เพราะพ่อทำแม่เสียใจ เราเลยไม่รู้ว่าเรารักพ่อรึเปล่า..
รู้สึกไม่ดีมากๆค่ะ ลึกๆแล้ว กลัวบาป กลัวจะเป็นลูกอกตัญญูมาก
แต่เราไม่รู้ตัวเองจริงๆค่ะ ว่าเรารักพ่อไหม.
เราจะขอเล่าเรื่องตั้งแต่ตอนเรายังเด็กๆนะคะ อาจจะยาวสักหน่อย แต่ก็อยากให้อ่าน
ครอบครัวเรามี 4 คนค่ะ มีพ่อ แม่ พี่ชายและเรา อาศัยอยู่ต่างจังหวัด
เรากับพี่ชายอายุจะห่างกันเยอะหน่อย ประมาณ 7-8 ปี เหมือนเราเป็นลูกหลงอ่ะค่ะ
พ่อแม่เรา รับราชการครูทั้งคู่ค่ะ แม่เราเป็นครูสอนทั่วไป ส่วนพ่อเราเป็นครูใหญ่ แต่อยู่คนละโรงเรียน
ปัญหามันอยู่ตรงนี้ค่ะ เพราะพ่อเป็นครูใหญ่ จึงทำให้รู้จักคนมากมาย มีงานเลี้ยงสังสรรค์บ่อยค่ะ
เมามาย กลับบ้านดึกๆดื่นๆ แต่ก็ยังกลับบ้านทุกวันนะคะ แม่เราก็ไม่ว่าอะไร มีแค่บ่นๆนิดหน่อย
แต่ทีนี้ พักหลังๆ พ่อเริ่มไม่กลับบ้านค่ะ แรกๆจะหายไปวันนึง กลายเป็น2-3วัน 5วัน จนเป็นอาทิตย์ๆก็มี
ตอนนั้นเราอยู่ป.5ได้ แม่กับพี่และเราก็พอจะรู้แล้วค่ะ ว่าคงไม่ใช่แค่สังสรรค์ คิดว่าคงมีบ้านเล็กบ้านน้อยแน่
และก็จริงค่ะ มีวันนึงแม่เราจับได้ ไปตามถึงที่บ้านเมียน้อยเลยนะคะ เรากับพี่ชายก็ไปเป็นเพื่อนแม่ด้วย
สภาพที่เราเห็นคือ พ่อเราเมามาก ยืนแทบไม่ไหว ต้องมีผู้หญิง(เมียน้อย)คอยพยุง ยืนทะเลาะกันกับแม่ ด่าทอกันเสียงดัง
พ่อเราเมาด่าคำหยาบคายรุนแรงใส่แม่ ส่วนแม่เราด่าไปด้วยร้องไห้ไปด้วยโดยมีพี่ชายเราจับไหล่แม่ไว้
วินาทีนั้น แม้เรายังเด็ก แต่เรารูกสึกเจ็บปวดแปลกๆค่ะ เห็นน้ำตาแม่ และพ่อที่พ่นคำด่าด้วยสภาพที่เมามาย.. แต่เราไม่ร้องไห้นะ
ก็พากันกลับมาที่บ้าน พ่อกับแม่ก็ยังทะเลาะกันอยู่ แม่ไล่เราให้ขึ้นไปนอน เหลือแต่พี่ชายที่ยังอยู่ชั้นล่าง
เชื่อไหมคะ ว่าเป็นแบบนี้แทบทุกครั้งที่พ่อหายไปแล้วกลับมาบ้านดึกๆ และทุกๆครั้ง เราก็ต้องนอนฟังเสียงด่าทะเลาะกันอยู่ชั้นบน
บางครั้ง พ่อเมามาก ทำลายข้าวของเลยก็มีค่ะ พัดลม เก้าอี้ แจกัน เตะบ้างเขวี้ยงทิ้งบ้าง แต่ไม่ได้ทำร้ายแม่
แต่เราก็กลัวนะ ว่าวันนึงพ่ออาจจะทำร้ายแม่ พี่เราจึงต้องคอยอยู่ข้างๆแม่ตลอดเวลาทะเลาะกัน
แม่เราต้องนอนร้องไห้ทุกคืน สุขภาพจิตก็แย่ลง กลายเป็นคนอ่อนไหว โมโหง่าย
จนเราสอบได้โรงเรียนประจำแห่งหนึ่งในกทม.ค่ะ เป็นโรงเรียนกินนอน ให้กลับบ้านได้เสาร์-อาทิตย์ และช่วงปิดเทอม
พ่อกับแม่ก็ดีใจค่ะ เพราะค่อนข้างเป็นโรงเรียนมีชื่อเสียง
พ่อเราบอกว่า จะแวะไปหาบ่อยๆ ช่วงปิดเทอมหรือหยุดยาวจะไปรับไปส่ง
ซึ่งเราเป็นเด็กตจว.ภาคใต้ค่ะ บ้านไกล เสาร์-อาทิตย์เลยไม่ได้กลับ กว่าจะได้กลับทีก็ปิดเทอมหรือช่วงหยุดหลายวันหน่อย
แต่...
เชื่อไหมคะ ว่าแม้แต่วันแรกที่เราไปอยู่โรงเรียนประจำ พ่อเราก็ไม่ได้ไปส่ง มีแต่แม่กับพี่ซึ่งขับรถไม่เป็น ต้องวานญาติขับไปส่ง
เชื่อไหมคะ ว่าระหว่างที่เรามาเรียน เดือนนึงพ่อถึงโทรหาสักครั้ง บางเดือนไม่โทรเลยก็มี
เชื่อไหมคะ ว่าตลอดเวลาที่เราเรียนมา 6ปี ในช่วงวันหยุดเทศกาลหรือช่วงปิดเทอม พ่อมารับมาส่งเราแทบไม่ถึง5ครั้ง
มีแต่แม่เท่านั้นที่พยายามมารับเราคนเดียวในทุกๆครั้ง เพราะพี่เราก็ติดเรียน นั่งรถทัวร์มาเองบ้าง วานคนอื่นขับรถให้บ้าง
จนบางครั้งเราสงสารแม่ บอกไม่ต้องมารับก็ได้ ในช่วงหยุดยาว4-5วัน เราอยู่หอได้ แม่ไม่ต้องลำบากหรอก
แม่เราร้องไห้ เราเองก็ร้องไห้ น้อยใจพ่อมากๆ ที่ทำไมปล่อยให้แม่มาคนเดียวแบบนี้..
และทุกๆครั้งนะ ที่เราโทรบอกพ่อว่า พ่อ เดี๋ยวก็จะหยุดยาว/ปิดเทอมแล้วนะ พ่อมารับลูกได้ไหม ก่อนกลับ ลูกอยากแวะไปห้าง ไปสวนสยาม พ่อพาไปเที่ยวก่อนได้ไหม ซึ่งพ่อเราก็ตอบตกลงทุกครั้ง เราเองก็ตั้งตารอทุกครั้ง แต่ก็แทบทุกครั้งที่พ่อเราไม่มา มีก็แต่แม่ แม่เราคนเดียวเท่านั้นที่มา
จนกระทั่งเราจะจบม.6 ต้องแยกย้ายขนของสัมภาระกลับบ้าน
เราโทรไปหาพ่อ กังวลว่าพ่อจะรับสายรึเปล่า เพราะหลายครั้งพ่อชอบอ้างว่าไม่ว่าง ติดประชุม
แต่พ่อก็รับ เราดีใจรีบบอกพ่อ จบแล้วนะ มารับลูกด้วยนะ ของเยอะ แม่มาคนเดียว ขนไม่ไหว
พ่อบอก ได้อยู่แล้ว เพื่อลูก เดี๋ยวพ่อจะขนคนเดียวเลย ลูกกับแม่นั่งเฉยๆพอ เราวางสาย ดีใจและรอคอย คาดหวังว่าพ่อจะมาจริงๆ
แต่แล้ว พอถึงเวลาที่ต้องรอผู้ปกครองมารับกลับบ้าน เราเห็นแต่แม่ แม่ที่เดินมาแค่คนเดียว พยายามยิ้มให้เรา เดินอ้าแขนให้เราเข้าไปกอด ข้างกายไร้เงาพ่อ เรากลับน้ำตาไหล นึกในใจ อีกแล้วเหรอ.. พ่อผิดสัญญาอีกแล้วเหรอ
พอแม่เห็นก็ร้องไห้ บอกขอโทษเรา ที่พาพ่อมาด้วยไม่ได้ แม่พยายามแล้ว แต่ไม่รู้จะไปตามพ่อที่ไหน พ่อไม่กลับบ้านเลย
แม่พร่ำขอโทษทั้งน้ำตา หัวใจแม่เราแทบแตกสลาย ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรจากเราเลย
เราเจ็บที่หัวใจมาก ทำไมกัน แค่นี้เอง เราขอแค่นี้เอง ทำไมให้ไม่ได้ เราพยายามมาตลอด พยายามที่จะไม่โกรธเวลาที่พ่อโทรมาขอโทษเราทีหลังมาว่ารับไม่ได้ พยายามเข้าใจว่าพ่อติดงาน ติดประชุม เหตุสุดวิสัย พยายามเข้าใจว่ายังไงพ่อก็รักเรา..
หลายต่อหลายครั้งเราเห็น เพื่อนคนอื่นๆ พ่อแม่มารับ บางคนพามาทั้งญาติพี่น้อง พวกเขามารับ ยิ้มแย้มดีใจ
หรือเด็กบางคนดื้อดึงไม่อยากกลับบ้าน อยากอยู่กับเพื่อนจนโดนพ่อแม่ตวาด ตีที่ก้นเบาๆให้กลับบ้าน จนเด็กคนนั้นต้องยอมเดินตามพ่อแม่ไป
บอกเลยเราอิจฉานะ อิจฉามาก อย่างน้อยๆพวกเขาก็แสดงความรักต่อกัน อย่างน้อยๆพ่อแม่ก้คิดถึงลูก อยากให้ลูกกลับบ้าน
แล้ว.. เราล่ะ เรารู้ว่าแม่รักเรามาก พยายามทุ่มเทลำบากเดินทางมาหาเรา แต่พ่อเราล่ะ พ่อที่บอกว่ารักเราทุกครั้ง พ่อที่บอกว่าคิดถึง
แต่กลับไม่มาหา ไม่มารับเราแม้กระทั่งเราเรียนจนจบ
ภาพที่เราเห็นแม่กำลังช่วยขนของขึ้นลงไปมา จากชั้น4ไปชั้นล่าง ภาพที่เราเห็นแม่เหนื่อยหอบเพราะหอบของหนักจนแทบเดินไม่ไหว
ภาพเหล่านั้น เรายังจำมันได้ดี เพราะไม่ว่าเรานึกถึงเมื่อไหร่ น้ำตาเราแทบจะไหลเสมอ
แม่บอกเรา ว่าอย่าร้องไห้ ไม่มีพ่อ ก็ต้องอยู่ให้ได้ เราโตแล้ว ไม่ใช่เด็กๆ ต้องเข้มแข็งเข้าไว้ อยู่กันแค่สามคนแม่ลูกก็ไม่เห็นเป็นไร
เรากอดแม่ พนักหน้าทั้งน้ำตา บอกขอแค่ครั้งนี้นะแม่ แค่ครั้งนี้จริงๆ..
ตั้งแต่นั้นมา เรากลายเป็นคนเข้มแข็งขึ้นค่ะ ไม่ว่าเจอเรื่องอะไรเราก็แทบไม่ร้องไห้เลย
พ่อเราก็ไม่โทรหาค่ะ บ้านก็ไม่กลับ ไม่รู้ว่าไม่กล้าโทรรึเปล่า ผิดคำพูดหลายครั้งแล้วนี่นะ เราเองก็ไม่โทรไป
แม่เราก็ไม่ร้องไห้แล้ว บอกเลยชีวิตดีขึ้นมากค่ะ ทุกอย่างแทบจะลงตัว
พี่ชายเราก็ทำงานใกล้ๆบ้าน อยู่ดูแลแม่ เราเอง แม่ก็ส่งเสียให้มาเรียนมหาลัยในกทม.
ทุกอย่างราบรื่นดีค่ะ แม้จะมีเบอร์แปลกๆโทรเข้ามาบ้าง แต่เราเลือกที่จะไม่รับสายค่ะ
จนพี่ชายเราจะแต่งงาน พ่อเรากลับมาค่ะ กลับมาในวันที่พี่เราแต่งงาน พ่อทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ
ดูแลแขกในงาน ถ่ายรูปครอบครัว พูดกล่าวอวยพร เหมือนครอบครัวสุขสันต์
จนจบงาน พ่อมาขอคุยกับเรา เพราะแม่กับพี่เราไม่ยอมคุยด้วย
พ่อก็ถามทั่วๆไปค่ะ ว่าเรียนมหาลัยแล้วเป็นยังไงบ้าง ลำบากอะไรไหม แล้วก็พูดคำเดิมค่ะ คือขอโทษ ที่วันนั้นไม่ได้ไปรับเรา ติดอบรมต่างจังหวัด
ลางานไม่ได้ พ่อรักลูกนะ เราก็บอกว่าไม่เป็นไร เรื่องมันผ่านมาแล้ว ลืมไปแล้ว..
พ่อฟังก็เงียบไป แล้วพูดต่อประโยคเดิมๆ ข้ออ้างสารพัดเดิมๆ เราก็รับฟังนะ แต่ไม่ได้พูดอะไร แล้วพ่อก็ขอตัวกลับ ซึ่งไม่ได้กลับบ้านเรา
หลังจากนั้น พ่อเราก็พยายามโทรมาหาเราค่ะ เราก็รับสายบ้าง ไม่รับบ้าง เพราะไม่รู้จะพูดอะไร เหมือนเราเจ็บจนชินและชาไปแล้ว
แรกๆเราก็บอกแม่นะ ว่าวันนี้พ่อโทรมา เล่าเรื่องโน่นนี่ บลาๆ แต่แม่เราบอก ไม่ต้องมาบอกเรื่องพ่ออีก แม่ไม่อยากฟัง ไม่อยากรับรู้
เราก็เข้าใจแม่นะ หลังๆก็เลยไม่ได้บอกอะไรแม่ ยิ่งกับพี่ยิ่งแล้วใหญ่ มันจะโมโหมาก ถ้าเราพูดเรื่องพ่อ
พี่เราเคยบอก ว่าถ้ามีครอบครัว มันจะไม่ทำแบบที่พ่อทำ เราซึ้งใจนะ เพราะเรารู้ว่าพี่เรารักแม่มาก ซึ่งทุกวันนี้พี่เราดูแลครอบครัวและแม่ดีมากเลย
และผ่านมาจนถึงตอนนี้ พ่อเราโทรมาเมื่อคืน เรารับสาย ก็พูดคุยเรื่องเดิมๆ
บอกว่ารักลูกนะ รักมาก รักพี่และแม่ด้วย พ่อเสียใจจริงๆที่ทำให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้
พ่อคิดถึงที่บ้านนะ อยากกลับบ้าน แต่ก็กลัวแม่ว่า กลัวแม่เสียใจ
เราก็บอก ว่าต่างคนต่างอยู่แบบนี้น่ะดีแล้ว อย่าให้มันต้องกลับไปทรมานเหมือนวันเก่าๆเลย
พ่อเราเงียบไป แล้วก็ถามออกมา "พ่อรักลูกนะ แล้วลูกล่ะ รักพ่อไหม.."
เราเงียบ พ่อก็เงียบรอฟังคำตอบ แต่เราเงียบไปนาน จนพ่อถามย้ำอีกครั้ง เราจึงพูดออกไป
"เพราะพ่อทำแม่กับลูกเสียใจ.." เราพูดแค่นั้นค่ะ คล้ายกับว่าให้พ่อไปคิดเอง..
พ่อเงียบอีกครั้ง สุดท้ายก็บอกเราว่า ไม่ว่าจะยังไง พ่อก็รักลูกเสมอ แล้วก็วางสายไป
เราไม่รู้จริงๆค่ะ ว่าตอนนี้เรารู้สึกยังไง
แน่นอนว่าเราเคยรักพ่อ ตอนเด็กๆครั้งยังไม่เกิดปัญหา พ่อเล่นกับเรา กอดเรา พาเราไปเที่ยว ดูแลเราเมื่อไม่สบาย เราเองก็ยังจำได้
แต่ว่า ตอนนี้ล่ะ.. ตอนนี้เรายังรักพ่อไหม
เป็นไปได้ไหม ที่เราจะไม่รักพ่อแล้ว เพราะพอเรานึกถึงภาพอดีตทีไร เราเจ็บทุกที
เจ็บที่พ่อนอกใจแม่ทำแม่ร้องไห้ เจ็บที่ทำลายข้าวของด่าทอแม่ทำให้แม่หวาดกลัว
เจ็บที่พี่กับแม่รั้งพ่อเอาไว้ ผลักพี่จนล้มลงแต่พ่อก็จะไปโดยไม่เหลียวแล
และเจ็บที่พ่อผิดสัญญา ที่พ่อทำให้แม่กับเราเสียใจ
เราอยากจะพูดเหลือเกิน ว่าทำไมตอนนั้นพ่อไม่คิด ทำไมตอนนั้นพ่อถึงทิ้งไป
แล้ววันนี้ อยากจะกลับมาเป็บครอบครัวเหมือนเดิม อยากจะถามจริงๆว่ามันสายเกินไปไหม ?
ถ้าเรารู้สึกแบบนี้ เราจะบาปไหมคะ จะอกตัญญูรึเปล่าถ้าคิดแบบนี้
แต่ลึกๆแล้ว เราก็เป็นห่วงพ่อนะ ถ้าพ่อเป็นอะไร เราก็คงเสียใจมาก
ตอนนี้ทั้งครอบครัว มีแค่เราคนเดียวที่ยังคุยกับพ่อ เราเองก็ไม่ได้อะไร ก็รับฟังได้ โทรถามสารทุกข์สุขดิบได้
แต่พอพ่อมาถามเราแบบนี้ สะกิดใจเราให้ต้องคิด แต่เรา..ไม่รู้สิ เราตอบตัวเองไม่ได้จริงๆ
ซึ่งเราคิดมากนะ กังวลกลัวผิดบาป คนเป็นลูก มีด้วยหรือที่จะไม่รักพ่อแม่
แต่ถ้าไม่มี แล้วทำไมเราถึงตอบไม่ได้ล่ะ ว่าเรารักพ่อไหม ?
เพราะพ่อทำแม่เสียใจ..
รู้สึกไม่ดีมากๆค่ะ ลึกๆแล้ว กลัวบาป กลัวจะเป็นลูกอกตัญญูมาก
แต่เราไม่รู้ตัวเองจริงๆค่ะ ว่าเรารักพ่อไหม.
เราจะขอเล่าเรื่องตั้งแต่ตอนเรายังเด็กๆนะคะ อาจจะยาวสักหน่อย แต่ก็อยากให้อ่าน
ครอบครัวเรามี 4 คนค่ะ มีพ่อ แม่ พี่ชายและเรา อาศัยอยู่ต่างจังหวัด
เรากับพี่ชายอายุจะห่างกันเยอะหน่อย ประมาณ 7-8 ปี เหมือนเราเป็นลูกหลงอ่ะค่ะ
พ่อแม่เรา รับราชการครูทั้งคู่ค่ะ แม่เราเป็นครูสอนทั่วไป ส่วนพ่อเราเป็นครูใหญ่ แต่อยู่คนละโรงเรียน
ปัญหามันอยู่ตรงนี้ค่ะ เพราะพ่อเป็นครูใหญ่ จึงทำให้รู้จักคนมากมาย มีงานเลี้ยงสังสรรค์บ่อยค่ะ
เมามาย กลับบ้านดึกๆดื่นๆ แต่ก็ยังกลับบ้านทุกวันนะคะ แม่เราก็ไม่ว่าอะไร มีแค่บ่นๆนิดหน่อย
แต่ทีนี้ พักหลังๆ พ่อเริ่มไม่กลับบ้านค่ะ แรกๆจะหายไปวันนึง กลายเป็น2-3วัน 5วัน จนเป็นอาทิตย์ๆก็มี
ตอนนั้นเราอยู่ป.5ได้ แม่กับพี่และเราก็พอจะรู้แล้วค่ะ ว่าคงไม่ใช่แค่สังสรรค์ คิดว่าคงมีบ้านเล็กบ้านน้อยแน่
และก็จริงค่ะ มีวันนึงแม่เราจับได้ ไปตามถึงที่บ้านเมียน้อยเลยนะคะ เรากับพี่ชายก็ไปเป็นเพื่อนแม่ด้วย
สภาพที่เราเห็นคือ พ่อเราเมามาก ยืนแทบไม่ไหว ต้องมีผู้หญิง(เมียน้อย)คอยพยุง ยืนทะเลาะกันกับแม่ ด่าทอกันเสียงดัง
พ่อเราเมาด่าคำหยาบคายรุนแรงใส่แม่ ส่วนแม่เราด่าไปด้วยร้องไห้ไปด้วยโดยมีพี่ชายเราจับไหล่แม่ไว้
วินาทีนั้น แม้เรายังเด็ก แต่เรารูกสึกเจ็บปวดแปลกๆค่ะ เห็นน้ำตาแม่ และพ่อที่พ่นคำด่าด้วยสภาพที่เมามาย.. แต่เราไม่ร้องไห้นะ
ก็พากันกลับมาที่บ้าน พ่อกับแม่ก็ยังทะเลาะกันอยู่ แม่ไล่เราให้ขึ้นไปนอน เหลือแต่พี่ชายที่ยังอยู่ชั้นล่าง
เชื่อไหมคะ ว่าเป็นแบบนี้แทบทุกครั้งที่พ่อหายไปแล้วกลับมาบ้านดึกๆ และทุกๆครั้ง เราก็ต้องนอนฟังเสียงด่าทะเลาะกันอยู่ชั้นบน
บางครั้ง พ่อเมามาก ทำลายข้าวของเลยก็มีค่ะ พัดลม เก้าอี้ แจกัน เตะบ้างเขวี้ยงทิ้งบ้าง แต่ไม่ได้ทำร้ายแม่
แต่เราก็กลัวนะ ว่าวันนึงพ่ออาจจะทำร้ายแม่ พี่เราจึงต้องคอยอยู่ข้างๆแม่ตลอดเวลาทะเลาะกัน
แม่เราต้องนอนร้องไห้ทุกคืน สุขภาพจิตก็แย่ลง กลายเป็นคนอ่อนไหว โมโหง่าย
จนเราสอบได้โรงเรียนประจำแห่งหนึ่งในกทม.ค่ะ เป็นโรงเรียนกินนอน ให้กลับบ้านได้เสาร์-อาทิตย์ และช่วงปิดเทอม
พ่อกับแม่ก็ดีใจค่ะ เพราะค่อนข้างเป็นโรงเรียนมีชื่อเสียง
พ่อเราบอกว่า จะแวะไปหาบ่อยๆ ช่วงปิดเทอมหรือหยุดยาวจะไปรับไปส่ง
ซึ่งเราเป็นเด็กตจว.ภาคใต้ค่ะ บ้านไกล เสาร์-อาทิตย์เลยไม่ได้กลับ กว่าจะได้กลับทีก็ปิดเทอมหรือช่วงหยุดหลายวันหน่อย
แต่...
เชื่อไหมคะ ว่าแม้แต่วันแรกที่เราไปอยู่โรงเรียนประจำ พ่อเราก็ไม่ได้ไปส่ง มีแต่แม่กับพี่ซึ่งขับรถไม่เป็น ต้องวานญาติขับไปส่ง
เชื่อไหมคะ ว่าระหว่างที่เรามาเรียน เดือนนึงพ่อถึงโทรหาสักครั้ง บางเดือนไม่โทรเลยก็มี
เชื่อไหมคะ ว่าตลอดเวลาที่เราเรียนมา 6ปี ในช่วงวันหยุดเทศกาลหรือช่วงปิดเทอม พ่อมารับมาส่งเราแทบไม่ถึง5ครั้ง
มีแต่แม่เท่านั้นที่พยายามมารับเราคนเดียวในทุกๆครั้ง เพราะพี่เราก็ติดเรียน นั่งรถทัวร์มาเองบ้าง วานคนอื่นขับรถให้บ้าง
จนบางครั้งเราสงสารแม่ บอกไม่ต้องมารับก็ได้ ในช่วงหยุดยาว4-5วัน เราอยู่หอได้ แม่ไม่ต้องลำบากหรอก
แม่เราร้องไห้ เราเองก็ร้องไห้ น้อยใจพ่อมากๆ ที่ทำไมปล่อยให้แม่มาคนเดียวแบบนี้..
และทุกๆครั้งนะ ที่เราโทรบอกพ่อว่า พ่อ เดี๋ยวก็จะหยุดยาว/ปิดเทอมแล้วนะ พ่อมารับลูกได้ไหม ก่อนกลับ ลูกอยากแวะไปห้าง ไปสวนสยาม พ่อพาไปเที่ยวก่อนได้ไหม ซึ่งพ่อเราก็ตอบตกลงทุกครั้ง เราเองก็ตั้งตารอทุกครั้ง แต่ก็แทบทุกครั้งที่พ่อเราไม่มา มีก็แต่แม่ แม่เราคนเดียวเท่านั้นที่มา
จนกระทั่งเราจะจบม.6 ต้องแยกย้ายขนของสัมภาระกลับบ้าน
เราโทรไปหาพ่อ กังวลว่าพ่อจะรับสายรึเปล่า เพราะหลายครั้งพ่อชอบอ้างว่าไม่ว่าง ติดประชุม
แต่พ่อก็รับ เราดีใจรีบบอกพ่อ จบแล้วนะ มารับลูกด้วยนะ ของเยอะ แม่มาคนเดียว ขนไม่ไหว
พ่อบอก ได้อยู่แล้ว เพื่อลูก เดี๋ยวพ่อจะขนคนเดียวเลย ลูกกับแม่นั่งเฉยๆพอ เราวางสาย ดีใจและรอคอย คาดหวังว่าพ่อจะมาจริงๆ
แต่แล้ว พอถึงเวลาที่ต้องรอผู้ปกครองมารับกลับบ้าน เราเห็นแต่แม่ แม่ที่เดินมาแค่คนเดียว พยายามยิ้มให้เรา เดินอ้าแขนให้เราเข้าไปกอด ข้างกายไร้เงาพ่อ เรากลับน้ำตาไหล นึกในใจ อีกแล้วเหรอ.. พ่อผิดสัญญาอีกแล้วเหรอ
พอแม่เห็นก็ร้องไห้ บอกขอโทษเรา ที่พาพ่อมาด้วยไม่ได้ แม่พยายามแล้ว แต่ไม่รู้จะไปตามพ่อที่ไหน พ่อไม่กลับบ้านเลย
แม่พร่ำขอโทษทั้งน้ำตา หัวใจแม่เราแทบแตกสลาย ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรจากเราเลย
เราเจ็บที่หัวใจมาก ทำไมกัน แค่นี้เอง เราขอแค่นี้เอง ทำไมให้ไม่ได้ เราพยายามมาตลอด พยายามที่จะไม่โกรธเวลาที่พ่อโทรมาขอโทษเราทีหลังมาว่ารับไม่ได้ พยายามเข้าใจว่าพ่อติดงาน ติดประชุม เหตุสุดวิสัย พยายามเข้าใจว่ายังไงพ่อก็รักเรา..
หลายต่อหลายครั้งเราเห็น เพื่อนคนอื่นๆ พ่อแม่มารับ บางคนพามาทั้งญาติพี่น้อง พวกเขามารับ ยิ้มแย้มดีใจ
หรือเด็กบางคนดื้อดึงไม่อยากกลับบ้าน อยากอยู่กับเพื่อนจนโดนพ่อแม่ตวาด ตีที่ก้นเบาๆให้กลับบ้าน จนเด็กคนนั้นต้องยอมเดินตามพ่อแม่ไป
บอกเลยเราอิจฉานะ อิจฉามาก อย่างน้อยๆพวกเขาก็แสดงความรักต่อกัน อย่างน้อยๆพ่อแม่ก้คิดถึงลูก อยากให้ลูกกลับบ้าน
แล้ว.. เราล่ะ เรารู้ว่าแม่รักเรามาก พยายามทุ่มเทลำบากเดินทางมาหาเรา แต่พ่อเราล่ะ พ่อที่บอกว่ารักเราทุกครั้ง พ่อที่บอกว่าคิดถึง
แต่กลับไม่มาหา ไม่มารับเราแม้กระทั่งเราเรียนจนจบ
ภาพที่เราเห็นแม่กำลังช่วยขนของขึ้นลงไปมา จากชั้น4ไปชั้นล่าง ภาพที่เราเห็นแม่เหนื่อยหอบเพราะหอบของหนักจนแทบเดินไม่ไหว
ภาพเหล่านั้น เรายังจำมันได้ดี เพราะไม่ว่าเรานึกถึงเมื่อไหร่ น้ำตาเราแทบจะไหลเสมอ
แม่บอกเรา ว่าอย่าร้องไห้ ไม่มีพ่อ ก็ต้องอยู่ให้ได้ เราโตแล้ว ไม่ใช่เด็กๆ ต้องเข้มแข็งเข้าไว้ อยู่กันแค่สามคนแม่ลูกก็ไม่เห็นเป็นไร
เรากอดแม่ พนักหน้าทั้งน้ำตา บอกขอแค่ครั้งนี้นะแม่ แค่ครั้งนี้จริงๆ..
ตั้งแต่นั้นมา เรากลายเป็นคนเข้มแข็งขึ้นค่ะ ไม่ว่าเจอเรื่องอะไรเราก็แทบไม่ร้องไห้เลย
พ่อเราก็ไม่โทรหาค่ะ บ้านก็ไม่กลับ ไม่รู้ว่าไม่กล้าโทรรึเปล่า ผิดคำพูดหลายครั้งแล้วนี่นะ เราเองก็ไม่โทรไป
แม่เราก็ไม่ร้องไห้แล้ว บอกเลยชีวิตดีขึ้นมากค่ะ ทุกอย่างแทบจะลงตัว
พี่ชายเราก็ทำงานใกล้ๆบ้าน อยู่ดูแลแม่ เราเอง แม่ก็ส่งเสียให้มาเรียนมหาลัยในกทม.
ทุกอย่างราบรื่นดีค่ะ แม้จะมีเบอร์แปลกๆโทรเข้ามาบ้าง แต่เราเลือกที่จะไม่รับสายค่ะ
จนพี่ชายเราจะแต่งงาน พ่อเรากลับมาค่ะ กลับมาในวันที่พี่เราแต่งงาน พ่อทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ
ดูแลแขกในงาน ถ่ายรูปครอบครัว พูดกล่าวอวยพร เหมือนครอบครัวสุขสันต์
จนจบงาน พ่อมาขอคุยกับเรา เพราะแม่กับพี่เราไม่ยอมคุยด้วย
พ่อก็ถามทั่วๆไปค่ะ ว่าเรียนมหาลัยแล้วเป็นยังไงบ้าง ลำบากอะไรไหม แล้วก็พูดคำเดิมค่ะ คือขอโทษ ที่วันนั้นไม่ได้ไปรับเรา ติดอบรมต่างจังหวัด
ลางานไม่ได้ พ่อรักลูกนะ เราก็บอกว่าไม่เป็นไร เรื่องมันผ่านมาแล้ว ลืมไปแล้ว..
พ่อฟังก็เงียบไป แล้วพูดต่อประโยคเดิมๆ ข้ออ้างสารพัดเดิมๆ เราก็รับฟังนะ แต่ไม่ได้พูดอะไร แล้วพ่อก็ขอตัวกลับ ซึ่งไม่ได้กลับบ้านเรา
หลังจากนั้น พ่อเราก็พยายามโทรมาหาเราค่ะ เราก็รับสายบ้าง ไม่รับบ้าง เพราะไม่รู้จะพูดอะไร เหมือนเราเจ็บจนชินและชาไปแล้ว
แรกๆเราก็บอกแม่นะ ว่าวันนี้พ่อโทรมา เล่าเรื่องโน่นนี่ บลาๆ แต่แม่เราบอก ไม่ต้องมาบอกเรื่องพ่ออีก แม่ไม่อยากฟัง ไม่อยากรับรู้
เราก็เข้าใจแม่นะ หลังๆก็เลยไม่ได้บอกอะไรแม่ ยิ่งกับพี่ยิ่งแล้วใหญ่ มันจะโมโหมาก ถ้าเราพูดเรื่องพ่อ
พี่เราเคยบอก ว่าถ้ามีครอบครัว มันจะไม่ทำแบบที่พ่อทำ เราซึ้งใจนะ เพราะเรารู้ว่าพี่เรารักแม่มาก ซึ่งทุกวันนี้พี่เราดูแลครอบครัวและแม่ดีมากเลย
และผ่านมาจนถึงตอนนี้ พ่อเราโทรมาเมื่อคืน เรารับสาย ก็พูดคุยเรื่องเดิมๆ
บอกว่ารักลูกนะ รักมาก รักพี่และแม่ด้วย พ่อเสียใจจริงๆที่ทำให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้
พ่อคิดถึงที่บ้านนะ อยากกลับบ้าน แต่ก็กลัวแม่ว่า กลัวแม่เสียใจ
เราก็บอก ว่าต่างคนต่างอยู่แบบนี้น่ะดีแล้ว อย่าให้มันต้องกลับไปทรมานเหมือนวันเก่าๆเลย
พ่อเราเงียบไป แล้วก็ถามออกมา "พ่อรักลูกนะ แล้วลูกล่ะ รักพ่อไหม.."
เราเงียบ พ่อก็เงียบรอฟังคำตอบ แต่เราเงียบไปนาน จนพ่อถามย้ำอีกครั้ง เราจึงพูดออกไป
"เพราะพ่อทำแม่กับลูกเสียใจ.." เราพูดแค่นั้นค่ะ คล้ายกับว่าให้พ่อไปคิดเอง..
พ่อเงียบอีกครั้ง สุดท้ายก็บอกเราว่า ไม่ว่าจะยังไง พ่อก็รักลูกเสมอ แล้วก็วางสายไป
เราไม่รู้จริงๆค่ะ ว่าตอนนี้เรารู้สึกยังไง
แน่นอนว่าเราเคยรักพ่อ ตอนเด็กๆครั้งยังไม่เกิดปัญหา พ่อเล่นกับเรา กอดเรา พาเราไปเที่ยว ดูแลเราเมื่อไม่สบาย เราเองก็ยังจำได้
แต่ว่า ตอนนี้ล่ะ.. ตอนนี้เรายังรักพ่อไหม
เป็นไปได้ไหม ที่เราจะไม่รักพ่อแล้ว เพราะพอเรานึกถึงภาพอดีตทีไร เราเจ็บทุกที
เจ็บที่พ่อนอกใจแม่ทำแม่ร้องไห้ เจ็บที่ทำลายข้าวของด่าทอแม่ทำให้แม่หวาดกลัว
เจ็บที่พี่กับแม่รั้งพ่อเอาไว้ ผลักพี่จนล้มลงแต่พ่อก็จะไปโดยไม่เหลียวแล
และเจ็บที่พ่อผิดสัญญา ที่พ่อทำให้แม่กับเราเสียใจ
เราอยากจะพูดเหลือเกิน ว่าทำไมตอนนั้นพ่อไม่คิด ทำไมตอนนั้นพ่อถึงทิ้งไป
แล้ววันนี้ อยากจะกลับมาเป็บครอบครัวเหมือนเดิม อยากจะถามจริงๆว่ามันสายเกินไปไหม ?
ถ้าเรารู้สึกแบบนี้ เราจะบาปไหมคะ จะอกตัญญูรึเปล่าถ้าคิดแบบนี้
แต่ลึกๆแล้ว เราก็เป็นห่วงพ่อนะ ถ้าพ่อเป็นอะไร เราก็คงเสียใจมาก
ตอนนี้ทั้งครอบครัว มีแค่เราคนเดียวที่ยังคุยกับพ่อ เราเองก็ไม่ได้อะไร ก็รับฟังได้ โทรถามสารทุกข์สุขดิบได้
แต่พอพ่อมาถามเราแบบนี้ สะกิดใจเราให้ต้องคิด แต่เรา..ไม่รู้สิ เราตอบตัวเองไม่ได้จริงๆ
ซึ่งเราคิดมากนะ กังวลกลัวผิดบาป คนเป็นลูก มีด้วยหรือที่จะไม่รักพ่อแม่
แต่ถ้าไม่มี แล้วทำไมเราถึงตอบไม่ได้ล่ะ ว่าเรารักพ่อไหม ?