ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ
http://pantip.com/topic/33568002
นี่มันไม่ยุติธรรมสิ้นดี เซอร์ทริสทัน เฮยส์คิด
หากว่าเขาชนะการแข่งขันครั้งนี้ ก็เท่ากับว่าเขาชนะคนตาบอด ถ้าเขาแพ้จากการแข่งขัน... ก็เท่ากับเขาแพ้คนตาบอด เท่ากับว่ามีแต่เสียกับเสีย
แต่ก็ต้องยอมรับ ท่านหมีข้าวโพดเก่งจริง แม้จะดูมึนงง และเดินเปะปะเข้ากรอบประตูสักครั้งสองครั้ง แต่เมื่อได้ไม้เท้าคนตาบอดมาจากคนใช้ของเอนอรา เจ้าชายร่างยักษ์ก็เดินกลับมาที่ห้องพยาบาลได้อย่างปลอดภัยพลางบ่นพึมพำ เขาหลีกเลี่ยงผู้คนได้อย่างคล่องแคล่ว เมื่อเช้าขึ้น ทริสทันก็เห็นเซอร์คอร์นเวลล์ในชุดเกราะทองคำอันมีชื่อเสียงนั่งอยู่บนหลัง ม้าพร้อมดาบคู่ใจ และไม้เท้านำทางแล้ว
ดวงตาของคอร์นเวลล์มีหมอกสีขาวหมุนวนอยู่ ดูราวกับต้องคำสาป แต่จะว่าอย่างไรได้ ในเมื่อคอร์นเวลล์ถูกสาปจริงๆ แต่กระนั้นใบหน้าดุดันก็ยิ่งดูน่ายำเกรง แทนที่จะอ่อนแอ
หนวดดำครึ้มนั่นคงช่วยให้ดูเข้มแข็ง น่าเสียดาย ทริสทันเองไว้หนวดไม่เคยสำเร็จเอาเสียเลย
ทริสทันสงสารคอร์นเวลล์ไม่น้อย เขารู้ว่าคอร์นเวลล์และราชินีนั้นเคยเป็นเพื่อนเล่นสนิทสนมกันมาแต่เด็ก แต่ทริสทันเองก็ต้องการกองทัพจากเอนอรามาช่วยเสริมการป้องกันต่อกินรจากทางฝั่งเขา ทองของตระกูลเฮยส์ร่อยหรอไปกับการสร้างประการสูงหนา จนกระทั่งได้เรียนรู้ทีหลังว่า เหล่ากินรนั้นบินได้ เพราะเจ้าที่ปรึกษาหน้าโง่นั่นแท้ๆ
เพราะฉะนั้นเขาจะต้องชนะการแข่งขันครั้งนี้ ถึงเขาจะกลัวผู้หญิงอย่างเอนอรามากแค่ไหนก็ตาม
“ข้าไม่นึกว่าท่านจะรอข้าไปด้วยกันอย่างสหาย” ทริสทันร้องทักออกไปก่อน และเจ้าชายแห่งคอร์นวอลล์ก็หันมายิ้มให้เขา ดวงตาสีขาวขุ่นนั้นเหมือนมองมาถูกทาง
“ข้ามองไม่เห็นทาง จะไปรู้ได้อย่างไร ว่าจะไปถึงป่าแม่มด ข้าก็ต้องรอเจ้าอยู่แล้ว”
ทริสทันกระโดดขึ้นม้า และกวดม้าสุดฝีเท้า ขยับแส้ม้าด้วยมือเดียวไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา หวังว่าชายตาบอดจะตามเขาไม่ทัน หากเมื่อออกจากเมือง ข้ามบ่อโคลน ทะเลสาบ แม่น้ำ จนถึงทุ่งหญ้าแคบๆ ชายป่า เขาก็ยังได้ยินเสียงควบฝีเท้าม้าตามมาติดๆ
ขี่ม้าโดยไม่ได้หยุดพักมาหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ ในอรุณรุ่ง พวกเขาก็ถึงชายป่าแม่มด ป่านั้นรกจนม้าไม่สามารถไปต่อได้ ทริสทันจึงได้จูงม้าไปยังโรงนาใกล้ๆ เขาฝากม้าเอาไว้ที่นั่น และทานเสบียงที่มีแอปเปิ้ลและชีสก้อนหนึ่ง สังเกตเมื่อคอร์นเวลล์ร้องหาผู้คุมโรงนา และฝากฝังม้าไว้อย่างดี
เจ้าชายหนุ่มแห่งคอร์นเวลล์เอียงหูฟังเสียง ขยับใบหน้าเข้าใกล้สิ่งต่างๆ และใช้ไม้เท้าประกอบกัน ดูคล่องแคล่วราวกับมีดวงตาเสียเอง ทริสทันได้แต่มองอย่างทึ่ง
หลังจากฝากม้าแล้ว คอร์นเวลล์คว้าห่อเสบียง เดินช้าๆ มาที่ทริสทัน “เราจะไปกันรึยัง” เขาพูดพลางหยับขากระต่ายออกมาเคี้ยว
“ข้าไม่ได้รอท่าน เซอร์คอร์นเวลล์ เราไม่ใช่ผู้ร่วมเดินทางกัน” ทริสทันตอบ
หมีข้าวโพดส่งยิ้มน่าสยอง มีซากกระต่ายติดหนวดให้ “เรียกซะยาวเชียว ข้าไม่ได้ยินอย่างอื่น” เขาพูด “ข้าคริส”
“ทริส”
มือหนาหนักในเสื้อเกราะตบแขนขวาทริสทันเบาๆ ทำเอาเขาแทบทรุด
“ไปกัน ทริส” ว่าแล้วคริสก็เดินใช้ไม้เท้านำเข้าป่าไป
ทริสทันถอนหายใจยาวๆ ตั้งใจจะเดินไปอีกทาง แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าเขาไม่อาจปล่อยให้นักรบหนุ่มที่อาจกลายเป็นสามีราชินีเดินตกน้ำตายได้ ต่อให้หมีข้าวโพดที่เขตแดนไม่ใกล้น้ำเลยเกิดปาฎิหารย์ว่ายน้ำเป็น ก็คงจะโดนเกราะทองคำถ่วงจมน้ำตายอยู่ดี
ร่างเพรียวเดินตามหมีข้าวโพดตัวยักษ์ไป โดยมีแขนซ้ายห้อยต่องแต่งแกว่งตามไปติดๆ
ล่ากวางทมิฬ เรื่องสั้นสี่ตอนจบ ตอนที่ 2: ทริสทันแห่งเฮยส์
http://pantip.com/topic/33568002
นี่มันไม่ยุติธรรมสิ้นดี เซอร์ทริสทัน เฮยส์คิด
หากว่าเขาชนะการแข่งขันครั้งนี้ ก็เท่ากับว่าเขาชนะคนตาบอด ถ้าเขาแพ้จากการแข่งขัน... ก็เท่ากับเขาแพ้คนตาบอด เท่ากับว่ามีแต่เสียกับเสีย
แต่ก็ต้องยอมรับ ท่านหมีข้าวโพดเก่งจริง แม้จะดูมึนงง และเดินเปะปะเข้ากรอบประตูสักครั้งสองครั้ง แต่เมื่อได้ไม้เท้าคนตาบอดมาจากคนใช้ของเอนอรา เจ้าชายร่างยักษ์ก็เดินกลับมาที่ห้องพยาบาลได้อย่างปลอดภัยพลางบ่นพึมพำ เขาหลีกเลี่ยงผู้คนได้อย่างคล่องแคล่ว เมื่อเช้าขึ้น ทริสทันก็เห็นเซอร์คอร์นเวลล์ในชุดเกราะทองคำอันมีชื่อเสียงนั่งอยู่บนหลัง ม้าพร้อมดาบคู่ใจ และไม้เท้านำทางแล้ว
ดวงตาของคอร์นเวลล์มีหมอกสีขาวหมุนวนอยู่ ดูราวกับต้องคำสาป แต่จะว่าอย่างไรได้ ในเมื่อคอร์นเวลล์ถูกสาปจริงๆ แต่กระนั้นใบหน้าดุดันก็ยิ่งดูน่ายำเกรง แทนที่จะอ่อนแอ
หนวดดำครึ้มนั่นคงช่วยให้ดูเข้มแข็ง น่าเสียดาย ทริสทันเองไว้หนวดไม่เคยสำเร็จเอาเสียเลย
ทริสทันสงสารคอร์นเวลล์ไม่น้อย เขารู้ว่าคอร์นเวลล์และราชินีนั้นเคยเป็นเพื่อนเล่นสนิทสนมกันมาแต่เด็ก แต่ทริสทันเองก็ต้องการกองทัพจากเอนอรามาช่วยเสริมการป้องกันต่อกินรจากทางฝั่งเขา ทองของตระกูลเฮยส์ร่อยหรอไปกับการสร้างประการสูงหนา จนกระทั่งได้เรียนรู้ทีหลังว่า เหล่ากินรนั้นบินได้ เพราะเจ้าที่ปรึกษาหน้าโง่นั่นแท้ๆ
เพราะฉะนั้นเขาจะต้องชนะการแข่งขันครั้งนี้ ถึงเขาจะกลัวผู้หญิงอย่างเอนอรามากแค่ไหนก็ตาม
“ข้าไม่นึกว่าท่านจะรอข้าไปด้วยกันอย่างสหาย” ทริสทันร้องทักออกไปก่อน และเจ้าชายแห่งคอร์นวอลล์ก็หันมายิ้มให้เขา ดวงตาสีขาวขุ่นนั้นเหมือนมองมาถูกทาง
“ข้ามองไม่เห็นทาง จะไปรู้ได้อย่างไร ว่าจะไปถึงป่าแม่มด ข้าก็ต้องรอเจ้าอยู่แล้ว”
ทริสทันกระโดดขึ้นม้า และกวดม้าสุดฝีเท้า ขยับแส้ม้าด้วยมือเดียวไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา หวังว่าชายตาบอดจะตามเขาไม่ทัน หากเมื่อออกจากเมือง ข้ามบ่อโคลน ทะเลสาบ แม่น้ำ จนถึงทุ่งหญ้าแคบๆ ชายป่า เขาก็ยังได้ยินเสียงควบฝีเท้าม้าตามมาติดๆ
ขี่ม้าโดยไม่ได้หยุดพักมาหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ ในอรุณรุ่ง พวกเขาก็ถึงชายป่าแม่มด ป่านั้นรกจนม้าไม่สามารถไปต่อได้ ทริสทันจึงได้จูงม้าไปยังโรงนาใกล้ๆ เขาฝากม้าเอาไว้ที่นั่น และทานเสบียงที่มีแอปเปิ้ลและชีสก้อนหนึ่ง สังเกตเมื่อคอร์นเวลล์ร้องหาผู้คุมโรงนา และฝากฝังม้าไว้อย่างดี
เจ้าชายหนุ่มแห่งคอร์นเวลล์เอียงหูฟังเสียง ขยับใบหน้าเข้าใกล้สิ่งต่างๆ และใช้ไม้เท้าประกอบกัน ดูคล่องแคล่วราวกับมีดวงตาเสียเอง ทริสทันได้แต่มองอย่างทึ่ง
หลังจากฝากม้าแล้ว คอร์นเวลล์คว้าห่อเสบียง เดินช้าๆ มาที่ทริสทัน “เราจะไปกันรึยัง” เขาพูดพลางหยับขากระต่ายออกมาเคี้ยว
“ข้าไม่ได้รอท่าน เซอร์คอร์นเวลล์ เราไม่ใช่ผู้ร่วมเดินทางกัน” ทริสทันตอบ
หมีข้าวโพดส่งยิ้มน่าสยอง มีซากกระต่ายติดหนวดให้ “เรียกซะยาวเชียว ข้าไม่ได้ยินอย่างอื่น” เขาพูด “ข้าคริส”
“ทริส”
มือหนาหนักในเสื้อเกราะตบแขนขวาทริสทันเบาๆ ทำเอาเขาแทบทรุด
“ไปกัน ทริส” ว่าแล้วคริสก็เดินใช้ไม้เท้านำเข้าป่าไป
ทริสทันถอนหายใจยาวๆ ตั้งใจจะเดินไปอีกทาง แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าเขาไม่อาจปล่อยให้นักรบหนุ่มที่อาจกลายเป็นสามีราชินีเดินตกน้ำตายได้ ต่อให้หมีข้าวโพดที่เขตแดนไม่ใกล้น้ำเลยเกิดปาฎิหารย์ว่ายน้ำเป็น ก็คงจะโดนเกราะทองคำถ่วงจมน้ำตายอยู่ดี
ร่างเพรียวเดินตามหมีข้าวโพดตัวยักษ์ไป โดยมีแขนซ้ายห้อยต่องแต่งแกว่งตามไปติดๆ