พอดีเราเป็นลมพิษเรื้อรังคะ เป็นมา17ปี คือพอดีเราหาข้อมูลพอทราบมาว่าที่นี่มีการรักษาแบบทางเลือกใหม่ คือมีการสกัดเลือดตัวเราละไปทำเซรุ่มวัคซีนละฉีดเข้าไป อันนี้คือข้อมูลจากเว็บคะ
1. การตรวจภูมิแพ้แฝง (Food Intolerance Test)
การตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงซึ่งอาจเป็นสาเหตุของความเจ็บป่วยมากมายที่เราไม่เคยรู้ รักษาอาการเรื้อรังต่างๆก็ไม่หายสักที และกระตุ้นร่างกายให้เป็นโรค Autoimmune ซึ่งยากต่อการรักษา ดังนั้นการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงจึงมีความสำคัญอย่างมาก โดยมีสารอาหารที่นำมาทดสอบถึง 221 ชนิด ล้วนแต่เป็นสารอาหารที่รับประทานกันอย่างแพร่หลายทั่วไป พร้อมมีเอกสารรายงานผลรวมทั้งมีคำแนะนำสารอาหารที่อาจรับประทานแทนอาหารที่แพ้ไว้อย่างละเอียด ซึ่งนับว่าเป็นวิธีการที่มีประโยชน์อย่างแท้จริง
ผลเสียอื่นๆที่ตามมาจากภูมิแพ้อาหารแฝง
กลายเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง เช่น SLE รูมาตอยด์ สะเก็ดเงิน เป็นต้น
ปวดศีรษะเรื้อรัง ไมเกรน เครียดโดยไม่ทราบสาเหตุ หงุดหงิดง่าย
ผิวแพ้ง่าย แม้แต่เครื่องสำอางที่ตนเองใช้เป็นประจำสม่ำเสมอมานานก็มีปฏิกิริยาแพ้ไปด้วย
เป็นสิวเรื้อรัง ไม่หายขาด แม้เลยวัยรุ่นแล้วก็ยังมีสิว และมักจะรักษาหายยาก
อาการบวมน้ำ ความอ้วนเรื้อรัง โดยไม่ทราบสาเหตุ
ภูมิแพ้แอบแฝงมีส่วนทำให้เกิดโรคเรื้อรังอื่นๆร่วมด้วย เช่น โรคเบาหวานชนิดที่ 1 โรคกระดูกพรุน โรคแพ้กลูเทน โรคโลหิตจาง มะเร็งลำไส้และกระเพาะอาหาร โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคไทรอยด์เป็นพิษ เป็นต้น
2. วัคซีนภูมิแพ้เฉพาะบุคคล (Autologous Serum I)
เป็นวิธีการปรับภูมิต้านทานผู้ป่วย เปรียบเทียบได้กับคำว่า “หนามยอกเอาหนามบ่ง” คือ เมื่อพบว่าภูมิแพ้เกิดขึ้นแล้วล่องลอยในกระแสเลือด ก็ใช้เลือดของตนเองมาช่วยในการรักษาโดยเจาะเลือดของผู้ป่วยภูมิแพ้ขณะที่มีปฏิกิริยาภูมิแพ้ เอาเฉพาะซีรั่ม ซึ่งในซีรั่มนั้น จะมีภูมิคุ้มกันไวเกินที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้อยู่ นำซีรั่มมาแยกเซลล์ที่ตกค้างออก ให้เหลือเฉพาะโปรตีน แล้วใช้ตัวกระตุ้นซีรั่ม (Serum activator) เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างบางประการของภูมิคุ้มกันไวเกิน (Antibody) ให้มีสภาพเป็น Antigen แล้วฉีด Antigen ที่ได้เข้าใต้ผิวหนัง โดยให้ผู้ป่วยภูมิแพ้ได้รับสารก่อภูมิแพ้ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับคนไข้ภูมิแพ้แต่ละรายครั้งละน้อยๆเป็นเวลาต่อกันระยะหนึ่ง วิธีนี้สามารถใช้ได้แม้ในกรณีที่ผู้ป่วยภูมิแพ้มีอาการแพ้มากที่สุด ซึ่งร่างกายจะรับสารก่อภูมิแพ้ในขนาดน้อยๆ นี้ได้โดยไม่ปรากฏอาการใดๆจากนั้นระบบภูมิต้านทานของร่างกายจะมีการปรับโดยลดการสร้างภูมิคุ้มกันไวเกินลง หรือหลั่งสารที่จะไปต้านการสร้างภูมิคุ้มกันไวเกินบางชนิดลงได้อย่างมีนัยสำคัญ นั่นคือแม้ว่าผู้ป่วยจะได้รับสารก่อภูมิแพ้แต่เมื่อร่างกายลดการสร้างภูมิคุ้มกันไวเกินที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ลง จึงไม่สามารถก่อปฏิกิริยาภูมิแพ้กับสารก่อภูมิแพ้นั้นได้ ผู้ป่วยก็จะปลอดจากโรคภูมิแพ้โดยปริยาย
ส่งผลให้ปฏิกิริยาภูมิแพ้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ จึงสามารถรักษาหรือทุเลาอาการของโรคภูมิแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การรักษาภูมิแพ้ด้วยวิธีนี้ให้ผลการรักษาได้ผลดีร้อยละ 60 – 80 และไม่มีผลข้างเคียงใดๆเนื่องจากเป็นสารที่สกัดมาจากตัวของผู้ป่วยภูมิแพ้เอง จึงปลอดภัย ไม่มีอาการต้านยา แพ้ยา หรือมีสารตกค้างภายในร่างกาย
ซึ่งราคาก็แพงใช่ได้เลยคะ ค่าเจาะเลือดแอบแฝง221 รายการ 20000 บาท ค่าสกัดวัคซีน 25000 บาท 60 เข็ม
ละถ้าไม่หายละคะ??? มีทำคีเลชั่นแถม 1 คะ!! อืมม........!!!!!!
ทางนั้นบอกเราว่าสมมุติถ้าเจาะเลือดให้หลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ เราก็งงสกัดเลือดมาฉีด. ละทำไมยังต้องเลี่ยง
เพราะเราลองเซิทอ่านดูเหมือนเปนพวกข้อมูลแพทย์เขาบอกไว้ว่าการรักษาแบบนี้ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องรู้ว่าแพ้อะไรเพราะฉีดวัคซีนไปมันก็ไปทำงานกับร่างกาย
ละอีกอย่างมันใช่เรื่องต้องเลี่ยงไหมเพราะแต่ก่อนเราแพ้เป็นร้อยๆชนิดกินไรแทบไม่ได้เลยต้องกินอาหารปรุงรสด้วยเกลือ
ไม่นึกปัจจุบันอาหารคลีนจะมาแรงเช่นนี้ ละในชีวิตจริงใครจะมาเลี่ยงได้ แถมเสียแพงขนาดนี้ละยังจะต้องมาเลี่ยงสิ่งที่แพ้อีกเหรอ
แต่คนรู้จักเราไปหาอีกที่คะตรงเพลินจิตชื่อ absolute health integrative medicine. แพงนรกแตกมว๊ากก!!!! แต่เขาบอกอาการเขาดีขึ้นเยอะ
เขาเป็นไทรอยด์รักษามาเป็นปีละคะหมดไปหลายแสนละคะ ทางนั้นแค่เข้าไปก็จะให้ตรวจสุขภาพก่อน 5,000 บาท
ของรุ่นพี่เรามีทำคีเลชั่น สกัดเลือดฉีดวัคซีนจากตัวเราใครเคยไปบ้างคะมาแนะนำที
เราได้ยินมาแว่วๆว่า การรักษาแบบนี้ที่ประเทศไทยมี 3 แห่งไม่ทราบเท็จจริงยังไงนะคะ
การรักษาแบบนี้มีมานานแล้วในเยอรมัน หรือพวกสแตมเซล แต่ในไทยมาแบบเงียบๆ 10 ปีมั้งคะ เพราะมันแพงมาก
เราหาอ่านในเน็ทหาข้อมูลแทบไม่เจอเลย
เรายังงๆกับคีย์เวิดอยู่เลยอยากเซิทหาข้อมูลที่ฉีดเซรุ่มสกัดว่ามันเรียกว่าการรักษาอะไรใช่ aotologous รึเปล่ายังงงๆ
เอาเป็นว่าใครทราบมาช่วยรีวิวให้ฟังหน่อยนะคะ เราอยากหายขาดจากลมพิษเรื้อรังมากคะ
มีใครเคยรักษาภูมิแพ้หรือโรคอื่นๆที่ whollymedicalบ้างมั้ยคะดีไหมหายจริงมั้ย??
1. การตรวจภูมิแพ้แฝง (Food Intolerance Test)
การตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงซึ่งอาจเป็นสาเหตุของความเจ็บป่วยมากมายที่เราไม่เคยรู้ รักษาอาการเรื้อรังต่างๆก็ไม่หายสักที และกระตุ้นร่างกายให้เป็นโรค Autoimmune ซึ่งยากต่อการรักษา ดังนั้นการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงจึงมีความสำคัญอย่างมาก โดยมีสารอาหารที่นำมาทดสอบถึง 221 ชนิด ล้วนแต่เป็นสารอาหารที่รับประทานกันอย่างแพร่หลายทั่วไป พร้อมมีเอกสารรายงานผลรวมทั้งมีคำแนะนำสารอาหารที่อาจรับประทานแทนอาหารที่แพ้ไว้อย่างละเอียด ซึ่งนับว่าเป็นวิธีการที่มีประโยชน์อย่างแท้จริง
ผลเสียอื่นๆที่ตามมาจากภูมิแพ้อาหารแฝง
กลายเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง เช่น SLE รูมาตอยด์ สะเก็ดเงิน เป็นต้น
ปวดศีรษะเรื้อรัง ไมเกรน เครียดโดยไม่ทราบสาเหตุ หงุดหงิดง่าย
ผิวแพ้ง่าย แม้แต่เครื่องสำอางที่ตนเองใช้เป็นประจำสม่ำเสมอมานานก็มีปฏิกิริยาแพ้ไปด้วย
เป็นสิวเรื้อรัง ไม่หายขาด แม้เลยวัยรุ่นแล้วก็ยังมีสิว และมักจะรักษาหายยาก
อาการบวมน้ำ ความอ้วนเรื้อรัง โดยไม่ทราบสาเหตุ
ภูมิแพ้แอบแฝงมีส่วนทำให้เกิดโรคเรื้อรังอื่นๆร่วมด้วย เช่น โรคเบาหวานชนิดที่ 1 โรคกระดูกพรุน โรคแพ้กลูเทน โรคโลหิตจาง มะเร็งลำไส้และกระเพาะอาหาร โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคไทรอยด์เป็นพิษ เป็นต้น
2. วัคซีนภูมิแพ้เฉพาะบุคคล (Autologous Serum I)
เป็นวิธีการปรับภูมิต้านทานผู้ป่วย เปรียบเทียบได้กับคำว่า “หนามยอกเอาหนามบ่ง” คือ เมื่อพบว่าภูมิแพ้เกิดขึ้นแล้วล่องลอยในกระแสเลือด ก็ใช้เลือดของตนเองมาช่วยในการรักษาโดยเจาะเลือดของผู้ป่วยภูมิแพ้ขณะที่มีปฏิกิริยาภูมิแพ้ เอาเฉพาะซีรั่ม ซึ่งในซีรั่มนั้น จะมีภูมิคุ้มกันไวเกินที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้อยู่ นำซีรั่มมาแยกเซลล์ที่ตกค้างออก ให้เหลือเฉพาะโปรตีน แล้วใช้ตัวกระตุ้นซีรั่ม (Serum activator) เพื่อเปลี่ยนโครงสร้างบางประการของภูมิคุ้มกันไวเกิน (Antibody) ให้มีสภาพเป็น Antigen แล้วฉีด Antigen ที่ได้เข้าใต้ผิวหนัง โดยให้ผู้ป่วยภูมิแพ้ได้รับสารก่อภูมิแพ้ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับคนไข้ภูมิแพ้แต่ละรายครั้งละน้อยๆเป็นเวลาต่อกันระยะหนึ่ง วิธีนี้สามารถใช้ได้แม้ในกรณีที่ผู้ป่วยภูมิแพ้มีอาการแพ้มากที่สุด ซึ่งร่างกายจะรับสารก่อภูมิแพ้ในขนาดน้อยๆ นี้ได้โดยไม่ปรากฏอาการใดๆจากนั้นระบบภูมิต้านทานของร่างกายจะมีการปรับโดยลดการสร้างภูมิคุ้มกันไวเกินลง หรือหลั่งสารที่จะไปต้านการสร้างภูมิคุ้มกันไวเกินบางชนิดลงได้อย่างมีนัยสำคัญ นั่นคือแม้ว่าผู้ป่วยจะได้รับสารก่อภูมิแพ้แต่เมื่อร่างกายลดการสร้างภูมิคุ้มกันไวเกินที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ลง จึงไม่สามารถก่อปฏิกิริยาภูมิแพ้กับสารก่อภูมิแพ้นั้นได้ ผู้ป่วยก็จะปลอดจากโรคภูมิแพ้โดยปริยาย
ส่งผลให้ปฏิกิริยาภูมิแพ้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ จึงสามารถรักษาหรือทุเลาอาการของโรคภูมิแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การรักษาภูมิแพ้ด้วยวิธีนี้ให้ผลการรักษาได้ผลดีร้อยละ 60 – 80 และไม่มีผลข้างเคียงใดๆเนื่องจากเป็นสารที่สกัดมาจากตัวของผู้ป่วยภูมิแพ้เอง จึงปลอดภัย ไม่มีอาการต้านยา แพ้ยา หรือมีสารตกค้างภายในร่างกาย
ซึ่งราคาก็แพงใช่ได้เลยคะ ค่าเจาะเลือดแอบแฝง221 รายการ 20000 บาท ค่าสกัดวัคซีน 25000 บาท 60 เข็ม
ละถ้าไม่หายละคะ??? มีทำคีเลชั่นแถม 1 คะ!! อืมม........!!!!!!
ทางนั้นบอกเราว่าสมมุติถ้าเจาะเลือดให้หลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ เราก็งงสกัดเลือดมาฉีด. ละทำไมยังต้องเลี่ยง
เพราะเราลองเซิทอ่านดูเหมือนเปนพวกข้อมูลแพทย์เขาบอกไว้ว่าการรักษาแบบนี้ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องรู้ว่าแพ้อะไรเพราะฉีดวัคซีนไปมันก็ไปทำงานกับร่างกาย
ละอีกอย่างมันใช่เรื่องต้องเลี่ยงไหมเพราะแต่ก่อนเราแพ้เป็นร้อยๆชนิดกินไรแทบไม่ได้เลยต้องกินอาหารปรุงรสด้วยเกลือ
ไม่นึกปัจจุบันอาหารคลีนจะมาแรงเช่นนี้ ละในชีวิตจริงใครจะมาเลี่ยงได้ แถมเสียแพงขนาดนี้ละยังจะต้องมาเลี่ยงสิ่งที่แพ้อีกเหรอ
แต่คนรู้จักเราไปหาอีกที่คะตรงเพลินจิตชื่อ absolute health integrative medicine. แพงนรกแตกมว๊ากก!!!! แต่เขาบอกอาการเขาดีขึ้นเยอะ
เขาเป็นไทรอยด์รักษามาเป็นปีละคะหมดไปหลายแสนละคะ ทางนั้นแค่เข้าไปก็จะให้ตรวจสุขภาพก่อน 5,000 บาท
ของรุ่นพี่เรามีทำคีเลชั่น สกัดเลือดฉีดวัคซีนจากตัวเราใครเคยไปบ้างคะมาแนะนำที
เราได้ยินมาแว่วๆว่า การรักษาแบบนี้ที่ประเทศไทยมี 3 แห่งไม่ทราบเท็จจริงยังไงนะคะ
การรักษาแบบนี้มีมานานแล้วในเยอรมัน หรือพวกสแตมเซล แต่ในไทยมาแบบเงียบๆ 10 ปีมั้งคะ เพราะมันแพงมาก
เราหาอ่านในเน็ทหาข้อมูลแทบไม่เจอเลย
เรายังงๆกับคีย์เวิดอยู่เลยอยากเซิทหาข้อมูลที่ฉีดเซรุ่มสกัดว่ามันเรียกว่าการรักษาอะไรใช่ aotologous รึเปล่ายังงงๆ
เอาเป็นว่าใครทราบมาช่วยรีวิวให้ฟังหน่อยนะคะ เราอยากหายขาดจากลมพิษเรื้อรังมากคะ