาจ มองอนาคตได้ไกลยิ่ง”
คริสโตเฟอร์ได้ยินเสียงหัวเราะภายใต้น้ำเสียงอันสั่นกลัว... ยังกับว่าทริสไม่รู้ว่าเขาตาบอดงั้นแหละ
“หน้าต่าง!”
คริสโตเฟอร์ตะโกนด้วยความตกใจมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ กะจังหวะและได้ยินเสียงเสื้อผ้าเสียดสีจากการขยับไหว งัดเชือกกับเงี่ยงบนเกราะ จับการเคลื่อนไหวของอีกคนในห้อง แล้วลุกขึ้นไปรวบร่างที่บางกว่าเซอร์แห่งเฮยส์ไว้ มืออีกข้างตะบบปากเหี่ยวย่นไว้แน่น
ต้องปิดปากไว้ ไม่ให้ร้อยเรียงคาถาได้... ดังที่แม่เคยพร่ำสอน
มือของเขาสั่น ยังอ่อนแรงจากคาถาของแม่มด หากน้ำหนักตัวและส่วนสูงยังมีประโยชน์กับการกดแม่มดให้อยู่กับที่และมีปากที่ปิดสนิท
“แม่มดรู้ไหม เรื่องที่ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับตระกูลคอร์นเวลล์... ว่าสะใภ้คนล่าสุดของตระกูล อามาริธา คอร์นเวลล์ มารดาของข้า ก็เป็นแม่มด”
ร่างบางเล็กนั้นดิ้นรน ขยับมือยุกยิก พยายามจะท่องคาถาผ่านฝ่ามือหยาบกระด้างนั้น คริสโตเฟอรฺจึงออกแรงกดหนักขึ้น รู้สึกได้ถึงฟันทุกซี่ของแม่มด
“ถ้าให้เดา ทริสคงใจอ่อน สลบไสลไปที่ไหนสักที่ ข้าอาจจะดูโง่ แต่ไม่ใจอ่อน... ข้าจะไม่มีทางให้เจ้าท่องคาถาทำร้ายใครอีกแน่” เขาอ้าปาก ท่องคาถาที่แม่เคยสอน “อุเทเม อิชเว...”
ก่อนที่เวทมนต์คาถาใดๆ จะออกฤทธิ์ขึ้น นางแม่มดชราก็กรีดเสียง กัดมือของเขา คริสโตเฟอร์ปล่อยมือ แล้วนางแม่มดก็ร่ายคาถาด้วยเสียงแหลมสูง
เขารู้จักคาถานั้นดี แต่ไม่มีเวทพอที่จะทำได้... คาถาสลายคำสาปแบบเร่งด่วน... มันสามารถสลายคำสาปใดๆ ที่อยู่รอบผู้ออกคำสั่งได้ แม้ต้องใช้พลังเวทย์มนต์มหาศาล แต่ได้ผลเสมอ
คริสโตเฟอร์ยิ้มเห็นฟันขาว เมื่อเริ่มมีแสงเข้าตาเลือนราง “ขอบคุณนะที่ถอนคำสาปให้ อ๊ากกก”
แสงตะวันที่ส่องหน้าเขาเต็มๆ ก็ทำให้เขาแสบตาไปหมดจนต้องยกมือบังไว้ เขามองอะไรแทบไม่เห็น แต่มือก็ยังเหนียว รีบคว้าร่างแม่มดมาแล้วปิดปากเอาไว้อีกครั้ง
แม่มดร่ายคาถาอู้อี้ แปลงร่างเป็นงูเหลือม มังกร นกยักษ์ ม้า ทุกร่าง คริสโตเฟอร์กอดแม่มดเอาไว้แน่น และปิดปาก ไม่ให้ใช้คาถาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
จนกระทั่งแม่มดป่านั้นตัวอ่อนปวกเปียกในแรงรัดของเขานั่นแหละ เขาจึงปล่อยตัวหล่อน
“เพื่อนของข้าอยู่ที่ไหน” คริสโตเฟอร์ถามคาดคั้น สายตาของเขาปรับให้เข้ากับการมองเห็นแล้ว
กระท่อมหินหลังนี้ถูกเรียงอย่างเรียบง่าย ที่หน้าต่างกำลังมีอาทิตย์อัสดง ฉายให้เห็นหญิงชราร่างเล็กบางตรงหน้า ใบหน้าเหี่ยวย่นและซูปตอบ
นิ้วสั่นระริกของเธอชี้ไปที่มุมห้อง ตรงที่มีหมาป่าแม่มดขนสีเหลืองอ่อนราวกลีบดอกไม้ถูกล่ามโซ่อยู่ ดวงตาของมันเป็นสีฟ้า... คุ้นๆ เท้าซ้ายหน้าของมันกะเผลก เหมือนรับน้ำหนักไม่ได้ หูมันตก มองมาที่เขาอย่างหงอยๆ มีกระทั่งรอยโกนขนที่ขมับสองข้าง
หรือว่า... เซอร์ทริสทัน ออร์เดอริก เฮยส์ เงาอสรพิษ ถูกสาปกลายเป็นหมาป่าไปเสียแล้ว
ล่ากวางทมิฬ เรื่องสั้นสี่ตอนจบ ตอนที่ 3: เพอร์ซิโฟเนแห่งป่าแม่มด
http://pantip.com/topic/33571230
คริสโตเฟอร์ได้กลิ่นไฟ
แม้สายตาจะยังตกอยู่ใต้คำสาป ความรู้สึกเบาในเนื้อตัวบอกให้รู้ว่าเกราะท่อนบนของเขาถูกถอดออก เหลือเพียงเสื้อแขนยาวเก่าๆ ข้อมือของเขาถูกมัดไขว้หลังเอาไว้ เมื่อเขาลองขยับ ก็พบว่าปลายเชือกผูกกับข้อเท้าทั้งสองข้าง ดาบยักษ์ของเขาหายไปไหนไม่รู้
เสียงครางเบาๆ อย่างคนเพิ่งรู้สึกตัวดังมาจากทางซ้าย บอกให้รู้ว่าทริสก็ถูกจับมาเช่นกัน
“ทริส เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า” เขาถาม “เราอยู่ที่ไหน”
“ข้าไม่รู้ นางแม่มดจับตัวเรามา” ทริสตอบ น้ำเสียงร้อนรน “ท่านเซอร์คอร์นเวลล์ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ชอบที่แคบ”
มีอะไรแปลกๆ จากน้ำเสียงของทริส คริสโตเฟอร์คิด แต่เขาก็พูดต่อไป “คงเป็นนางแม่มดที่ทำให้ป่านี้ได้ชื่อว่าป่าแม่มด ทริส ท่านมองเห็น บอกข้าได้ไหมว่านางแม่มดรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร”
“นางสวยมาก ผมสลวยราวเส้นไหมทองคำ ดวงตาเป็นประกายสีมรกต แต่นางก็มีอำนาจน่ากลัว ก่อนที่ท่านจะตื่น นางได้ทรมานข้าโดยไม่ต้องแม้แต่จะยกนิ้ว พวกเราคงหนีนางไม่พ้นเป็นแน่”
“เจ้าคิดอย่างนั้นหรือ” คริสโตเฟอร์นึกขอบคุณที่แม่มดที่จับกุมเขามาที่ไม่ได้ถอดเกราะท่อนล่างของเขาออก โดยเฉพาะที่เท้าที่มีเงี่ยงแหลมคมประดับอยู่ “เราต้องหนีออกไปได้สิ”
“ท่าน... ท่านบอกแผนให้เรารู้ได้ไหม แขนของเราเจ็บปวดเหลือเกิน”
คริสโตเฟอร์ได้ยินเสียงขยับแขนทั้งสองข้าง เสียงถอนหายใจด้วยความทรมาน
...แขนทั้งสองข้าง...
“เราก็จะต้องหาโอกาสเมื่อแม่มดเข้ามาหาเรา แล้วข้าก็จะใช้พละกำลังมหาศาลที่ข้ามีดึงเชือกเปื่อยๆ นี่ให้ขาดออกแล้วก็รวบตัวแม่มดไว้ ในนิทานเกี่ยวกับแม่มดป่า เมื่อถูกรวบแขนแนบตัวแล้วก็ไม่อาจใช้มือร่ายคาถาได้”
“ท่านเซอร์คอร์นเวลล์ช่างรอบรู้ มีแผนการที่ร้ายกาจ มองอนาคตได้ไกลยิ่ง”
คริสโตเฟอร์ได้ยินเสียงหัวเราะภายใต้น้ำเสียงอันสั่นกลัว... ยังกับว่าทริสไม่รู้ว่าเขาตาบอดงั้นแหละ
“หน้าต่าง!”
คริสโตเฟอร์ตะโกนด้วยความตกใจมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ กะจังหวะและได้ยินเสียงเสื้อผ้าเสียดสีจากการขยับไหว งัดเชือกกับเงี่ยงบนเกราะ จับการเคลื่อนไหวของอีกคนในห้อง แล้วลุกขึ้นไปรวบร่างที่บางกว่าเซอร์แห่งเฮยส์ไว้ มืออีกข้างตะบบปากเหี่ยวย่นไว้แน่น
ต้องปิดปากไว้ ไม่ให้ร้อยเรียงคาถาได้... ดังที่แม่เคยพร่ำสอน
มือของเขาสั่น ยังอ่อนแรงจากคาถาของแม่มด หากน้ำหนักตัวและส่วนสูงยังมีประโยชน์กับการกดแม่มดให้อยู่กับที่และมีปากที่ปิดสนิท
“แม่มดรู้ไหม เรื่องที่ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับตระกูลคอร์นเวลล์... ว่าสะใภ้คนล่าสุดของตระกูล อามาริธา คอร์นเวลล์ มารดาของข้า ก็เป็นแม่มด”
ร่างบางเล็กนั้นดิ้นรน ขยับมือยุกยิก พยายามจะท่องคาถาผ่านฝ่ามือหยาบกระด้างนั้น คริสโตเฟอรฺจึงออกแรงกดหนักขึ้น รู้สึกได้ถึงฟันทุกซี่ของแม่มด
“ถ้าให้เดา ทริสคงใจอ่อน สลบไสลไปที่ไหนสักที่ ข้าอาจจะดูโง่ แต่ไม่ใจอ่อน... ข้าจะไม่มีทางให้เจ้าท่องคาถาทำร้ายใครอีกแน่” เขาอ้าปาก ท่องคาถาที่แม่เคยสอน “อุเทเม อิชเว...”
ก่อนที่เวทมนต์คาถาใดๆ จะออกฤทธิ์ขึ้น นางแม่มดชราก็กรีดเสียง กัดมือของเขา คริสโตเฟอร์ปล่อยมือ แล้วนางแม่มดก็ร่ายคาถาด้วยเสียงแหลมสูง
เขารู้จักคาถานั้นดี แต่ไม่มีเวทพอที่จะทำได้... คาถาสลายคำสาปแบบเร่งด่วน... มันสามารถสลายคำสาปใดๆ ที่อยู่รอบผู้ออกคำสั่งได้ แม้ต้องใช้พลังเวทย์มนต์มหาศาล แต่ได้ผลเสมอ
คริสโตเฟอร์ยิ้มเห็นฟันขาว เมื่อเริ่มมีแสงเข้าตาเลือนราง “ขอบคุณนะที่ถอนคำสาปให้ อ๊ากกก”
แสงตะวันที่ส่องหน้าเขาเต็มๆ ก็ทำให้เขาแสบตาไปหมดจนต้องยกมือบังไว้ เขามองอะไรแทบไม่เห็น แต่มือก็ยังเหนียว รีบคว้าร่างแม่มดมาแล้วปิดปากเอาไว้อีกครั้ง
แม่มดร่ายคาถาอู้อี้ แปลงร่างเป็นงูเหลือม มังกร นกยักษ์ ม้า ทุกร่าง คริสโตเฟอร์กอดแม่มดเอาไว้แน่น และปิดปาก ไม่ให้ใช้คาถาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
จนกระทั่งแม่มดป่านั้นตัวอ่อนปวกเปียกในแรงรัดของเขานั่นแหละ เขาจึงปล่อยตัวหล่อน
“เพื่อนของข้าอยู่ที่ไหน” คริสโตเฟอร์ถามคาดคั้น สายตาของเขาปรับให้เข้ากับการมองเห็นแล้ว
กระท่อมหินหลังนี้ถูกเรียงอย่างเรียบง่าย ที่หน้าต่างกำลังมีอาทิตย์อัสดง ฉายให้เห็นหญิงชราร่างเล็กบางตรงหน้า ใบหน้าเหี่ยวย่นและซูปตอบ
นิ้วสั่นระริกของเธอชี้ไปที่มุมห้อง ตรงที่มีหมาป่าแม่มดขนสีเหลืองอ่อนราวกลีบดอกไม้ถูกล่ามโซ่อยู่ ดวงตาของมันเป็นสีฟ้า... คุ้นๆ เท้าซ้ายหน้าของมันกะเผลก เหมือนรับน้ำหนักไม่ได้ หูมันตก มองมาที่เขาอย่างหงอยๆ มีกระทั่งรอยโกนขนที่ขมับสองข้าง
หรือว่า... เซอร์ทริสทัน ออร์เดอริก เฮยส์ เงาอสรพิษ ถูกสาปกลายเป็นหมาป่าไปเสียแล้ว