+++ 10 สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้จาก Maldives +++



ปกติ จขกท เป็นคนชอบเที่ยวมาก ชอบเที่ยวเอง วางแผนไปเรื่อยเปื่อยทริปเล็กทริปใหญ่ แต่นี่เป็นกระทู้แรก (ปกติเขียนบันทึกทริปลง wordpress อย่างเดียว เก็บไว้เป็นข้อมูลให้เพื่อนๆ) เพราะรู้สึกว่าเวลาเราเจออะไรดีๆ มันจะยิ่งดีถ้าเราได้แบ่งปันกับคนอื่นๆ ยิ่งคนที่ชอบอะไรเหมือนๆ กันด้วยก็ยิ่งดีใหญ่ เลยตัดสินใจมาแชร์ผ่านพันทิพดูบ้าง

พื้นเพ จขกท เป็นคนถ่ายรูปไม่เก่ง คืออยู่ในระดับไม่แย่ แต่ถ้าเทียบกับมือโปรในพันทิพแล้วเราก็เป็นแค่เศษเล็บ เพราะฉะนั้นรูปเราอาจจะไม่ได้สวยอะไร ใครหวังชมภาพสวยๆ อาจจะผิดหวัง

จุดเริ่มต้นของทริปมัลดีฟส์ เริ่มต้นจากความฝันของ จขกท เมื่อหลายปีมาแล้วตั้งแต่เริ่มเที่ยวใหม่ๆ กะว่าจะเป็นทริปที่เก็บไว้ไปฮันนีมูนให้ได้ แต่ผ่านจนอายุ 3x แล้วก็ยังไม่มีวี่แวว จนเกือบจะเลิกล้มแล้วหันหน้าไปพึ่งเพื่อนสาว ฟ้าก็ส่งผู้โชคร้ายลงมาให้เราพอดี โชคดีคือเป็นผู้ชายที่ตามใจ ตั้งแต่ได้จัดงานแต่งริมทะเล ไปจนถึงการเลือกสถานที่ฮันนีมูน ก็คือ มัลดีฟส์ นั่นเอง

และนี่... คือ 10 สิ่ง (ขำๆ) ที่ จขกท ได้เรียนรู้จากมัลดีฟส์ (เรียกว่าจาก Centara Ras Fushi ละกันค่ะ เพราะเราเลือกพักที่นี่ตลอด 5 วัน 4 คืนเลย)

1. โปรดเลือกเอเจนซี่ที่การบริการ เพราะทุกเจ้าราคาเท่ากัน
อันเนื่องมาจากการจองแพ็คเกจมัลดีฟส์ผ่านเอเจนซี่นั้นสะดวกดี บางทีก็มีโปรโมชั่นด้วย เราก็เลยหาข้อมูลเอเจนซี่อยู่พักใหญ่ มีเพื่อนที่เคยไปมาเตือนแค่ว่า เลือกดีๆ นะ เจ้าที่เค้าเคยไปด้วย 2 เจ้าบริการแย่มาก (ประมาณว่าจะถึงวันเดินทางอยู่แล้ว ยังไม่ส่งเอกสารให้จนต้องทวง) แต่ใจเราก็ยังคิดว่าเอเจนซี่ไม่ได้เกี่ยวมากมายกับตอนเราไปถึงที่โน่น เราก็เลยซีเรียสกับการหาราคาที่โอเคมากกว่า แต่หลังจากเราควานหาไปหลายเจ้า บวกลบคูณหารราคาแต่ละแพ็คเกจ แต่ละที่พัก เราก็ค้นพบว่า... ทุกเจ้าราคาเท่าๆ กันเกือบหมด (ไม่รู้คนอื่นเจอต่างไหม) ที่เราเจออย่างมากต่างกันแค่หลัก 100-300 บาทเอง (หมายถึงถ้าคุณเลือกโรงแรมเดียวกัน จำนวนคืนเท่ากันนะ) มันเลยกลายเรื่องที่ไม่ใช่ตัวตัดสินใจในการเลือก ส่วนบริการสุดท้ายเราก็ดูเอาจากเพจ ว่ามีคนมาชมมาพูดถึงว่ายังไงบ้าง และลองสอบถามเค้าดู เจ้าไหนตอบดี คุยถูกคอ ก็เลือกไป ถือว่าเสี่ยงดวงเหมือนซื้อหวยเอาละกัน (และโชคดีมากที่งวดนี้เราถูกรางวัล เพราะเจ้าที่เลือกบริการดีมาก ทั้งเรื่องการจัดเตรียมเอกสาร และให้ข้อมูลครบถ้วนก่อนไป)


2. นี่คือหนึ่งในสถานที่ที่คุณไม่ต้องประดิษฐ์ภาพลงเฟซ
อย่างที่บอกว่า จขกท ถ่ายรูปไม่เก่ง แต่ทั้งรูปจากไอโฟน กล้องมิลเรอร์เลส และกล้องจิ๋วใต้น้ำ ทุกอันล้วนออกมาเป็นที่น่าพอใจ (ในระดับเรา) เป็นอารมณ์ที่ถ่ายมาแล้วแบบทะเลสวย ฟ้าสวย และถ้ามาเจอของจริงก็สวยเหมือนในรูป ไม่ใช่แบบ...หูยยย รูปสวยมาก เห็นแล้วอยากไป แต่พอไปสัมผัสจริงกลายเป็นอารมณ์แบบสิ่งที่ฉันคิด VS สิ่งที่ฉันเจอ
เอาเป็นว่าให้เด็กสามขวบมากดก็น่าจะสวยค่ะ เพียงแต่ที่นี่เค้าจำกัดอายุเด็กด้วย (ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าต่ำกว่า 15 จะไม่ให้เข้าพัก) ซึ่งดีงามกับ จขกท มาก เพราะเราไม่ใช่นางงามจริงๆ


3. คุณจะคุ้มกับแพ็คเกจ all inclusive เป็นพิเศษ เมื่อเป็นคอแอลกอฮอล์
อันเนื่องมาจากแพ็คเกจ all inclusive จะรวมอาหารเช้า กลางวัน เย็น และเครื่องดื่มบางชนิดที่บาร์ (ก็หลายชนิดอยู่นะคะ) อีก 3 บาร์ ซึ่งอาหารที่ห้องอาหารก็ทานได้ ไม่ได้อร่อยเว่อร์วัง เรียกว่าเป็นรสชาติคุ้นลิ้นมากกว่า (คือได้ยินจากเพื่อนที่พักโรงแรมอื่นๆ มาว่าอาหารไม่อร่อยเลย) ส่วน centara เป็นโรงแรมคนไทย มีทั้งห้องอาหารไทย ห้องอาหารอิตาเลียนให้เลือกไปกิน (แต่ต้องจองล่วงหน้า) อาหารถ้าเป็นมื้อเที่ยงและเย็นถ้าไม่กินที่ห้องอาหารบุฟเฟต์ (ซึ่งกินได้ทั้งวัน) ก็จะเป็นอาหารชุดเสิร์ฟที่โต๊ะแล้วแต่วัน
ส่วนบาร์ต่างๆ ก็ต่างกันที่เวลาเปิดค่ะ เลือกทานเมนูที่มีเครื่องหมายบอกว่ารวมในแพ็คเกจได้ตลอดเวลา จริงๆ ค็อกเทลไม่ได้อร่อยมาก เรียกว่าจิบตามบรรยากาศมากกว่า แต่ที่ดีงามคือวิวที่บาร์บางบาร์ โดยเฉพาะวิวบาร์ ที่คนนิยมมาชมวิวอาทิตย์ตกและมีที่นั่งตาข่ายยอดฮิต



4. ที่นี่จะดี หากคุณไม่กลัวน้ำ และมีพื้นฐานเคยสนอร์กเกิ้ลมาบ้าง
เรามีทะเลติดบันไดที่พัก กระโดดลงน้ำได้ตลอดเวลา และแน่นอนว่าไม่ได้มีการ์ดคอยดูแลเหมือนสระว่ายน้ำ เพราะฉะนั้นโรงแรมก็จะให้เราดูแลตัวเองค่ะ ซึ่งก่อนที่เราจะไปยืมอุปกรณ์อันได้แก่ หน้ากากสนอร์เกิ้ล และฟิน เจ้าหน้าที่ที่ Dive center ของโรงแรมจะให้เราทดสอบใช้อุปกรณ์แล้วว่ายดุกดิกให้เค้าดูที่หน้าหาด ถ้าผ่านดูช่วยเหลือตัวเองได้ เค้าก็จะให้เซ็นยืมอุปกรณ์ไปใช้ เอามาคืนอีกทีวันก่อนเดินทางกลับ แต่ถ้าใครดูเงอะงะนิดๆ หน่อยๆ ก็จะโดนเจ้าหน้าที่เรียกไว้ทำให้ดูใหม่ จนกว่าเค้าจะโอเคค่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าเคยมีที่ไม่โอเคไหม


5. อย่าคาดหวังกับความสวยใต้น้ำ ทะเลเมืองไทยสวยกว่ามากกกกกค่า
อันนี้พูดถึงในแง่ที่ดำผุดดำว่ายเล่นแถวที่พัก โดยที่ไม่ได้ซื้อแพ็คเกจเพิ่มไปสนอร์กเกิ้ลทริปนะคะ ทะเลแถวที่พักของ จขกท ไม่ค่อยมีอะไรจริงๆ เห็นปลาจิ๋วๆ บ้างจุ๋มจิ๋มน่ารัก ไม่ได้มีปะการังงดงาม เทียบกับจุดสนอร์กเกิ้ลในไทย แน่นอนว่าสู้ไม่ได้อยู่แล้ว แต่อย่างน้อยๆ มันก็ดีงามที่เราอยากลงสัมผัสทะเลเมื่อไหร่ ก็ลงได้เลยทันที อีกอย่างเราว่าความสวยของมัลดีฟส์อยู่เหนือน้ำค่ะ คือสีน้ำทะเลกับวิวที่เห็นก็สวยมากแล้ว จะไม่สนใจวิวใต้น้ำและนั่งจิบเครื่องดื่มมองทะเลทั้งวันก็โอเคนะคะ


6. เคยเห็นบางคนบอกว่า ไปทำไมมัลดีฟส์ ไม่เห็นจะมีอะไรให้ทำเลย... เราว่ามีอะไรให้ทำเยอะแยะออก
เราว่าเวลาที่มัลดีฟส์เป็น quality time ของชีวิตนะ เป็นช่วงเวลาที่เราได้ทำอะไรที่อยากทำ (อย่าง จขกท ชอบอ่านหนังสือมาก หิ้วไป 3-4 เล่ม ก็อ่านเกลี้ยงค่ะ) เป็นช่วงเวลาที่เราได้อยู่กับคนที่เรารักจริงๆ แล้วแต่ว่าคุณจะไปกับใครนะ แฟน เพื่อน ครอบครัว มันจะมีเวลาให้คุณคุยกัน ทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยกัน บางคนอาจบอกว่า...ก็ไม่ต้องไปถึงมัลดีฟส์ก็ได้ อันนี้ก็แล้วแต่จุดมุ่งหมายของแต่ละคนแล้วค่ะ ถ้าจะมีใครสักคนมีมัลดีฟส์อยู่ใน dream destination list ของเค้า ทะเลอื่นเป็นหมื่นแสนที่ได้ไปมันก็ทำให้เค้าขีดฆ่ามัลดีฟส์ออกจากลิสต์ไม่ได้อยู่ดีนะ ความชอบของใครก็ของมันจริงๆ ค่ะ


7. กิจกรรมให้อาหารปลา Fish Feeding มันได้อารมณ์โหดกว่าที่คิด
ตอนเจ้าหน้าที่บอกว่า มีกิจกรรมให้อาหารปลาตอน 5 โมงเย็นที่วิวบาร์นะคะ เราก็มโนเป็นภาพโยนขนมปังมุ้งมิ้ง แล้วมีปลามารุมเยอะๆ ให้เราได้เห็นว่าแถวนี้ปลาเพียบ ไรทำนองนี้
แต่วันที่ได้เห็นการให้อาหารปลา คือเห็นคนมายืนมุงตรงสะพานไม้ แล้วเลยเดินไปดูบ้าง เห็นเจ้าหน้าที่โยนเนื้อแดงๆ ลงไปเลยข่า ปลาตะกรุมตะกรามมาก น้ำทะเลเป็นฟองเลย ไม่มีโอกาสได้ถามว่านี่ปลาอะไร แล้วตอนอิฉันลงไปว่ายเล่น เกิดขาดันเลือดออกขึ้นมา จะโดนพวกมันไล่งับหรือไม่ ยังคงเป็นปริศนาจนทุกวันนี้


8. ใครชอบกิน snack หอบกันไปเองด้วยนะคะ
ใครเป็นพวกไปต่างจังหวัดต้องแวะเซเว่นซื้อมันฝรั่ง ข้าวเกรียบ ของกรุบกรอบไว้กิน ขอแนะนำให้เอาไปด้วยเลยค่ะ เพราะที่โรงแรมเขาไม่มีให้และไม่มีขายด้วย แต่เอาจริงๆ ก็มีของกินเรื่อยๆ อยู่แล้ว ไม่ได้อดอยากอะไร ช่วงเย็นๆ ค่ำๆ ถ้านั่งบาร์ จะมีข้าวโพดคั่วหรือถั่วมาให้ฟรีเป็นกับแกล้มบ้างค่ะ นอกนั้นจะเป็นอาหารจริงจังในแต่ละมื้อ ไม่เชิงเป็นขนม ใครติดขนมก็เลือกที่ชอบติดไปสบายใจ (ของที่เค้าไม่ให้เอาเข้าประเทศ มีแค่ของกินที่ทำจากหมู และแอลกอฮอล์ เท่านั้นค่ะ)


9. กรุณานำ After Sun ติดตัวไปให้มั่นเหมาะ
จขกท เป็นพวกดูแลผิวน้อยถึงน้อยมาก ซันบล็อกทาบ้างไม่ทาบ้าง ครีมบำรุงก็ทาน้อย แต่ไปที่นี่ ลงซันบล็อกแล้วทุกวัน แต่แดดแรงจริง แถมเล่นน้ำทุกวัน ผ่านไปสามวันเท่านั้น ความดำและความแสบก็บังเกิดทันที โชคดีที่มินิบาร์ในห้องมีขาย Aloe vera gel 12 USD ช่วยบรรเทาไปได้ กลับมาแสบไปอีกเป็นอาทิตย์ค่ะกว่าจะเริ่มลอก ใครคิดว่าตัวเองอึดถึก ผิวทนทานแล้ว เตรียมไปก็เซฟๆ ดีนะคะ เพราะ จขกท พิสูจน์มาแล้วจริงๆ


10. ขาไป ขอนั่งฝั่งซ้ายมือไว้นะคะ
ไม่รู้ว่าวิวด้านขวาของเครื่องเป็นยังไงเหมือนกัน แต่เพราะเอเจนซี่บอกว่า...เลือกด้านซ้ายนะครับ เราก็เชื่อ แล้วตอนเครื่องจะลงมันก็ “ว้าว” มากจริงๆ น้ำทะเลใสกิ๊ก เห็นเกาะเป็นหย่อมเล็กหย่อมน้อย สวยมาก ถ้าคุณเลือกไปที่พักที่มีโอกาสได้นั่ง sea plane ก็น่าจะได้เห็นวิวงาม แต่รร.ที่ จขกท. เลือกพักมันใกล้มาก นั่งเรือแค่ 15 นาทีก็ถึง วิวมุมสูงจากบนเครื่องเลยจี๊ดใจเป็นพิเศษค่ะ

ใครสนใจรายละเอียดทริป แบบละเอี๊ยดละเอียด ก็สามารถตามไปอ่านได้ที่นี่นะคะ
https://pui10.wordpress.com/2014/11/18/%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%9F%E0%B8%AA%E0%B9%8C-maldives-%E0%B9%83%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%82/

หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังตัดสินใจหรือวางแผนไปค่ะ ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่