สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
จากประสบการ์ณที่ทางบ้านขายข้าวแกงมานะคะ เราพอจะช่วยคุณตอบได้ค่ะ
เราว่าค่าเช่าตึกที่ทำเลดีๆ เดือนนึงก็เป็นหมื่นแล้วค่ะ และส่วนมากจะให้เช่าครึ่งปี
และจ่ายล่วงหน้าสามเดือนค่ะ นั่นก็คือ ต้องจ่านสามหมื่นบาทล่วงหน้านั่นเอง
ยังไม่นับค่าลงเครื่องดื่มต่างๆ ค่าอุปกรณ์ในร้าน ค่าโต๊ะเก้าอี้ ค่าตู้อาหาร ค่าจานชามช้อนส้อม
ที่ใส่เครื่องปรุง ใส่ทิชชู่ ใส่ช้อนตามโต๊ะ ค่าตกแต่งร้าน และค่าดูแลในแต่ละเดือนนะคะ
ใหม่ๆที่บ้านเริ่มขายก็หมดไปเป็นแสนและเงินที่ได้ก็ไม่ค่อยได้กำไรเท่าไหร่ด้วยค่ะ
งั้นเราก็ขอสรุปความสำคัญคร่าวๆดังนี้ค่ะ
1. ทำเลเป็นสิ่งสำคัญมาก ถึงมากที่สุดค่ะในการทำร้านอาหาร
ทำอาหารให้อร่อยอลังการแค่ไหน ถ้าไม่ได้ทำเลทองนี่ก็เท่ากันติดลบไปเลยค่ะ
อย่างบ้านเราเคยไปเปิดขายข้างร้านอาหารใต้ที่ขายมาสิบปี
กลายเป็นว่าร้านเราไม่อยู่ในสายตาไปเลย
ทุกคนที่เดินมาก็จะมุ่งไปหาร้านนี้ โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีร้านเราอยู่ข้างๆ
**ถ้าเราแนะนำนะคะ ไปขายตามตลาดนัดดีกว่าค่ะ ค่าที่ถูกกว่ามาก
จ่ายรายวันด้วย คนเดินเยอะด้วยค่ะ** ถ้าขายดีจะขยับขายทีหลังก็สบายเลยค่ะ
2. กลุ่มเป้าหมาย เป็นอีกสิ่งที่สำคัญ
บ้านเราเคยไปขายแถวๆโซนที่มีแต่กลุ่มคนระดับคนทำงานหนัก
เค้าไม่ยอมเข้าร้านเราค่ะ เค้าบอก มันดูสะอาดสะอ้านและดูเรียบร้อยเกินไป
เกรงว่าอาหารจะไม่ถูกปาก เพราะคนทำงานใช้แรงกายมันจะกินอาหารเผ็ดๆ
3. ฝีมือและความเร็วในการทำอาหาร
เป็นสิ่งที่สำคัญมากค่ะ ว่ามีฝีมือในการทำอาหารไหม อาหารบางอย่างต้องใช้ประสบการณ์ถึงจะทำได้อร่อย
เช่น ผัดขิง บางคนทำไม่เก่ง รสชาตจะออกมาเหมือนสบู่เลยค่ะ
และการกะขนาดอาหารก็สำคัญนะคะ เพราะเราต้องกะปริมาณอาหารที่จะทำให้พอดีกับความต้องการ
ถ้าทำมากไปจนเหลือเบะบะ จะเอามาขายซ้ำมันก็น่าเกลียดและไม่ถูกอนามัย
บ่อยครั้งที่ต้องหอบกลับไปทานเองที่บ้านเพราะเหลือค่ะ
ที่สำคัญรสชาติก็ต้องถูกปากกลุ่มเป้าหมายของเราด้วยค่ะ
4. ความน่าทานของอาหาร
การตกแต่งคือสิ่งที่จะทำให้ลูกค้าสนใจค่ะ เช่นหมูทอดกระเทียมควรโรยด้วยกระเทียมและผักชีให้สวยงาม
อย่าไปงกผัก หรืออย่าคิดว่าลูกค้าอาจจะไม่ทาน แต่การนำเสนแจะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าอาหารน่าทานมากขึ้น
ไม่ใช่ว่าขายแกงเขียวหวาน แต่ไม่โรยใบโหระพา กับพริกแดงเพิ่มเพราะคิดว่าใส่ไปในแกงแล้ว
แบบนี้เวลาเทใส่ถามจะไม่ดูน่ากินค่ะ
5. ภาพลักษณ์ของคนขาย
ตอนที่บ้านเราขาย เรากับน้องสาวเป็นคนทำอาหารค่ะ แล้วให้คุณแม่ขาย
เพราะถ้าเราสองคนไปขาย คนจะรู้ว่าเราทำ แล้วก็ไม่อยากทาน
ด้วยความที่ตอนนั้นเราเรียนมหาวิทยาลัย เคยไปขายแล้วดูไม่น่าเชื่อถือว่าจะอร่อยหรือเปล่า
เลยเปลี่ยนให้คุณแม่ขาย ปรากฏคนกล้าซื้อมากขึ้นค่ะ
6. พนักงานในร้าน
จำเป็นจะต้องมีคนช่วยล้างจาน และคนเสิรฟ์นะคะ
เพราะบางคนพอลูกค้ามาเยอะๆ เราจะรับมือไม่ไหวค่ะ
สมมติมาห้าคน สั่งอาหารราดข้าวคนละสองอย่าง เราอาจะสับสนได้
ควรให้คนเสิรฟ์นี่แหละค่ะไปช่วยจดเมนูอาหาร จะได้ไม่สับสนและรอนาน
ส่วนการล้างจาน เรา น้องสาว และแม่ช่วยกันล้างค่ะ ประหยัดแต่เหนื่อยมาก
7. ความสะอาดในร้าน
ก็สำคัญนะคะ ต้องเช็ดโต๊ะทุกครั้งที่ลูกค้าทานเสร็จ และเก็บเศษอาหารลงจากโต๊ะ
ถึงต้องมีพนักงานเสิรฟ์ไงละคะ มาช่วยในขณะที่เรากำลังตักอาหารอยู่นั่นเอง
และที่สำคัญนะคะต้องลงมือทำอาหารเอง ไปขายเองทุกวัน
เรื่องเงินเรื่องทองไม่เข้าใครออกใครค่ะ ไปคุมเองดีกว่าสบายใจ
ดีกว่าไว้ใจคนอ่นแล้วพอมีปัญหาขึ้นมาจะมองหน้ากันไม่ติด
เพราะเคยเจอมาแล้วค่ะ แอบอมเงินนั่นเอง เสียความรู้สึกไปตามๆกัน
มองหน้าไม่สนิทใจทุกวันนี้
หวังว่าที่เราแนะนำไปคงเป็นประโยชน์ได้ ไม่มากก็น้อยนะคะ
เราว่าค่าเช่าตึกที่ทำเลดีๆ เดือนนึงก็เป็นหมื่นแล้วค่ะ และส่วนมากจะให้เช่าครึ่งปี
และจ่ายล่วงหน้าสามเดือนค่ะ นั่นก็คือ ต้องจ่านสามหมื่นบาทล่วงหน้านั่นเอง
ยังไม่นับค่าลงเครื่องดื่มต่างๆ ค่าอุปกรณ์ในร้าน ค่าโต๊ะเก้าอี้ ค่าตู้อาหาร ค่าจานชามช้อนส้อม
ที่ใส่เครื่องปรุง ใส่ทิชชู่ ใส่ช้อนตามโต๊ะ ค่าตกแต่งร้าน และค่าดูแลในแต่ละเดือนนะคะ
ใหม่ๆที่บ้านเริ่มขายก็หมดไปเป็นแสนและเงินที่ได้ก็ไม่ค่อยได้กำไรเท่าไหร่ด้วยค่ะ
งั้นเราก็ขอสรุปความสำคัญคร่าวๆดังนี้ค่ะ
1. ทำเลเป็นสิ่งสำคัญมาก ถึงมากที่สุดค่ะในการทำร้านอาหาร
ทำอาหารให้อร่อยอลังการแค่ไหน ถ้าไม่ได้ทำเลทองนี่ก็เท่ากันติดลบไปเลยค่ะ
อย่างบ้านเราเคยไปเปิดขายข้างร้านอาหารใต้ที่ขายมาสิบปี
กลายเป็นว่าร้านเราไม่อยู่ในสายตาไปเลย
ทุกคนที่เดินมาก็จะมุ่งไปหาร้านนี้ โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีร้านเราอยู่ข้างๆ
**ถ้าเราแนะนำนะคะ ไปขายตามตลาดนัดดีกว่าค่ะ ค่าที่ถูกกว่ามาก
จ่ายรายวันด้วย คนเดินเยอะด้วยค่ะ** ถ้าขายดีจะขยับขายทีหลังก็สบายเลยค่ะ
2. กลุ่มเป้าหมาย เป็นอีกสิ่งที่สำคัญ
บ้านเราเคยไปขายแถวๆโซนที่มีแต่กลุ่มคนระดับคนทำงานหนัก
เค้าไม่ยอมเข้าร้านเราค่ะ เค้าบอก มันดูสะอาดสะอ้านและดูเรียบร้อยเกินไป
เกรงว่าอาหารจะไม่ถูกปาก เพราะคนทำงานใช้แรงกายมันจะกินอาหารเผ็ดๆ
3. ฝีมือและความเร็วในการทำอาหาร
เป็นสิ่งที่สำคัญมากค่ะ ว่ามีฝีมือในการทำอาหารไหม อาหารบางอย่างต้องใช้ประสบการณ์ถึงจะทำได้อร่อย
เช่น ผัดขิง บางคนทำไม่เก่ง รสชาตจะออกมาเหมือนสบู่เลยค่ะ
และการกะขนาดอาหารก็สำคัญนะคะ เพราะเราต้องกะปริมาณอาหารที่จะทำให้พอดีกับความต้องการ
ถ้าทำมากไปจนเหลือเบะบะ จะเอามาขายซ้ำมันก็น่าเกลียดและไม่ถูกอนามัย
บ่อยครั้งที่ต้องหอบกลับไปทานเองที่บ้านเพราะเหลือค่ะ
ที่สำคัญรสชาติก็ต้องถูกปากกลุ่มเป้าหมายของเราด้วยค่ะ
4. ความน่าทานของอาหาร
การตกแต่งคือสิ่งที่จะทำให้ลูกค้าสนใจค่ะ เช่นหมูทอดกระเทียมควรโรยด้วยกระเทียมและผักชีให้สวยงาม
อย่าไปงกผัก หรืออย่าคิดว่าลูกค้าอาจจะไม่ทาน แต่การนำเสนแจะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าอาหารน่าทานมากขึ้น
ไม่ใช่ว่าขายแกงเขียวหวาน แต่ไม่โรยใบโหระพา กับพริกแดงเพิ่มเพราะคิดว่าใส่ไปในแกงแล้ว
แบบนี้เวลาเทใส่ถามจะไม่ดูน่ากินค่ะ
5. ภาพลักษณ์ของคนขาย
ตอนที่บ้านเราขาย เรากับน้องสาวเป็นคนทำอาหารค่ะ แล้วให้คุณแม่ขาย
เพราะถ้าเราสองคนไปขาย คนจะรู้ว่าเราทำ แล้วก็ไม่อยากทาน
ด้วยความที่ตอนนั้นเราเรียนมหาวิทยาลัย เคยไปขายแล้วดูไม่น่าเชื่อถือว่าจะอร่อยหรือเปล่า
เลยเปลี่ยนให้คุณแม่ขาย ปรากฏคนกล้าซื้อมากขึ้นค่ะ
6. พนักงานในร้าน
จำเป็นจะต้องมีคนช่วยล้างจาน และคนเสิรฟ์นะคะ
เพราะบางคนพอลูกค้ามาเยอะๆ เราจะรับมือไม่ไหวค่ะ
สมมติมาห้าคน สั่งอาหารราดข้าวคนละสองอย่าง เราอาจะสับสนได้
ควรให้คนเสิรฟ์นี่แหละค่ะไปช่วยจดเมนูอาหาร จะได้ไม่สับสนและรอนาน
ส่วนการล้างจาน เรา น้องสาว และแม่ช่วยกันล้างค่ะ ประหยัดแต่เหนื่อยมาก
7. ความสะอาดในร้าน
ก็สำคัญนะคะ ต้องเช็ดโต๊ะทุกครั้งที่ลูกค้าทานเสร็จ และเก็บเศษอาหารลงจากโต๊ะ
ถึงต้องมีพนักงานเสิรฟ์ไงละคะ มาช่วยในขณะที่เรากำลังตักอาหารอยู่นั่นเอง
และที่สำคัญนะคะต้องลงมือทำอาหารเอง ไปขายเองทุกวัน
เรื่องเงินเรื่องทองไม่เข้าใครออกใครค่ะ ไปคุมเองดีกว่าสบายใจ
ดีกว่าไว้ใจคนอ่นแล้วพอมีปัญหาขึ้นมาจะมองหน้ากันไม่ติด
เพราะเคยเจอมาแล้วค่ะ แอบอมเงินนั่นเอง เสียความรู้สึกไปตามๆกัน
มองหน้าไม่สนิทใจทุกวันนี้
หวังว่าที่เราแนะนำไปคงเป็นประโยชน์ได้ ไม่มากก็น้อยนะคะ
แสดงความคิดเห็น
แม่ขอร้องให้ออกจากงานมาเปิดร้านอาหาร หนักใจมาก
ตอนนี้ผมมีเรื่องหนักใจอยู่เรื่องนึงครับ คือแม่ขอร้องให้ออกจากงานประจำมาทำกิจการร้านอาหารเองครับ ตามปกติแม่กับผม แยกกันอยู่ครับพบมีงานประจำของผมและแม่ก็มีงานของแม่เช่นกัน แม่จะทำธุรกิจขายของซึ่งกำไรก็พอใช้ได้อยู่ แต่ตอนนี้แม่อยากย้ายมาอยู่ใกล้กันจึงอยากให้ผมมาทำธุรกิจกับแม่ โดยมีเงินต้นทุน 100,000 บาท คิดว่าจะเปิดร้านอาหารเล็กๆมีตกแค่ 4 ถึง 5 โต๊ะ ทำเลตรงนั้นมีโรงแรมชื่อดังใหญ่ๆ อยู่ 4 ถึง 5 โรงแรม แม่คิดว่า จะขายกับลูกค้าโรงแรมและชาวบ้านในละแวกนั้นเป็นร้านอาหารไทยและอาหารต่างชาติครับ ผมรบกวนขอแนวทางได้ไหมครับ ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนดี ฝีมืออาหารของผมมั่นใจว่าทำอร่อย แต่ผมไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี รบกวนชาวพันทิปช่วยชี้แนะด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ