... เมื่อเขา คือ คนที่เธอแอบปลื้ม เหมือนไอดอลคนหนึ่ง
...... เมื่อเธอ คือ คนที่จะมาเช่าบ้านเก่า ซึ่งเขาไม่ยอมรับ และต้องการไล่เธอออกไป
............ เธอ พบ 'เทวดา' ในบ้านหลังนี้ และ ความฝันที่จะได้ทำงานกับ 'เขา' อาจจะไม่ราบรื่นอย่างใจหวัง
คนเห็นวิญญาณ เทวดา ผีสาง วิญญาณไม่ยอมกลับร่าง และ ผู้ชายกวนๆ
บทนำ + ตอนที่ 1
http://pantip.com/topic/33402809
ตอนที่ 2
http://pantip.com/topic/33409017
ตอนที่ 3
http://pantip.com/topic/33418583
ตอนที่ 4
http://pantip.com/topic/33428314
ตอนที่ 5.1
http://pantip.com/topic/33434178
ตอนที่ 5.2
http://pantip.com/topic/33446172
ตอนที่ 6
http://pantip.com/topic/33464685
ตอนที่ 7.1
http://pantip.com/topic/33468900
ตอนที่ 7.2
http://pantip.com/topic/33472106
ตอนที่ 8
http://pantip.com/topic/33495703
ตอนที่ 9
http://pantip.com/topic/33500584
ตอนที่ 10
http://pantip.com/topic/33503967
ตอนที่ 11
สองชั่วโมงก่อน รัตติดารากำลังจะกลับบ้าน เธอเดินยิ้มมีความสุขออกจากห้องทำงานทีมของเธอ แต่ยังไม่ทันพ้นประตูห้อง ทีน่ากลับเรียกเธอ
“นี่ คิดจะกลับง่ายๆเลยเหรอ"
รัตติดาราหันมองหญิงสาวที่ไม่เป็นมิตรที่สุดในทีม
“งานที่เธอทำไว้ทั้งหมด พวกเราต้องมีรีวิวใหม่อีกรอบจนเราทำงานตัวเองไม่ทัน นี่คิดจะหนีกลับคนเดียวเลยใช่ไหม" ทีน่าคงหมายถึงที่เธอเคยเขียนแบบมาหลายๆแผ่นนั้น ศตภัทรสั่งให้พวกเธอตรวจสอบใหม่ทั้งหมดเพื่อไม่ให้ผิดพลาด และนั่นทำให้ทีน่าเกิดความไม่พอใจขึ้นมา
“ขอโทษค่ะที่เรเพิ่มงานให้พวกพี่ๆ" เธอบอกเสียงเบา รู้สึกผิดจริงๆ
“อย่าไปว่าน้องเลยพี่ทีน่า ไปเถอะน้องเร นี่แค่ตรวจเฉยๆ ไมไ่ด้ทำใหม่สักหน่อย" ศิวกรใจดีกับรัตติดาราเสมอๆ
“เรื่องอะไรล่ะนายกร ... มานี่เลย" ทีน่าไม่พูดเฉยๆ ยังเดินนำไปยังชั้นที่วางกระดาษและแฟ้มยุ่งเหยิงไปหมด
“จัดชั้นนี้ให้เรียบร้อย เสร็จแล้วเอาไอ้แฟ้มพวกนี้ เอาไปเก็บที่ห้องเอกสาร" ทีน่าสั่งเสียงเข้ม พยักเพยิดไปยังกองพะเนิน หลังจากเสร็จการส่งแบบคอมมูนิตี้มอลล์ แล้วพวกเธอก็ต้องทำต่ออีกงานจึงไม่มีเวลาจัดการกองยุ่งๆอย่างพวกกระดาษ หรือวัสดุตัวอย่าง รวมถึงแบบเก่าๆที่ไปยืมมาจากห้องเอกสารเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการทำงาน
“เฮ้ยพี่ ยังไม่ต้องก็ได้" ศิวกรมองกองรกๆนั่น น่ากลัวจะใช้เวลานาน
“พี่ไม่ได้ทำเพราะแกล้งเธอนะ เร เธอต้องฝึกมากๆ จะได้ไม่โดนพี่ภัทรดุอีก เข้าใจไหม" ทีน่าบอกให้เธอรู้ รัตติดาราไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ เพราะดวงตาสวยเฉี่ยวที่มองเธอนั้นไม่ได้มีความจริงใจเลย
ศิวกรมองเมฆแล้วส่ายหน้า ... แกล้งเด็กมากกว่าหวังดีน่ะสิ!
รัตติดาราถอนหายใจเบาจนแทบจะกลืนไปกับเสียงลมหายใจ เธอหยิบมือถือออกมาเพื่อจะกดข้อความส่งไปหาชายหนุ่มว่าเธออาจจะกลับช้าหน่อย แล้วพบว่าโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าแก่ของเธอซึ่งได้รับตกทอดมาจากไม้เอกค้างจนต้องกดเปิดปิดใหม่อีกรอบ และเมื่อถูกทีน่าเร่ง จึงต้องรีบทำงานจัดการกองยุ่งๆตรงหน้า กว่าจะเรียบร้อยก็พบว่าใช้เวลาร่วมชั่วโมง
หญิงสาวจึงรีบหอบแฟ้มที่เธอจัดไว้เรียบร้อยแล้ว ขนออกไปยังห้องเก็บเอกสารซึ่งอยู่อีกมุมของอาคาร แฟ้มมากมายที่เธอไม่อยากเดินไปหลายรอบทำให้รัตติดาราเลือกจะถอดกระเป๋าสะพายและโทรศัพท์มือถือวางไว้ที่โต๊ะทำงาน หญิงสาวคาดว่าเธอคงใช้เวลาไม่นานในการขนไปเก็บ
แต่ว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลย เมื่อห้องเก็บเอกสารแทบไม่เหลือพื้นที่ให้เธอจัดการสอดแฟ้มเพิ่มเข้าไป รัตติดาราจึงเสียเวลากับการขยับแฟ้มให้มีที่ว่างมากพอ เธอหันมองไปรอบตัวแล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจในห้องที่ไฟกระพริบนี่ จึงรีบๆ ทำจนเธอพลาดตกจากเก้าอี้ที่เธอใช้ต่อความสูงอยู่ จนหัวกระแทกพื้น และนั่นทำให้เธอสลบไป
ศตายุยอมรับเลยว่าเป็นความผิดเขา ที่เขาละเลยหญิงสาวไปเพราะเห็นว่ารัตติดาราตั้งใจจะกลับบ้านไปพบน้องชายเขา เขาออกจะดีใจและมีความสุขมากพอที่จะยอมมานั่งฟังอติภาพระบ้ำระบายความในใจ กระทั่งเขาสังหรณ์ใจ หายตัวกลับไปที่บ้านก็เห็นแต่ความเงียบ ไม่มีสัญญาณใดๆว่ารัตติดาราถึงบ้านแล้ว เขาจึงกลับไปที่บริษัทฯอีกครั้ง ก่อนจะพบว่ารัตติดาราสลบอยู่ในห้องเก็บเอกสาร ก่อนที่เขาจะปลุกเธอ เขาสัมผัสได้ถึงไอเย็นที่น่ากลัวของวิญญาณสาวคนที่พยายามทำร้ายใกล้รุ่ง และนั่นคือช่วงเวลาก่อนที่เขาจะพลาดท่าให้ผีสาวตัวนั้น!
“หนูเร" ศตายุมองหญิงสาวด้วยแววตาเจ็บปวด เมื่อเธอกลายเป็นใครคนที่เขาไม่รู้จักแบบนี้
ศตภัทรขับรถออกจากบ้านมาอย่างวิตกกังวล เขาโทรศัพท์ติดต่อรัตติดาราไม่ได้เลย แถมนึกไม่ออกว่าเขาจะไปตามหาหญิงสาวจากที่ไหน แต่เขาจำประโยคหนึ่งที่เคยคุยกันหลายวันก่อนได้อยู่
'เรไม่มีเพื่อนในกรุงเทพฯเลยค่ะ'
ถ้าอย่างนั้น เธอจะไปไหนเวลานี้กันนะ เขาเหลือบมองเวลาตรงหน้าปัดคอนโซลรถยนต์ ... สามทุ่มกว่า หรือยัยตัวเล็กจะแวะเดินเที่ยวที่ไหน แต่เขาก็คิดว่าไม่น่าเป็นไปได้เมื่อเธอตอบข้อความเขามาแบบนั้น คงไม่ได้คิดแก้แค้นให้เขารอเธอเก้อหรอกน่า
กระทั่งชายหนุ่มมีความคิดขึ้นมาวูบหนึ่ง เขาเลี้ยวรถไปทางที่ตั้งของ ตรัย กรุ๊ป ทันที
ชายหนุ่มใช้เวลาเร็วกว่าปกติในการพาตัวเองมาถึงบริษัทฯ โชคดีที่รถไม่ติด แถมไม่เจอติดไฟแดงอีก แค่สิบห้านาทีเท่านั้นที่เขาเสียไปในการเดินทาง
และมันไม่ยากสำหรับศตภัทรในการนำรถเข้ามาจอดหน้าตึกนอกเวลาทำงานแบบนี้ พนักงานรักษาความปลอดภัยชินแล้วที่พนักงานระดับหัวหน้าจะแวะเข้ามาออฟฟิศตอนดึกๆ บางทีคนพวกนี้ก็ชอบไปประชุมจนมืดแล้วต้องเข้ามาทำนู่นนี่ที่ออฟฟิศ บางทีกว่าจะกลับก็เกือบสว่าง
ศตภัทรจอดรถเสร็จก็ต้องประหลาดใจ เมื่อเขาเห็นใกล้รุ่งลงจากแทกซี่ที่วิ่งตามหลังรถเขามาติดๆ
“อย่าเพิ่งถามเลยค่ะ ตามฟ้ามาดีกว่าค่ะ พี่ภัทร" ใกล้รุ่งไม่มีเวลาจะมาตอบคำถามจากหัวหน้าทีมเธอ เมื่อเธอเกิดนิมิตรขึ้นมา เห็นรัตติดารานอนอยู่กลางห้องที่เธอรู้ว่าเป็นห้องอะไร นั่นอาจจะเป็นศตายุที่จงใจให้เธอเห็น ใกล้รุ่งจึงรีบออกมาที่บริษัทฯแม้จะดึกมากแล้วก็ตาม
ชายหนุ่มพยักหน้า รีบก้าวเท้ายาวๆตามหญิงสาวผิวขาวตรงหน้าไป โดยที่อติภาพยืนรอเขาอยู่ก่อนแล้ว
กระทั่งถึงทางแยกไปซ้ายและขวา ซ้ายไปห้องทำงานของเขา ส่วนด้านขวาคือทางไปห้องเก็บเอกสาร เขาไม่ต้องรอให้ใกล้รุ่งบอกหรือนำทางให้ ทั้งคู่ได้ยินเสียงตึงตังทางด้านขวาของทางเดิน เมื่อวิ่งไปจนถึงก็พบคนที่พวกเขาตามหา รัตติดารากำลังยืนนิ่งอยู่ในห้องเก็บเอกสาร ท่ามกลางกองแฟ้มที่หล่นลงมาจากชั้น ดูเหมือนว่าจะเป็นการตั้งใจที่จะทำร้ายอะไรสักอย่างที่ศตภัทรมองไม่เห็น
ศตายุพยายามที่จะดึงให้ผีสาวหลุดออกจากร่างเล็ก แต่เขาก็หวาดกลัวว่าจะกลายเป็นดึงวิญญาณรัตติดาราออกมามากกว่า รัตติดารายังหมดสติจนเขาไม่สามารถติดต่อเธอได้
นอกจากเวลาที่รัตติดาราใจว้าวุ่นจนทำให้เขาไม่สามารถติดต่อเธอได้แล้วนั้น การหมดสติอย่างสมบูรณ์แบบก็เป็นอุปสรรคอีกอย่าง
“คุณศตายุ! เร!” ใกล้รุ่งเห็นทั้งคู่ยืนประจันหน้ากันอยู่
ศตภัทรจึงรับรู้ว่าผู้หญิงผิวขาวทำตำแหน่งดูแลเรื่องเอกสารให้เขานั้นเองก็สามารถเห็นวิญญาณได้ แล้วดูเหมือนว่าผีสาวในร่างเล็กจะรู้สึกตัวแล้ว ว่ามีคนสองคน รวมถึงวิญญาณชายหนุ่มอีกคน กำลังยืนมองเธออยู่
จากสายตาที่มองมาทางเขา ศตภัทรรับรู้ได้ทันทีว่ามีบางอย่างไม่เหมือนเดิม เขาถึงกับใจหายวูบเมื่อไม่มีความสดใสจากแววตาคนตัวเล็กหลงเหลืออยู่เลย
“ฉันขอร่างนี้ แล้วฉันจะคืนให้คุณ เมื่อฉันได้เจอเขา" เสียงใสที่ดังออกมาจากรัตติดารานั้นเปลี่ยนไป ไม่ใช่น้ำเสียงที่เขาคุ้นเคย มันเศร้าและเยือกเย็นจนคนมองสั่นไปทั้งหัวใจ
“ไม่ได้นะ" ศตภัทรกลัวว่าเขาจะเสียรัตติดาราไป ความกลัวผีที่เขามีมาตลอดชีวิตถูกเขวี้ยงทิ้งให้พ้นความรู้สึกทั้งหมด พุ่งไปคว้าหญิงสาว ทว่าเขากลับกระเด็นออกไป ทั้งที่เขายังไม่ถึงตัวเธอเลย
“แค่ให้ฉันเจอเขา ได้พูดกับเขา ขอร้องล่ะ" เธออ้อนวอนเขา ด้วยน้ำเสียงที่ไม่อ่อนน้อมเลยสักนิด!
“ไม่ได้นะครับ" ศตายุพูดขึ้น แน่นอนว่ามีแค่ใกล้รุ่งและผีร้ายเท่านั้นที่ได้ยิน
“ถ้านานกว่านี้ หนูเรจะอันตราย คุณฟ้าก็รู้ว่าเป็นยังไง" เขาหมายถึง อาการที่อึดอัด หายใจไม่ออก อาจจะทำให้คนตัวเล็กช็อคขึ้นมาก็ได้
“นายบี นายต้องช่วยหนูเรนะ มีแต่นายเท่านั้นที่ช่วยได้" ศตายุตั้งใจให้น้องชายเขาได้ยิน เป็นครั้งแรกที่ศตภัทรได้ยินเสียงพี่ชายฝาแฝด
“พี่เอ ...” เขาอยากถามนัก ว่าเขาจะทำอะไรได้ เมื่อครู่ยังถูกเหวี่ยงออกมาขนาดนั้น
ไม่มีเวลาให้คิดนาน อย่างไรเขาก็ปล่อยให้รัตติดาราเป็นแบบนี้ไม่ได้! ศตภัทรพุ่งเข้าชาร์จร่างเล็ก กอดเธอแน่น และก่อนที่เขาจะถูกเหวี่ยงออกไป เขาตัดสินใจประกบริมฝีปากลงบนเรียงปากบาง เขาไม่รู้หรอกว่ามันจะได้ผลไหม แต่นี่เป็นวิธีการเดียวที่เขาคิดออก
เวลาราวกับจะหยุดเดิน
....
ทุกอย่างนิ่งและเงียบจนต่างได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของตัวเอง
ใกล้รุ่งและอติภาพเบิกตาโต ตกใจที่ศตภัทรตัดสินใจแก้ไขสถานการณ์ด้วยวิธีนี้ ศตายุเห็นวิญญาณร้ายกระเด็นออกมาจากร่างเล็ก แล้วฟุ้งกระจายหายไปในอากาศ ทุกอย่างสงบลงทันที ความอึดอัดจากไอเย็นเยือกที่ผีสาวสร้างไว้ก็หายไปหมดสิ้น
ชายหนุ่มที่ฉวยริมฝีปากเล็กไว้ค่อยๆผละใบหน้าออก มองใบหน้าขาว ซึ่งเธอเองก็ค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น ดวงดาวระยิบระยับกลับคืนสู่ดวงตากลม ศตภัทรรวบกอดเธอแน่นอย่างดีใจที่สุด
“พี่ภัทร ทำไม..” รัตติดาราตกใจที่อยู่ๆก็ถูกกอด และรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นเร็วในอกหนาที่เธอถูกรวบไปแนบไว้
ใจชายหนุ่มที่หายไป ความหวาดกลัวที่เกาะกุมใจนั้นเริ่มกลับคืนภาวะปกติ เมื่อเขาสามารถพาดาวดวงน้อยกลับสู่หัวใจของเขาได้ปลอดภัย
รักละมุน ~ หอมกลิ่นแก้ว ตอนที่ 11 by ปิ่นนลิน
...... เมื่อเธอ คือ คนที่จะมาเช่าบ้านเก่า ซึ่งเขาไม่ยอมรับ และต้องการไล่เธอออกไป
............ เธอ พบ 'เทวดา' ในบ้านหลังนี้ และ ความฝันที่จะได้ทำงานกับ 'เขา' อาจจะไม่ราบรื่นอย่างใจหวัง
คนเห็นวิญญาณ เทวดา ผีสาง วิญญาณไม่ยอมกลับร่าง และ ผู้ชายกวนๆ
บทนำ + ตอนที่ 1 http://pantip.com/topic/33402809
ตอนที่ 2 http://pantip.com/topic/33409017
ตอนที่ 3 http://pantip.com/topic/33418583
ตอนที่ 4 http://pantip.com/topic/33428314
ตอนที่ 5.1 http://pantip.com/topic/33434178
ตอนที่ 5.2 http://pantip.com/topic/33446172
ตอนที่ 6 http://pantip.com/topic/33464685
ตอนที่ 7.1 http://pantip.com/topic/33468900
ตอนที่ 7.2 http://pantip.com/topic/33472106
ตอนที่ 8 http://pantip.com/topic/33495703
ตอนที่ 9 http://pantip.com/topic/33500584
ตอนที่ 10 http://pantip.com/topic/33503967
ตอนที่ 11
สองชั่วโมงก่อน รัตติดารากำลังจะกลับบ้าน เธอเดินยิ้มมีความสุขออกจากห้องทำงานทีมของเธอ แต่ยังไม่ทันพ้นประตูห้อง ทีน่ากลับเรียกเธอ
“นี่ คิดจะกลับง่ายๆเลยเหรอ"
รัตติดาราหันมองหญิงสาวที่ไม่เป็นมิตรที่สุดในทีม
“งานที่เธอทำไว้ทั้งหมด พวกเราต้องมีรีวิวใหม่อีกรอบจนเราทำงานตัวเองไม่ทัน นี่คิดจะหนีกลับคนเดียวเลยใช่ไหม" ทีน่าคงหมายถึงที่เธอเคยเขียนแบบมาหลายๆแผ่นนั้น ศตภัทรสั่งให้พวกเธอตรวจสอบใหม่ทั้งหมดเพื่อไม่ให้ผิดพลาด และนั่นทำให้ทีน่าเกิดความไม่พอใจขึ้นมา
“ขอโทษค่ะที่เรเพิ่มงานให้พวกพี่ๆ" เธอบอกเสียงเบา รู้สึกผิดจริงๆ
“อย่าไปว่าน้องเลยพี่ทีน่า ไปเถอะน้องเร นี่แค่ตรวจเฉยๆ ไมไ่ด้ทำใหม่สักหน่อย" ศิวกรใจดีกับรัตติดาราเสมอๆ
“เรื่องอะไรล่ะนายกร ... มานี่เลย" ทีน่าไม่พูดเฉยๆ ยังเดินนำไปยังชั้นที่วางกระดาษและแฟ้มยุ่งเหยิงไปหมด
“จัดชั้นนี้ให้เรียบร้อย เสร็จแล้วเอาไอ้แฟ้มพวกนี้ เอาไปเก็บที่ห้องเอกสาร" ทีน่าสั่งเสียงเข้ม พยักเพยิดไปยังกองพะเนิน หลังจากเสร็จการส่งแบบคอมมูนิตี้มอลล์ แล้วพวกเธอก็ต้องทำต่ออีกงานจึงไม่มีเวลาจัดการกองยุ่งๆอย่างพวกกระดาษ หรือวัสดุตัวอย่าง รวมถึงแบบเก่าๆที่ไปยืมมาจากห้องเอกสารเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการทำงาน
“เฮ้ยพี่ ยังไม่ต้องก็ได้" ศิวกรมองกองรกๆนั่น น่ากลัวจะใช้เวลานาน
“พี่ไม่ได้ทำเพราะแกล้งเธอนะ เร เธอต้องฝึกมากๆ จะได้ไม่โดนพี่ภัทรดุอีก เข้าใจไหม" ทีน่าบอกให้เธอรู้ รัตติดาราไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ เพราะดวงตาสวยเฉี่ยวที่มองเธอนั้นไม่ได้มีความจริงใจเลย
ศิวกรมองเมฆแล้วส่ายหน้า ... แกล้งเด็กมากกว่าหวังดีน่ะสิ!
รัตติดาราถอนหายใจเบาจนแทบจะกลืนไปกับเสียงลมหายใจ เธอหยิบมือถือออกมาเพื่อจะกดข้อความส่งไปหาชายหนุ่มว่าเธออาจจะกลับช้าหน่อย แล้วพบว่าโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าแก่ของเธอซึ่งได้รับตกทอดมาจากไม้เอกค้างจนต้องกดเปิดปิดใหม่อีกรอบ และเมื่อถูกทีน่าเร่ง จึงต้องรีบทำงานจัดการกองยุ่งๆตรงหน้า กว่าจะเรียบร้อยก็พบว่าใช้เวลาร่วมชั่วโมง
หญิงสาวจึงรีบหอบแฟ้มที่เธอจัดไว้เรียบร้อยแล้ว ขนออกไปยังห้องเก็บเอกสารซึ่งอยู่อีกมุมของอาคาร แฟ้มมากมายที่เธอไม่อยากเดินไปหลายรอบทำให้รัตติดาราเลือกจะถอดกระเป๋าสะพายและโทรศัพท์มือถือวางไว้ที่โต๊ะทำงาน หญิงสาวคาดว่าเธอคงใช้เวลาไม่นานในการขนไปเก็บ
แต่ว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลย เมื่อห้องเก็บเอกสารแทบไม่เหลือพื้นที่ให้เธอจัดการสอดแฟ้มเพิ่มเข้าไป รัตติดาราจึงเสียเวลากับการขยับแฟ้มให้มีที่ว่างมากพอ เธอหันมองไปรอบตัวแล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจในห้องที่ไฟกระพริบนี่ จึงรีบๆ ทำจนเธอพลาดตกจากเก้าอี้ที่เธอใช้ต่อความสูงอยู่ จนหัวกระแทกพื้น และนั่นทำให้เธอสลบไป
ศตายุยอมรับเลยว่าเป็นความผิดเขา ที่เขาละเลยหญิงสาวไปเพราะเห็นว่ารัตติดาราตั้งใจจะกลับบ้านไปพบน้องชายเขา เขาออกจะดีใจและมีความสุขมากพอที่จะยอมมานั่งฟังอติภาพระบ้ำระบายความในใจ กระทั่งเขาสังหรณ์ใจ หายตัวกลับไปที่บ้านก็เห็นแต่ความเงียบ ไม่มีสัญญาณใดๆว่ารัตติดาราถึงบ้านแล้ว เขาจึงกลับไปที่บริษัทฯอีกครั้ง ก่อนจะพบว่ารัตติดาราสลบอยู่ในห้องเก็บเอกสาร ก่อนที่เขาจะปลุกเธอ เขาสัมผัสได้ถึงไอเย็นที่น่ากลัวของวิญญาณสาวคนที่พยายามทำร้ายใกล้รุ่ง และนั่นคือช่วงเวลาก่อนที่เขาจะพลาดท่าให้ผีสาวตัวนั้น!
“หนูเร" ศตายุมองหญิงสาวด้วยแววตาเจ็บปวด เมื่อเธอกลายเป็นใครคนที่เขาไม่รู้จักแบบนี้
ศตภัทรขับรถออกจากบ้านมาอย่างวิตกกังวล เขาโทรศัพท์ติดต่อรัตติดาราไม่ได้เลย แถมนึกไม่ออกว่าเขาจะไปตามหาหญิงสาวจากที่ไหน แต่เขาจำประโยคหนึ่งที่เคยคุยกันหลายวันก่อนได้อยู่
'เรไม่มีเพื่อนในกรุงเทพฯเลยค่ะ'
ถ้าอย่างนั้น เธอจะไปไหนเวลานี้กันนะ เขาเหลือบมองเวลาตรงหน้าปัดคอนโซลรถยนต์ ... สามทุ่มกว่า หรือยัยตัวเล็กจะแวะเดินเที่ยวที่ไหน แต่เขาก็คิดว่าไม่น่าเป็นไปได้เมื่อเธอตอบข้อความเขามาแบบนั้น คงไม่ได้คิดแก้แค้นให้เขารอเธอเก้อหรอกน่า
กระทั่งชายหนุ่มมีความคิดขึ้นมาวูบหนึ่ง เขาเลี้ยวรถไปทางที่ตั้งของ ตรัย กรุ๊ป ทันที
ชายหนุ่มใช้เวลาเร็วกว่าปกติในการพาตัวเองมาถึงบริษัทฯ โชคดีที่รถไม่ติด แถมไม่เจอติดไฟแดงอีก แค่สิบห้านาทีเท่านั้นที่เขาเสียไปในการเดินทาง
และมันไม่ยากสำหรับศตภัทรในการนำรถเข้ามาจอดหน้าตึกนอกเวลาทำงานแบบนี้ พนักงานรักษาความปลอดภัยชินแล้วที่พนักงานระดับหัวหน้าจะแวะเข้ามาออฟฟิศตอนดึกๆ บางทีคนพวกนี้ก็ชอบไปประชุมจนมืดแล้วต้องเข้ามาทำนู่นนี่ที่ออฟฟิศ บางทีกว่าจะกลับก็เกือบสว่าง
ศตภัทรจอดรถเสร็จก็ต้องประหลาดใจ เมื่อเขาเห็นใกล้รุ่งลงจากแทกซี่ที่วิ่งตามหลังรถเขามาติดๆ
“อย่าเพิ่งถามเลยค่ะ ตามฟ้ามาดีกว่าค่ะ พี่ภัทร" ใกล้รุ่งไม่มีเวลาจะมาตอบคำถามจากหัวหน้าทีมเธอ เมื่อเธอเกิดนิมิตรขึ้นมา เห็นรัตติดารานอนอยู่กลางห้องที่เธอรู้ว่าเป็นห้องอะไร นั่นอาจจะเป็นศตายุที่จงใจให้เธอเห็น ใกล้รุ่งจึงรีบออกมาที่บริษัทฯแม้จะดึกมากแล้วก็ตาม
ชายหนุ่มพยักหน้า รีบก้าวเท้ายาวๆตามหญิงสาวผิวขาวตรงหน้าไป โดยที่อติภาพยืนรอเขาอยู่ก่อนแล้ว
กระทั่งถึงทางแยกไปซ้ายและขวา ซ้ายไปห้องทำงานของเขา ส่วนด้านขวาคือทางไปห้องเก็บเอกสาร เขาไม่ต้องรอให้ใกล้รุ่งบอกหรือนำทางให้ ทั้งคู่ได้ยินเสียงตึงตังทางด้านขวาของทางเดิน เมื่อวิ่งไปจนถึงก็พบคนที่พวกเขาตามหา รัตติดารากำลังยืนนิ่งอยู่ในห้องเก็บเอกสาร ท่ามกลางกองแฟ้มที่หล่นลงมาจากชั้น ดูเหมือนว่าจะเป็นการตั้งใจที่จะทำร้ายอะไรสักอย่างที่ศตภัทรมองไม่เห็น
ศตายุพยายามที่จะดึงให้ผีสาวหลุดออกจากร่างเล็ก แต่เขาก็หวาดกลัวว่าจะกลายเป็นดึงวิญญาณรัตติดาราออกมามากกว่า รัตติดารายังหมดสติจนเขาไม่สามารถติดต่อเธอได้
นอกจากเวลาที่รัตติดาราใจว้าวุ่นจนทำให้เขาไม่สามารถติดต่อเธอได้แล้วนั้น การหมดสติอย่างสมบูรณ์แบบก็เป็นอุปสรรคอีกอย่าง
“คุณศตายุ! เร!” ใกล้รุ่งเห็นทั้งคู่ยืนประจันหน้ากันอยู่
ศตภัทรจึงรับรู้ว่าผู้หญิงผิวขาวทำตำแหน่งดูแลเรื่องเอกสารให้เขานั้นเองก็สามารถเห็นวิญญาณได้ แล้วดูเหมือนว่าผีสาวในร่างเล็กจะรู้สึกตัวแล้ว ว่ามีคนสองคน รวมถึงวิญญาณชายหนุ่มอีกคน กำลังยืนมองเธออยู่
จากสายตาที่มองมาทางเขา ศตภัทรรับรู้ได้ทันทีว่ามีบางอย่างไม่เหมือนเดิม เขาถึงกับใจหายวูบเมื่อไม่มีความสดใสจากแววตาคนตัวเล็กหลงเหลืออยู่เลย
“ฉันขอร่างนี้ แล้วฉันจะคืนให้คุณ เมื่อฉันได้เจอเขา" เสียงใสที่ดังออกมาจากรัตติดารานั้นเปลี่ยนไป ไม่ใช่น้ำเสียงที่เขาคุ้นเคย มันเศร้าและเยือกเย็นจนคนมองสั่นไปทั้งหัวใจ
“ไม่ได้นะ" ศตภัทรกลัวว่าเขาจะเสียรัตติดาราไป ความกลัวผีที่เขามีมาตลอดชีวิตถูกเขวี้ยงทิ้งให้พ้นความรู้สึกทั้งหมด พุ่งไปคว้าหญิงสาว ทว่าเขากลับกระเด็นออกไป ทั้งที่เขายังไม่ถึงตัวเธอเลย
“แค่ให้ฉันเจอเขา ได้พูดกับเขา ขอร้องล่ะ" เธออ้อนวอนเขา ด้วยน้ำเสียงที่ไม่อ่อนน้อมเลยสักนิด!
“ไม่ได้นะครับ" ศตายุพูดขึ้น แน่นอนว่ามีแค่ใกล้รุ่งและผีร้ายเท่านั้นที่ได้ยิน
“ถ้านานกว่านี้ หนูเรจะอันตราย คุณฟ้าก็รู้ว่าเป็นยังไง" เขาหมายถึง อาการที่อึดอัด หายใจไม่ออก อาจจะทำให้คนตัวเล็กช็อคขึ้นมาก็ได้
“นายบี นายต้องช่วยหนูเรนะ มีแต่นายเท่านั้นที่ช่วยได้" ศตายุตั้งใจให้น้องชายเขาได้ยิน เป็นครั้งแรกที่ศตภัทรได้ยินเสียงพี่ชายฝาแฝด
“พี่เอ ...” เขาอยากถามนัก ว่าเขาจะทำอะไรได้ เมื่อครู่ยังถูกเหวี่ยงออกมาขนาดนั้น
ไม่มีเวลาให้คิดนาน อย่างไรเขาก็ปล่อยให้รัตติดาราเป็นแบบนี้ไม่ได้! ศตภัทรพุ่งเข้าชาร์จร่างเล็ก กอดเธอแน่น และก่อนที่เขาจะถูกเหวี่ยงออกไป เขาตัดสินใจประกบริมฝีปากลงบนเรียงปากบาง เขาไม่รู้หรอกว่ามันจะได้ผลไหม แต่นี่เป็นวิธีการเดียวที่เขาคิดออก
เวลาราวกับจะหยุดเดิน
....
ทุกอย่างนิ่งและเงียบจนต่างได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของตัวเอง
ใกล้รุ่งและอติภาพเบิกตาโต ตกใจที่ศตภัทรตัดสินใจแก้ไขสถานการณ์ด้วยวิธีนี้ ศตายุเห็นวิญญาณร้ายกระเด็นออกมาจากร่างเล็ก แล้วฟุ้งกระจายหายไปในอากาศ ทุกอย่างสงบลงทันที ความอึดอัดจากไอเย็นเยือกที่ผีสาวสร้างไว้ก็หายไปหมดสิ้น
ชายหนุ่มที่ฉวยริมฝีปากเล็กไว้ค่อยๆผละใบหน้าออก มองใบหน้าขาว ซึ่งเธอเองก็ค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น ดวงดาวระยิบระยับกลับคืนสู่ดวงตากลม ศตภัทรรวบกอดเธอแน่นอย่างดีใจที่สุด
“พี่ภัทร ทำไม..” รัตติดาราตกใจที่อยู่ๆก็ถูกกอด และรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นเร็วในอกหนาที่เธอถูกรวบไปแนบไว้
ใจชายหนุ่มที่หายไป ความหวาดกลัวที่เกาะกุมใจนั้นเริ่มกลับคืนภาวะปกติ เมื่อเขาสามารถพาดาวดวงน้อยกลับสู่หัวใจของเขาได้ปลอดภัย