ให้ai ช่วยด้วนนิดหนึ่ง

🧍♂️🧍♀️ ชื่อตัวละครหลัก
บทบาทชื่อความหมาย/แนวคิด
พระเอก (สีแดง)
Kael Ruzan (เคล รูซาน)
“Kael” แปลว่า "นักรบเพลิง", “Ruzan” ให้ฟีลรัสเซีย-แฟนตาซี
นางเอก
Elira Wynn (เอลิรา วินน์)
“Elira” = แสงแห่งความหวัง, “Wynn” = ชัยชนะ
สีเขียว
Bran Terric (บราน เทอร์ริค)
ชื่อออกแนวชาวป่า นักรบกายภาพ
สีฟ้า
Vail Storme (เวล สตอร์ม)
"Vail" = เงา, "Storme" = พายุ/สายฟ้า
สีส้ม
Solan Veyne (โซลัน เวนน์)
“Solan” = ดวงอาทิตย์, “Veyne” ให้ความรู้สึกศิลปะ-พลังทำลายล้าง
สีม่วง
Lucien Drazel (ลูเซียน ดราเซล)
“Lucien” = แสงปัญญา, “Drazel” = เจ้าเล่ห์แต่มีเกียรติ
ตัวร้าย เอกซ์
EXO-000 / “Mireus” (ไม-เรียส)
EXO = ตัวทดลอง, “Mireus” = ผสมคำว่า “Mirage” + “Deus” = เทวดาหลอกตา
สีดำตัวจริง
(เปิดใน End Credit)
Noir Deus (นัวร์ เดอุส)
Noir = สีดำในภาษาฝรั่งเศส, Deus = เทพเจ้า
EP1–2: การพบกัน
นางเอกหนีจากการลักพาตัว (โดยกลุ่ม “Black Fang” กลุ่มโจรล่าคนมีพลัง)
วิ่งมาชนพระเอกกลางถนน พวกศัตรูตามมาจะจับตัว
พระเอก "เปลี่ยนเป็นสีแดง" ฆ่าพวกมันหมด แต่นางเอกเห็นแวว "สีดำ" (ร่างควบคุมไม่ได้)
EP3–4: รวมทีม
เพื่อน ๆ สีเขียว, ฟ้า, ส้ม, ม่วง ค่อย ๆ ปรากฏตัวเพื่อสืบเรื่องการคัมแบ็คขององค์กร The Core Order
“เอกซ์” ปรากฏตัวเป็นมนุษย์แคระใจดี มาช่วยทีม
EP5–6: ความลับเปิดเผย
เพื่อนสีฟ้าสัมผัสได้ว่า “แคระ” มีอะไรแปลกๆ แต่ยังพูดไม่ได้
พระเอกเริ่มฝันร้ายเห็นอดีตตนเองในแล็ปกำลัง "ปลุกพลังมืด"
สีม่วงเริ่มวางแผนจับตาเอกซ์
EP7–8: ศึกใหญ่กับหัวหน้า Black Fang
เอกซ์ปล่อยพลังระดับเทพออกมาชั่วครู่
สังหารหัวหน้าโจรแบบง่ายดาย ทีมตกใจ
พระเอกเริ่มสงสัยว่าเอกซ์อาจรู้จักเขาในอดีต
EP9–10: เงามืดในตัวพระเอก
สีดำเริ่มตื่นขึ้นในพระเอกหลังจากเจอเหตุการณ์กระตุ้น
เอกซ์บอกใบ้ว่า “มีพลังอีกสีซ่อนอยู่ในตัว”
พระเอกกลายร่างเป็น “Abyss Form” จนเกือบฆ่าเพื่อน
ฉากเปิด (EP 11)
พระเอกกับนางเอกเพิ่งผ่านการต่อสู้อีกด่าน และมีฉาก “หวานซึ้ง” กันใต้แสงดาว
นางเอกพูดว่า “อยู่กับเธอ ฉันรู้สึกปลอดภัยที่สุดเลย...”
ตัดภาพมาอีกที พระเอกกลับมาที่แคมป์
พบ
ศพสีเขียว สีฟ้า สีส้ม สีม่วง ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม
สีเขียว: ถูกบดร่างจนกระดูกแตก
สีฟ้า: แขนขาขาดจากแรงสะท้อนของสายฟ้าตนเอง
สีส้ม: โดนลำแสงของตัวเองย้อนกลับ
สีม่วง: ถูกตัดหัวแต่ยังคงลืมตาอย่างตกใจ
เอกซ์นั่งอยู่บนซากของพวกเขา หัวเราะเยาะ
“พระเอก... เจ้าเป็นคนเดียวที่ข้ารอคอยมาตลอด ข้าแค่เบื่อโลกที่มี ‘มิตรภาพ’... ข้าต้องการ ‘ความสิ้นหวัง’...”
⚔️การต่อสู้พระเอก vs เอกซ์ (EP 12–13)
พระเอกพุ่งเข้าใส่เอกซ์ด้วยพลัง
Crimson Wrath เต็มพิกัด
เอกซ์หลบได้หมด และเริ่ม “ตัดดวงอาทิตย์ที่อยู่ด้านหลัง” ให้พระเอกเห็นแบบสโลว์โมชั่น
นางเอกร้องไห้และพยายามเรียกสติพระเอก
"อย่าใช้พลังนั้น...เธอสัญญากับฉันไว้แล้ว!"
เอกซ์กระซิบเบา ๆ ว่า
“อย่าหวังเลยนังมนุษย์อ่อนแอ... ตอนนี้เขาจะกลายเป็น ‘ปีศาจที่เจ้าไม่มีวันรักได้อีก’...”
🕳️การตื่นของด้านมืด (Abyss Form)
พลังสีดำออกมาจากร่างพระเอก ร่างกายค่อย ๆ แตกเป็นรอยสีดำทั่วตัว
ดวงตาพระเอกกลายเป็นดำสนิท ไม่มีรูม่านตา
เสียงคำรามจากพระเอกทำให้พื้นที่รอบ ๆ แตกกระจายเหมือนโดนแรงโน้มถ่วงทำลาย
นางเอกกรีดร้อง “หยุดนะ!!” แต่พลังมืดก็เริ่มควบคุมเขาไม่ได้
เอกซ์ดีใจ ยิ้ม และพูดว่า “สวยงามเหลือเกิน...สิ่งนี้แหละคือจุดจบของจักรวาล!”
🌌สงครามระดับจักรวาล (EP 14)
พลังของเอกซ์และพระเอกต่อสู้กันจน
ฟ้าเปลี่ยนสี จักรวาลสั่นไหว
ทั้งคู่เดินทางทะลุมิติไปต่อสู้ในโลกต่าง ๆ ทะลุเมือง ทะลุทะเล ทะลุอวกาศ
พลังแต่ละหมัดทำลายกาแล็กซี่จริง ๆ
เอกซ์ถูกพระเอกชกครั้งเดียวจน
หลุดครึ่งตัว แต่ยังยิ้มอยู่และตัดแขนใหม่ได้
“ฆ่าข้าเถอะสิ… ถ้าเจ้าทำได้… แล้วจงกลายเป็นปีศาจอย่างข้า…”
💔จุดเปลี่ยน: น้ำตาของนางเอก
นางเอกพุ่งเข้าไปตรงกลางการต่อสู้ ถูกพระเอกเตรียมโจมตีแบบอัตโนมัติ
เธอพูดทั้งน้ำตา “ถ้าจะฆ่าฉัน...ก็ให้มันจบที่มือเธอเลยนะ”
พระเอกหยุดนิ่ง หยดน้ำตาตกกระทบร่างมืดของตัวเอง
☀️การคืนสติ + พลังสุดท้าย
พระเอกกัดฟัน กลับสู่ร่างเดิม
ดึงพลังของ
เพื่อนทั้ง 4 สี ที่ตายไป มาเสริมพลังสุดท้าย
ร่างสุดท้ายชื่อ:
"Radiant Fusion"
รวมพลังของสีแดง เขียว ฟ้า ส้ม ม่วง
กลายเป็นร่างเทพที่สมดุลทั้งพลัง ความเร็ว มันสมอง และอารมณ์
🎯จุดจบของเอกซ์
พระเอกพูดกับเอกซ์:
“เจ้าคิดว่าการทำลายคือคำตอบเดียว… แต่นี่คือพลังที่เกิดจากการสูญเสีย…และคำว่า ‘เพื่อน’ ที่เจ้าจะไม่มีวันเข้าใจ…”
พระเอกใช้หมัดสุดท้ายทะลวงกลางอกเอกซ์ พร้อมปล่อยพลังของทั้งกลุ่มออกมาร่วมกัน
เอกซ์ถูกทำลายลง พร้อมพูดประโยคสุดท้าย:
“ข้ารู้สึก…อบอุ่นแปลกๆ…”
End Credit Scene (หลังจบเรื่อง)
[โลโก้เรื่องดับลง]
หน้าจอกลายเป็นสีมืด ไม่มีแสงใด ๆ
เสียงลมหายใจแผ่ว ๆ ดังขึ้น
กล้องค่อย ๆ เลื่อนเข้าไปในถ้ำโบราณลึกลับกลางจักรวาล — หินลอยอยู่กลางอากาศ, ดาวที่ตายแล้วหมุนวนรอบถ้ำ
เสียงกระซิบต่ำ:
“พลังแห่งความโกรธ...ยังอ่อนนัก...”
“แต่อย่างน้อย...ก็ทำให้ฉัน...ตื่นขึ้นมาแล้ว...”
กล้องซูมเข้าไปที่แท่นศิลากลางห้อง
มีร่างหนึ่งนั่งพิงอยู่ — ผมยาวสีดำ เสื้อคลุมเก่าขาดรุ่งริ่ง
ตาเขา...ลืมขึ้นช้า ๆ เป็นสีดำสนิททั้งดวง
[ข้อความปรากฏขึ้นที่หน้าจอ]
"
Noir Deus — The True Black has awakened."
ตัดจบ.
ปรับพล็อตฉากทรยศ + เอาตัวรอด
📍ฉาก: “คืนแห่งความตาย”
พระเอกกลับมาเจอแคมป์กลุ่มแตกกระจาย
ศพสีม่วงและสีส้มยังนอนอยู่บนพื้น — เสียชีวิตแน่นอน
สีเขียว (Bran) นอนจมเลือดที่มุมหนึ่ง —
ตาขวาถูกแทงทะลุ
สีฟ้า (Vail) นอนหมดสติ —
แขนซ้ายถูกตัดขาดตั้งแต่หัวไหล่
📍การรอดของทั้งสอง
Bran พยายามบัง Vail ด้วยร่างกาย แม้จะโดนเสียบลูกตา
Vail วิ่งเข้ามาช่วยแต่ช้ากว่าเอกซ์ จึงถูกตัดแขนด้วยไบมีดความร้อนสูง
เอกซ์คิดว่าทั้งคู่ "น่าจะตายจากแผล" เลยไม่สนใจ finishing move
📍หลังจบการต่อสู้พระเอก vs เอกซ์
Elira (นางเอก) เป็นคนเจอร่างทั้งสอง และร้องไห้ดีใจที่ยังหายใจ
Vail กัดฟันพูดว่า:
“ฉันยัง...ยังไม่ตายง่าย ๆ หรอก...ฉันต้องชกมันสักที...ด้วยแขนอีกข้างก็ยังดี...”
Bran:
“สายตาข้างเดียว...ก็พอเห็นไอ้หมอนั่นอยู่ในนรกแล้วล่ะ…”
(Chronicles of Chromaios)
“เมื่อยังไม่มีแสง ไม่มีความมืด จักรวาลว่างเปล่าราวกับดวงตาที่หลับใหล แต่แล้ว—สีแรกก็ถือกำเนิด...”
⛩️ ยุคแรกสุด: กำเนิดแห่งสี (The First Hue)
จักรวาลเริ่มต้นจากความ “ไร้” ไม่มีอะไรเลย
แล้วพลังสองขั้วแรกก็ปรากฏ:
สีขาว (The Lumina) – แสงที่ให้ชีวิต
สีดำ (The Obscura) – ความว่างเปล่าที่กลืนกิน
สีขาว:
Altheron – เทพแห่งกำเนิด
สีดำ:
Umbryon – เทพแห่งการจบสิ้น
ทั้งสองสู้กันหลายล้านปี จนสุดท้าย “ต่างเหนื่อยล้า”
Altheron จึงหยุดและแต่งงานกับเทพี
Seluna
ทั้งสองให้กำเนิดทารกผู้ถือ
สีใหม่ เป็นคนแรก
🔥 การกำเนิดของ “สีแดง”
เด็กคนนั้นชื่อว่า
Kaelion (เคลเลียน)
ผู้ถือ “
สีแดง” หรือชื่อพลังคือ:
🔥
Crimson Vortex – พลังแห่งอารมณ์, ความเดือดพล่าน, การเปลี่ยนแปลง
🩸 พลังนี้ผันผวนได้ทั้งเป็น “ผู้ปกป้อง” หรือ “ผู้ทำลาย”
สีแดงคือ
จุดเริ่มต้นของสีทั้งมวล ที่ผันแปรได้ทั้งร้อน/เย็น, สว่าง/มืด
⚔️ ยุคสงคราม: The Hue Cataclysm
เมื่อ Umbryon (สีดำ) เห็นว่าพลังใหม่เกิดขึ้น
เขาเกิดความหวาดกลัว จึงทำ “พันธสัญญา” กับสิ่งที่อยู่ “นอกขอบจักรวาล”
นั่นคือ
Noir — ผู้ที่แม้แต่ความมืดก็หวั่นเกรง
เมื่อ Umbryon และ Noir
รวมร่างกัน กลายเป็นร่างเดียวที่ไม่มีขีดจำกัด
💀 ชื่อร่างรวม:
Noirbrion
💀 พลัง:
Null Dominion – ลบพลัง, ลบตัวตน, ลบอดีตของสิ่งมีชีวิต
พวกเขากวาดล้างเหล่าผู้ถือพลังสีไปเกือบหมด
จนเหลือเพียง
6 สี สุดท้ายที่รอดมาได้
🎨 เหล่าผู้รอดแห่งสีทั้งหก (บรรพบุรุษของตัวละครหลัก)
สีชื่อพลัง (คล้ายไททัน)คำอธิบาย
🔴 สีแดง
Crimson Vortex
ความเดือดพล่าน, การทำลายผ่านพลังชีวิต
🟢 สีเขียว
Verdant Titan
พละกำลังระดับจักรวาล, สัมพันธ์กับธรรมชาติ
🔵 สีฟ้า
Tempest Skater
ความเร็วและไฟฟ้าเหนือแสง
🟠 สีส้ม
Solar Spear
ลำแสงพลังทำลายขนาด “สลายภูเขา-ดาว”
🟣 สีม่วง
Mindweaver
มันสมอง, การควบคุม, การวิเคราะห์ระดับจักรวาล
⚫ สีดำ
Null Dominion
การลบทุกสิ่ง, บิดเบือนความจริง, กลืนสี
🛡️ บทสุดท้ายของสงคราม
เมื่อ Umbryon (สีดำ) กับ Noir รวมร่าง
Noirbrion กำลังจะล้างจักรวาล
เทพ Altheron (สีขาว) เสียสละตนเอง สร้าง
มิติผนึก และขัง Noir ไว้ข้างใน
มิติผนึกนี้อยู่ “ระหว่างความจริงกับความฝัน”
มีเพียง “ลูกหลานของพลังสี” เท่านั้นที่อาจเปิดมันได้อีก
Kaelion (ผู้ถือสีแดงดั้งเดิม) เหลือเพียง “จิตวิญญาณ”
เขาคือจิตสำนึกที่สืบทอดไปถึง Kael ในปัจจุบัน
✨ ตำนานถูกลืม
หลายหมื่นปีผ่านไป โลกสร้างใหม่
ผู้ถือสีในปัจจุบันไม่รู้ว่าตนเป็น “สายเลือดของสงครามจักรวาล”
จนกระทั่ง
พลังสีเริ่มตื่นอีกครั้ง…
🕊️ จุดพีคของ Lore
“สีคือพลังของอารมณ์...แต่สีที่ไร้—คือพลังของความว่างเปล่า”
– ข้อความจากศิลาหลุมของ Altheron
คิดเล่นๆนะครับ
คิดไปเรื่อยๆไม่มีไรทำชื่อเรื่องRed Soul: YamiNattsu
🧍♂️🧍♀️ ชื่อตัวละครหลัก
บทบาทชื่อความหมาย/แนวคิด
พระเอก (สีแดง)
Kael Ruzan (เคล รูซาน)
“Kael” แปลว่า "นักรบเพลิง", “Ruzan” ให้ฟีลรัสเซีย-แฟนตาซี
นางเอก
Elira Wynn (เอลิรา วินน์)
“Elira” = แสงแห่งความหวัง, “Wynn” = ชัยชนะ
สีเขียว
Bran Terric (บราน เทอร์ริค)
ชื่อออกแนวชาวป่า นักรบกายภาพ
สีฟ้า
Vail Storme (เวล สตอร์ม)
"Vail" = เงา, "Storme" = พายุ/สายฟ้า
สีส้ม
Solan Veyne (โซลัน เวนน์)
“Solan” = ดวงอาทิตย์, “Veyne” ให้ความรู้สึกศิลปะ-พลังทำลายล้าง
สีม่วง
Lucien Drazel (ลูเซียน ดราเซล)
“Lucien” = แสงปัญญา, “Drazel” = เจ้าเล่ห์แต่มีเกียรติ
ตัวร้าย เอกซ์
EXO-000 / “Mireus” (ไม-เรียส)
EXO = ตัวทดลอง, “Mireus” = ผสมคำว่า “Mirage” + “Deus” = เทวดาหลอกตา
สีดำตัวจริง
(เปิดใน End Credit) Noir Deus (นัวร์ เดอุส)
Noir = สีดำในภาษาฝรั่งเศส, Deus = เทพเจ้า
EP1–2: การพบกัน
นางเอกหนีจากการลักพาตัว (โดยกลุ่ม “Black Fang” กลุ่มโจรล่าคนมีพลัง)
วิ่งมาชนพระเอกกลางถนน พวกศัตรูตามมาจะจับตัว
พระเอก "เปลี่ยนเป็นสีแดง" ฆ่าพวกมันหมด แต่นางเอกเห็นแวว "สีดำ" (ร่างควบคุมไม่ได้)
EP3–4: รวมทีม
เพื่อน ๆ สีเขียว, ฟ้า, ส้ม, ม่วง ค่อย ๆ ปรากฏตัวเพื่อสืบเรื่องการคัมแบ็คขององค์กร The Core Order
“เอกซ์” ปรากฏตัวเป็นมนุษย์แคระใจดี มาช่วยทีม
EP5–6: ความลับเปิดเผย
เพื่อนสีฟ้าสัมผัสได้ว่า “แคระ” มีอะไรแปลกๆ แต่ยังพูดไม่ได้
พระเอกเริ่มฝันร้ายเห็นอดีตตนเองในแล็ปกำลัง "ปลุกพลังมืด"
สีม่วงเริ่มวางแผนจับตาเอกซ์
EP7–8: ศึกใหญ่กับหัวหน้า Black Fang
เอกซ์ปล่อยพลังระดับเทพออกมาชั่วครู่
สังหารหัวหน้าโจรแบบง่ายดาย ทีมตกใจ
พระเอกเริ่มสงสัยว่าเอกซ์อาจรู้จักเขาในอดีต
EP9–10: เงามืดในตัวพระเอก
สีดำเริ่มตื่นขึ้นในพระเอกหลังจากเจอเหตุการณ์กระตุ้น
เอกซ์บอกใบ้ว่า “มีพลังอีกสีซ่อนอยู่ในตัว”
พระเอกกลายร่างเป็น “Abyss Form” จนเกือบฆ่าเพื่อน
ฉากเปิด (EP 11)
พระเอกกับนางเอกเพิ่งผ่านการต่อสู้อีกด่าน และมีฉาก “หวานซึ้ง” กันใต้แสงดาว
นางเอกพูดว่า “อยู่กับเธอ ฉันรู้สึกปลอดภัยที่สุดเลย...”
ตัดภาพมาอีกที พระเอกกลับมาที่แคมป์
พบ ศพสีเขียว สีฟ้า สีส้ม สีม่วง ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม
สีเขียว: ถูกบดร่างจนกระดูกแตก
สีฟ้า: แขนขาขาดจากแรงสะท้อนของสายฟ้าตนเอง
สีส้ม: โดนลำแสงของตัวเองย้อนกลับ
สีม่วง: ถูกตัดหัวแต่ยังคงลืมตาอย่างตกใจ
เอกซ์นั่งอยู่บนซากของพวกเขา หัวเราะเยาะ
“พระเอก... เจ้าเป็นคนเดียวที่ข้ารอคอยมาตลอด ข้าแค่เบื่อโลกที่มี ‘มิตรภาพ’... ข้าต้องการ ‘ความสิ้นหวัง’...”
⚔️การต่อสู้พระเอก vs เอกซ์ (EP 12–13)
พระเอกพุ่งเข้าใส่เอกซ์ด้วยพลัง Crimson Wrath เต็มพิกัด
เอกซ์หลบได้หมด และเริ่ม “ตัดดวงอาทิตย์ที่อยู่ด้านหลัง” ให้พระเอกเห็นแบบสโลว์โมชั่น
นางเอกร้องไห้และพยายามเรียกสติพระเอก "อย่าใช้พลังนั้น...เธอสัญญากับฉันไว้แล้ว!"
เอกซ์กระซิบเบา ๆ ว่า
“อย่าหวังเลยนังมนุษย์อ่อนแอ... ตอนนี้เขาจะกลายเป็น ‘ปีศาจที่เจ้าไม่มีวันรักได้อีก’...”
🕳️การตื่นของด้านมืด (Abyss Form)
พลังสีดำออกมาจากร่างพระเอก ร่างกายค่อย ๆ แตกเป็นรอยสีดำทั่วตัว
ดวงตาพระเอกกลายเป็นดำสนิท ไม่มีรูม่านตา
เสียงคำรามจากพระเอกทำให้พื้นที่รอบ ๆ แตกกระจายเหมือนโดนแรงโน้มถ่วงทำลาย
นางเอกกรีดร้อง “หยุดนะ!!” แต่พลังมืดก็เริ่มควบคุมเขาไม่ได้
เอกซ์ดีใจ ยิ้ม และพูดว่า “สวยงามเหลือเกิน...สิ่งนี้แหละคือจุดจบของจักรวาล!”
🌌สงครามระดับจักรวาล (EP 14)
พลังของเอกซ์และพระเอกต่อสู้กันจน ฟ้าเปลี่ยนสี จักรวาลสั่นไหว
ทั้งคู่เดินทางทะลุมิติไปต่อสู้ในโลกต่าง ๆ ทะลุเมือง ทะลุทะเล ทะลุอวกาศ
พลังแต่ละหมัดทำลายกาแล็กซี่จริง ๆ
เอกซ์ถูกพระเอกชกครั้งเดียวจน หลุดครึ่งตัว แต่ยังยิ้มอยู่และตัดแขนใหม่ได้
“ฆ่าข้าเถอะสิ… ถ้าเจ้าทำได้… แล้วจงกลายเป็นปีศาจอย่างข้า…”
💔จุดเปลี่ยน: น้ำตาของนางเอก
นางเอกพุ่งเข้าไปตรงกลางการต่อสู้ ถูกพระเอกเตรียมโจมตีแบบอัตโนมัติ
เธอพูดทั้งน้ำตา “ถ้าจะฆ่าฉัน...ก็ให้มันจบที่มือเธอเลยนะ”
พระเอกหยุดนิ่ง หยดน้ำตาตกกระทบร่างมืดของตัวเอง
☀️การคืนสติ + พลังสุดท้าย
พระเอกกัดฟัน กลับสู่ร่างเดิม
ดึงพลังของ เพื่อนทั้ง 4 สี ที่ตายไป มาเสริมพลังสุดท้าย
ร่างสุดท้ายชื่อ: "Radiant Fusion"
รวมพลังของสีแดง เขียว ฟ้า ส้ม ม่วง
กลายเป็นร่างเทพที่สมดุลทั้งพลัง ความเร็ว มันสมอง และอารมณ์
🎯จุดจบของเอกซ์
พระเอกพูดกับเอกซ์:
“เจ้าคิดว่าการทำลายคือคำตอบเดียว… แต่นี่คือพลังที่เกิดจากการสูญเสีย…และคำว่า ‘เพื่อน’ ที่เจ้าจะไม่มีวันเข้าใจ…”
พระเอกใช้หมัดสุดท้ายทะลวงกลางอกเอกซ์ พร้อมปล่อยพลังของทั้งกลุ่มออกมาร่วมกัน
เอกซ์ถูกทำลายลง พร้อมพูดประโยคสุดท้าย:
“ข้ารู้สึก…อบอุ่นแปลกๆ…”
End Credit Scene (หลังจบเรื่อง)
[โลโก้เรื่องดับลง]
หน้าจอกลายเป็นสีมืด ไม่มีแสงใด ๆ
เสียงลมหายใจแผ่ว ๆ ดังขึ้น
กล้องค่อย ๆ เลื่อนเข้าไปในถ้ำโบราณลึกลับกลางจักรวาล — หินลอยอยู่กลางอากาศ, ดาวที่ตายแล้วหมุนวนรอบถ้ำ
เสียงกระซิบต่ำ:
“พลังแห่งความโกรธ...ยังอ่อนนัก...”
“แต่อย่างน้อย...ก็ทำให้ฉัน...ตื่นขึ้นมาแล้ว...”
กล้องซูมเข้าไปที่แท่นศิลากลางห้อง
มีร่างหนึ่งนั่งพิงอยู่ — ผมยาวสีดำ เสื้อคลุมเก่าขาดรุ่งริ่ง
ตาเขา...ลืมขึ้นช้า ๆ เป็นสีดำสนิททั้งดวง
[ข้อความปรากฏขึ้นที่หน้าจอ]
"Noir Deus — The True Black has awakened."
ตัดจบ.
ปรับพล็อตฉากทรยศ + เอาตัวรอด
📍ฉาก: “คืนแห่งความตาย”
พระเอกกลับมาเจอแคมป์กลุ่มแตกกระจาย
ศพสีม่วงและสีส้มยังนอนอยู่บนพื้น — เสียชีวิตแน่นอน
สีเขียว (Bran) นอนจมเลือดที่มุมหนึ่ง — ตาขวาถูกแทงทะลุ
สีฟ้า (Vail) นอนหมดสติ — แขนซ้ายถูกตัดขาดตั้งแต่หัวไหล่
📍การรอดของทั้งสอง
Bran พยายามบัง Vail ด้วยร่างกาย แม้จะโดนเสียบลูกตา
Vail วิ่งเข้ามาช่วยแต่ช้ากว่าเอกซ์ จึงถูกตัดแขนด้วยไบมีดความร้อนสูง
เอกซ์คิดว่าทั้งคู่ "น่าจะตายจากแผล" เลยไม่สนใจ finishing move
📍หลังจบการต่อสู้พระเอก vs เอกซ์
Elira (นางเอก) เป็นคนเจอร่างทั้งสอง และร้องไห้ดีใจที่ยังหายใจ
Vail กัดฟันพูดว่า:
“ฉันยัง...ยังไม่ตายง่าย ๆ หรอก...ฉันต้องชกมันสักที...ด้วยแขนอีกข้างก็ยังดี...”
Bran:
“สายตาข้างเดียว...ก็พอเห็นไอ้หมอนั่นอยู่ในนรกแล้วล่ะ…”
(Chronicles of Chromaios)
“เมื่อยังไม่มีแสง ไม่มีความมืด จักรวาลว่างเปล่าราวกับดวงตาที่หลับใหล แต่แล้ว—สีแรกก็ถือกำเนิด...”
⛩️ ยุคแรกสุด: กำเนิดแห่งสี (The First Hue)
จักรวาลเริ่มต้นจากความ “ไร้” ไม่มีอะไรเลย
แล้วพลังสองขั้วแรกก็ปรากฏ:
สีขาว (The Lumina) – แสงที่ให้ชีวิต
สีดำ (The Obscura) – ความว่างเปล่าที่กลืนกิน
สีขาว: Altheron – เทพแห่งกำเนิด
สีดำ: Umbryon – เทพแห่งการจบสิ้น
ทั้งสองสู้กันหลายล้านปี จนสุดท้าย “ต่างเหนื่อยล้า”
Altheron จึงหยุดและแต่งงานกับเทพี Seluna
ทั้งสองให้กำเนิดทารกผู้ถือ สีใหม่ เป็นคนแรก
🔥 การกำเนิดของ “สีแดง”
เด็กคนนั้นชื่อว่า Kaelion (เคลเลียน)
ผู้ถือ “สีแดง” หรือชื่อพลังคือ:
🔥 Crimson Vortex – พลังแห่งอารมณ์, ความเดือดพล่าน, การเปลี่ยนแปลง
🩸 พลังนี้ผันผวนได้ทั้งเป็น “ผู้ปกป้อง” หรือ “ผู้ทำลาย”
สีแดงคือ จุดเริ่มต้นของสีทั้งมวล ที่ผันแปรได้ทั้งร้อน/เย็น, สว่าง/มืด
⚔️ ยุคสงคราม: The Hue Cataclysm
เมื่อ Umbryon (สีดำ) เห็นว่าพลังใหม่เกิดขึ้น
เขาเกิดความหวาดกลัว จึงทำ “พันธสัญญา” กับสิ่งที่อยู่ “นอกขอบจักรวาล”
นั่นคือ Noir — ผู้ที่แม้แต่ความมืดก็หวั่นเกรง
เมื่อ Umbryon และ Noir รวมร่างกัน กลายเป็นร่างเดียวที่ไม่มีขีดจำกัด
💀 ชื่อร่างรวม: Noirbrion
💀 พลัง: Null Dominion – ลบพลัง, ลบตัวตน, ลบอดีตของสิ่งมีชีวิต
พวกเขากวาดล้างเหล่าผู้ถือพลังสีไปเกือบหมด
จนเหลือเพียง 6 สี สุดท้ายที่รอดมาได้
🎨 เหล่าผู้รอดแห่งสีทั้งหก (บรรพบุรุษของตัวละครหลัก)
สีชื่อพลัง (คล้ายไททัน)คำอธิบาย
🔴 สีแดง
Crimson Vortex
ความเดือดพล่าน, การทำลายผ่านพลังชีวิต
🟢 สีเขียว
Verdant Titan
พละกำลังระดับจักรวาล, สัมพันธ์กับธรรมชาติ
🔵 สีฟ้า
Tempest Skater
ความเร็วและไฟฟ้าเหนือแสง
🟠 สีส้ม
Solar Spear
ลำแสงพลังทำลายขนาด “สลายภูเขา-ดาว”
🟣 สีม่วง
Mindweaver
มันสมอง, การควบคุม, การวิเคราะห์ระดับจักรวาล
⚫ สีดำ
Null Dominion
การลบทุกสิ่ง, บิดเบือนความจริง, กลืนสี
🛡️ บทสุดท้ายของสงคราม
เมื่อ Umbryon (สีดำ) กับ Noir รวมร่าง Noirbrion กำลังจะล้างจักรวาล
เทพ Altheron (สีขาว) เสียสละตนเอง สร้าง มิติผนึก และขัง Noir ไว้ข้างใน
มิติผนึกนี้อยู่ “ระหว่างความจริงกับความฝัน”
มีเพียง “ลูกหลานของพลังสี” เท่านั้นที่อาจเปิดมันได้อีก
Kaelion (ผู้ถือสีแดงดั้งเดิม) เหลือเพียง “จิตวิญญาณ”
เขาคือจิตสำนึกที่สืบทอดไปถึง Kael ในปัจจุบัน
✨ ตำนานถูกลืม
หลายหมื่นปีผ่านไป โลกสร้างใหม่
ผู้ถือสีในปัจจุบันไม่รู้ว่าตนเป็น “สายเลือดของสงครามจักรวาล”
จนกระทั่ง พลังสีเริ่มตื่นอีกครั้ง…
🕊️ จุดพีคของ Lore
“สีคือพลังของอารมณ์...แต่สีที่ไร้—คือพลังของความว่างเปล่า”
– ข้อความจากศิลาหลุมของ Altheron
คิดเล่นๆนะครับ