รีวิวครั้งแรกนะครับ มีอะไรผิดพลาดผมก็ขออภัยด้วยครับ
Kyoto เป็นเมืองหลวงเก่าและเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศญี่ปุ่น ทั้งเมืองมีแต่วัดและศาลเจ้า ใครมาเที่ยวหลายๆวันแล้วเบื่อวัดเบื่อศาลเจ้า ลองแว้บออกมาจิบสาเก (ที่ขึ้นชื่อว่าอร่อยที่สุด) เรียนรู้วิธีทำพร้อมทั้งสามารถชมความงามของซากุระที่คลองข้างๆโรงสาเกนี้ได้นะครับ เราสามารถใช้เวลาประมาณครึ่งวันแวะมาได้ชิวๆเลย
อันนี้เป็น Website ของพิพิธภัณฑ์นะครับ ว่ามีอะไรให้ดูบ้าง
http://www.gekkeikan.co.jp/english/products/museum/
http://th.japantravel.com/view/%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%81-gekkeikan-museum-kyoto
สามารถเข้าไปดูได้เลย มีประวัติของโรงงาน กรรมวิธีการทำสาเกทั้งหมด โดยเสียค่าเข้าชม 300 เยน และได้รับสาเกขวดเล็กๆขวดหนึ่งเป็นของที่ระลึก ในรีวิวนี้ผมจะขอเริ่มตั้งแต่การเดินทางมาที่นี่ ส่วนเรื่องของพิพิธภัณฑ์ ก็ดูเอาในเวปได้เลยครับ มาถึง จ่ายค่าเข้าแล้วก็เดินตามนั้นได้ แต่ Highlight ของการมาเยี่ยมโรงงานนี้คือช่วงซากุระครับ ที่คลองข้างๆโรงงานจะมีการจัดเทศกาล “จิบสาเกชมดอกวากุระ” โดยมีโรงงานสาเกในละแวกนี้มาออกร้านร่วมกัน ริมคลอง และที่ Peak สุดๆคือมีบริการนั่งเรือชมบรรยากาศต้นซากุระที่ขึ้นเลียบคลองพร้อมทั้งบรรยายประวัติศาสตร์การเริ่มก่อตั้งชุมชนผลิตสาเกบริเวณนี้ (แต่คนพูดพูดญี่ปุ่นล้วนนะครับ 555) ฟังออกมั่งไม่ออกมั่ง เดาๆกันไป ดังนั้นในรีวิวนี้ผมจะเน้นที่บรรยากาศการล่องเรือ เรื่องพิพิธภัณฑ์ ก็ไปดูในเวปเอาก็ได้ เพราะผมยังไม่เคยเห็นใครคุยเรื่องล่องเรือข้างโรงสาเกมาก่อน (หรืออาจมีแต่ผมหาไม่เจอ) ถ้ามีความผิดพลาดประการใดก็สอบถามผมมาได้นะครับ
การเดินทาง
สามารถเดินทางได้สะดวกโดยใช้รถไฟ มีหลายสถานีรอบๆนี้ ตามรูปที่ผมแนบมา จะเห็นว่า หมายเลข 1. เป็น Gekkeikan Okura Sake Museum ซึ่งสามารถใช้ชื่อนี้ Search ใน Google Map ในมือถือได้เลยครับ เดินตามได้สะดวก ผมขออธิบายเรื่องสถานีและสายรถไฟดังนี้
- หมายเลข 2. สถานี Fushimi Momoyama และหมายเลข 3. สถานี Chushojima สองสถานีนี้เป็นของรถไฟสาย Keihan ซึ่งวิ่งมาจาก Osaka ใครที่มีแผนการเที่ยวโดยรถไฟสายนี้ก็เลือกใช้ได้ครับ จากรูปเหมือนสถานี Chushojima จะดูใกล้กว่า แต่ผมว่าสถานีหมายเลข 2 คือ Fushimi Momoyama เดินสะดวกกว่านะครับ และจากตัวสถานีไป Museum ก็มีร้านขายของ มีตลาดชุมชนเก่าๆให้เดินเล่นด้วยครับ ชื่อว่า Otetsuji เดินเล่นเสียตังค์ได้เพลินๆ
- หมายเลข 4. สถานี Momoyama Goryu-mae เป็นสถานีของรถไฟสาย Kintetsu ที่วิ่งระหว่าง Kyoto Station กับเมือง Nara สามารถขึ้นจากสถานีเกียวโตมาได้เลยครับ โดยเลือกรถไฟแบบ Local หรือ Express ก็ได้ ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีจากสถานี Kyoto ครับ
- หมายเลข 5. สถานี Momoyama เป็นของรถไฟ JR อันนี้เหมาะสำหรับคนที่ซื้อ JR Pass มาครับ นั่งมาจากสถานี Kyoto ก็ประมาณ 15 นาที ข้อเสียคือเดินไกลกว่าอันอื่นไปหน่อย
อย่างที่บอกไปว่าใช้รถไฟสายไหนก็ได้ตามสะดวก ถึงแล้วก็ Search หาแผนที่เดินตามได้เลยครับ
เมื่อมาถึง Gekkeikan Okura Sake Museum ก็ซื้อบัตรเข้าชมได้ ด้านในก็มีประวัติการตั้งชุมชนผลิตสาเกแถวๆนี้ มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ในการทำสาเก ผมขอข้ามอันนี้ไปนะครับ เข้าไปดูก็เห็นเอง มีรูปที่ผม Search มาไว้ให้ดูจากเวป
http://www.kyotoguide.com/ver2/thismonth/sake2013.html ครับ
รูปด้านหน้า Gekkeikan Okura Sake Museum
รูปด้านใน ที่เป็นอุปกรณ์ในการทำสาเก
และในนี้ก็มีให้ชิมสาเกได้ฟรีด้วยนะครับ อย่าพึ่งชิมจนเมาก่อนละกัน
มาถึง Highlight ที่ผมอยากนำเสนอ คือการชมซากุระบริเวณคลองรอบพิพิธภัณฑ์ และยังมีบริการนั่งเรือชมวิวทิวทัศน์รอบๆ มีคนบรรยายถึงประวัติการก่อตั้งชุมชนบริเวณนี้ (แต่เป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนนะครับ) โดยการล่องเรือจะมีเฉพาะช่วงซากุระบานเท่านั้น (ประมาณ 2 อาทิตย์/ปี ช่วงปลายมีนาคม-ต้นเมษายน)
คนที่อยากนั่งเรือชม ต้องทำการซื้อบัตรก่อน ซึ่งก็อยู่ด้านข้างของตัว Gekkeikan Okura Sake Museum เดินออกมานิดเดียว เลี้ยวขวา ก็จะเห็นคลองอยู่ข้างๆ Museum มีจุดขึ้นเรือตั้งให้เห็นเด่นชัด รอบเรือจะมีทุกๆ 30 นาที ถ้ามีคนจองเต็ม เราก็ต้องรอรอบต่อไป แนะนำว่าก่อนเข้าไป Museum ก็เดินมาจองไว้ดีกว่านะครับ ออกมาจะได้ขึ้นเรือเลย ค่าตั๋วขึ้นเรือ 1,000 เยนนะครับ ใช้เวลานั่งเรือ ไป-กลับประมาณ 40 นาที
อันนี้รูปด้านข้างพิพิธภัณฑ์ ตอนไม่มีดอกซากุระ
เรือที่จะนั่งชมวิวเป็นเรือแบบนี้ครับ นั่งได้ประมาณ 20 คน/เที่ยว
จุดขายบัตรและจุดขึ้นเรือเป็นจุดเดียวกันครับ
บรรยากาศในคลองที่เราจะไปชม จะเห็นว่ามีซากุระ ต้นหลิว และดอกยูกิสีขาวๆ ปลูกสลับกันไป
อันนี้รูปคลองตอนไม่มีเรือ
เรือก็จะล่องไปเรื่อยๆ จนสุดประตูน้ำของคลองนี้ ซึ่งมีสวนเล็กๆให้ขึ้นไปเดินเล่น เข้าห้องน้ำ จากนั้นก็นั่งเรือกลับ ใช้เวลารวมๆ ประมาณ 40 นาที
แต่ถ้าใครไม่ชอบขึ้นเรือ ก็สามารถเดินเล่นเลียบคลองได้ บรรยากาศดีเหมือนกันครับ
Sakura แบบ Full Blossum ^_^
และนอกจากนี้ตรงกันข้ามกับที่จอดเรือ อีกด้านหนึ่งของฝั่งคลอง จะมีวัดเล็ก (จำชื่อไม่ได้ได้) สามารถเข้าไปเดินเล่นได้ไม่เสียค่าเข้าครับ ด้านในจะมีคุณลุงคนหนึ่งเป็น Artist นั่งวาดรูปและขายรูปด้วย รูปแกสวยมาก แต่ก็แอบแพงเหมือนกัน - -"
สรุปให้นะครับ
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ใช้เวลาประมาณครึ่งวันได้ ใครที่มีโปรแกรมมาเที่ยว Kyoto-Osaka-Nara-Kobe ก็ลองพิจารณาแทรกทริปเล็กๆอันนี้ได้นะครับ
ถ้าผมบอกอะไรขาดตกบกพร่องไป ก็ขออภัยด้วยนะครับ ถามมาเพิ่มเติมหลังไมค์ได้เลย
ขอบคุณทุกท่านมากๆครับที่อ่านจนจบได้ ^_^
[SR] รีวิวสั้นๆ จิบสาเก ล่องเรือชมซากุระที่ Gekkeikan Okura Sake Museum (Kyoto)
Kyoto เป็นเมืองหลวงเก่าและเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศญี่ปุ่น ทั้งเมืองมีแต่วัดและศาลเจ้า ใครมาเที่ยวหลายๆวันแล้วเบื่อวัดเบื่อศาลเจ้า ลองแว้บออกมาจิบสาเก (ที่ขึ้นชื่อว่าอร่อยที่สุด) เรียนรู้วิธีทำพร้อมทั้งสามารถชมความงามของซากุระที่คลองข้างๆโรงสาเกนี้ได้นะครับ เราสามารถใช้เวลาประมาณครึ่งวันแวะมาได้ชิวๆเลย
อันนี้เป็น Website ของพิพิธภัณฑ์นะครับ ว่ามีอะไรให้ดูบ้าง
http://www.gekkeikan.co.jp/english/products/museum/
http://th.japantravel.com/view/%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%81-gekkeikan-museum-kyoto
สามารถเข้าไปดูได้เลย มีประวัติของโรงงาน กรรมวิธีการทำสาเกทั้งหมด โดยเสียค่าเข้าชม 300 เยน และได้รับสาเกขวดเล็กๆขวดหนึ่งเป็นของที่ระลึก ในรีวิวนี้ผมจะขอเริ่มตั้งแต่การเดินทางมาที่นี่ ส่วนเรื่องของพิพิธภัณฑ์ ก็ดูเอาในเวปได้เลยครับ มาถึง จ่ายค่าเข้าแล้วก็เดินตามนั้นได้ แต่ Highlight ของการมาเยี่ยมโรงงานนี้คือช่วงซากุระครับ ที่คลองข้างๆโรงงานจะมีการจัดเทศกาล “จิบสาเกชมดอกวากุระ” โดยมีโรงงานสาเกในละแวกนี้มาออกร้านร่วมกัน ริมคลอง และที่ Peak สุดๆคือมีบริการนั่งเรือชมบรรยากาศต้นซากุระที่ขึ้นเลียบคลองพร้อมทั้งบรรยายประวัติศาสตร์การเริ่มก่อตั้งชุมชนผลิตสาเกบริเวณนี้ (แต่คนพูดพูดญี่ปุ่นล้วนนะครับ 555) ฟังออกมั่งไม่ออกมั่ง เดาๆกันไป ดังนั้นในรีวิวนี้ผมจะเน้นที่บรรยากาศการล่องเรือ เรื่องพิพิธภัณฑ์ ก็ไปดูในเวปเอาก็ได้ เพราะผมยังไม่เคยเห็นใครคุยเรื่องล่องเรือข้างโรงสาเกมาก่อน (หรืออาจมีแต่ผมหาไม่เจอ) ถ้ามีความผิดพลาดประการใดก็สอบถามผมมาได้นะครับ
การเดินทาง
สามารถเดินทางได้สะดวกโดยใช้รถไฟ มีหลายสถานีรอบๆนี้ ตามรูปที่ผมแนบมา จะเห็นว่า หมายเลข 1. เป็น Gekkeikan Okura Sake Museum ซึ่งสามารถใช้ชื่อนี้ Search ใน Google Map ในมือถือได้เลยครับ เดินตามได้สะดวก ผมขออธิบายเรื่องสถานีและสายรถไฟดังนี้
- หมายเลข 2. สถานี Fushimi Momoyama และหมายเลข 3. สถานี Chushojima สองสถานีนี้เป็นของรถไฟสาย Keihan ซึ่งวิ่งมาจาก Osaka ใครที่มีแผนการเที่ยวโดยรถไฟสายนี้ก็เลือกใช้ได้ครับ จากรูปเหมือนสถานี Chushojima จะดูใกล้กว่า แต่ผมว่าสถานีหมายเลข 2 คือ Fushimi Momoyama เดินสะดวกกว่านะครับ และจากตัวสถานีไป Museum ก็มีร้านขายของ มีตลาดชุมชนเก่าๆให้เดินเล่นด้วยครับ ชื่อว่า Otetsuji เดินเล่นเสียตังค์ได้เพลินๆ
- หมายเลข 4. สถานี Momoyama Goryu-mae เป็นสถานีของรถไฟสาย Kintetsu ที่วิ่งระหว่าง Kyoto Station กับเมือง Nara สามารถขึ้นจากสถานีเกียวโตมาได้เลยครับ โดยเลือกรถไฟแบบ Local หรือ Express ก็ได้ ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีจากสถานี Kyoto ครับ
- หมายเลข 5. สถานี Momoyama เป็นของรถไฟ JR อันนี้เหมาะสำหรับคนที่ซื้อ JR Pass มาครับ นั่งมาจากสถานี Kyoto ก็ประมาณ 15 นาที ข้อเสียคือเดินไกลกว่าอันอื่นไปหน่อย
อย่างที่บอกไปว่าใช้รถไฟสายไหนก็ได้ตามสะดวก ถึงแล้วก็ Search หาแผนที่เดินตามได้เลยครับ
เมื่อมาถึง Gekkeikan Okura Sake Museum ก็ซื้อบัตรเข้าชมได้ ด้านในก็มีประวัติการตั้งชุมชนผลิตสาเกแถวๆนี้ มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ในการทำสาเก ผมขอข้ามอันนี้ไปนะครับ เข้าไปดูก็เห็นเอง มีรูปที่ผม Search มาไว้ให้ดูจากเวป http://www.kyotoguide.com/ver2/thismonth/sake2013.html ครับ
รูปด้านหน้า Gekkeikan Okura Sake Museum
รูปด้านใน ที่เป็นอุปกรณ์ในการทำสาเก
และในนี้ก็มีให้ชิมสาเกได้ฟรีด้วยนะครับ อย่าพึ่งชิมจนเมาก่อนละกัน
มาถึง Highlight ที่ผมอยากนำเสนอ คือการชมซากุระบริเวณคลองรอบพิพิธภัณฑ์ และยังมีบริการนั่งเรือชมวิวทิวทัศน์รอบๆ มีคนบรรยายถึงประวัติการก่อตั้งชุมชนบริเวณนี้ (แต่เป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนนะครับ) โดยการล่องเรือจะมีเฉพาะช่วงซากุระบานเท่านั้น (ประมาณ 2 อาทิตย์/ปี ช่วงปลายมีนาคม-ต้นเมษายน)
คนที่อยากนั่งเรือชม ต้องทำการซื้อบัตรก่อน ซึ่งก็อยู่ด้านข้างของตัว Gekkeikan Okura Sake Museum เดินออกมานิดเดียว เลี้ยวขวา ก็จะเห็นคลองอยู่ข้างๆ Museum มีจุดขึ้นเรือตั้งให้เห็นเด่นชัด รอบเรือจะมีทุกๆ 30 นาที ถ้ามีคนจองเต็ม เราก็ต้องรอรอบต่อไป แนะนำว่าก่อนเข้าไป Museum ก็เดินมาจองไว้ดีกว่านะครับ ออกมาจะได้ขึ้นเรือเลย ค่าตั๋วขึ้นเรือ 1,000 เยนนะครับ ใช้เวลานั่งเรือ ไป-กลับประมาณ 40 นาที
อันนี้รูปด้านข้างพิพิธภัณฑ์ ตอนไม่มีดอกซากุระ
เรือที่จะนั่งชมวิวเป็นเรือแบบนี้ครับ นั่งได้ประมาณ 20 คน/เที่ยว
จุดขายบัตรและจุดขึ้นเรือเป็นจุดเดียวกันครับ
บรรยากาศในคลองที่เราจะไปชม จะเห็นว่ามีซากุระ ต้นหลิว และดอกยูกิสีขาวๆ ปลูกสลับกันไป
อันนี้รูปคลองตอนไม่มีเรือ
เรือก็จะล่องไปเรื่อยๆ จนสุดประตูน้ำของคลองนี้ ซึ่งมีสวนเล็กๆให้ขึ้นไปเดินเล่น เข้าห้องน้ำ จากนั้นก็นั่งเรือกลับ ใช้เวลารวมๆ ประมาณ 40 นาที
แต่ถ้าใครไม่ชอบขึ้นเรือ ก็สามารถเดินเล่นเลียบคลองได้ บรรยากาศดีเหมือนกันครับ
Sakura แบบ Full Blossum ^_^
และนอกจากนี้ตรงกันข้ามกับที่จอดเรือ อีกด้านหนึ่งของฝั่งคลอง จะมีวัดเล็ก (จำชื่อไม่ได้ได้) สามารถเข้าไปเดินเล่นได้ไม่เสียค่าเข้าครับ ด้านในจะมีคุณลุงคนหนึ่งเป็น Artist นั่งวาดรูปและขายรูปด้วย รูปแกสวยมาก แต่ก็แอบแพงเหมือนกัน - -"
สรุปให้นะครับ
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ใช้เวลาประมาณครึ่งวันได้ ใครที่มีโปรแกรมมาเที่ยว Kyoto-Osaka-Nara-Kobe ก็ลองพิจารณาแทรกทริปเล็กๆอันนี้ได้นะครับ
ถ้าผมบอกอะไรขาดตกบกพร่องไป ก็ขออภัยด้วยนะครับ ถามมาเพิ่มเติมหลังไมค์ได้เลย
ขอบคุณทุกท่านมากๆครับที่อ่านจนจบได้ ^_^
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น