ตอนนี้มีการอ้างสร้างความปรองดอง ด้วยการเปิดประเด็น "อภัยโทษ" ไม่ "นิรโทษกรรม"
คืออ้างว่า คนผิดต้องได้รับผิด รับผิดก่อน แล้วจะอภัยโทษให้
ไม่มีการนิรโทษกรรม เพราะการนิรโทษกรรม ทำให้คนผิดได้รับการยกเว้นความผิด
ฟังดูดีครับ
แต่ผมว่าเป็นการบิดเบือนเนื้อหา และซุกปัญหาบ้านเมืองไปไว้ใต้พรม
เป็นแค่การ "ยุทธวิธี" เอาชนะทางการเมืองเท่านั้นเอง
เป็นการมุ่ง "โดดเดี่ยว" พวกชินวัตรเท่านั้นเอง
ผมว่า ประเด็นจริง ๆ แล้ว คือ "ความเป็นธรรม" ต่างหากครับ คือ "ความยุติธรรม" ต่างหากครับ
หากจำคุกเขา พิพากษาเขาว่าผิด อย่างไม่เป็นธรรม อย่างไม่ยุติธรรม
ล้านอภัยโทษก็แก้ปัญหาไม่ได้ครับ
ประเด็นคือ คนที่เขาถูกบอกว่าผิดนั้น เขาโดนกระทำอย่างเป็นธรรมไหม ยุติธรรมกับเขาไหม
หาไม่เป็นธรรม ไม่ยุติธรรม ก็นิรโทษให้เขาไป ไม่ใช่ให้เขารับโทษก่อนแล้วถึงจะอภัย
ทำไมก้าวข้ามเรื่องนี้ เอาแต่อ้างว่าต้องยอมรับผิด แล้วจะอภัยโทษให้เพื่อความปรองดอง
มีหลักประกันอะไร ว่าจะอภัยโทษให้เขาจริง ๆ
ก็ขนาดพูดว่า รับไปก่อน ค่อยแก้ทีหลัง แก้ไม่ยาก ยังแตะไม่ได้ แถมโดนข้อหาล้มล้างไปซะอีก
(มันน่าสมเพชนะครับ ไอ้คนพูดว่ารับไปก่อนนั่นแหละ มานั่งตัดสินว่าเขาล้มล้าง)
นี่มันวิธีกดข่มให้ยอมสยบนะครับ ไม่ใช่การปรองดอง
ที่สำคัญ ฝ่ายหนึ่งทำอะไรก็ผิด แต่อีกฝ่ายผิดเห็น ๆ ไม่เอาผิดซะงั้น
นี่ต่างหากครับคือปัญหา คือจุดที่ต้องแก้ไบเพื่อสร้างความปรองดอง
ไม่ใช่การเลือกปฏิบัติ การเลือกใช้อำนาจ แล้วยังจะมาสร้างบุญคุณด้วยการอภัยโทษ
ปี 58 แล้วนะเว้ยเฮ้ย เด็กสิบขวบก็ทำคลิปลงยูทูปได้แล้ว
แต่พวกคนดีทั้งหลาย ทำไมยังดักดานอยู่แต่ในกะลา ว่าพวกตัวเองคือศูนย์กลางของจักรวาลไม่เลิก
นักเลือกตั้งนั้น ทำไม่ดี คนก็ไม่เลือก ได้เป็น ส.ส. สมัยสองสมัยก็หายไป
แต่ไอ้พวกลากตั้งนี่ มันเข้ามาตั้งแต่ปี 49 ถึงวันนี้ 9 ปีแล้วมันก็ยังอยู่
9 ปี ไม่เห็นทำอะไรดี ๆ เป็นคุณต่อบ้านเมืองและประชาชน แต่มันก็อยู่ได้
และมีแนวโน้มว่าจะอยู่ต่อไปอีกหลายปี
ยังจะมาสุมหัวกันวางแผนรุกคืบทางการเมือง สร้างบุณคุณ เอาดีใส่ตัว
โดยทำมองไม่เห็นความไร้ธรรมที่เกิดขึ้น
พวกปอบ
เรื่อง "อภัยโทษ" ไม่ "นิรโทษกรรม" โปรดอย่าปัดปัญหาไปซุกไว้ใต้พรมเลยครับ ตรงไปตรงมาบ้างเถิดครับ
คืออ้างว่า คนผิดต้องได้รับผิด รับผิดก่อน แล้วจะอภัยโทษให้
ไม่มีการนิรโทษกรรม เพราะการนิรโทษกรรม ทำให้คนผิดได้รับการยกเว้นความผิด
ฟังดูดีครับ
แต่ผมว่าเป็นการบิดเบือนเนื้อหา และซุกปัญหาบ้านเมืองไปไว้ใต้พรม
เป็นแค่การ "ยุทธวิธี" เอาชนะทางการเมืองเท่านั้นเอง
เป็นการมุ่ง "โดดเดี่ยว" พวกชินวัตรเท่านั้นเอง
ผมว่า ประเด็นจริง ๆ แล้ว คือ "ความเป็นธรรม" ต่างหากครับ คือ "ความยุติธรรม" ต่างหากครับ
หากจำคุกเขา พิพากษาเขาว่าผิด อย่างไม่เป็นธรรม อย่างไม่ยุติธรรม
ล้านอภัยโทษก็แก้ปัญหาไม่ได้ครับ
ประเด็นคือ คนที่เขาถูกบอกว่าผิดนั้น เขาโดนกระทำอย่างเป็นธรรมไหม ยุติธรรมกับเขาไหม
หาไม่เป็นธรรม ไม่ยุติธรรม ก็นิรโทษให้เขาไป ไม่ใช่ให้เขารับโทษก่อนแล้วถึงจะอภัย
ทำไมก้าวข้ามเรื่องนี้ เอาแต่อ้างว่าต้องยอมรับผิด แล้วจะอภัยโทษให้เพื่อความปรองดอง
มีหลักประกันอะไร ว่าจะอภัยโทษให้เขาจริง ๆ
ก็ขนาดพูดว่า รับไปก่อน ค่อยแก้ทีหลัง แก้ไม่ยาก ยังแตะไม่ได้ แถมโดนข้อหาล้มล้างไปซะอีก
(มันน่าสมเพชนะครับ ไอ้คนพูดว่ารับไปก่อนนั่นแหละ มานั่งตัดสินว่าเขาล้มล้าง)
นี่มันวิธีกดข่มให้ยอมสยบนะครับ ไม่ใช่การปรองดอง
ที่สำคัญ ฝ่ายหนึ่งทำอะไรก็ผิด แต่อีกฝ่ายผิดเห็น ๆ ไม่เอาผิดซะงั้น
นี่ต่างหากครับคือปัญหา คือจุดที่ต้องแก้ไบเพื่อสร้างความปรองดอง
ไม่ใช่การเลือกปฏิบัติ การเลือกใช้อำนาจ แล้วยังจะมาสร้างบุญคุณด้วยการอภัยโทษ
ปี 58 แล้วนะเว้ยเฮ้ย เด็กสิบขวบก็ทำคลิปลงยูทูปได้แล้ว
แต่พวกคนดีทั้งหลาย ทำไมยังดักดานอยู่แต่ในกะลา ว่าพวกตัวเองคือศูนย์กลางของจักรวาลไม่เลิก
นักเลือกตั้งนั้น ทำไม่ดี คนก็ไม่เลือก ได้เป็น ส.ส. สมัยสองสมัยก็หายไป
แต่ไอ้พวกลากตั้งนี่ มันเข้ามาตั้งแต่ปี 49 ถึงวันนี้ 9 ปีแล้วมันก็ยังอยู่
9 ปี ไม่เห็นทำอะไรดี ๆ เป็นคุณต่อบ้านเมืองและประชาชน แต่มันก็อยู่ได้
และมีแนวโน้มว่าจะอยู่ต่อไปอีกหลายปี
ยังจะมาสุมหัวกันวางแผนรุกคืบทางการเมือง สร้างบุณคุณ เอาดีใส่ตัว
โดยทำมองไม่เห็นความไร้ธรรมที่เกิดขึ้น
พวกปอบ