... เมื่อเขา คือ คนที่เธอแอบปลื้ม เหมือนไอดอลคนหนึ่ง
...... เมื่อเธอ คือ คนที่จะมาเช่าบ้านเก่า ซึ่งเขาไม่ยอมรับ และต้องการไล่เธอออกไป
............ เธอ พบ 'เทวดา' ในบ้านหลังนี้ และ ความฝันที่จะได้ทำงานกับ 'เขา' อาจจะไม่ราบรื่นอย่างใจหวัง
คนเห็นวิญญาณ เทวดา ผีสาง วิญญาณไม่ยอมกลับร่าง และ ผู้ชายกวนๆ
บทนำ + ตอนที่ 1
http://pantip.com/topic/33402809
ตอนที่ 2
http://pantip.com/topic/33409017
ตอนที่ 3
http://pantip.com/topic/33418583
ตอนที่ 4
http://pantip.com/topic/33428314
ตอนที่ 5.1
http://pantip.com/topic/33434178
ตอนที่ 5.2
http://pantip.com/topic/33446172
ตอนที่ 6
http://pantip.com/topic/33464685
ตอนที่ 7.1
http://pantip.com/topic/33468900
ตอนที่ 7.2
http://pantip.com/topic/33472106
ตอนที่ 8
http://pantip.com/topic/33495703
ตอนที่ 9
http://pantip.com/topic/33500584
ตอนที่ 10
http://pantip.com/topic/33503967
ตอนที่ 11
http://pantip.com/topic/33508917
ตอนที่ 12
http://pantip.com/topic/33513898
ตอนที่ 13
http://pantip.com/topic/33527340
ตอนที่ 14
http://pantip.com/topic/33532264
ตอนที่ 15
http://pantip.com/topic/33534637
ตอนที่ 16
คุณปานวาดลุกจากเก้าอี้ข้างๆบุตรชายที่ยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียงคนไข้ภายในห้องพักฟื้นพิเศษ หลังจากเธอรับประทานอาหารเย็นๆง่ายเสร็จแล้ว จึงหยิบจานไปล้างตรงอ่างล้างจาน พลางทอดถอนใจยามนึกถึงอาการของบุตรชายเธอ
หมอประจำตัวบอกชัดเจนว่าระบบต่างๆในร่างกายของอติภาพไม่ได้มีปัญหา แต่เรื่องที่ว่าทำไมไม่ฟื้นเสียทีนั้น หมอก็ไม่สามารถให้เหตุผลได้ คงต้องรอปาฏิหาริย์เกิดขึ้นจริงๆ
คุณปานวาด พาร่างอันผอมแห้งเพราะพักผ่อนรวมถึงกินอาหารไม่ค่อยลงเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา เมื่อมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกเงาก็เกิดคำถามทุกครั้งว่า ... จากผู้หญิงที่เคยแต่งหน้าแต่งตัวสวยเสมอๆ ทั้งๆที่วัยก็ไม่น้อย เป็นย่าเป็ยยายคนได้แล้ว ในวันนี้กลับปล่อยเนื้อปล่อยตัว ไม่ต้องพูดถึงเครื่องสำอางที่เธอชอบซื้อหา เครื่องบำรุงผิวยังไม่แตะมาเป็นเวลาเกือบปี นับตั้งแต่อติภาพประสบอุบัติเหตุครานั้น
ไม่มีสัญญาณบอกเหตุก่อนหน้าเลยว่า อติภาพที่เป็นเด็กดีของเธอ เชื่อฟังเธอทุกอย่าง ไม่เคยแม้แต่สักครั้งที่จะทำให้ผิดหวัง จะไปขับรถชนเข้ากับเสาไฟฟ้าในคืนนั้น ในเมื่อเช้าวันนั้นเขายังร่าเริง จนไม่คิดว่ามียารักษาโรคซึมเศร้ามากมายที่เธอเจอในห้องนอนของลูกชายตอนที่เข้าไปเก็บของเพื่อนำมาโรงพยาบาลในตอนที่รู้แล้วว่า อติภาพคงต้องพักฟื้นอีกนานกว่าจะได้กลับบ้าน ซึ่งสอดคล้องกับภาพวงจรปิดที่ได้เห็น อติอภาพตั้งใจขับพุ่งชนเสาไฟฟ้าอย่างตั้งใจ!
หัวใจแม่แทบสลาย ... ยิ่งอ่านสมุดบันทึกเล่มหนา แม้แต่ละหน้าจะเขียนเพียงคำสั้นๆ แต่ก็หลายหนาจนเธอดูแล้วอติภาพคงเขียนมาไม่ต่ำกว่าสี่ถึงห้าปี ว่าอติภาพไม่มีความสุขกับการมีชีวิตอยู่ คุณปานวาดก็ยิ่งปวดใจ ร้องไห้ และเศร้าซึมจนร่างกายผ่ายผอม
ตรัย สามีของเธอเพิ่งมารู้เรื่องทั้งหมดหลังจากที่อติภาพไม่ฟื้น เขาถึงกับเสียศูนย์ไปพักหนึ่ง แต่ ... แม้ว่าสามีของเธอจะเจ็บปวดแค่ไหน ความเป็นหัวหน้าครอบครัว รวมถึงเจ้าของบริษัทฯ ทำให้ตรัยมักจะเข้มแข็งเสียแทบไม่แสดงออกว่าเขาเครียดและเสียใจมากมายแค่ไหน จนอธิติยา ลูกสาวคนโตตัดสินใจที่จะเป็นฝ่ายดูแลตรัยแทนปานวาดที่ต้องดูแลอติภาพทุกๆวัน
แทบไม่มีใครสังเกตอาการป่วยทางใจของอติภาพออกสักคน อติภาพเองก็คงไม่คิดจะพูดออกมาเพราะทั้งตรัย และปานวาดค่อนข้างเข้มงวด จนอติภาพไม่กล้าแสดงออกถึงความอ่อนแอที่เขามี อติภาพไม่ได้สนิทกับใครสักคนในครอบครัว
เขายังคงเรียนเก่ง และใช้ชีวิตอย่างที่เธอและตรัยอยากให้เป็น โดยไม่คิดเลยว่าทางเดินชีวิตที่ตรัยและปานวาดร่วมกันปูให้ลูกชายเดินนั้น มันจะย้อนกลับมากดดันตัวอติภาพมากมายแค่ไหน
... ทางเดินชีวิตที่ดีพร้อม เปรียบเหมือนพรมนุ่มราคาแพที่เธอคิดมาตลอดว่าดีที่สุดสำหรับอติภาพ กลับกลายเป็นหนามแหลมคม ซึ่งพอถึงวันหนึ่งเขาคงเจ็บและทนไม่ไหว และทำเรื่องโง่ๆแบบนั้นไป
ในเช้าวันเกิดเหตุ อธิติยาเล่าว่าอติภาพโดนบิดาตำหนิค่อนข้างรุนแรง ผิดหวัง กับผลงานที่อติภาพพยายามแก้ไขหลายครั้งแต่ก็ไม่ผ่านบิดาเสียที
“ขนาดโปรเจ็คเด็กมหาวิทยาลัยยังดีกว่าที่แกคิดเลยนะ!”
เธอค่อนข้างมั่นใจว่า ... นั่นคงเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่อติภาพมี
ปานวาดรองน้ำใส่มือล้างหน้า เพื่อล้างน้ำตาออกจากใบหน้า ก่อนจะเดินกลับไปนั่งข้างๆเตียงบุตรชายอีกครั้ง พอหย่อนตัวลงนั่งได้ไม่นาน ดวงตาที่อ่อนล้าพลันเบิกโตเมื่อเห็นว่าดวงตาของอติภาพเปิดขึ้น มือที่วางอยู่ข้างตัวเขาก็ขยับเบาๆ
“ตาภาพ! ภาพลูกแม่ ...” ปานวาดลุกขึ้นมา เห็นบุตรชายกรอกตามองเธอ แม้เขาจะยังมีอาการไม่รับรู้อะไร ... แต่แค่เขาลืมตาได้ เธอยิ้มออกมาอย่างดีใจที่สุด แล้วรีบหันไปกดอินเตอร์คอมพ์ข้างๆเตียงคนไข้ เพื่อเรียกให้แพทย์และพยาบาลมาดู
ภายในโรงพยาบาลเดียวกัน ...
ใกล้รุ่งขยับตัว และลืมตาเมื่อได้สติ ทำให้รัตติดาราและศตภัทร พร้อมทั้งศตายุลุกเข้าไปดูใกล้ๆเตียงที่ตั้งอยู่กลางห้อง
เมื่อสองชั่วโมงก่อน รัตติดารารู้จากเทวดาหนุ่มว่าใกล้รุ่งได้รับบาดเจ็บจากการถูกโจรจี้ชิงทรัพย์ แต่โชคดีมีผู้ใจดีมาช่วยทัน คนคนนั้นได้โทรศัพท์บอก หมอวิศรุต คนสนิทของใกล้รุ่งให้ได้รู้ เขาไปรับตัวมารักษาได้ทันท่วงที โชคดีโรงพยาบาลที่เขาประจำการอยู่นั้นอยู่ใกล้ๆกับที่เกิดเหตุมาก ซึ่งพอหมอวิศรุตไปถึงที่ก็พบเพียงหญิงสาวสลบอยู่เพียงลำพัง ไม่มีเงาของคนใจดีที่ช่วยเธอไว้อยู่แถวนั้นเลย
“ฟ้า ... ฟ้าเป็นไงบ้าง" รัตติดาราถามอย่างร้อนใจ
ทันทีที่พอทราบข่าวก็รีบโทรศัพท์บอกศตภัทร และรีบมาพบใกล้รุ่งที่โรงพยาบาล รัตติดาราทั้งตกใจ และเป็นห่วงเพื่อนสาวคนสนิทมาก จะว่าไปแล้วนอกจากศตายุ ใกล้รุ่งก็คือเพื่อนที่เธอสนิทที่สุด
ร่างบางบนเตียงพยายามจับภาพที่ค่อนข้างพร่ามัว จนต้องหลับตาลงอีกครั้ง พอลืมตาก็เห็นว่ารัตติดารากำลังมองเธออย่างเป็นห่วง หันมองรอบๆเข้าใจได้ทันทีว่าเธออยู่ในห้องพักฟื้นโรงพยาบาลแห่งใดแห่งหนึ่ง
“เร ... ฟ้ากลัวมากเลย มันจะทำร้ายฟ้า" ใกล้รุ่งนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอก็ร้อนรนพูดออกมา ตัวของเธอสั่นเทาวาหากตอนนั้นเธอเกิดถูกโจรทำร้ายขึ้นมา
“ฟ้า ฟ้าไม่ต้องกลัวแล้วนะ ฟ้าปลอดภัยแล้ว" รัตติดาราบอกเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พร้อมกับจับมือคนเสียขวัญไว้แน่น
“โจรถูกจับแล้ว ... เดี๋ยวพรุ่งนี้ตำรวจเขาจะมานะครับ สบายใจได้นะครับคุณฟ้า" ศตภัทรเสริม เขาเองที่เป็นหัวหน้างานของใกล้รุ่ง ก็ห่วงหญิงสาวด้วยเช่นกัน
ใกล้รุ่งรู้สึกปวดที่หัว พอยกมือขึ้นจับส่วนที่เธอได้รับการกระทบกระเทือน สัมผัสผ้าปิดแผลก็รู้ว่าหน้าผากเธอคงแตกจากที่โดนผลักไปชนกำแพงก่อนที่เธอจะสลบไป
“... จริงสิ ก่อนฟ้าสลบไป ฟ้าเห็นคุณอติภาพ เขาล่ะ เขาอยู่ไหนเหรอคะ" ดวงตาเรียวโตวูบไหวเมื่อถามถึงวิญญาณชายหนุ่ม เธอจำได้ว่าเห็นเขาก่อนที่เธอจะสลบไป เป็นอีกครั้งที่เขา ... มาช่วยเธอ
รัตติดาราทำหน้าลำบากใจขึ้นมาทันทีเมื่อถูกถาม เหลือบมองศตายุ และศตภัทรที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วต้องตัดสินใจพูดออกมา
“ฟ้า วิญญาณคุณอติภาพไม่อยู่แล้วล่ะ คุณศตายุบอกว่าเขากลับร่างแล้ว"
ใกล้รุ่งยิ้มออกมาทันทีที่ได้ยิน
“จริงเหรอ ดีจัง ... แล้วทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นกันด้วยละคะ"
ใกล้รุ่งคิดว่านี่เป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่เธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนเล่า และรอบข้างกลับทำหน้ากังวลมากกว่า ทำให้รัตติดาราเม้มปากแน่น ลำบากใจที่จะต้องพูด ศตภัทรบีบไหล่คนตัวเล็กเบาๆ พยักหน้าให้กำลังใจเพื่อบอกว่าเธอควรจะต้องบอกให้ใกล้รุ่งฟัง ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ใกล้รุ่งก็ต้องรู้อยู่ดี
“ฟ้า ... คุณศตายุบอกว่า ความทรงจำตอนที่เขาเป็นวิญญาณอาจจะหายไปหมด แปลว่า เขาอาจจะจำพวกเราไม่ได้เลย ..."
ได้ยินแล้ว หยดน้ำตาไหลออกจากดวงตาเรียวสวย ร่วงหล่นลงบนหมอนที่เจ้าตัวนอนหนุนอยู่ แต่ใกล้รุ่งกลับระบายรอยยิ้มยินดีออกมาบนใบหน้าซีดขาว
“ไม่เป็นไรหรอก ... ดีแล้วล่ะ เขาฟื้นก็ดีแล้ว"
ทั้งๆที่คิดว่าเธอจะพูดมันออกไปง่ายๆ แต่ทำไมเสียงของเธอถึงได้แหบแห้ง และสั่นไปทั้งริมฝีปากแบบนี้ รู้สึกถึงน้ำอุ่นๆที่ไหลล้นจากดวงตา หัวใจของเธอคล้ายถูกมือหนาของใครบางคนบีบแน่นจนถึงกับสะอึกสะอื้นออกมา
“ฟ้า ...” รัตติดาราบีบมือคนบนเตียงแน่นกว่าเดิม เห็นน้ำตาที่ไหลรินไม่หยุดก็สงสารจับใจ เพราะคนตัวเล็กรับรู้มาตลอดว่าใกล้รุ่งรู้สึกอย่างไรกับอติภาพ มันไม่มีทางหรอกที่จะไม่เป็นอะไร...ที่ได้ฟังเรื่องนี้
“ฟ้าควรดีใจใช่ไหมเร ... ฟ้าควรดีใจสิ แต่ว่าฟ้า...” ใกล้รุ่งถามเพื่อให้เพื่อนสาวช่วยย้ำว่าเธอควรจะยินดี ไม่ใช่มาร้องไห้แบบนี้เสียหน่อย หากว่าเธอก็ไม่สามารถกลั้นความเสียใจมากมายกับการลาจาก ทั้งที่ยังไม่ได้พูดลากันดีๆสักคำ ใกล้รุ่งไม่แข็งขืนเมื่อเพื่อนสนิทรั้งเข้าไปกอดแน่น
“ร้องออกมาเถอะฟ้า เรจะอยู่กับฟ้านะ"
ได้ฟังน้ำเสียงอ่อนโยนจากเพื่อนตัวเล็ก การพยายามกลั้นก้อนสะอื้นในอกก็พังลง ใกล้รุ่งถึงกับร้องไห้ออกมาเสียงดัง เจ็บปวดจนต้องกดแน่นๆที่อก ... จากที่เคยคิดว่าเผื่อใจไว้แล้วถ้าหากจะต้องกลับไปอยู่อย่างเงียบเหงาคนเดียวอีกครั้งหลังจากเขาฟื้น เพราะเขาคงจะต้องกลับไปใช้ชีวิตในสังคมของเขา ... แต่พอได้ยินแบบนี้เธอกลับทำใจให้ยอมรับไม่ได้เลยว่าไม่มีเขาอยู่ข้างๆเธออีก ...
... แม้กระทั่งในความทรงจำ เขาก็ไม่มีที่ให้เธอยืน ...
+ มีต่อ +
รักละมุน ~ หอมกลิ่นแก้ว ตอนที่ 16 - คำร่ำลา by ปิ่นนลิน
...... เมื่อเธอ คือ คนที่จะมาเช่าบ้านเก่า ซึ่งเขาไม่ยอมรับ และต้องการไล่เธอออกไป
............ เธอ พบ 'เทวดา' ในบ้านหลังนี้ และ ความฝันที่จะได้ทำงานกับ 'เขา' อาจจะไม่ราบรื่นอย่างใจหวัง
คนเห็นวิญญาณ เทวดา ผีสาง วิญญาณไม่ยอมกลับร่าง และ ผู้ชายกวนๆ
บทนำ + ตอนที่ 1 http://pantip.com/topic/33402809
ตอนที่ 2 http://pantip.com/topic/33409017
ตอนที่ 3 http://pantip.com/topic/33418583
ตอนที่ 4 http://pantip.com/topic/33428314
ตอนที่ 5.1 http://pantip.com/topic/33434178
ตอนที่ 5.2 http://pantip.com/topic/33446172
ตอนที่ 6 http://pantip.com/topic/33464685
ตอนที่ 7.1 http://pantip.com/topic/33468900
ตอนที่ 7.2 http://pantip.com/topic/33472106
ตอนที่ 8 http://pantip.com/topic/33495703
ตอนที่ 9 http://pantip.com/topic/33500584
ตอนที่ 10 http://pantip.com/topic/33503967
ตอนที่ 11 http://pantip.com/topic/33508917
ตอนที่ 12 http://pantip.com/topic/33513898
ตอนที่ 13 http://pantip.com/topic/33527340
ตอนที่ 14 http://pantip.com/topic/33532264
ตอนที่ 15 http://pantip.com/topic/33534637
ตอนที่ 16
คุณปานวาดลุกจากเก้าอี้ข้างๆบุตรชายที่ยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียงคนไข้ภายในห้องพักฟื้นพิเศษ หลังจากเธอรับประทานอาหารเย็นๆง่ายเสร็จแล้ว จึงหยิบจานไปล้างตรงอ่างล้างจาน พลางทอดถอนใจยามนึกถึงอาการของบุตรชายเธอ
หมอประจำตัวบอกชัดเจนว่าระบบต่างๆในร่างกายของอติภาพไม่ได้มีปัญหา แต่เรื่องที่ว่าทำไมไม่ฟื้นเสียทีนั้น หมอก็ไม่สามารถให้เหตุผลได้ คงต้องรอปาฏิหาริย์เกิดขึ้นจริงๆ
คุณปานวาด พาร่างอันผอมแห้งเพราะพักผ่อนรวมถึงกินอาหารไม่ค่อยลงเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา เมื่อมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกเงาก็เกิดคำถามทุกครั้งว่า ... จากผู้หญิงที่เคยแต่งหน้าแต่งตัวสวยเสมอๆ ทั้งๆที่วัยก็ไม่น้อย เป็นย่าเป็ยยายคนได้แล้ว ในวันนี้กลับปล่อยเนื้อปล่อยตัว ไม่ต้องพูดถึงเครื่องสำอางที่เธอชอบซื้อหา เครื่องบำรุงผิวยังไม่แตะมาเป็นเวลาเกือบปี นับตั้งแต่อติภาพประสบอุบัติเหตุครานั้น
ไม่มีสัญญาณบอกเหตุก่อนหน้าเลยว่า อติภาพที่เป็นเด็กดีของเธอ เชื่อฟังเธอทุกอย่าง ไม่เคยแม้แต่สักครั้งที่จะทำให้ผิดหวัง จะไปขับรถชนเข้ากับเสาไฟฟ้าในคืนนั้น ในเมื่อเช้าวันนั้นเขายังร่าเริง จนไม่คิดว่ามียารักษาโรคซึมเศร้ามากมายที่เธอเจอในห้องนอนของลูกชายตอนที่เข้าไปเก็บของเพื่อนำมาโรงพยาบาลในตอนที่รู้แล้วว่า อติภาพคงต้องพักฟื้นอีกนานกว่าจะได้กลับบ้าน ซึ่งสอดคล้องกับภาพวงจรปิดที่ได้เห็น อติอภาพตั้งใจขับพุ่งชนเสาไฟฟ้าอย่างตั้งใจ!
หัวใจแม่แทบสลาย ... ยิ่งอ่านสมุดบันทึกเล่มหนา แม้แต่ละหน้าจะเขียนเพียงคำสั้นๆ แต่ก็หลายหนาจนเธอดูแล้วอติภาพคงเขียนมาไม่ต่ำกว่าสี่ถึงห้าปี ว่าอติภาพไม่มีความสุขกับการมีชีวิตอยู่ คุณปานวาดก็ยิ่งปวดใจ ร้องไห้ และเศร้าซึมจนร่างกายผ่ายผอม
ตรัย สามีของเธอเพิ่งมารู้เรื่องทั้งหมดหลังจากที่อติภาพไม่ฟื้น เขาถึงกับเสียศูนย์ไปพักหนึ่ง แต่ ... แม้ว่าสามีของเธอจะเจ็บปวดแค่ไหน ความเป็นหัวหน้าครอบครัว รวมถึงเจ้าของบริษัทฯ ทำให้ตรัยมักจะเข้มแข็งเสียแทบไม่แสดงออกว่าเขาเครียดและเสียใจมากมายแค่ไหน จนอธิติยา ลูกสาวคนโตตัดสินใจที่จะเป็นฝ่ายดูแลตรัยแทนปานวาดที่ต้องดูแลอติภาพทุกๆวัน
แทบไม่มีใครสังเกตอาการป่วยทางใจของอติภาพออกสักคน อติภาพเองก็คงไม่คิดจะพูดออกมาเพราะทั้งตรัย และปานวาดค่อนข้างเข้มงวด จนอติภาพไม่กล้าแสดงออกถึงความอ่อนแอที่เขามี อติภาพไม่ได้สนิทกับใครสักคนในครอบครัว
เขายังคงเรียนเก่ง และใช้ชีวิตอย่างที่เธอและตรัยอยากให้เป็น โดยไม่คิดเลยว่าทางเดินชีวิตที่ตรัยและปานวาดร่วมกันปูให้ลูกชายเดินนั้น มันจะย้อนกลับมากดดันตัวอติภาพมากมายแค่ไหน
... ทางเดินชีวิตที่ดีพร้อม เปรียบเหมือนพรมนุ่มราคาแพที่เธอคิดมาตลอดว่าดีที่สุดสำหรับอติภาพ กลับกลายเป็นหนามแหลมคม ซึ่งพอถึงวันหนึ่งเขาคงเจ็บและทนไม่ไหว และทำเรื่องโง่ๆแบบนั้นไป
ในเช้าวันเกิดเหตุ อธิติยาเล่าว่าอติภาพโดนบิดาตำหนิค่อนข้างรุนแรง ผิดหวัง กับผลงานที่อติภาพพยายามแก้ไขหลายครั้งแต่ก็ไม่ผ่านบิดาเสียที
“ขนาดโปรเจ็คเด็กมหาวิทยาลัยยังดีกว่าที่แกคิดเลยนะ!”
เธอค่อนข้างมั่นใจว่า ... นั่นคงเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่อติภาพมี
ปานวาดรองน้ำใส่มือล้างหน้า เพื่อล้างน้ำตาออกจากใบหน้า ก่อนจะเดินกลับไปนั่งข้างๆเตียงบุตรชายอีกครั้ง พอหย่อนตัวลงนั่งได้ไม่นาน ดวงตาที่อ่อนล้าพลันเบิกโตเมื่อเห็นว่าดวงตาของอติภาพเปิดขึ้น มือที่วางอยู่ข้างตัวเขาก็ขยับเบาๆ
“ตาภาพ! ภาพลูกแม่ ...” ปานวาดลุกขึ้นมา เห็นบุตรชายกรอกตามองเธอ แม้เขาจะยังมีอาการไม่รับรู้อะไร ... แต่แค่เขาลืมตาได้ เธอยิ้มออกมาอย่างดีใจที่สุด แล้วรีบหันไปกดอินเตอร์คอมพ์ข้างๆเตียงคนไข้ เพื่อเรียกให้แพทย์และพยาบาลมาดู
ภายในโรงพยาบาลเดียวกัน ...
ใกล้รุ่งขยับตัว และลืมตาเมื่อได้สติ ทำให้รัตติดาราและศตภัทร พร้อมทั้งศตายุลุกเข้าไปดูใกล้ๆเตียงที่ตั้งอยู่กลางห้อง
เมื่อสองชั่วโมงก่อน รัตติดารารู้จากเทวดาหนุ่มว่าใกล้รุ่งได้รับบาดเจ็บจากการถูกโจรจี้ชิงทรัพย์ แต่โชคดีมีผู้ใจดีมาช่วยทัน คนคนนั้นได้โทรศัพท์บอก หมอวิศรุต คนสนิทของใกล้รุ่งให้ได้รู้ เขาไปรับตัวมารักษาได้ทันท่วงที โชคดีโรงพยาบาลที่เขาประจำการอยู่นั้นอยู่ใกล้ๆกับที่เกิดเหตุมาก ซึ่งพอหมอวิศรุตไปถึงที่ก็พบเพียงหญิงสาวสลบอยู่เพียงลำพัง ไม่มีเงาของคนใจดีที่ช่วยเธอไว้อยู่แถวนั้นเลย
“ฟ้า ... ฟ้าเป็นไงบ้าง" รัตติดาราถามอย่างร้อนใจ
ทันทีที่พอทราบข่าวก็รีบโทรศัพท์บอกศตภัทร และรีบมาพบใกล้รุ่งที่โรงพยาบาล รัตติดาราทั้งตกใจ และเป็นห่วงเพื่อนสาวคนสนิทมาก จะว่าไปแล้วนอกจากศตายุ ใกล้รุ่งก็คือเพื่อนที่เธอสนิทที่สุด
ร่างบางบนเตียงพยายามจับภาพที่ค่อนข้างพร่ามัว จนต้องหลับตาลงอีกครั้ง พอลืมตาก็เห็นว่ารัตติดารากำลังมองเธออย่างเป็นห่วง หันมองรอบๆเข้าใจได้ทันทีว่าเธออยู่ในห้องพักฟื้นโรงพยาบาลแห่งใดแห่งหนึ่ง
“เร ... ฟ้ากลัวมากเลย มันจะทำร้ายฟ้า" ใกล้รุ่งนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอก็ร้อนรนพูดออกมา ตัวของเธอสั่นเทาวาหากตอนนั้นเธอเกิดถูกโจรทำร้ายขึ้นมา
“ฟ้า ฟ้าไม่ต้องกลัวแล้วนะ ฟ้าปลอดภัยแล้ว" รัตติดาราบอกเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พร้อมกับจับมือคนเสียขวัญไว้แน่น
“โจรถูกจับแล้ว ... เดี๋ยวพรุ่งนี้ตำรวจเขาจะมานะครับ สบายใจได้นะครับคุณฟ้า" ศตภัทรเสริม เขาเองที่เป็นหัวหน้างานของใกล้รุ่ง ก็ห่วงหญิงสาวด้วยเช่นกัน
ใกล้รุ่งรู้สึกปวดที่หัว พอยกมือขึ้นจับส่วนที่เธอได้รับการกระทบกระเทือน สัมผัสผ้าปิดแผลก็รู้ว่าหน้าผากเธอคงแตกจากที่โดนผลักไปชนกำแพงก่อนที่เธอจะสลบไป
“... จริงสิ ก่อนฟ้าสลบไป ฟ้าเห็นคุณอติภาพ เขาล่ะ เขาอยู่ไหนเหรอคะ" ดวงตาเรียวโตวูบไหวเมื่อถามถึงวิญญาณชายหนุ่ม เธอจำได้ว่าเห็นเขาก่อนที่เธอจะสลบไป เป็นอีกครั้งที่เขา ... มาช่วยเธอ
รัตติดาราทำหน้าลำบากใจขึ้นมาทันทีเมื่อถูกถาม เหลือบมองศตายุ และศตภัทรที่ยืนอยู่ข้างๆ แล้วต้องตัดสินใจพูดออกมา
“ฟ้า วิญญาณคุณอติภาพไม่อยู่แล้วล่ะ คุณศตายุบอกว่าเขากลับร่างแล้ว"
ใกล้รุ่งยิ้มออกมาทันทีที่ได้ยิน
“จริงเหรอ ดีจัง ... แล้วทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นกันด้วยละคะ"
ใกล้รุ่งคิดว่านี่เป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่เธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนเล่า และรอบข้างกลับทำหน้ากังวลมากกว่า ทำให้รัตติดาราเม้มปากแน่น ลำบากใจที่จะต้องพูด ศตภัทรบีบไหล่คนตัวเล็กเบาๆ พยักหน้าให้กำลังใจเพื่อบอกว่าเธอควรจะต้องบอกให้ใกล้รุ่งฟัง ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ใกล้รุ่งก็ต้องรู้อยู่ดี
“ฟ้า ... คุณศตายุบอกว่า ความทรงจำตอนที่เขาเป็นวิญญาณอาจจะหายไปหมด แปลว่า เขาอาจจะจำพวกเราไม่ได้เลย ..."
ได้ยินแล้ว หยดน้ำตาไหลออกจากดวงตาเรียวสวย ร่วงหล่นลงบนหมอนที่เจ้าตัวนอนหนุนอยู่ แต่ใกล้รุ่งกลับระบายรอยยิ้มยินดีออกมาบนใบหน้าซีดขาว
“ไม่เป็นไรหรอก ... ดีแล้วล่ะ เขาฟื้นก็ดีแล้ว"
ทั้งๆที่คิดว่าเธอจะพูดมันออกไปง่ายๆ แต่ทำไมเสียงของเธอถึงได้แหบแห้ง และสั่นไปทั้งริมฝีปากแบบนี้ รู้สึกถึงน้ำอุ่นๆที่ไหลล้นจากดวงตา หัวใจของเธอคล้ายถูกมือหนาของใครบางคนบีบแน่นจนถึงกับสะอึกสะอื้นออกมา
“ฟ้า ...” รัตติดาราบีบมือคนบนเตียงแน่นกว่าเดิม เห็นน้ำตาที่ไหลรินไม่หยุดก็สงสารจับใจ เพราะคนตัวเล็กรับรู้มาตลอดว่าใกล้รุ่งรู้สึกอย่างไรกับอติภาพ มันไม่มีทางหรอกที่จะไม่เป็นอะไร...ที่ได้ฟังเรื่องนี้
“ฟ้าควรดีใจใช่ไหมเร ... ฟ้าควรดีใจสิ แต่ว่าฟ้า...” ใกล้รุ่งถามเพื่อให้เพื่อนสาวช่วยย้ำว่าเธอควรจะยินดี ไม่ใช่มาร้องไห้แบบนี้เสียหน่อย หากว่าเธอก็ไม่สามารถกลั้นความเสียใจมากมายกับการลาจาก ทั้งที่ยังไม่ได้พูดลากันดีๆสักคำ ใกล้รุ่งไม่แข็งขืนเมื่อเพื่อนสนิทรั้งเข้าไปกอดแน่น
“ร้องออกมาเถอะฟ้า เรจะอยู่กับฟ้านะ"
ได้ฟังน้ำเสียงอ่อนโยนจากเพื่อนตัวเล็ก การพยายามกลั้นก้อนสะอื้นในอกก็พังลง ใกล้รุ่งถึงกับร้องไห้ออกมาเสียงดัง เจ็บปวดจนต้องกดแน่นๆที่อก ... จากที่เคยคิดว่าเผื่อใจไว้แล้วถ้าหากจะต้องกลับไปอยู่อย่างเงียบเหงาคนเดียวอีกครั้งหลังจากเขาฟื้น เพราะเขาคงจะต้องกลับไปใช้ชีวิตในสังคมของเขา ... แต่พอได้ยินแบบนี้เธอกลับทำใจให้ยอมรับไม่ได้เลยว่าไม่มีเขาอยู่ข้างๆเธออีก ...
... แม้กระทั่งในความทรงจำ เขาก็ไม่มีที่ให้เธอยืน ...
+ มีต่อ +