สวัสดีค่ะ พี่ๆ น้องๆ เนื่องจากกระทู้
http://pantip.com/topic/31943019 กับ
http://pantip.com/topic/31943019 มีหลังไมค์มาถามหนูว่าชีวิตหลังจากเรียนจบเป็นอย่างไรบ้าง วันนี้เลยมาตอบกัน โดยที่จะเน้นไปในเรื่องการออกกำลังกายเป็นหลักนะคะ (ขอ tag เรียนต่อต่างประเทศด้วย แต่เนื้อหา อาจจะมีไม่มาก)
นี้คือบางส่วนที่หนูต้องปรับตัวหลังจากการอยู่เมืองนอกเป็นเวลานาน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ กลับมาไทยวันดี วันที่ 911 (9 กย 2557) รวมตอนนี้ก็ 4 เดือนนิดๆ มาถึงก็ทำงานเลยค่ะ ที่ทำงานไม่ค่อยมีปัญหาอะไร เพราะพวกเขาเข้าใจว่าหนูเพิ่งกลับมา แต่จะเจอ Culture shock (ปัญหาจากความแตกต่างด้านวัฒนธรรม) จากผู้คนที่พบเจอทั่วๆ ไปนิดหน่อยค่ะ เช่น เวลาพูดภาษาอังกฤษ คนจะหมั่นไส้ วิธีแก้ก็เหมือนวิธีเดียวกับกระทู้เก่าๆ เลย คือ ยิ้มสู้ เราคิดดี เราก็มีความสุข [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เพราะหนูเชื่อว่า คนที่ชอบนินทาว่าร้าย ตำหนิ หรือกล่าวว่าคนอื่นๆ เขาก็ไม่มีความสุขเลยนะคะ ดั่งสุภาษิตอินเดียว่าไว้ การที่เราชี้นิ้วไปที่คนอีกคน อีก 3 นิ้วที่เหลือ มันเด้งกลับมาหาเรา ก็ค่อยๆ ปรับตัว ทุกคนมี + และ - หนูก็เป็นแค่เด็กน้อยที่เรียนรู้โลกอันกว้างใหญ่ มี ทำดี และไม่ดี กระจกมีหลายบาน ก็แก้ไขกันไป
ปัญหาหลักๆ คือ เรื่องสุขภาพค่ะ เป็นทอนซิลอักเสบทุกครั้งที่โดนควัน (4 ครั้ง ใน 3 เดือน ต้องฉีดยาตลอด) อากาศเมืองไทยไม่ค่อยดี ใช้เวลาปรับนิดนึง แต่สรุปสั้นๆ คือ มีความสุขมากๆ กลับมาบ้านเจอหน้าครอบครัว ทำงานสิ้นเดือนเอาเงินให้พ่อให้แม่ พบปะเพื่อนฝูง มีโอกาสไปงานแต่งเพื่อน ได้ทานอาหารหลากหลาย ก็มีบางมุมที่ทำให้คิดถึงเมกา แต่ home is where the heart is
ต่อมา เข้าเรื่อง วันนี้จะพูดถึงเรื่อง "วิ่ง"
อยู่โน้น ออกกำลังกายเป็นประจำเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ด้วยต้องตื่นเช้าไปทำงานก่อนรถติดเพราะที่ทำงานไกล บวกกับอาหารไทยอันยั่วยวนใจและเพื่อนๆ ชวนกันทานตลอด ผลคือ อ้วนขึ้นอ้วนขึ้น เลยตัดสินใจวิ่ง
วิ่งงานแรก Run for kids (12/10/14) เรียกว่า วิ่งครึ่งเดินครึ่งดีกว่า จน สุดท้าย เริ่มฝึกวิ่งจริงๆ จังๆ วันที่ 4 พย 2014 วันแรก วิ่งได้ 26 นาที (จำไม่ลืม)
หลังจากนั้นก็คุยกับเพื่อน "ป้าย(ทีมเต่าน้อย)" ป้ายก็ บังคับหนูให้เพิ่มระยะไปเรื่อยๆ วิ่งไปกับป้าย ตอนแรก จะรู้สึกเป็นตัวถ่วงมาก เพราะรู้สึกเราวิ่งช้า แล้วก็ป่วยบ่อย แต่ก็พยายามซ้อม ตารางของหนูก็คือ ทุกเช้าก่อนเข้างาน เพิ่มเวลาไปเรื่อยๆ จนครบ 65 นาที (เขาล๊อคให้ได้มากสุดแค่นี้) + เวท วันอาทิตย์ซ้อมยาวที่สวน ช่วงแรกๆ ไปวิ่งสวนกลับมาจะป่วย แต่ไม่เคยหยุดสักอาทิตย์ วิ่งไป ไอไป สูดน้ำมูกไป กลับบ้านกินยานอน
งานที่สอง คือ Sasin mini marathon (30/11/14) งานนี้ ตั้งใจวิ่งให้จบ วิ่งไปวิ่งมา อ้าว... ได้ที่ 3 แหะ ... เริ่มสนุกกับมัน คราวนี้ เริ่มศึกษา การวิ่งจริงจัง ป้ายจะเตือนเรื่องการลงน้ำหนักเท้า ทุกครั้งที่วิ่งดัง ป้ายจะดุ และเริ่มเข้าใจคำว่า "pace" งานนี้หนูวิ่ง pace 5.45
งานต่อมา หุ้มเกาะ คราวนี้วิ่งเกาะป้าย ไปเรื่อยๆ สนุกดี จนไปต่อไม่ไหวตรงกิโลที่ 9.5 กดไปดูสถิติ เพิ่งเห็นว่า วิ่ง pace 4 ปลายๆ กับป้ายไป 3 กิโล มิน่าละ เดินเข้าเส้นใจแบบนอยๆ
หลังจากนั้นคุยกัน ป้ายสอนให้สังเกตแนวการวิ่งของตัวเอง ก็เลยรู้ว่า หนูชอบวิ่งให้สนุก วิ่งเสร็จแล้วฟิน จุดแข็งคือ หนู pace นิ่ง แต่ไม่อึด เวลาเหนื่อยแล้วชอบหยุด pace ของหนูคือ 5 กลางๆ ป้ายแนะนำว่า ให้หนูวิ่ง pace 5 กลางๆ ไปเรื่อยๆ แล้วก็เพิ่มระยะทางไปเรื่อยๆ บางวันวิ่งระยะน้อยหน่อย ก็อัด pace 5 ต้นๆ ได้
หลังๆ เวลาไม่ค่อยตรงกัน หนูก็วิ่งคนเดียวไม่ค่อยได้ ขี้เหงา โชคดีไปเจอ snail gang รวมตัวกลุ่มนักวิ่งหน้าใหม่ ก็เลยไปรวมตัวกับพวกเขา แล้วก็ชวนๆ กันวิ่ง คุยกันไปคุยกันมา เพื่อนๆ ชวนลง half จอมบึง หนูก็เอาไปกับเขาด้วย ทีนี้ก็ซ้อมจริงจังขึ้น คือ วันธรรมดา 65 นาทีทุกเช้า + เวท วันไหนตอนเย็นพอจะว่างก็ไปวิ่งต่อ เพิ่มระยะทางไปเรื่อยๆ วันอาทิตย์จะวิ่งยาวๆ หนูโชคดีมี Buddy วิ่งด้วยตลอด คนที่สำคัญคือ เคน
หนูซ้อมได้มากที่สุดแค่ 16.67 กม. (pace 5.3) แต่มีวันที่วิ่งรวมระยะทางเช้าเย็นได้มากที่สุด 27 กม. 1 ครั้ง บอกเพื่อนๆ ตลอดว่า คิดว่าไม่รอดแน่ๆ คงมีเดิน ..ก่อนวิ่งก็นอนให้พอ ทานให้ดี แล้วก็วิ่ง งานนี้ เคนมาวิ่งเป็นเพื่อน เพราะกลัวหนูไม่จบ
งานจอมบึงเป็นงานที่ดีมากๆ เลยนะคะ ชอบเด็กๆ ที่ตื่นตั้งแต่ ตี2 มาแต่งตัว เต้นเชียร์ ยื่นมือให้แปะระหว่างทางตลอด ชอบอากาศดี๊ดี หายใจออกมาเป็นไอ ชอบรอบยิ้มอันเป็นมิตรของชาวบ้าน ชอบบรรยากาศ ชอบเหล่านักวิ่งที่ดูมีสีสัน แต่งตัวกันชวนให้ยิ้ม ตั้งแต่คุณเป็ดน้อย คุณสไปเดอร์แมน คุณแบทแมน คุณผีตานี วิ่งไปยิ้มไปจนลืมความเหนื่อยไปเลย ชอบเวลาที่คุณลุงคุณป้าแซงหนู หนูไม่ได้อายนะ แต่หนูรู้สึกว่ามันน่ารักมากๆ เลย ได้เห็นว่า ความสุขจากการวิ่งมันเป็นแบบนี้เองนะ วิ่งผ่านใคร ใครก็ยิ้มให้ โอย.. มีความสุขสุดๆ
เหตุการณ์สำคัญๆ ก็มีให้นึกถึง ที่แรกเลย คือ
กม. ที่ 4 วิ่งแซงจ่าบิว หันไปบอกจ่า "สู้ๆ นะคะ"
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถ้าจ่าอ่าน หนูคือเด็กเสื้อฟ้า
กม. ที่ 11 เห็นคุณลุงท่านนึงล้มลง ใจไม่ดีเลย รีบสับขาไปที่โต๊ะให้น้ำ ตะโกนบอกเจ้าหน้าที่ว่า มีคนเจ็บ ... หนูหวังว่าอาการคุณลุงจะไม่เป็นอะไรมากนะคะ หนูตามข่าวอยู่ ได้ข่าวว่าปลอดภัยแล้ว ประทับใจ นักวิ่งหลายๆ ท่าน ที่ช่วยเหลือกันระหว่างวิ่งมากๆ
กม. ที่ 13 เริ่มแปะมือกับพี่น้องนักวิ่งที่กลับตัวไปก่อนแล้ว และพอหนูกลับตัวหนูก็แปะมือส่งพลังต่อให้พี่น้องนักวิ่งคนอื่นๆ มีความสุขมากเลย มันช่วยได้มากจริงๆ
กม. ที่ 15 ได้รับน้ำมนต์
กม. ที่ 16 จ่าบิวที่วิ่งอยู่อีกฝั่งตะโกนขึ้นมาตรงหน้าหนูพอดีเลยว่า "ขอพลังหน่อยค่ะ" หนูก็เลยตะโกนกลับว่า "สู้ๆ นะคะ"
กม. ที่ 17 เคนหันมาถามว่า โอเคมั้ย หนูหันกลับไปตอบ "แป้งจะเอา pace เลข 5 ของแป้ง เข้าเส้นชัย จะไม่ให้หลุด 6 ให้ได้"
และแล้ว เส้นชัยก็เห็นลางๆ แล้วก็เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 2 วินาที (pace 5.47) รีบวิ่งไปหาพี่ๆ น้องๆ แล้วบอกว่า ทำได้แล้ว ดีใจจังเลย วิ่งไปหาป้าย ป้ายบอก ป้ายวิ่งได้ 1.37 ชมนะ (อ่ะนะ) ดีใจแบบ บอกไม่ถูก รู้สึกแบบ break the limit ของตัวเองมากๆ มันฟิน มันใช่ มันแบบ เห้ย .... ต่อไปนี้ไม่ว่าอะไรจะยากเย็น ถ้าหนูตั้งใจทำ มันก็ต้องสำเร็จสิ เพื่อนๆ บอก เทอดูแรงเหลือนะ ...อ้าวหรอ

... ไม่รู้ตัว... สงสัยต้องไป Full marathon แล้วสินะ
กลับมาที่ห้อง อาบน้ำเตรียมกลับ เคนเดินมาบอกว่า แป้งได้ที่ 8 นะ .... กระโดดดีใจลืมตัวเลย ... เพราะไม่คิดว่าผลจะออกมาดีเลย จากเดิมที่วางแผนกันว่าจะเดินนิดๆ หน่อยๆ กลายเป็น เข้าเส้นชัย สวยงาม ... โอย ชีวิตดี๊ดี มันยิ่งกว่ามีความสุขอีก ...
สำหรับนักวิ่งหน้าใหม่ที่หาหาแรงบันดาลใจในการวิ่ง หรือใครที่วิ่งคนเดียวเหงาๆ หาเพื่อน Snail Gang ยินดีต้อนรับค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/groups/SnailG/
บทส่งท้าย... มีหลายหลากเรื่องนักวิ่งที่หนูฟังมาก บางคนวิ่งมาราทอนใช้เวลา 8 ชม. บางคนเจ็บ บางคนท้อ มีพี่ใน Snail Gang วิ่ง half เกือบ 4 ชม. แต่พี่เขาดูมีความสุขในการวิ่งมากๆ แล้วพี่เขาก็คือผู้ชนะอีกคน ทุกคนที่กรอกใบสมัครวิ่ง คุณชนะไป 75% แล้วค่ะ เหลืออีก 25% ที่เราต้องคว้ามันมาให้ได้ จะวิ่งเร็ววิ่งช้า หรือแม้จะเดิน สุดท้ายเส้นชัยก็คือที่เดียวกัน บางวันหนูก็วิ่งได้น้อย รู้สึกแย่ จะร้องไห้ แต่หนูไม่เคยถอย วันนี้วิ่งได้ไม่ดี แต่หนูก็ยังได้วิ่ง พรุ่งนี้เอาใหม่ การที่เราล้ม มันเป็นโอกาสดีให้กลับมามองข้อบกพร่องของตัวเอง วิ่งในสไตล์ของเรา ไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร เพราะคนเดียวที่เราอยากเอาชนะ คือเราเมื่อนาทีที่แล้ว
ปล.1 สโลแกนเดิม หนูไม่ใช่คนเก่ง หนูแค่เด็กน้อยที่เรียนรู้โลกกว้างใหญ่ใบนี้ไปเรื่อยๆ ค่ะ ^^
ปล.2 ขอขอบคุณ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ พี่หมี บี หนึ่ง เคน พี่เอก พี่วิน พี่alex พี่อาร์ม เพื่อนๆ SNG ขอบคุณไอดอลทั้งหลาย ฮอนด้า พี่ยู้ พี่ออ. พี่ปุ้ย(WM) พี่เจส และอีกหลายๆ คนที่เป็นแรงบันดาลใจในการอกล. ของหนู ขอบคุณโค้ชป้ายทีมเต่าน้อยที่เป็นคนเปิดโลกการวิ่งของแป้ง...
ปล.3 ป้ายหนีไป pace3 พี่หมี เคน พี่alex หนีไป 4 ...

หนูไม่เหลือใครวิ่งเป็น buddy หนูแล้ว ... ใครสนใจยกมือขึ้น!
2 เดือนที่ผ่านมาของแป้ง มันเปลี่ยนโลกทั้งใบของแป้งไปแล้ว .... เอาละ อย่ามัวแต่อ่านกระทู้ หยิบรองเท้าแล้วออกไปวิ่งกันเถอะ!
"หากคุณคิดว่าคุณไม่มีเวลาออกกำลังกาย ... คุณคิดผิด เพราะ การอกล. ใช้เวลาไม่นานเท่าการนั่งอ่านกระทู้นี้นะคะ" ^^'
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตามสัญญาแล้วนะเคน ว่าถ้าแป้งวิ่งจบ half สวยๆ จะเขียนกระทู้สร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ ต่อ
...จากเด็กน้อยเริ่มวิ่งได้ 2 เดือน ลง half marathon ครั้งแรกที่จอมบึง...
นี้คือบางส่วนที่หนูต้องปรับตัวหลังจากการอยู่เมืองนอกเป็นเวลานาน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปัญหาหลักๆ คือ เรื่องสุขภาพค่ะ เป็นทอนซิลอักเสบทุกครั้งที่โดนควัน (4 ครั้ง ใน 3 เดือน ต้องฉีดยาตลอด) อากาศเมืองไทยไม่ค่อยดี ใช้เวลาปรับนิดนึง แต่สรุปสั้นๆ คือ มีความสุขมากๆ กลับมาบ้านเจอหน้าครอบครัว ทำงานสิ้นเดือนเอาเงินให้พ่อให้แม่ พบปะเพื่อนฝูง มีโอกาสไปงานแต่งเพื่อน ได้ทานอาหารหลากหลาย ก็มีบางมุมที่ทำให้คิดถึงเมกา แต่ home is where the heart is
ต่อมา เข้าเรื่อง วันนี้จะพูดถึงเรื่อง "วิ่ง"
อยู่โน้น ออกกำลังกายเป็นประจำเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ด้วยต้องตื่นเช้าไปทำงานก่อนรถติดเพราะที่ทำงานไกล บวกกับอาหารไทยอันยั่วยวนใจและเพื่อนๆ ชวนกันทานตลอด ผลคือ อ้วนขึ้นอ้วนขึ้น เลยตัดสินใจวิ่ง
วิ่งงานแรก Run for kids (12/10/14) เรียกว่า วิ่งครึ่งเดินครึ่งดีกว่า จน สุดท้าย เริ่มฝึกวิ่งจริงๆ จังๆ วันที่ 4 พย 2014 วันแรก วิ่งได้ 26 นาที (จำไม่ลืม)
หลังจากนั้นก็คุยกับเพื่อน "ป้าย(ทีมเต่าน้อย)" ป้ายก็ บังคับหนูให้เพิ่มระยะไปเรื่อยๆ วิ่งไปกับป้าย ตอนแรก จะรู้สึกเป็นตัวถ่วงมาก เพราะรู้สึกเราวิ่งช้า แล้วก็ป่วยบ่อย แต่ก็พยายามซ้อม ตารางของหนูก็คือ ทุกเช้าก่อนเข้างาน เพิ่มเวลาไปเรื่อยๆ จนครบ 65 นาที (เขาล๊อคให้ได้มากสุดแค่นี้) + เวท วันอาทิตย์ซ้อมยาวที่สวน ช่วงแรกๆ ไปวิ่งสวนกลับมาจะป่วย แต่ไม่เคยหยุดสักอาทิตย์ วิ่งไป ไอไป สูดน้ำมูกไป กลับบ้านกินยานอน
งานที่สอง คือ Sasin mini marathon (30/11/14) งานนี้ ตั้งใจวิ่งให้จบ วิ่งไปวิ่งมา อ้าว... ได้ที่ 3 แหะ ... เริ่มสนุกกับมัน คราวนี้ เริ่มศึกษา การวิ่งจริงจัง ป้ายจะเตือนเรื่องการลงน้ำหนักเท้า ทุกครั้งที่วิ่งดัง ป้ายจะดุ และเริ่มเข้าใจคำว่า "pace" งานนี้หนูวิ่ง pace 5.45
งานต่อมา หุ้มเกาะ คราวนี้วิ่งเกาะป้าย ไปเรื่อยๆ สนุกดี จนไปต่อไม่ไหวตรงกิโลที่ 9.5 กดไปดูสถิติ เพิ่งเห็นว่า วิ่ง pace 4 ปลายๆ กับป้ายไป 3 กิโล มิน่าละ เดินเข้าเส้นใจแบบนอยๆ
หลังจากนั้นคุยกัน ป้ายสอนให้สังเกตแนวการวิ่งของตัวเอง ก็เลยรู้ว่า หนูชอบวิ่งให้สนุก วิ่งเสร็จแล้วฟิน จุดแข็งคือ หนู pace นิ่ง แต่ไม่อึด เวลาเหนื่อยแล้วชอบหยุด pace ของหนูคือ 5 กลางๆ ป้ายแนะนำว่า ให้หนูวิ่ง pace 5 กลางๆ ไปเรื่อยๆ แล้วก็เพิ่มระยะทางไปเรื่อยๆ บางวันวิ่งระยะน้อยหน่อย ก็อัด pace 5 ต้นๆ ได้
หลังๆ เวลาไม่ค่อยตรงกัน หนูก็วิ่งคนเดียวไม่ค่อยได้ ขี้เหงา โชคดีไปเจอ snail gang รวมตัวกลุ่มนักวิ่งหน้าใหม่ ก็เลยไปรวมตัวกับพวกเขา แล้วก็ชวนๆ กันวิ่ง คุยกันไปคุยกันมา เพื่อนๆ ชวนลง half จอมบึง หนูก็เอาไปกับเขาด้วย ทีนี้ก็ซ้อมจริงจังขึ้น คือ วันธรรมดา 65 นาทีทุกเช้า + เวท วันไหนตอนเย็นพอจะว่างก็ไปวิ่งต่อ เพิ่มระยะทางไปเรื่อยๆ วันอาทิตย์จะวิ่งยาวๆ หนูโชคดีมี Buddy วิ่งด้วยตลอด คนที่สำคัญคือ เคน
หนูซ้อมได้มากที่สุดแค่ 16.67 กม. (pace 5.3) แต่มีวันที่วิ่งรวมระยะทางเช้าเย็นได้มากที่สุด 27 กม. 1 ครั้ง บอกเพื่อนๆ ตลอดว่า คิดว่าไม่รอดแน่ๆ คงมีเดิน ..ก่อนวิ่งก็นอนให้พอ ทานให้ดี แล้วก็วิ่ง งานนี้ เคนมาวิ่งเป็นเพื่อน เพราะกลัวหนูไม่จบ
งานจอมบึงเป็นงานที่ดีมากๆ เลยนะคะ ชอบเด็กๆ ที่ตื่นตั้งแต่ ตี2 มาแต่งตัว เต้นเชียร์ ยื่นมือให้แปะระหว่างทางตลอด ชอบอากาศดี๊ดี หายใจออกมาเป็นไอ ชอบรอบยิ้มอันเป็นมิตรของชาวบ้าน ชอบบรรยากาศ ชอบเหล่านักวิ่งที่ดูมีสีสัน แต่งตัวกันชวนให้ยิ้ม ตั้งแต่คุณเป็ดน้อย คุณสไปเดอร์แมน คุณแบทแมน คุณผีตานี วิ่งไปยิ้มไปจนลืมความเหนื่อยไปเลย ชอบเวลาที่คุณลุงคุณป้าแซงหนู หนูไม่ได้อายนะ แต่หนูรู้สึกว่ามันน่ารักมากๆ เลย ได้เห็นว่า ความสุขจากการวิ่งมันเป็นแบบนี้เองนะ วิ่งผ่านใคร ใครก็ยิ้มให้ โอย.. มีความสุขสุดๆ
เหตุการณ์สำคัญๆ ก็มีให้นึกถึง ที่แรกเลย คือ
กม. ที่ 4 วิ่งแซงจ่าบิว หันไปบอกจ่า "สู้ๆ นะคะ" [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กม. ที่ 11 เห็นคุณลุงท่านนึงล้มลง ใจไม่ดีเลย รีบสับขาไปที่โต๊ะให้น้ำ ตะโกนบอกเจ้าหน้าที่ว่า มีคนเจ็บ ... หนูหวังว่าอาการคุณลุงจะไม่เป็นอะไรมากนะคะ หนูตามข่าวอยู่ ได้ข่าวว่าปลอดภัยแล้ว ประทับใจ นักวิ่งหลายๆ ท่าน ที่ช่วยเหลือกันระหว่างวิ่งมากๆ
กม. ที่ 13 เริ่มแปะมือกับพี่น้องนักวิ่งที่กลับตัวไปก่อนแล้ว และพอหนูกลับตัวหนูก็แปะมือส่งพลังต่อให้พี่น้องนักวิ่งคนอื่นๆ มีความสุขมากเลย มันช่วยได้มากจริงๆ
กม. ที่ 15 ได้รับน้ำมนต์
กม. ที่ 16 จ่าบิวที่วิ่งอยู่อีกฝั่งตะโกนขึ้นมาตรงหน้าหนูพอดีเลยว่า "ขอพลังหน่อยค่ะ" หนูก็เลยตะโกนกลับว่า "สู้ๆ นะคะ"
กม. ที่ 17 เคนหันมาถามว่า โอเคมั้ย หนูหันกลับไปตอบ "แป้งจะเอา pace เลข 5 ของแป้ง เข้าเส้นชัย จะไม่ให้หลุด 6 ให้ได้"
และแล้ว เส้นชัยก็เห็นลางๆ แล้วก็เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 2 วินาที (pace 5.47) รีบวิ่งไปหาพี่ๆ น้องๆ แล้วบอกว่า ทำได้แล้ว ดีใจจังเลย วิ่งไปหาป้าย ป้ายบอก ป้ายวิ่งได้ 1.37 ชมนะ (อ่ะนะ) ดีใจแบบ บอกไม่ถูก รู้สึกแบบ break the limit ของตัวเองมากๆ มันฟิน มันใช่ มันแบบ เห้ย .... ต่อไปนี้ไม่ว่าอะไรจะยากเย็น ถ้าหนูตั้งใจทำ มันก็ต้องสำเร็จสิ เพื่อนๆ บอก เทอดูแรงเหลือนะ ...อ้าวหรอ
กลับมาที่ห้อง อาบน้ำเตรียมกลับ เคนเดินมาบอกว่า แป้งได้ที่ 8 นะ .... กระโดดดีใจลืมตัวเลย ... เพราะไม่คิดว่าผลจะออกมาดีเลย จากเดิมที่วางแผนกันว่าจะเดินนิดๆ หน่อยๆ กลายเป็น เข้าเส้นชัย สวยงาม ... โอย ชีวิตดี๊ดี มันยิ่งกว่ามีความสุขอีก ...
สำหรับนักวิ่งหน้าใหม่ที่หาหาแรงบันดาลใจในการวิ่ง หรือใครที่วิ่งคนเดียวเหงาๆ หาเพื่อน Snail Gang ยินดีต้อนรับค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บทส่งท้าย... มีหลายหลากเรื่องนักวิ่งที่หนูฟังมาก บางคนวิ่งมาราทอนใช้เวลา 8 ชม. บางคนเจ็บ บางคนท้อ มีพี่ใน Snail Gang วิ่ง half เกือบ 4 ชม. แต่พี่เขาดูมีความสุขในการวิ่งมากๆ แล้วพี่เขาก็คือผู้ชนะอีกคน ทุกคนที่กรอกใบสมัครวิ่ง คุณชนะไป 75% แล้วค่ะ เหลืออีก 25% ที่เราต้องคว้ามันมาให้ได้ จะวิ่งเร็ววิ่งช้า หรือแม้จะเดิน สุดท้ายเส้นชัยก็คือที่เดียวกัน บางวันหนูก็วิ่งได้น้อย รู้สึกแย่ จะร้องไห้ แต่หนูไม่เคยถอย วันนี้วิ่งได้ไม่ดี แต่หนูก็ยังได้วิ่ง พรุ่งนี้เอาใหม่ การที่เราล้ม มันเป็นโอกาสดีให้กลับมามองข้อบกพร่องของตัวเอง วิ่งในสไตล์ของเรา ไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร เพราะคนเดียวที่เราอยากเอาชนะ คือเราเมื่อนาทีที่แล้ว
ปล.1 สโลแกนเดิม หนูไม่ใช่คนเก่ง หนูแค่เด็กน้อยที่เรียนรู้โลกกว้างใหญ่ใบนี้ไปเรื่อยๆ ค่ะ ^^
ปล.2 ขอขอบคุณ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เพื่อนๆ SNG ขอบคุณไอดอลทั้งหลาย ฮอนด้า พี่ยู้ พี่ออ. พี่ปุ้ย(WM) พี่เจส และอีกหลายๆ คนที่เป็นแรงบันดาลใจในการอกล. ของหนู ขอบคุณโค้ชป้ายทีมเต่าน้อยที่เป็นคนเปิดโลกการวิ่งของแป้ง...
ปล.3 ป้ายหนีไป pace3 พี่หมี เคน พี่alex หนีไป 4 ...
2 เดือนที่ผ่านมาของแป้ง มันเปลี่ยนโลกทั้งใบของแป้งไปแล้ว .... เอาละ อย่ามัวแต่อ่านกระทู้ หยิบรองเท้าแล้วออกไปวิ่งกันเถอะ!
"หากคุณคิดว่าคุณไม่มีเวลาออกกำลังกาย ... คุณคิดผิด เพราะ การอกล. ใช้เวลาไม่นานเท่าการนั่งอ่านกระทู้นี้นะคะ" ^^'
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้