คือว่าก่อนหน้านี้มีงานประจำค่ะ(ขอเรียกว่าที่ทำงาน1) แล้วมีความที่จะขอทุนเรียนต่อ ก็เลยขอลาออกจากที่ทำงาน1
มาหางานใหม่ที่เงินไม่เยอะก็ได้ แต่มีเวลาเตรียมตัว ลาออกง่าย(ที่ไม่ออกไปเลย เพราะต้องการใช้เงินอยู่นะคะ ต้องหางานซัพพอร์ต)
แล้ววันหนึ่งก็ได้งานใหม่อีกที่หนึ่ง
ตอนมาสมัครก็บอกไปแล้วว่า ถ้าทำงานที่นี่อาจจะทำไม่นาน เพราะเตรียมขอทุน อาจจะต้องไปช่วงเดือน 8-9 โดยประมาณ
พูดกันตรงๆนี่แหละ แล้วเค้าก็โอเคเราก็ไปออกเซ็นต์สัญญาออกที่ทำงาน1
ทำงานให้ตามสัญญาอีก30วัน และรับเงินเดือนเดือนสุดท้าย
แล้วมาเริ่มต่อที่ทำงาน2ที่ได้สมัครไว้ เงินเดือน 15,000
ซึ่งเราก็มาทำงานตามปกติ รับผิดชอบงานของตัวเองไปเรื่อยๆ ไม่มีปัญหาอะไร
จนตอนนี้ก็ติดทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ระยะเวลาเริ่มเรียนคือกลางเดือนกันยายน
มาวันหนึ่ง คือกำลังพูดเรื่องงานนี้ใช้ระยะเวลาครึ่งปีนะ...เราก็เฮ้ยในใจ
พูดขึ้นมาชัดๆเลยว่า "แต่เดี๋ยวเดือนกันยาสิงหา ก็จะไม่อยู่แล้วนะ ได้ทุนแล้วนะ"
หัวหน้าก็ไม่พูดอะไรบอกว่า "ไม่เป็นไร ทำไปก่อน"
มาทำอีกวันหนึ่ง แฟนหัวหน้าเรียกไปคุย (ย่อๆนะคะ)
"เราต้องช่วยกันแก้ปัญหานะ เพราะงานนี้มีผลกระทบหลายอย่าง เรารับเงินมาแล้วบินกลางคันไม่ได้..."
เราก็ "ค่ะ เข้าใจ แต่ตอนแรกก็บอกไปแล้วว่าอาจจะไปเรียนต่อ เพราะขอทุน"
"ถ้างั้นช่วยคิดหน่อยว่าจะทำยังไงดี"
เราก็ (อาว มันไม่ใช่หน้าที่อิฉันคิดปะคะ ก็บอกเท่าที่คิดได้) "ถ้างั้นเปลี่ยนเป็นเพิ่มรอบ หรือเพิ่มเวลาต่อรอบ จะได้เสร็จเร็วขึ้น"
"ไม่ได้ เพราะฝั่งนู้นเค้าก็ไม่มีเวลา ไม่สะดวก ผมลองคิดมาหมดแล้วต้องทำไงดี)
เราก็ (เอ๋า เออ แล้วจะเอาไง ให้ทิ้งทุนก็ไม่เอาหรอก เริ่มไม่ไว้ใจ)
"เอางี้ได้มั้ย หาเพื่อนมาแทน ยังไงก็ต้องหาคนมาแทน เพราะยังไงเราก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน"
เราก็ "ได้ค่ะได้ แต่ถ้าหาไม่ได้จะทำยังไงอะคะ"
"ยังไงก็ได้ แต่เราก็รับเงินมาแล้ว เราต้องรับผิดชอบ"
เราก็ "แต่ตอนเริ่มก็บอกไปแล้วนะคะว่าอาจจะได้ทุนแล้วทำได้แค่เดือนกันยา"
"นั่นไง ก็ตอนนั้นพูดว่า
อาจจะ เราก็เลยต้องคิดว่าไม่ได้ไว้ก่อน เพราะมันยาก"
เราก็ (เฮ้ย ต้องคิดให้ตัวเองเเย่ไว้ก่อนไม่ใช่หรือไง ตีความผิดมหัน ที่หนูออกจากงานเก่าที่มั่นคงมาเพราะคิดว่าจะได้ทุนไง มาคิดว่าจะไม่ได้ได้ไงวะ นี่เราลงทุนหนักนะ )
"เดี๋ยวจะลองหาดูนะคะ ได้ไม่ได้ก็อีกเรื่อง"
"อันนี้ผมก็พูดตรงๆนะ ถ้ามีคนมาแทน เค้าต้องมาทำพร้อมคุณ1เดือน โดยที่เค้าไม่ได้เงินเดือน"
เราก็ "อย่างนี้แล้วใครจะมาคะ?" (เงินเดือนก็ไม่ได้สูงมากอยู่แล้ว ใครจะมาทำเนี๊ยะ)
"เราต้องแฟร์ๆ ผมก็รับผิดชอบ เพราะผมรับเงินเค้ามาแล้ว คืนไปก็เสียชื่อ"
เราก็คิด (เอ๊า แล้วมันความผิดใครวะ? เรามีหน้าที่ทำงานที่เค้าจัดให้ ไปๆมาๆเป็นทั้งหมดกุต้องรับ?)
"ก่อนหน้านี้นะ มีอยู่ๆออกกลางคัน ผมไม่ให้เงินเดือน ผมถือว่าทำถูกต้อง"
เราก็ (ใช่ออกกลางคันไม่ให้ตังอะถูกต้อง แต่นี่บอกล่วงหน้าสามสี่เดือน ไม่ให้เงินเดือนมีเรื่องแน่)
เราก็ตอบว่า "ก็ถูกค่ะถ้าออกกลางคัน แต่ในสัญญาก็บอกว่าบอกล่วงหน้า 30 วันก็น่าจะโอเคมั้ยคะ"
"เราต้องแฟร์ๆกันนะ ผมให้เงินเดือนสองคนในตำแหน่งเดียวกันไม่ได้ แต่ต้องมาต่องานกัน1เดือน"
เราก็ว่า "งั้นจะลองหาดูค่ะ แต่ถ้าหาไม่ได้ขึ้นมา เพราะคนทั่วไปเวลาหางาน เค้าไม่ได้หางานเดียว ถ้าเดือนเเรกทำฟรี คงไม่มีใครทำ"
"ถ้าเค้าอยากได้งานที่มั่นคง ทนแค่เดือนเดียวเดือนต่อไปก็ได้เงินเต็มแล้ว ถ้าตอนนั้นหาไม่ได้
เราก็ต้องมาดูกันทีหลังว่าจะทำกันยังไงต่อ"
เราก็คิดถึงสเตตัสนี้ขึ้นมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ต้องจบปริญญาตรี ต้องบุคลิกภาพดี ต้องมีรถยนต์ส่วนตัวพร้อมใบขับขี่ ต้องพรีเซนต์งานเก่ง ต้องทำงานเป็นทีมได้ ต้องออกนอกสถานที่ได้ ต้องไปต่างจังหวัดได้ ต้องทำยอดได้ และ ต้องทำงานภายใต้แรงกดดันได้ ถามเงินเดือนเท่าไหร่ค๊ะ ? หมื่นสอง !!! พ่องสิคุณสมบัติมิสยูนิเวิร์สมากให้หมื่นสอง รู้ไหมว่ากูจะเรียนจบมาค่าเทอมเท่าไหร่ ? จะเอาบุคลิกภาพดี หน้าตาดี หมื่นสองยังไม่ได้ครึ่งนึงของค่าซิลิโคนจมูกกูเลยค่ะ ไหนจะโบท็อก เมโส ร้อยไหม ฟิลเลอร์ เลเซอร์ ไอพีแอล จะเอาทุนที่ไหนมาสวยให้ดู แล้วอีกอย่างรถกูก็เติมน้ำมัน ไม่ใช่น้ำบาดาล รู้จักไหม " น้ำมันเมืองไทย " ที่มันขึ้นราคาแพง
ๆ ขึ้นแล้ว ขึ้นอีก ประหนึ่งเป็นน้ำมันส่วนพิเศษ ที่กลั่นมาจากส่วนของซาก
ไดโนเสาร์ที่ทับถมกันหลายๆ
มาเป็นเวลากว่าหลายร้อยล้านปี อิดอก ไม่พอ !!! กูต้อง-ข้าวอีก ไม่ได้-หญ้า รู้จักไหม " ข้าวเมืองไทย " ที่มื้อละ 50 บาท เพราะแก๊สขึ้นแล้ว ขึ้นอีก สงสัยผลิตมาจากแก๊ส
ไดโนเสาร์เหมือนกัน เก็ทไหม ? แค่เงินเดือนก็กดดันแล้ว ยังจะให้กูทำงานภายใต้แรงกดดัน
อะไรอีก อิดอก ไม่ทำค่ะ !!! ถ้าจะประหยัดงบจ้างบุคลากรขนาดนี้ ปิดบริษัทแล้วไปทำเกษตรอินทรีย์กันไหม ? วิถีชีวิตพอเพียงไง แต่หมื่นสองกูไม่เพียงพอค่ะ อิดอก คุณภาพชีวิตในเมืองไทยโหดร้ายมากกกกกกก บอกเงินเดือนหมื่นห้า แต่ค่าครองชีพห้าหมื่น โชคดีที่กูเกิดเป็นตุ๊ด ไม่ต้องผุดลูก ผุดหลานให้ออกมาลำบากลำบน อิดอก ในน้ำไม่มีแล้วค่ะปลา มีแต่ตัว
ในนาก็มีข้าวค่ะ แต่เป็นข้าวเน่าหลุดจำนำ สู้กันต่อไปค่ะ ประชาชนแห่งดินแดนไทยแลนด์โอนลี่
ไดโนเสาร์ !!! นอนนนน
https://www.facebook.com/pikazzopiknik/posts/847419775275422
เราเลิกคิดไม่ได้ว่า
ก็สัญญาลาออกมันก็แจ้งล่วงหน้า30วันแล้วจบป้ะ
เราแค่เขียนใบลา แล้วทำต่ออีก30วัน เงินเดือนต้องได้
ทั้งหมดคือหน้าที่เรา หลังจากนั้นก็บ้ายบาย
ตอนนี้เราก็ช่วยหาคนให้ ได้คนที่ได้มา จะได้เงินหรือไม่ได้ไม่เกี่ยวกับเรา
แต่ถ้าหาคนไม่ได้ เราก็จะไปอยู่ดี นี่เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือป่าวคะ
เราเองก็เข้าจิตเข้าใจคนทำงานนะคะ 15,000ก็ไม่ได้เยอะอะไรเลยสำหรับคนในเมือง
แล้วถ้าเดือนสุดท้ายเค้าไม่ให้เงินเดือน ควรทำอย่างไรดีคะ มันเหมือนเอาเปรียบกันนะคะ
ดิฉันก็คิดว่ารับผิดชอบหน้าที่ตัวเองได้ดีแล้วทุกอย่าง เป็นเรื่องที่น่ารำคาญนะคะ มีสัญญาอยู่แล้วแท้ๆ
ดิฉันยอมคนง่ายนะคะถ้าเรื่องเล็กน้อย
แต่ถ้ารู้สึกโดนเอาเปรียบมากๆ เรื่องเล็กน้อยก็ไม่อยากจะยอม
ทำไงดีค่ะ เรื่องเกี่ยวกับจะลาออกจากที่ทำงานแล้วมีปัญหา
มาหางานใหม่ที่เงินไม่เยอะก็ได้ แต่มีเวลาเตรียมตัว ลาออกง่าย(ที่ไม่ออกไปเลย เพราะต้องการใช้เงินอยู่นะคะ ต้องหางานซัพพอร์ต)
แล้ววันหนึ่งก็ได้งานใหม่อีกที่หนึ่ง
ตอนมาสมัครก็บอกไปแล้วว่า ถ้าทำงานที่นี่อาจจะทำไม่นาน เพราะเตรียมขอทุน อาจจะต้องไปช่วงเดือน 8-9 โดยประมาณ
พูดกันตรงๆนี่แหละ แล้วเค้าก็โอเคเราก็ไปออกเซ็นต์สัญญาออกที่ทำงาน1
ทำงานให้ตามสัญญาอีก30วัน และรับเงินเดือนเดือนสุดท้าย
แล้วมาเริ่มต่อที่ทำงาน2ที่ได้สมัครไว้ เงินเดือน 15,000
ซึ่งเราก็มาทำงานตามปกติ รับผิดชอบงานของตัวเองไปเรื่อยๆ ไม่มีปัญหาอะไร
จนตอนนี้ก็ติดทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ระยะเวลาเริ่มเรียนคือกลางเดือนกันยายน
มาวันหนึ่ง คือกำลังพูดเรื่องงานนี้ใช้ระยะเวลาครึ่งปีนะ...เราก็เฮ้ยในใจ
พูดขึ้นมาชัดๆเลยว่า "แต่เดี๋ยวเดือนกันยาสิงหา ก็จะไม่อยู่แล้วนะ ได้ทุนแล้วนะ"
หัวหน้าก็ไม่พูดอะไรบอกว่า "ไม่เป็นไร ทำไปก่อน"
มาทำอีกวันหนึ่ง แฟนหัวหน้าเรียกไปคุย (ย่อๆนะคะ)
"เราต้องช่วยกันแก้ปัญหานะ เพราะงานนี้มีผลกระทบหลายอย่าง เรารับเงินมาแล้วบินกลางคันไม่ได้..."
เราก็ "ค่ะ เข้าใจ แต่ตอนแรกก็บอกไปแล้วว่าอาจจะไปเรียนต่อ เพราะขอทุน"
"ถ้างั้นช่วยคิดหน่อยว่าจะทำยังไงดี"
เราก็ (อาว มันไม่ใช่หน้าที่อิฉันคิดปะคะ ก็บอกเท่าที่คิดได้) "ถ้างั้นเปลี่ยนเป็นเพิ่มรอบ หรือเพิ่มเวลาต่อรอบ จะได้เสร็จเร็วขึ้น"
"ไม่ได้ เพราะฝั่งนู้นเค้าก็ไม่มีเวลา ไม่สะดวก ผมลองคิดมาหมดแล้วต้องทำไงดี)
เราก็ (เอ๋า เออ แล้วจะเอาไง ให้ทิ้งทุนก็ไม่เอาหรอก เริ่มไม่ไว้ใจ)
"เอางี้ได้มั้ย หาเพื่อนมาแทน ยังไงก็ต้องหาคนมาแทน เพราะยังไงเราก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน"
เราก็ "ได้ค่ะได้ แต่ถ้าหาไม่ได้จะทำยังไงอะคะ"
"ยังไงก็ได้ แต่เราก็รับเงินมาแล้ว เราต้องรับผิดชอบ"
เราก็ "แต่ตอนเริ่มก็บอกไปแล้วนะคะว่าอาจจะได้ทุนแล้วทำได้แค่เดือนกันยา"
"นั่นไง ก็ตอนนั้นพูดว่าอาจจะ เราก็เลยต้องคิดว่าไม่ได้ไว้ก่อน เพราะมันยาก"
เราก็ (เฮ้ย ต้องคิดให้ตัวเองเเย่ไว้ก่อนไม่ใช่หรือไง ตีความผิดมหัน ที่หนูออกจากงานเก่าที่มั่นคงมาเพราะคิดว่าจะได้ทุนไง มาคิดว่าจะไม่ได้ได้ไงวะ นี่เราลงทุนหนักนะ )
"เดี๋ยวจะลองหาดูนะคะ ได้ไม่ได้ก็อีกเรื่อง"
"อันนี้ผมก็พูดตรงๆนะ ถ้ามีคนมาแทน เค้าต้องมาทำพร้อมคุณ1เดือน โดยที่เค้าไม่ได้เงินเดือน"
เราก็ "อย่างนี้แล้วใครจะมาคะ?" (เงินเดือนก็ไม่ได้สูงมากอยู่แล้ว ใครจะมาทำเนี๊ยะ)
"เราต้องแฟร์ๆ ผมก็รับผิดชอบ เพราะผมรับเงินเค้ามาแล้ว คืนไปก็เสียชื่อ"
เราก็คิด (เอ๊า แล้วมันความผิดใครวะ? เรามีหน้าที่ทำงานที่เค้าจัดให้ ไปๆมาๆเป็นทั้งหมดกุต้องรับ?)
"ก่อนหน้านี้นะ มีอยู่ๆออกกลางคัน ผมไม่ให้เงินเดือน ผมถือว่าทำถูกต้อง"
เราก็ (ใช่ออกกลางคันไม่ให้ตังอะถูกต้อง แต่นี่บอกล่วงหน้าสามสี่เดือน ไม่ให้เงินเดือนมีเรื่องแน่)
เราก็ตอบว่า "ก็ถูกค่ะถ้าออกกลางคัน แต่ในสัญญาก็บอกว่าบอกล่วงหน้า 30 วันก็น่าจะโอเคมั้ยคะ"
"เราต้องแฟร์ๆกันนะ ผมให้เงินเดือนสองคนในตำแหน่งเดียวกันไม่ได้ แต่ต้องมาต่องานกัน1เดือน"
เราก็ว่า "งั้นจะลองหาดูค่ะ แต่ถ้าหาไม่ได้ขึ้นมา เพราะคนทั่วไปเวลาหางาน เค้าไม่ได้หางานเดียว ถ้าเดือนเเรกทำฟรี คงไม่มีใครทำ"
"ถ้าเค้าอยากได้งานที่มั่นคง ทนแค่เดือนเดียวเดือนต่อไปก็ได้เงินเต็มแล้ว ถ้าตอนนั้นหาไม่ได้ เราก็ต้องมาดูกันทีหลังว่าจะทำกันยังไงต่อ"
เราก็คิดถึงสเตตัสนี้ขึ้นมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราเลิกคิดไม่ได้ว่า
ก็สัญญาลาออกมันก็แจ้งล่วงหน้า30วันแล้วจบป้ะ
เราแค่เขียนใบลา แล้วทำต่ออีก30วัน เงินเดือนต้องได้
ทั้งหมดคือหน้าที่เรา หลังจากนั้นก็บ้ายบาย
ตอนนี้เราก็ช่วยหาคนให้ ได้คนที่ได้มา จะได้เงินหรือไม่ได้ไม่เกี่ยวกับเรา
แต่ถ้าหาคนไม่ได้ เราก็จะไปอยู่ดี นี่เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือป่าวคะ
เราเองก็เข้าจิตเข้าใจคนทำงานนะคะ 15,000ก็ไม่ได้เยอะอะไรเลยสำหรับคนในเมือง
แล้วถ้าเดือนสุดท้ายเค้าไม่ให้เงินเดือน ควรทำอย่างไรดีคะ มันเหมือนเอาเปรียบกันนะคะ
ดิฉันก็คิดว่ารับผิดชอบหน้าที่ตัวเองได้ดีแล้วทุกอย่าง เป็นเรื่องที่น่ารำคาญนะคะ มีสัญญาอยู่แล้วแท้ๆ
ดิฉันยอมคนง่ายนะคะถ้าเรื่องเล็กน้อย
แต่ถ้ารู้สึกโดนเอาเปรียบมากๆ เรื่องเล็กน้อยก็ไม่อยากจะยอม