... เมื่อเขา คือ คนที่เธอแอบปลื้ม เหมือนไอดอลคนหนึ่ง
...... เมื่อเธอ คือ คนที่จะมาเช่าบ้านเก่า ซึ่งเขาไม่ยอมรับ และต้องการไล่เธอออกไป
............ เธอ พบ 'เทวดา' ในบ้านหลังนี้ และ ความฝันที่จะได้ทำงานกับ 'เขา' อาจจะไม่ราบรื่นอย่างใจหวัง
คนเห็นวิญญาณ เทวดา ผีสาง วิญญาณไม่ยอมกลับร่าง และ ผู้ชายกวนๆ
บทนำ + ตอนที่ 1
http://pantip.com/topic/33402809
ตอนที่ 2
http://pantip.com/topic/33409017
ตอนที่ 3
http://pantip.com/topic/33418583
ตอนที่ 4
http://pantip.com/topic/33428314
ตอนที่ 5.1
http://pantip.com/topic/33434178
ตอนที่ 5.2
http://pantip.com/topic/33446172
ตอนที่ 6
http://pantip.com/topic/33464685
ตอนที่ 7.1
http://pantip.com/topic/33468900
ตอนที่ 7.2
http://pantip.com/topic/33472106
ตอนที่ 8
http://pantip.com/topic/33495703
ตอนที่ 9
http://pantip.com/topic/33500584
ตอนที่ 10
http://pantip.com/topic/33503967
ตอนที่ 11
http://pantip.com/topic/33508917
ตอนที่ 12
http://pantip.com/topic/33513898
ตอนที่ 13
http://pantip.com/topic/33527340
ตอนที่ 14
แสงแดดอ่อนๆยามเช้า สาดส่องผ่านผ้าม่านบางสีขาวเข้าสู่ห้องนอนที่มีเตียงคู่วางอยู่ถัดไปจากประตูระเบียงห้องพักภายในโรงแรม ร่างสูงบนเตียงฝั่งขวายังคงอยู่ในนิทราและห้วงฝัน
... ฝันถึงอดีตที่เขาควรจะลืมมันไปนานแล้ว
ใครบางคนเจ้าของรอยยิ้มสวยจับตาในชุดกระโปรงแขนยาว พร้อมมือขาวยื่นมาดึงให้เขาวิ่งตามเธอไปจนถึงกลางสนามหญ้า ก่อนจะนั่งลงชมวิวทิวทัศน์งดงาม ท่ามกลางต้นไม้ที่ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีส้ม แดง เหลืองตามฤดูกาล อีกไม่นานก็จะร่วงโรยจนต้นไม้เหลือเพียงกิ่งก้าน และถัดจากนั้นใบไม้ก็จะผลิบานเต็มต้นอีกครั้ง
'บีคะ บีรักอลิซไหมคะ' เสียงหวานถามขึ้น ศตภัทรดึงคนถามเข้ามาโอบไว้แนบกาย คำถามนี้เขาไม่ต้องคิดนาน
“อื้ม รักสิ ถามทำไมล่ะ"
“งั้นเราแต่งงานกันนะคะ" ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองเขา ดวงตาสวยๆที่เขาชอบมองเสมอๆกำลังรอฟังคำตอบเขา ถ้าถามว่าเขารักเธอไหม เขาแทบไม่ต้องคิดที่จะตอบ แต่คำถามนี้ เขาไม่อาจจะตอบเธอได้ทันที
“ทำไมอยู่ๆถึงได้อยากแต่งงานล่ะ" เขาถามกลับ
“อลิซรักบีมากไงคะ อลิซอยากอยู่กับบีตลอดไป นะคะ นะ" อลิซแนบศีรษะลงกับแผ่นอกกว้าง บอกถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการ ศตภัทรระบายลมหายใจออกมาอย่างอึดอัด ไม่ใช่ว่าเขาไม่รักเธอ แต่เวลานี้เขาคงไม่อาจจะทำตามใจหญิงสาวได้
“บีรู้ แต่บียังตอบอลิซตอนนี้ไม่ได้หรอก บียังหัวปั่นกับโปรเจ็คจบอยู่เลย" เขาตอบพร้อมให้เหตุผล พร้อมใช้มือเชยคางใบหน้าเล็กๆขึ้นมองเขา
“ถ้าบีเรียนจบแล้ว เราค่อยแต่งงานกันนะ"
ได้ฟังสิ่งที่ถูกใจ คนฟังจึงยิ้มกว้างอย่างดีใจ กอดเขาแน่น
“อลิซรักบีนะคะ" พร่ำบอกรักเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ว่า ... หลังจากนั้นเพียงปีเดียว เขากลับพบว่าตัวเองถูกหลอกลวง คำว่า 'รัก' นั่น มันมีค่าน้อยกว่าเงินในสายตาหญิงสาวคนนั้น
ภาพรอยยิ้มสดใสค่อยๆจางหายไป เหมือนภาพยนต์ที่ถูกฉีกขาด แสงสีขาวทะลุทะลวงความฝันของเขาจนเขาเริ่มรู้สึกตัว
ศตภัทรลืมตาขึ้นมองความจริงตรงหน้า กระพริบตาปริบๆ ปรับความเข้าใจอยู่ครู่หนึ่งจนแน่ใจว่าเขาเพียงแค่ฝัน ... เวลาผ่านมาสี่ปีกว่าแล้ว แต่เขากลับฝันถึงมันจนได้
“ทำไมถึง ...” ศตภัทรขมวดคิ้วกับสิ่งที่เขาเพิ่งฝันถึง เสียงประตูห้องน้ำดังขึ้นเรียกให้คนเพิ่งตื่นหันไปมองตามเสียง เห็นกณิกเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากอาบน้ำเปลี่ยนชุดเสร็จ
“เป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น" กณิกถามขึ้นอย่างสงสัย หน้าตาศตภัทรเหมือนคนโดนผีหลอก
“ฉัน ... ฝันเห็นอลิซ" ศตภัทรเล่าออกมาอย่างไม่ปิดบัง กับคนที่รู้แทบทุกเรื่องของเขา ขณะดันตัวขึ้นนั่ง แปลกใจไม่รู้หาย
“เฮ้ย นี่แกคงไม่ได้คิดถึงอลิซหรอกใช่ไหม" กณิกกังวลทั้งสายตา แต่คนถูกถามก็ส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่ได้คิดถึง และไม่ได้ฝันถึงมานานมากแล้ว มันแปลกๆนะที่อยู่ๆฝันถึง" ศตภัทรยังคงสงสัย
กณิกถอนหายใจเบาๆ แม้เขาจะเอะใจ สงสัยว่ามันจะเกี่ยวกับข่าวที่เขารู้มาหรือไม่ เขาก็ไม่กล้าเล่าให้เพื่อนฟัง เพราะเวลานี้ศตภัทรกำลังมีความสุขกับชีวิตใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้น และเขาก็ไม่อยากเอาเรื่องไปกวนใจเพื่อนด้วย
“แกอาจจะมีความสุขกับคุณเรมากไง อลิซคงอิจฉาเลยมาเข้าฝันแก" กณิกพูดยิ้มๆ ปนหัวเราะ หวังจะให้คนฟังผ่อนคลายมากขึ้น
“บ้า เขายังไม่ตาย จะมาเข้าฝันกันได้ไง" ศตภัทรพูดพร้อมกับลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว แล้วเดินหายไปในห้องน้ำ กณิกมองตามจนเพื่อนปิดประตู และได้ยินเสียงเปิดก๊อกน้ำ อดไม่ได้พูดออกมากับตัวเองเบาๆ
“เพราะยังไม่ตายไง ถึงได้ห่วงอยู่แบบนี้ ... เฮ้อ ทำไมจะต้องมาด้วยวะ ยัยบ้านั่น!” ยิ่งคิดยิ่งกังวล จนกณิกต้องระบายความกลัดกลุ้มที่ไม่อาจจะพูดให้ใครฟังได้เวลานี้ไปกับการขยี้ผมตัวเองแรงๆด้วยผ้าเช็ดตัว เอกรินทร์ก็ดันไปต่างประเทศ แถมไปในประเทศที่การสื่อสารไม่ดีอีก เหลือแค่คนเดียวที่เขาจะคุยเรื่องนี้ด้วยได้
กณิกหยิบมือถือขึ้นมาส่งข้อความออนไลน์หาที่ปรึกษาเพียงหนึ่งเดียว คิดว่าคนอีกฝั่งน่าจะตื่นนอนแล้ว
'ตื่นแล้ว โทรฯกลับหาพี่ด้วยนะ พี่นิก'
ท่ามกลางแสงแดดจ้ายามบ่าย ร่างเล็กของรัตติดาราในเสื้อยืดสีขาวซึ่งสวมทับเสื้อกล้ามสีชมพูสดใส กางเกงสีฟ้าสดใสขาสั้นจนเห็นเรียวขาขาวๆ ยืนอยู่ในทะเลที่ตื้นเพียข้อเท้าเธอ มีผ้าพันคอสีฟ้าผูกที่ข้อมือเพื่อเป็นการแยกทีมในการแข่งชันที่ทางบริษัทฯจัดขึ้น โดยมีรางวัลมากมายล่อใจ คนตัวเล็กยืนทำหน้ายาก ประจันหน้ากับคนตัวสูงซึ่งอยู่ในเสื้อสีขาวเช่นกัน ต่างกันตรงเขาเลือกผูกผ้าสีฟ้าไว้ที่ต้นแขนแทน
ศตภัทรกำลังกอดอก มองเธอด้วยแววตาขุ่น ไม่พอใจ และท่าทางจะโกรธมากด้วย
“ใครทำทีมแพ้ ต้องโดนทำโทษ จำได้ไหม" เขาถาม รัตติดาราช้อนตามองคนถามแล้วกลัวไปทั้งใจ
“ขอโทษค่ะ เรขาสั้นเอง เลยวิ่งช้า ปล่อยเรไปเถอะค่า" เธอยอมรับผิดเสียงอ่อย
เมื่อครู่มีแข่งวิ่งเปรี้ยว ถ้าทีมไหนเข้าแข่งแล้วชนะก็จะได้รางวัลไป ทั้งๆที่ทุกคนทำความเร็วได้ดี มาพลาดก็ตรงคนตัวเล็กที่สุดในทีม แม้สุดท้ายศตภัทรจะพยายามวิ่งให้เร็วที่สุด แต่ก็ยังช้ากว่าที่หนึ่งอยู่ดี เธอเลยต้องมาโดนลงโทษอยู่อย่างนี้
บ้าชะมัด ขนาดใกล้รุ่งที่ผอมๆ ยังวิ่งเร็วกว่าเธอเลย!
“พี่ภัทรคร้าบ พอเถอะครับ ไหนๆก็แพ้แล้ว น้องเรก็ไม่ได้ตั้งใจด้วย นะครับ" ศิวกรเดินมาขอร้องแทนรุ่นน้องสาวในทีม ซึ่งกำลังยืนตัวสั่นอยู่ในทะเล
“ได้ไงๆ กร นี่มันศักดิ์ศรีของทีมเราเลยนะ ปีก่อนๆขนาดพี่ภัทรของนายไม่มา เรายังชนะเลยจำไม่ได้เหรอ แล้วนี่คนเก่งกีฬาเทพๆมาแบบนี้ ยังแพ้ ขายหน้าเขาจะแย่" กณิกส่ายหัวไปมา เขาไม่ได้จริงจังหรอก แค่อยากเห็นอะไรสนุกๆแค่นั้น อยากจะรู้ว่าเพื่อนเขาจะลงโทษคนทำทีมแพ้ได้จริงอย่างที่ขู่ไว้ตอนแรกได้หรือเปล่า
เมื่อคนคนนั้น ... คือคนที่เพื่อนเขารักหมดหัวใจอย่างนี้
“ใช่แล้วกร มันเป็นศักดิ์ศรี คนอย่างฉันไม่เคยแพ้กีฬามาก่อนนะ" ศตภัทรหงุดหงิดจริงๆ ตอนที่เห็นเจ้าหล่อนวิ่งด้วยขาสั้นๆนั่น จนคนอื่นแซงกันไปหมดก็ยังเร่งความเร็วไม่ขึ้น และนั่นทำให้เขาต้องแพ้ทีมอื่นไปอย่างเฉียดฉิว
“ก็ฉันไม่เก่งกีฬานี่นา" เธออดจะบ่นออกมาไม่ได้ แต่ไหนแต่ไรเธอก็เกลียดวิชาพละที่สุดอยู่แล้ว ใครจะไม่คิดว่าจะต้องมาแข่งวิ่งเพื่อชิงรางวัลเป็นเงินจำนวนหนึ่ง แล้วเธอก็วิ่งช้าจริงๆนั่นแหละ
“ยังไงก็ต้องโดนลงโทษอยู่ดี" เขาย่างสามขุมมาทางเธอ หญิงสาวขยับเท้าถอยหนีแต่ไม่ทันเมื่อเขาช้อนเธอขึ้นมา รอยยิ้มขี้แกล้งปรากฏบนใบหน้าเขาอีกครั้ง แม้รัตติดาราจะส่ายหน้า ส่งแววตาขอร้องไม่ให้เขาทำโทษเธอ แต่เขากลับยิ้มหวานน่ากลัวกลับมาให้ ก่อนจะโยนเธอลงทะเลดังตู้มท่ามกลางเสียงร้องห้าม ปนเสียงหัวเราะของพี่ๆในทีมคนอื่น
“โอ๊ยยย เค็มปี๋เลย" คนตัวเล็กที่ลงไปชิมทะเลทั้งตัวโวยวายลั่น ยกสองมือขึ้นลูบหน้า ลูบตา มองเห็นเขาหัวเราะใส่ก็รู้สึกอยากเอาคืน ขณะที่เขายื่นมือมาให้ ยังมีน้ำใจหวังจะช่วยฉุดให้เธอลุกขึ้นยืน รัตติดาราผุดยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้า วางมือลงบนมือหนา จังหวะที่เธอลุกแต่กลับออกแรงดึงให้ศตภัทรล้มลงไปในน้ำทะเลบ้าง คนอื่นถึงกับตาโตที่ลูกแมวตัวเล็กๆกล้าเอาคืนเสือตัวใหญ่อย่างหัวหน้าทีมเขา
“แบร้!” เธอแลบลิ้นใส่เขา ก่อนจะรีบวิ่งจากมา แต่ศตภัทรก็ไวกว่า ดึงให้เธอร่วงลงน้ำอีกรอบ รัตติดาราร้องโวยวายให้คนอื่นช่วยเธอ กณิกส่ายหน้า หันไปเรียกน้องในทีมให้ไปรีบช่วยดึงหญิงสาวออกมาจากเพื่อนเขา และกลายเป็นว่าพวกเขาเองก็โดนดึงให้หล่นลงน้ำด้วย เสียงหัวเราะปนโวยวายดังลั่นเรียกให้คนรอบๆหันมองกันเป็นสายตาเดียว
++ มีต่อ
รักละมุน ~ หอมกลิ่นแก้ว ตอนที่ 14 - อดีตหลอกหลอน -3- by ปิ่นนลิน
...... เมื่อเธอ คือ คนที่จะมาเช่าบ้านเก่า ซึ่งเขาไม่ยอมรับ และต้องการไล่เธอออกไป
............ เธอ พบ 'เทวดา' ในบ้านหลังนี้ และ ความฝันที่จะได้ทำงานกับ 'เขา' อาจจะไม่ราบรื่นอย่างใจหวัง
คนเห็นวิญญาณ เทวดา ผีสาง วิญญาณไม่ยอมกลับร่าง และ ผู้ชายกวนๆ
บทนำ + ตอนที่ 1 http://pantip.com/topic/33402809
ตอนที่ 2 http://pantip.com/topic/33409017
ตอนที่ 3 http://pantip.com/topic/33418583
ตอนที่ 4 http://pantip.com/topic/33428314
ตอนที่ 5.1 http://pantip.com/topic/33434178
ตอนที่ 5.2 http://pantip.com/topic/33446172
ตอนที่ 6 http://pantip.com/topic/33464685
ตอนที่ 7.1 http://pantip.com/topic/33468900
ตอนที่ 7.2 http://pantip.com/topic/33472106
ตอนที่ 8 http://pantip.com/topic/33495703
ตอนที่ 9 http://pantip.com/topic/33500584
ตอนที่ 10 http://pantip.com/topic/33503967
ตอนที่ 11 http://pantip.com/topic/33508917
ตอนที่ 12 http://pantip.com/topic/33513898
ตอนที่ 13 http://pantip.com/topic/33527340
ตอนที่ 14
แสงแดดอ่อนๆยามเช้า สาดส่องผ่านผ้าม่านบางสีขาวเข้าสู่ห้องนอนที่มีเตียงคู่วางอยู่ถัดไปจากประตูระเบียงห้องพักภายในโรงแรม ร่างสูงบนเตียงฝั่งขวายังคงอยู่ในนิทราและห้วงฝัน
... ฝันถึงอดีตที่เขาควรจะลืมมันไปนานแล้ว
ใครบางคนเจ้าของรอยยิ้มสวยจับตาในชุดกระโปรงแขนยาว พร้อมมือขาวยื่นมาดึงให้เขาวิ่งตามเธอไปจนถึงกลางสนามหญ้า ก่อนจะนั่งลงชมวิวทิวทัศน์งดงาม ท่ามกลางต้นไม้ที่ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีส้ม แดง เหลืองตามฤดูกาล อีกไม่นานก็จะร่วงโรยจนต้นไม้เหลือเพียงกิ่งก้าน และถัดจากนั้นใบไม้ก็จะผลิบานเต็มต้นอีกครั้ง
'บีคะ บีรักอลิซไหมคะ' เสียงหวานถามขึ้น ศตภัทรดึงคนถามเข้ามาโอบไว้แนบกาย คำถามนี้เขาไม่ต้องคิดนาน
“อื้ม รักสิ ถามทำไมล่ะ"
“งั้นเราแต่งงานกันนะคะ" ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองเขา ดวงตาสวยๆที่เขาชอบมองเสมอๆกำลังรอฟังคำตอบเขา ถ้าถามว่าเขารักเธอไหม เขาแทบไม่ต้องคิดที่จะตอบ แต่คำถามนี้ เขาไม่อาจจะตอบเธอได้ทันที
“ทำไมอยู่ๆถึงได้อยากแต่งงานล่ะ" เขาถามกลับ
“อลิซรักบีมากไงคะ อลิซอยากอยู่กับบีตลอดไป นะคะ นะ" อลิซแนบศีรษะลงกับแผ่นอกกว้าง บอกถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการ ศตภัทรระบายลมหายใจออกมาอย่างอึดอัด ไม่ใช่ว่าเขาไม่รักเธอ แต่เวลานี้เขาคงไม่อาจจะทำตามใจหญิงสาวได้
“บีรู้ แต่บียังตอบอลิซตอนนี้ไม่ได้หรอก บียังหัวปั่นกับโปรเจ็คจบอยู่เลย" เขาตอบพร้อมให้เหตุผล พร้อมใช้มือเชยคางใบหน้าเล็กๆขึ้นมองเขา
“ถ้าบีเรียนจบแล้ว เราค่อยแต่งงานกันนะ"
ได้ฟังสิ่งที่ถูกใจ คนฟังจึงยิ้มกว้างอย่างดีใจ กอดเขาแน่น
“อลิซรักบีนะคะ" พร่ำบอกรักเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ว่า ... หลังจากนั้นเพียงปีเดียว เขากลับพบว่าตัวเองถูกหลอกลวง คำว่า 'รัก' นั่น มันมีค่าน้อยกว่าเงินในสายตาหญิงสาวคนนั้น
ภาพรอยยิ้มสดใสค่อยๆจางหายไป เหมือนภาพยนต์ที่ถูกฉีกขาด แสงสีขาวทะลุทะลวงความฝันของเขาจนเขาเริ่มรู้สึกตัว
ศตภัทรลืมตาขึ้นมองความจริงตรงหน้า กระพริบตาปริบๆ ปรับความเข้าใจอยู่ครู่หนึ่งจนแน่ใจว่าเขาเพียงแค่ฝัน ... เวลาผ่านมาสี่ปีกว่าแล้ว แต่เขากลับฝันถึงมันจนได้
“ทำไมถึง ...” ศตภัทรขมวดคิ้วกับสิ่งที่เขาเพิ่งฝันถึง เสียงประตูห้องน้ำดังขึ้นเรียกให้คนเพิ่งตื่นหันไปมองตามเสียง เห็นกณิกเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากอาบน้ำเปลี่ยนชุดเสร็จ
“เป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น" กณิกถามขึ้นอย่างสงสัย หน้าตาศตภัทรเหมือนคนโดนผีหลอก
“ฉัน ... ฝันเห็นอลิซ" ศตภัทรเล่าออกมาอย่างไม่ปิดบัง กับคนที่รู้แทบทุกเรื่องของเขา ขณะดันตัวขึ้นนั่ง แปลกใจไม่รู้หาย
“เฮ้ย นี่แกคงไม่ได้คิดถึงอลิซหรอกใช่ไหม" กณิกกังวลทั้งสายตา แต่คนถูกถามก็ส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่ได้คิดถึง และไม่ได้ฝันถึงมานานมากแล้ว มันแปลกๆนะที่อยู่ๆฝันถึง" ศตภัทรยังคงสงสัย
กณิกถอนหายใจเบาๆ แม้เขาจะเอะใจ สงสัยว่ามันจะเกี่ยวกับข่าวที่เขารู้มาหรือไม่ เขาก็ไม่กล้าเล่าให้เพื่อนฟัง เพราะเวลานี้ศตภัทรกำลังมีความสุขกับชีวิตใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้น และเขาก็ไม่อยากเอาเรื่องไปกวนใจเพื่อนด้วย
“แกอาจจะมีความสุขกับคุณเรมากไง อลิซคงอิจฉาเลยมาเข้าฝันแก" กณิกพูดยิ้มๆ ปนหัวเราะ หวังจะให้คนฟังผ่อนคลายมากขึ้น
“บ้า เขายังไม่ตาย จะมาเข้าฝันกันได้ไง" ศตภัทรพูดพร้อมกับลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว แล้วเดินหายไปในห้องน้ำ กณิกมองตามจนเพื่อนปิดประตู และได้ยินเสียงเปิดก๊อกน้ำ อดไม่ได้พูดออกมากับตัวเองเบาๆ
“เพราะยังไม่ตายไง ถึงได้ห่วงอยู่แบบนี้ ... เฮ้อ ทำไมจะต้องมาด้วยวะ ยัยบ้านั่น!” ยิ่งคิดยิ่งกังวล จนกณิกต้องระบายความกลัดกลุ้มที่ไม่อาจจะพูดให้ใครฟังได้เวลานี้ไปกับการขยี้ผมตัวเองแรงๆด้วยผ้าเช็ดตัว เอกรินทร์ก็ดันไปต่างประเทศ แถมไปในประเทศที่การสื่อสารไม่ดีอีก เหลือแค่คนเดียวที่เขาจะคุยเรื่องนี้ด้วยได้
กณิกหยิบมือถือขึ้นมาส่งข้อความออนไลน์หาที่ปรึกษาเพียงหนึ่งเดียว คิดว่าคนอีกฝั่งน่าจะตื่นนอนแล้ว
'ตื่นแล้ว โทรฯกลับหาพี่ด้วยนะ พี่นิก'
ท่ามกลางแสงแดดจ้ายามบ่าย ร่างเล็กของรัตติดาราในเสื้อยืดสีขาวซึ่งสวมทับเสื้อกล้ามสีชมพูสดใส กางเกงสีฟ้าสดใสขาสั้นจนเห็นเรียวขาขาวๆ ยืนอยู่ในทะเลที่ตื้นเพียข้อเท้าเธอ มีผ้าพันคอสีฟ้าผูกที่ข้อมือเพื่อเป็นการแยกทีมในการแข่งชันที่ทางบริษัทฯจัดขึ้น โดยมีรางวัลมากมายล่อใจ คนตัวเล็กยืนทำหน้ายาก ประจันหน้ากับคนตัวสูงซึ่งอยู่ในเสื้อสีขาวเช่นกัน ต่างกันตรงเขาเลือกผูกผ้าสีฟ้าไว้ที่ต้นแขนแทน
ศตภัทรกำลังกอดอก มองเธอด้วยแววตาขุ่น ไม่พอใจ และท่าทางจะโกรธมากด้วย
“ใครทำทีมแพ้ ต้องโดนทำโทษ จำได้ไหม" เขาถาม รัตติดาราช้อนตามองคนถามแล้วกลัวไปทั้งใจ
“ขอโทษค่ะ เรขาสั้นเอง เลยวิ่งช้า ปล่อยเรไปเถอะค่า" เธอยอมรับผิดเสียงอ่อย
เมื่อครู่มีแข่งวิ่งเปรี้ยว ถ้าทีมไหนเข้าแข่งแล้วชนะก็จะได้รางวัลไป ทั้งๆที่ทุกคนทำความเร็วได้ดี มาพลาดก็ตรงคนตัวเล็กที่สุดในทีม แม้สุดท้ายศตภัทรจะพยายามวิ่งให้เร็วที่สุด แต่ก็ยังช้ากว่าที่หนึ่งอยู่ดี เธอเลยต้องมาโดนลงโทษอยู่อย่างนี้
บ้าชะมัด ขนาดใกล้รุ่งที่ผอมๆ ยังวิ่งเร็วกว่าเธอเลย!
“พี่ภัทรคร้าบ พอเถอะครับ ไหนๆก็แพ้แล้ว น้องเรก็ไม่ได้ตั้งใจด้วย นะครับ" ศิวกรเดินมาขอร้องแทนรุ่นน้องสาวในทีม ซึ่งกำลังยืนตัวสั่นอยู่ในทะเล
“ได้ไงๆ กร นี่มันศักดิ์ศรีของทีมเราเลยนะ ปีก่อนๆขนาดพี่ภัทรของนายไม่มา เรายังชนะเลยจำไม่ได้เหรอ แล้วนี่คนเก่งกีฬาเทพๆมาแบบนี้ ยังแพ้ ขายหน้าเขาจะแย่" กณิกส่ายหัวไปมา เขาไม่ได้จริงจังหรอก แค่อยากเห็นอะไรสนุกๆแค่นั้น อยากจะรู้ว่าเพื่อนเขาจะลงโทษคนทำทีมแพ้ได้จริงอย่างที่ขู่ไว้ตอนแรกได้หรือเปล่า
เมื่อคนคนนั้น ... คือคนที่เพื่อนเขารักหมดหัวใจอย่างนี้
“ใช่แล้วกร มันเป็นศักดิ์ศรี คนอย่างฉันไม่เคยแพ้กีฬามาก่อนนะ" ศตภัทรหงุดหงิดจริงๆ ตอนที่เห็นเจ้าหล่อนวิ่งด้วยขาสั้นๆนั่น จนคนอื่นแซงกันไปหมดก็ยังเร่งความเร็วไม่ขึ้น และนั่นทำให้เขาต้องแพ้ทีมอื่นไปอย่างเฉียดฉิว
“ก็ฉันไม่เก่งกีฬานี่นา" เธออดจะบ่นออกมาไม่ได้ แต่ไหนแต่ไรเธอก็เกลียดวิชาพละที่สุดอยู่แล้ว ใครจะไม่คิดว่าจะต้องมาแข่งวิ่งเพื่อชิงรางวัลเป็นเงินจำนวนหนึ่ง แล้วเธอก็วิ่งช้าจริงๆนั่นแหละ
“ยังไงก็ต้องโดนลงโทษอยู่ดี" เขาย่างสามขุมมาทางเธอ หญิงสาวขยับเท้าถอยหนีแต่ไม่ทันเมื่อเขาช้อนเธอขึ้นมา รอยยิ้มขี้แกล้งปรากฏบนใบหน้าเขาอีกครั้ง แม้รัตติดาราจะส่ายหน้า ส่งแววตาขอร้องไม่ให้เขาทำโทษเธอ แต่เขากลับยิ้มหวานน่ากลัวกลับมาให้ ก่อนจะโยนเธอลงทะเลดังตู้มท่ามกลางเสียงร้องห้าม ปนเสียงหัวเราะของพี่ๆในทีมคนอื่น
“โอ๊ยยย เค็มปี๋เลย" คนตัวเล็กที่ลงไปชิมทะเลทั้งตัวโวยวายลั่น ยกสองมือขึ้นลูบหน้า ลูบตา มองเห็นเขาหัวเราะใส่ก็รู้สึกอยากเอาคืน ขณะที่เขายื่นมือมาให้ ยังมีน้ำใจหวังจะช่วยฉุดให้เธอลุกขึ้นยืน รัตติดาราผุดยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้า วางมือลงบนมือหนา จังหวะที่เธอลุกแต่กลับออกแรงดึงให้ศตภัทรล้มลงไปในน้ำทะเลบ้าง คนอื่นถึงกับตาโตที่ลูกแมวตัวเล็กๆกล้าเอาคืนเสือตัวใหญ่อย่างหัวหน้าทีมเขา
“แบร้!” เธอแลบลิ้นใส่เขา ก่อนจะรีบวิ่งจากมา แต่ศตภัทรก็ไวกว่า ดึงให้เธอร่วงลงน้ำอีกรอบ รัตติดาราร้องโวยวายให้คนอื่นช่วยเธอ กณิกส่ายหน้า หันไปเรียกน้องในทีมให้ไปรีบช่วยดึงหญิงสาวออกมาจากเพื่อนเขา และกลายเป็นว่าพวกเขาเองก็โดนดึงให้หล่นลงน้ำด้วย เสียงหัวเราะปนโวยวายดังลั่นเรียกให้คนรอบๆหันมองกันเป็นสายตาเดียว
++ มีต่อ