รักละมุน ~ หอมกลิ่นแก้ว ตอนที่ 15 - อยากจับมือกันตลอดไป- by ปิ่นนลิน

กระทู้สนทนา
... เมื่อเขา คือ คนที่เธอแอบปลื้ม เหมือนไอดอลคนหนึ่ง
...... เมื่อเธอ คือ คนที่จะมาเช่าบ้านเก่า ซึ่งเขาไม่ยอมรับ และต้องการไล่เธอออกไป
............ เธอ พบ 'เทวดา'  ในบ้านหลังนี้ และ ความฝันที่จะได้ทำงานกับ 'เขา' อาจจะไม่ราบรื่นอย่างใจหวัง
คนเห็นวิญญาณ เทวดา ผีสาง วิญญาณไม่ยอมกลับร่าง และ ผู้ชายกวนๆ



บทนำ + ตอนที่ 1 http://pantip.com/topic/33402809
ตอนที่ 2 http://pantip.com/topic/33409017
ตอนที่ 3 http://pantip.com/topic/33418583
ตอนที่ 4 http://pantip.com/topic/33428314
ตอนที่ 5.1 http://pantip.com/topic/33434178
ตอนที่ 5.2 http://pantip.com/topic/33446172
ตอนที่ 6 http://pantip.com/topic/33464685
ตอนที่ 7.1 http://pantip.com/topic/33468900
ตอนที่ 7.2 http://pantip.com/topic/33472106
ตอนที่ 8 http://pantip.com/topic/33495703
ตอนที่ 9 http://pantip.com/topic/33500584
ตอนที่ 10 http://pantip.com/topic/33503967
ตอนที่ 11 http://pantip.com/topic/33508917
ตอนที่ 12 http://pantip.com/topic/33513898
ตอนที่ 13 http://pantip.com/topic/33527340
ตอนที่ 14 http://pantip.com/topic/33532264



ตอนที่ 15

ปลายท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้นทีละน้อย เพราะดวงอาทิตย์ตื่นขึ้นมาทำงานส่องแสงให้โลกเช่นทุกวัน

หญิงสาวผิวขาวจนเกือบซีดในเสื้อยืด กางเกงขาสั้นเดินเล่นกับเกลียวคลื่นริมชายหาด อยากจะเก็บบรรยากาศริมทะเล รวมถึงอากาศสดชื่นให้เต็มปอดก่อนจะต้องกลับไปสู้กับการทำงานในเมืองกรุงอันแน่นขนัดอีกครั้ง เธอสามารถเดินเล่นอย่างสบายใจโดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนภูติผีพรายจากท้องทะเลเข้ามาทำร้าย เพราะเธอมีบอดี้การ์ดเป็นวิญญาณหนุ่มเดินอยู่เคียงข้างไม่ห่าง

“เมื่อคืน คุณฟ้าสวยมากๆเลยนะครับ" อติภาพชมเธออีกครั้ง ... เป็นครั้งที่สิบได้แล้วนับจากครั้งแรกที่เขาชมเธอเมื่อคืนในงานปาร์ตี้ ใกล้รุ่งยิ้มหวานตอบขอบคุณเขาจากใจ

“ขอบคุณค่ะ"

“แล้วก็ ... ผม...ชอบคุณฟ้านะครับ" อยู่ๆเขาก็สารภาพออกมา ทำเอาใกล้รุ่งถึงกับเดินต่อไม่ถูก หันมองเขาด้วยแววตาตกใจ เห็นว่าอติภาพกำลังยกมือขึ้นลูบหัวใหญ่ ใบหน้าขาวซีดๆนั่นไม่มีสีแดงแต่ท่าทางของเขากำลังบอกว่าเขาอายมากจนแทบไม่กล้าสบตาเธอ

“ผมแค่อยากบอกรักในมุมสวยๆแบบนี้" เขาให้เหตุผลต่อ เมื่อเห็นว่าหญิงสาวมองเหมือนเขาเป็นตัวประหลาด

ใกล้รุ่งรับรู้ได้ว่าเขาพูดจริง ไม่ได้แกล้งหลอกให้เธอเขิน หรือล้อเล่นกับความรู้สึกเธอ เพียงแต่ที่เธอนิ่งไปนั้นเพราะเธอคงไม่อาจรับความรู้สึกของเขาได้

“ขอบคุณนะคะ แต่ฟ้าไม่ดีพอให้คุณมาชอบหรอกค่ะ" คำตอบของเธอ ทำให้คนฟังขมวดคิ้ว ความไม่พอใจกระจายทั่วดวงตาชายหนุ่มที่มักจะสดใสเสมอๆ

“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะครับ" เขาถามเสียงขุ่น ... ไม่ชอบคำพูดแบบนี้เลย ... ไม่ดีพออะไรกัน!

“ฟ้าอยู่กับการเห็นผีมาตลอด แล้วก็ไม่มีครอบครัวเหลือแล้วด้วย แต่คุณ ...” หญิงสาวอดที่จะเปรียบเทียบชีวิตอันโชคร้ายของเธอ กับชายหนุ่มไมไ่ด้จริงๆ ... คิดกี่ครั้งๆก็ไม่กล้าคิดไปไกล เพราะกลัวว่าเธอจะต้องผิดหวัง ทั้งๆที่เธอชอบเขาอยู่เหมือนกัน

ชอบ ... ตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอก็นึกไม่ออก รู้เพียงว่าแรกๆเขาเอาแต่ป่วนให้เธอปวดหัว และไม่ได้อยากคุยด้วยเลย แต่พอยอมเปิดใจ เขาคอยปกป้องเธอจากผีและวิญญาณที่ออฟฟิศมาตลอด เธอก็พบว่าอติภาพไม่ใช่คนไม่ดี แค่เขาคงเหงาเลยแกล้งคนอื่นไปทั่ว

ความเหงาของคนที่ไม่มีเพื่อน และวิญญาณที่ต้องอยู่เพียงลำพัง ทำให้เกิดความเห็นใจกันและกันขึ้นมา

ที่เขาว่า ความรักเกิดจากความใกล้ชิด และความเข้าใจกันและกัน ... ความรักของเธอที่มีให้อติภาพก็คงไม่ต่างไปกัน
เพียงแต่ ความรักนี้จะเป็นไปได้จริงหรือเปล่า เธอไม่กล้าคิดฝันเลยจริงๆ

“อย่าพูดแบบนั้นสิครับ ผมเองก็ไม่ใช่คนเก่งกาจอะไรคุณก็เห็น แค่การลืมตาขึ้นมามีชีวิตผมยังกลัวเลย ... แต่พอผมพบคุณ ผมถึงได้รู้สึกว่าผมอยากจะมีชีวิตอีกครั้ง ชีวิตที่ไร้แสงสว่างของผม พอผมพบคุณก็เหมือนมีความหวังขึ้นมา”

สิ่งที่อติภาพบอกเธอ ทำให้คนฟังอบอุ่น ซาบซึ้งไปทั้งหัวใจ
“ขอบคุณนะคะ แต่คุณควรจะอยากฟื้นขึ้นมาเพื่อคนที่รักคุณ อย่าง พ่อแม่ และพี่สาวคุณนะคะ” เธออยากให้เขาเห็นความสำคัญของครอบครัวมากกว่าคนอื่นคนไกลอย่างเธอ

“ผมรู้น่า ... คุณฟ้านี่ชักจะดุเหมือนพี่สาวผมมากขึ้นทุกทีแล้วนะครับ ... ผมพยายามจะซึ้งนะเนี่ย หมดกัน เฮ้อ!” อติภาพหน้าม่อย คอตก เมื่อถูกหญิงสาวเตือนเขาแบบนั้น

“ฟ้าก็รู้สึกเหมือนมีน้องชายเพิ่มขึ้นมาคนหนึ่งเหมือนกันค่ะ” เธอบอกเขา แล้วก็หัวเราะออกมาเมื่อถูกอติภาพมองค้อนกลับมา

อติภาพเห็นหญิงสาวหัวเราะสดใสก็รู้สึกดีตาม ไม่ค้อนหรืออารมณ์เสียใส่เธออีก เขาก้มมองมือขาวของใกล้รุ่ง พอคิดว่าอยากจับมือเธอ ก็ลองยื่นนิ้วตัวเองที่โปร่งใสออกไป อยากจะเกี่ยวก้อยเธอไว้ แน่นอนว่ามันทำได้เพียงผ่านนิ้วเรียวเล็กนั้นไป คนตัวสูงกว่าจึงปากยื่นอย่างขัดใจ

ใกล้รุ่งเห็นแบบนั้น อดอมยิ้มขำไม่ได้ จึงเป็นฝ่ายยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวเขาไว้ แม้ว่าที่เธอสัมผัสได้คืออากาศเท่านั้น ทำให้อติภาพระบายยิ้มออกมาอย่างดีใจ ทั้งคู่จึงเดินด้วยกัน ชมทะเลยามเช้า เพื่อจดจำและเก็บบรรยากาศดีๆนี้ไว้ตราบนานแสนนาน

ใกล้รุ่งคิดแค่ว่าในวันนี้ที่เธอกับเขาไม่มีสิ่งใดกวนใจ อติภาพในร่างวิญญาณทำให้เธอไม่ต้องกังวล ไม่มีคำว่าฐานะ ความเหมาะสม มาเป็นกฏเกณฑ์ใดๆ
และเธอคงไม่ผิดใช่ไหมถ้าจะเก็บเกี่ยวความทรงจำดีๆนี้ไว้ เพราะวันหนึ่งเขาฟื้นขึ้นมา เธอรู้ว่า ... คงไม่มีโอกาสได้เดินเคียงเขาแบบนี้อีก



พอตื่นมา เก็บกระเป๋าเสร็จ รัตติดาราก็รีบไปถามบริกรประจำส่วนห้องอาหารทันที และก็ได้พบแต่ความผิดหวังเมื่อไม่มีใครเห็นกำไลลักษณะที่เธอบอกเลยแม้แต่สักคน รัตติดาราเศร้าจนแทบอยากจะร้องไห้ ของสำคัญขนาดนี้เธอยังซุ่มซ่ามทำหายได้อีก

“หาไม่เจอเหรอเร" ใกล้รุ่งถามทันทีที่รัตติดาราเดินกลับมานั่งที่โต๊ะอาหารหน้าตาผิดหวัง

“อื้อ ถ้าพี่ภัทรรู้เข้าต้องเสียใจแน่เลย ทำไมเรเป็นคนแบบนี้เนี่ย" พูดไปก็อยากจะตีอกชกตัวจริงๆ

“ผมรู้แล้ว... ว่าอยู่ที่ไหน" อติภาพพูดขึ้น ทุกคนมองตามสายตาวิญญาณหนุ่มไป เห็นว่าอธิติยาเดินเข้ามาพร้อมกับตรัยและศิระ ที่ข้อมือหญิงสาวคนสวยมีกำไลข้อมือแบบเดียวกับที่ศตภัทรให้รัตติดาราสวมไว้อยู่

“ทำไมถึงไปอยู่กับคุณตี้ได้ล่ะ" ใกล้รุ่งนึกสงสัย

“หรือว่าเขาอาจจะมีแบบเดียวกับเรก็ได้" รัตติดาราพยายามคิดไปอีกแบบ ไม่อยากจะคิดว่าอธิติยาจะแย่งชิงของเธอไปแบบนั้น

"ผมว่าไม่ใช่หรอก ของแบบนั้นพี่สาวผมไม่ชอบ แต่ผมไม่คิดว่าพี่สาวผมจะเอาของคนอื่นไปใส่ง่ายๆเหมือนกันนะ" อติภาพรู้สไตล์การแต่งตัว และของใช้ พี่สาวตัวเองดี

จนกระทั่งถึงเวลาก่อนเดินทางกลับ รัตติดาราอดห้ามใจต่อไปไม่ได้ สงสัยจนต้องหาจังหวะเข้าไปถามอธิติยาเป็นการส่วนตัว

“ทำไมต้องคิดว่าฉันเอาของคุณไปด้วยล่ะ" อธิติยาถามกลับน้ำเสียงไม่พอใจ แน่นอนถูกสงสัยว่าเป็นขโมยใครจะไม่โกรธ รัตติดาราเตรียมพร้อมที่จะโดนอีกฝ่ายวีนเหวี่ยงใส่มาแล้ว

“ขอดิฉันดูหน่อยได้ไหมคะ" เธอจำได้ถึงสัญลักษณ์บางอย่าง ถ้าหากว่ามันไม่ใช่ เธอพร้อมจะขอโทษอธิติยา หากคนที่ถูกสงสัยกลับชักมือหนี

“เธอกล้ามากนะ ที่มาหาว่าฉันขโมยของเธอไป" อธิติยาโกรธเธอมากกว่าเดิม

“ไม่ใช่นะคะ" รัตติดาราไม่รู้ควรจะทำอย่างไรดี

“มีอะไรกันหรือ" ศตภัทรเดินมาเห็นการโต้เถียงกันของทั้งคู่พอดี แต่คงไม่ต้องถามเมื่อเห็นอธิติยายกข้อมือหนึ่งค้างไว้ กำไลที่เขาคุ้นตา ซึ่งน่าจะอยู่ที่ข้อมือของคนตัวเล็ก ตอนนี้กลับมาอยู่ในข้อมืออีกคนแทน

“คือว่า กำไล..." รัตติดาราบอกเสียงอ่อยๆ ... เขาจะดุเธอไหมนะ

“คุณเร ออกไปก่อนครับ" เขาบอกเธอ รัตติดาราจึงต้องยอมเดินออกมา เหลือเพียงเขากับอธิติยาเท่านั้น

“นี่ไม่ใช่ว่าพี่ภัทรจะสงสัยตี้อีกคนใช่ไหมคะ" อธิติยาจ้องตาคนตัวสูง เธอกำลังไม่พอใจ

“กำไลนั่น ผมเป็นคนซื้อให้คุณเรเอง" ศตภัทรบอกความจริง เขามองกำไลหินมงคลสีใสที่ข้อมือขาว สลับกับมองหน้าอธิติยา เขาไม่อยากจะคิดว่าเธอเป็นคนเอาไป
อธิติยาเพิ่งรู้ข้อมูลนี้ เธอถึงกับนิ่งไปทันที

“คงไม่ดีถ้าหากคุณจะถูกเขาสงสัย เราต้องพิสูจน์เพื่อความสบายใจ" เขาพยายามพูดให้นุ่มนวลที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่เขาไม่ใช่กณิกคนช่างพูด ใบหน้าขาวตรงหน้าจึงมีท่าทางไม่พอใจเขา

“ถ้าพี่ภัทรทำแบบนั้น ตี้จะถือว่าพี่ไม่ให้เกียรติตี้ พี่ภัทรอาจจะลำบากนะคะ" เธอหมายถึงเรื่องการทำงาน คนฟังถอนหายใจเบาๆ

“ทุกวันนี้ก็ลำบากมากอยู่แล้วล่ะครับ มากขึ้นอีกนิดคงไม่เป็นไร ... กำไลนั่น มีตัวเลขติดอยู่ที่โลหะเล็กๆที่เชื่อมสร้อยอยู่ ผมจำได้ว่ามันคือเลขอะไร บี0505 ใช่ไหมครับ"

อธิติยาก้มลงมอง เห็นรหัสตัวอักษรและตัวเลขอย่างที่เขาพูดจริงๆ แต่เธอก็ยังไม่ยอมรับว่าเธอเก็บมันมาเมื่อวานขณะเดินเล่นอยู่ริมทะเล และจำได้ว่าเห็นอยู่กับข้อมือรัตติดารา นึกอยากแกล้งที่ผู้หญิงตัวเล็กนั่นสามารถเอาหัวใจของศตภัทรไปได้ จึงไม่อยากคืนให้ ตั้งใจใส่มากลั่นแกล้งเจ้าตัวถึงที่

“ค่ะ แต่มันก็แค่รหัสสินค้า อาจจะมีซ้ำกันก็ได้" เธอทำเหมือนกับเป็นเรื่องปกติ

“ไม่ใช่ครับ มันไม่ใช่รหัสสินค้า แต่เป็นเวลาเกิดผมต่างหาก" เขาเปิดเผยให้เธอฟัง หลังจากที่เขาซื้อมาจากศรุตา ก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปให้ใครดี พอนึกถึงใบหน้าเล็กๆของคนเช่าบ้าน เขาก็เลยซื้อจากน้องสาวมาสองเส้น และนำไปสลักชื่อ Bพร้อมเวลาเกิดเขาไปอันหนึ่ง ส่วนอีกอันก็สลักว่า A พร้อมเวลาเกิดคือ 0502 ... เขาอยากให้มันอยู่คู่กัน เพียงแค่ให้รัตติดาราเก็บส่วนของเขาไว้กับตัว ส่วนเขาก็นำกำไลอีกอันใส่กล่องสมบัติเก็บไว้ที่บ้าน

“ถ้าคุณอยากเก็บไว้ก็ได้ครับ ไม่เป็นไร" ศตภัทรตัดสินใจเลือกที่จะไม่เอาคืน แม้ว่านั่นอาจจะทำให้รัตติดาราเสียใจ แต่เขาคิดว่าคนตัวเล็กน่าจะเข้าใจเขา ทว่าอธิติยากลับยื่นมันคืนให้ หน้าตาไม่ได้ยอมรับผิดเท่าไหร่ แถมยังไม่พอใจมากอีกต่างหาก

“ถ้าพี่ภัทรเลือกแบบนี้ อย่าหาว่าตี้ไม่เตือนนะคะ!" พร้อมกลับยัดมันคืนใส่มือชายหนุ่ม ก่อนจะสบัดตัวเดินห่างเขาไป
ศตภัทรถอนหายใจ เขาเพิ่มศัตรูที่ไม่ควรที่สุดในที่ทำงานเสียแล้ว



รัตติดาราได้รับกำไลคืนจากชายหนุ่ม เธอมองหน้าเขาเห็นแววตาลำบากใจ ก็รู้สึกผิดที่ทำให้คนตัวสูงต้องเกิดผิดใจกับอธิติยา

“ท่าทางเธอจะโกรธพี่ภัทรนะคะ ... หนูเรขอโทษนะคะ" เธอบอกเขาเสียงเบา ถือกำไลข้อมือแนบอกอย่างหวงแหน

“ไม่เป็นไรหรอก เก็บไว้ดีๆล่ะ อย่าทำหายอีกนะ" เขายิ้มให้ ลูบศีรษะคนตัวเล็กเบาๆอย่างรักใคร่ ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปในห้องอาหาร รัตติดาราหันมองตาม เห็นชายหนุ่มเข้าไปทักทายทั้งตรัย และพ่อของเขา สายตาที่อธิติยามองชายหนุ่มนั้นบอกได้ชัดว่าเธอไม่พอใจ รวมไปถึงปราดสายตาอำมหิตมาทางเธอด้วย

รัตติดาราปวดไปทั้งใจ ... เธอคงทำให้เขาทำงานลำบากมากขึ้นกว่าเดิม



+มีต่อ+
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่