*~.สายลม.~*
๏ เสียงลมสูบลูบกายให้สะท้าน
ก้องกังวานบางครั้งได้ฟังเสียง
บางครั้งสั้นบางครั้งยาวสืบสาวเพียง
เพื่อหล่อเลี้ยงกายขันธ์อยู่มั่นคง
๏ เมื่อยืดยาวเข้าร่างกางขยาย
กำลังกายต่อเติมเสริมแรงส่ง
เย็นสดชื่นยามเข้าสูบสาวลง
ก่อนปลดปลงวูบดับลับหายไป
๏ หยุดอยู่เพียงชั่วขณะผละจากร่าง
ย้อนกลับทางเดิมนั่นพลันเลื่อนไหล
ร่างเคยพองก่อนนั้นซูบทันใด
พร้อมอิ่มอุ่นธาตุไฟเคล้าสายลม
๏ ยามผันออกอุ่นร้อนกว่าตอนเข้า
ด้วยคลุกเคล้าธาตุไฟข้างในห่ม
ก่อนออกมาคงเลี้ยวท่องเที่ยวชม
จึงเพาะบ่มผูกญาติกับธาตุไฟ
๏ เมื่อผันออกจนสุดหยุดเพียงครู่
ก็พรั่งพรูสืบสาวเข้ามาใหม่
ขณะเข้าดวงจิตคิดสิ่งใด
ขณะออกคิดใหม่หรือไรกัน
๏ มีความทุกข์หรือสุขสมเมื่อลมเข้า
สติเฝ้าบ้างไหมที่กายขันธ์
เมื่อลมออกสุขเศร้ารู้เท่าทัน
สติมั่นหรือหลงลืมวงกาย
๏ ชีวิตเพียงลมอยู่คู่กับร่าง
หากลมร้างธาตุแยกแตกสลาย
ลมยังอยู่ชีพยังรอดมิวอดวาย
ตราบลมท้ายที่สุดจึงหยุดยง
๏ แต่บุคคลฤๅไฉนไยทิ้งขว้าง
สติร้างจากลมนิยมหลง
ทั้งที่หวงลมนักอยากมั่นคง
กลับมิส่งดวงจิตพิจารณา
๏ ทอดทิ้งลมคือทิ้งร่างดุจขว้างทิ้ง
เพราะลมสิงกายจึงอยู่คู่แผ่นหล้า
แม้ลมนี้ยังลืมได้ไร้ราคา
ไฉนกล้ากล่าวได้รักใครจริง
๏ เสียงลมสูบลูบร่างยังเข้าออก
มินานดอกจักสิ้นสุดหยุดทุกสิ่ง
ลมยังอยู่โอกาสยังพาดอิง
หากทอดทิ้งย่อมไร้ความหมายคน ๚ะ๛
*~.สายลม.~*
๏ เสียงลมสูบลูบกายให้สะท้าน
ก้องกังวานบางครั้งได้ฟังเสียง
บางครั้งสั้นบางครั้งยาวสืบสาวเพียง
เพื่อหล่อเลี้ยงกายขันธ์อยู่มั่นคง
๏ เมื่อยืดยาวเข้าร่างกางขยาย
กำลังกายต่อเติมเสริมแรงส่ง
เย็นสดชื่นยามเข้าสูบสาวลง
ก่อนปลดปลงวูบดับลับหายไป
๏ หยุดอยู่เพียงชั่วขณะผละจากร่าง
ย้อนกลับทางเดิมนั่นพลันเลื่อนไหล
ร่างเคยพองก่อนนั้นซูบทันใด
พร้อมอิ่มอุ่นธาตุไฟเคล้าสายลม
๏ ยามผันออกอุ่นร้อนกว่าตอนเข้า
ด้วยคลุกเคล้าธาตุไฟข้างในห่ม
ก่อนออกมาคงเลี้ยวท่องเที่ยวชม
จึงเพาะบ่มผูกญาติกับธาตุไฟ
๏ เมื่อผันออกจนสุดหยุดเพียงครู่
ก็พรั่งพรูสืบสาวเข้ามาใหม่
ขณะเข้าดวงจิตคิดสิ่งใด
ขณะออกคิดใหม่หรือไรกัน
๏ มีความทุกข์หรือสุขสมเมื่อลมเข้า
สติเฝ้าบ้างไหมที่กายขันธ์
เมื่อลมออกสุขเศร้ารู้เท่าทัน
สติมั่นหรือหลงลืมวงกาย
๏ ชีวิตเพียงลมอยู่คู่กับร่าง
หากลมร้างธาตุแยกแตกสลาย
ลมยังอยู่ชีพยังรอดมิวอดวาย
ตราบลมท้ายที่สุดจึงหยุดยง
๏ แต่บุคคลฤๅไฉนไยทิ้งขว้าง
สติร้างจากลมนิยมหลง
ทั้งที่หวงลมนักอยากมั่นคง
กลับมิส่งดวงจิตพิจารณา
๏ ทอดทิ้งลมคือทิ้งร่างดุจขว้างทิ้ง
เพราะลมสิงกายจึงอยู่คู่แผ่นหล้า
แม้ลมนี้ยังลืมได้ไร้ราคา
ไฉนกล้ากล่าวได้รักใครจริง
๏ เสียงลมสูบลูบร่างยังเข้าออก
มินานดอกจักสิ้นสุดหยุดทุกสิ่ง
ลมยังอยู่โอกาสยังพาดอิง
หากทอดทิ้งย่อมไร้ความหมายคน ๚ะ๛