เห็นข่าวนานา แล้วคิดถึงเคสของน้องชาย น้องสะใภ้แทบจะเหมือนกันเลย

พฤติกรรมแทบจะคล้ายๆ กัน ก่อนน้องชายและน้องสะใภ้จะเจอและแต่งงานกัน น้องชายเป็น จนท. ลิสซิ่ง น้องสะใภ้เป็นเซลส์ คบกันได้ประมาณ 3 - 4 เดือนก็แต่งงานกันและคลอดลูกชาย 1 คน ต่อมาน้องสะใภ้เปิดบริษัทโดยทุนที่เปิดยืมเพื่อน ยืมญาติฝั่งแม่ หนักสุดน้องสาวแม่โดนไป 6 ล้าน อากู๋ผม 2 คนๆ โดนไปคนละ 1 ล้าน ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เงินที่ยืมมาก็เอาไปส่งลูกเรียน รร. อินเตอร์ / ซื้อบ้านเดี่ยว / ซื้อรถ / ซื้อสำนักงาน + โกดัง แรกๆ ก็พอไปได้สักพักเริ่มมีจ่ายเช๊คเด้ง มีเจ้าหนี้นอกระบบมาทวงหนี้หน้าบ้านขนาดให้แม่ออกไปรับหน้า ตัวเองกับภรรยาหนีไปอยู่ชั้น 2 มาปีหลัง ๆ เริ่มมีคดีความทั้งเช๊คเด้งหลายคดีมากน้องจะโดนอยู่คนเดียวเพราะออกในนามบริษัท ทั้งกู้ยืมในและนอกระบบ แต่ที่หนักคือเอาทาวน์เฮ้าส์แม่ไปค้ำประกันธนาคารสุดท้ายโดนยึดแม่ไม่มีที่อยู่ เงินก้อนสุดท้ายของแม่ก็ไปกับน้องหมด แม่ก็ช่วยน้องชายไม่ลืมหูลืมตา ผมเองทะเลาะกับแม่บ่อยและแรงมาก ใครเตือนก็ไม่ฟัง

จนเมื่อ 3 ปีก่อน ศาลมีคำสั่งจำคุกทั้งน้องชายและน้องสะใภ้ คนละ 10 ปี ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง, พรบ.คอมฯ, ปลอมและใช้เอกสารปลอม เพราะน้องสะใภ้ไปชักชวนเพื่อนลงทุนแล้วไม่คืน น่าจะไปสัญญาว่ามีดอกเบี้ยด้วย ความซวยคือบริษัทที่น้องสะใภ้เปิด ดันใช้ชื่อน้องชายเป็นกรรมการคนเดียวในหนังสือรับรองบริษัทเลยโดนไปด้วยเพราะเงินวิ่งเข้าบริษัทด้วย ทั้งที่ผมก็เคยทักไปแล้วว่าทำไมมีชื่อน้องชายแค่คนเดียว สไตล์การใช้ชีวิตทั้งคู่คือติดหรู หน้าใหญ่