ตายคาลู่วิ่งในฟิตเนส
ล้มหมดสติหน้าห้างดัง
ปั้มหัวใจในงานวิ่ง
จนมาถึง คลิปในเครื่องบิน
เราอาจจะนึกว่าเป็นเรื่องไกลตัว
แต่หากวันนึง มันเกิดขึ้นกับคนรักเรา เช่นพ่อแม่ พี่น้อง
อย่างน้อยถ้าเรามีความรู้ไว้บ้าง เราอาจจะสามารถช่วยชีวิตคนที่เรารักได้ก็ได้
ผมขอเสนอเทคนิกง่ายๆ 10 ข้อ จนถึงเรื่องเครื่อง AED ที่อยากขอร้องให้อ่านกันเถอะนะครับ
1. ตั้งสติก่อน สำคัญมาก เวลาเจอเหตุการณ์จริง
ยิ่งถ้าเป็นพ่อเป็นแม่เรา มีแกว่งกันได้ง่ายๆ บางคนติดสตันไปเลยก็มี
ไม่ได้พูดเล่น ใครไม่เคยเจอกับตัวเองอาจจะนึกภาพไม่ออก
2. กดโทรเรียกรถพยาบาลทันทีครับ
ถ้าอยู่คนเดียวกดเอง
ถ้ามีเพื่อนหรือพี่น้องอยู่ ให้เค้าช่วยกดตามแทนเรา
บ้านเราระบบบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน (EMS) ยังห่วยมาก
หลายๆการศึกษาทำในประเทศที่พัฒนาแล้ว เอามาใช้กับบ้านเราไม่ได้เสมอไป
ผมขอแนะนำตรงๆ แบบไม่โลกสวย
ไม่ต้องกด 191 นะครับ ให้กดเบอร์รพ.เอกชนที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นที่สุด
ในมือถือคุณควรจะเมมเบอร์รพ.เอกชนที่เป็น
emergency number ไว้หลายๆรพ. แต่ถ้าไม่มีจริงๆ
เอามือถือ google ชื่อรพ.แถวนั้นทันที
ส่วนเบอร์ 1669 ในกทม. ที่ผมประสบมากับตัวเองซึ่งทำงานในรพ.รัฐตอนนี้
ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ ขอพูดตรงๆ แต่เชื่อว่างานเค้าล้นมือมาก
และช่วยชีวิตมามากมายแล้วอย่างที่คุณ Medic 1669 บอกใน คคห. 3
เมื่อปลายทางรับสาย อย่ารน ให้พูดชัดๆดังๆว่า
'มีคนไข้ arrest หรือ หมดสติ ที่ ...... บอกพิกัด ขอรถพยาบาลด่วน'
แต่ถ้าจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้รพ.มากๆ ให้โบกแท๊กซี่ไปรพ. ที่ใกล้ที่สุด
จะรัฐหรือเอกชนก็ได้ครับ เอาใกล้ไว้ก่อน
ต่อให้คุณไม่มีเงินและเอกชนอยู่ใกล้ที่สุด ให้เข้าไปก่อนเลย เอาใกล้ที่สุดเป็นสำคัญ
3. เรียกดูอีกทีว่ารู้ตัวหรือไม่ ถ้าลืมตาได้
ตอบสนองได้ก็ไม่ต้องทำอะไรต่อ
ให้นอนพักรอรถพยาบาลมารับครับ
4 การหมดสติโดยอยู่ๆล้มไป มีสองแบบใหญ่ๆ
ก. หมดสติแต่ชีพจรยังมี
แปลว่า หัวใจยังทำงานได้เป็นปกติ
พบได้ค่อนข้างบ่อย
เกิดจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอชั่วครู่
หรือเป็นโรคลมชัก ก็หมดสติได้เช่นกัน
ข. หมดสติและชีพจรหายไป ...... !!!
ถ้าเปรียบก็เหมือนตายไปครึ่งนึงแล้วนะครับ
การที่หมดสติเพราะเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ
จากการที่หัวใจทำงานไม่ได้
หัวใจทำงานไม่ได้แปลว่าอะไร และ เราต้องทำอย่างไร อ่านข้อ 6 ต่อนะครับ
5. คนที่เดินไปเดินมาบนถนนดีๆ แล้วอยู่ๆก็ล้มหมดสติไป โดยคลำชีพจรไม่ได้
เกือบทั้งหมด ย้ำว่า เกือบทั้งหมด เกิดจากการนำไฟฟ้าของหัวใจห้องล่างผิดปกติ
หัวใจไม่ได้หยุดเต้นนะครับ
แต่เต้นเร็วมากจนเลือดถูกบีบออกไปไม่ทัน
การปั้มหัวใจเป็นสิ่งที่ควรทำทันที
(วิธีปั้มหัวใจที่ถูกต้อง มีการพูดกันเยอะมากแล้ว ขอไม่พูดถึงซ้ำ
บุคคลทั่วไปที่ไม่มีความชำนาญในการคลำชีพจร ในคนที่ล้มหมดสติ
ให้ปฏิบัติเสมือนว่าคนไข้ไม่มีชีพจร สามารถเริ่มกดหน้าอกได้ทันทีครับ
ตามคำแนะนำของ ILCOR ปี 2010)
แต่อยากให้เข้าใจว่าการปั้มหัวใจ ไม่ได้ทำให้ฟื้นกลับมาเหมือนในหนังนะครับ
เป็นเพียงการช่วยบีบเลือดออกจากหัวใจ
ซื้อเวลาส่งเลือดไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญ
และหวังว่าหัวใจจะกลับมาเต้นเป็นปกติ แบบที่เราเห็นในคลิปบนเครื่องบินล่าสุด
น้อยมากครับที่การนำไฟฟ้าผิดปกติเหล่านั้น จะมีการกลับจังหวะเอง
6. การรักษาที่จะช่วยชีวิตคนไข้ได้
ต้องใช้เครื่องจับสัญญาณไฟฟ้า ยืนยันว่ามีจังหวะหัวใจเร็วผิดปกติจากห้องล่าง
และทำการช๊อคด้วยไฟฟ้า
ทำไมต้องช๊อค?
เราอัดไฟเข้าไป
เพื่อทำให้ทุกเซลล์อยู่ในภาวะพักฟื้นพร้อมกันให้หมด
หรือล้างกระดานใหม่
เพิ่มโอกาสให้ จังหวะหัวใจปกติกลับมา
ทำได้โดยใช้เครื่องกระตุกหัวใจในรพ. หรือ เครื่อง AED (Automated External Defibrillator) แบบพกพาเท่านั้น
ห้ามใช้ไฟบ้าน 220 V กระแสสลับ หรือ หม้อแปลงอะไรก็แล้วแต่
ตามหนังบางเรื่องนะครับ พลังงานที่ใช้ และ ทิศทางการส่งพลังงาน
ต้องได้ค่าที่เหมาะสมเท่านั้น
ในต่างประเทศถึงต้องบังคับให้มี AED ในพื้นที่สาธารณะหรือพื้นที่เสี่ยง
รวมทั้งบนเครื่องบินพาณิชย์ ที่บินไกลๆ (Airliners)
เมื่อเปิดกล่องมา มีคำแนะนำแบบ user-friendly ใครๆก็ใช้ได้
อันนี้เป็นคลิปการ์ตูนแนะนำ การใช้เครื่อง AED ของรพ.เอกชนแห่งหนึ่ง
เป็นภาษาไทยลองกดดูได้ครับ
7. มีส่วนน้อยมากที่ไม่ได้เกิดจากหัวใจเต้นเร็วหรือไฟฟ้าลัดวงจรในแบบข้อ 6
แต่เกิดจาก ทางเดินหายใจอุดตัน สำลักอาหาร จมน้ำ ซึ่งมักมีเหตุนำมา
ชัดเจน เป็นปัจจัยให้หัวใจไม่บีบตัวชั่วคราว การช๊อคไฟฟ้าไม่ช่วยอะไรนะครับ
พวกนี้เครื่อง AED ก็จะอ่านให้เราว่าไม่ต้องช๊อค
ให้เปิดทางเดินหายใจ ปั้มหัวใจ และรีบนำส่งรพ.
8. เรามักจะได้อ่านข่าว คนไข้หมดสติมีการปั๊มหัวใจ
เกือบทั้งหมดมักไม่รอด
ทุก 1 นาทีที่เราปั๊มหัวใจไปเรื่อยๆ โดยไม่มี AED
โอกาสรอดชีวิตลดลงไป 10%
ถ้าเราปั๊ม 5 นาที โดยยังไม่มี AED โอกาสรอดน้อยกว่าครึ่ง
9. เครื่อง AED มีประโยชน์มากมายขนาดนี้ ทำไมไม่มีให้ครบในสถานที่สำคัญ?
และฝึกฝนให้เจ้าหน้าที่ใช้เป็น เช่น ในฟิตเนส สนามบิน ศูนย์การค้า ตึกใหญ่ๆ
เป็นประเด็นที่ผมก็อยากได้คำตอบเหมือนกัน
เราเสียคนไข้ไปมากมายจากการที่ไม่มีเครื่อง AED มาเท่าไหร่แล้ว
ทั้งที่เป็นข่าว ไม่เป็นข่าว ทั้งมีคลิป และ ไม่มี คลิป
หน้าตาของมันเป็นแบบนี้นะครับ อันนี้เป็นรูปจากสนามบินแห่งหนึ่ง
(แฟนห้องบลู คนไหนอยากลองทายมั๊ยครับ ว่าสนามบินอะไร
สนามบินแห่งนี้ มีเจ้านี่กระจายอยู่หลายสิบตัวเลยทีเดียว)
ราคาของเครื่อง AED ขายที่บ้านเราอยู่ที่ 5 หมื่นถึงสองแสนกว่าบาทในรุ่นใหม่ๆ
ถือว่าแพงพอสมควร แต่ก็คุ้มแบบประเมินค่าไม่ได้นะครับ
10. ถ้าไปต่างประเทศ เกิดเหตุขึ้นให้หาป้ายสัญลักษณ์นี้นะครับ
จะเป็นป้ายชี้บอกว่าเครื่อง AED อยู่ที่ไหน
หากเกิดเหตุ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่สถานที่นั้นๆ เค้าจะ activate EMS ให้เราเองครับ
ขอฝากกระทู้นี้นะครับ
หนึ่ง หวังว่าจะเป็นประโยชน์หากวันนึงเราจำเป็นต้องได้ใช้ความรู้อันนี้
สอง ฝากถึงผู้ประกอบการและหน่วยงานต่างๆ โปรดเล็งเห็นถึงความสำคัญ
ยอมเสียเงินซื้อเครื่อง AED อย่างน้อยซักหนึ่งเครื่องก็ได้ครับ เอาตัวถูกๆ 5-6 หมื่นก็สุดยอดแล้ว
อย่างกิจการฟิตเนส เหล่าเทรนเนอร์ หรือ เจ้าหน้าที่ ควรต้องใช้เครื่องเป็น
ถ้าสามารถใช้มือถือส่งไลน์ได้ ใช้ AED ง่ายกว่าเยอะ
เพราะบางสิ่งอย่าง เราอาจต้องมานั่งเสียใจ เพราะมันไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้
ตายคาลู่วิ่งฟิตเนส จนถึง คลิปบนเครื่องบิน: Time for AED?
ล้มหมดสติหน้าห้างดัง
ปั้มหัวใจในงานวิ่ง
จนมาถึง คลิปในเครื่องบิน
เราอาจจะนึกว่าเป็นเรื่องไกลตัว
แต่หากวันนึง มันเกิดขึ้นกับคนรักเรา เช่นพ่อแม่ พี่น้อง
อย่างน้อยถ้าเรามีความรู้ไว้บ้าง เราอาจจะสามารถช่วยชีวิตคนที่เรารักได้ก็ได้
ผมขอเสนอเทคนิกง่ายๆ 10 ข้อ จนถึงเรื่องเครื่อง AED ที่อยากขอร้องให้อ่านกันเถอะนะครับ
1. ตั้งสติก่อน สำคัญมาก เวลาเจอเหตุการณ์จริง
ยิ่งถ้าเป็นพ่อเป็นแม่เรา มีแกว่งกันได้ง่ายๆ บางคนติดสตันไปเลยก็มี
ไม่ได้พูดเล่น ใครไม่เคยเจอกับตัวเองอาจจะนึกภาพไม่ออก
2. กดโทรเรียกรถพยาบาลทันทีครับ
ถ้าอยู่คนเดียวกดเอง
ถ้ามีเพื่อนหรือพี่น้องอยู่ ให้เค้าช่วยกดตามแทนเรา
บ้านเราระบบบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน (EMS) ยังห่วยมาก
หลายๆการศึกษาทำในประเทศที่พัฒนาแล้ว เอามาใช้กับบ้านเราไม่ได้เสมอไป
ผมขอแนะนำตรงๆ แบบไม่โลกสวย
ไม่ต้องกด 191 นะครับ ให้กดเบอร์รพ.เอกชนที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นที่สุด
ในมือถือคุณควรจะเมมเบอร์รพ.เอกชนที่เป็น
emergency number ไว้หลายๆรพ. แต่ถ้าไม่มีจริงๆ
เอามือถือ google ชื่อรพ.แถวนั้นทันที
ส่วนเบอร์ 1669 ในกทม. ที่ผมประสบมากับตัวเองซึ่งทำงานในรพ.รัฐตอนนี้
ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ ขอพูดตรงๆ แต่เชื่อว่างานเค้าล้นมือมาก
และช่วยชีวิตมามากมายแล้วอย่างที่คุณ Medic 1669 บอกใน คคห. 3
เมื่อปลายทางรับสาย อย่ารน ให้พูดชัดๆดังๆว่า
'มีคนไข้ arrest หรือ หมดสติ ที่ ...... บอกพิกัด ขอรถพยาบาลด่วน'
แต่ถ้าจุดเกิดเหตุอยู่ใกล้รพ.มากๆ ให้โบกแท๊กซี่ไปรพ. ที่ใกล้ที่สุด
จะรัฐหรือเอกชนก็ได้ครับ เอาใกล้ไว้ก่อน
ต่อให้คุณไม่มีเงินและเอกชนอยู่ใกล้ที่สุด ให้เข้าไปก่อนเลย เอาใกล้ที่สุดเป็นสำคัญ
3. เรียกดูอีกทีว่ารู้ตัวหรือไม่ ถ้าลืมตาได้
ตอบสนองได้ก็ไม่ต้องทำอะไรต่อ
ให้นอนพักรอรถพยาบาลมารับครับ
4 การหมดสติโดยอยู่ๆล้มไป มีสองแบบใหญ่ๆ
ก. หมดสติแต่ชีพจรยังมี
แปลว่า หัวใจยังทำงานได้เป็นปกติ
พบได้ค่อนข้างบ่อย
เกิดจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอชั่วครู่
หรือเป็นโรคลมชัก ก็หมดสติได้เช่นกัน
ข. หมดสติและชีพจรหายไป ...... !!!
ถ้าเปรียบก็เหมือนตายไปครึ่งนึงแล้วนะครับ
การที่หมดสติเพราะเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ
จากการที่หัวใจทำงานไม่ได้
หัวใจทำงานไม่ได้แปลว่าอะไร และ เราต้องทำอย่างไร อ่านข้อ 6 ต่อนะครับ
5. คนที่เดินไปเดินมาบนถนนดีๆ แล้วอยู่ๆก็ล้มหมดสติไป โดยคลำชีพจรไม่ได้
เกือบทั้งหมด ย้ำว่า เกือบทั้งหมด เกิดจากการนำไฟฟ้าของหัวใจห้องล่างผิดปกติ
หัวใจไม่ได้หยุดเต้นนะครับ
แต่เต้นเร็วมากจนเลือดถูกบีบออกไปไม่ทัน
การปั้มหัวใจเป็นสิ่งที่ควรทำทันที
(วิธีปั้มหัวใจที่ถูกต้อง มีการพูดกันเยอะมากแล้ว ขอไม่พูดถึงซ้ำ
บุคคลทั่วไปที่ไม่มีความชำนาญในการคลำชีพจร ในคนที่ล้มหมดสติ
ให้ปฏิบัติเสมือนว่าคนไข้ไม่มีชีพจร สามารถเริ่มกดหน้าอกได้ทันทีครับ
ตามคำแนะนำของ ILCOR ปี 2010)
แต่อยากให้เข้าใจว่าการปั้มหัวใจ ไม่ได้ทำให้ฟื้นกลับมาเหมือนในหนังนะครับ
เป็นเพียงการช่วยบีบเลือดออกจากหัวใจ
ซื้อเวลาส่งเลือดไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญ
และหวังว่าหัวใจจะกลับมาเต้นเป็นปกติ แบบที่เราเห็นในคลิปบนเครื่องบินล่าสุด
น้อยมากครับที่การนำไฟฟ้าผิดปกติเหล่านั้น จะมีการกลับจังหวะเอง
6. การรักษาที่จะช่วยชีวิตคนไข้ได้
ต้องใช้เครื่องจับสัญญาณไฟฟ้า ยืนยันว่ามีจังหวะหัวใจเร็วผิดปกติจากห้องล่าง
และทำการช๊อคด้วยไฟฟ้า
ทำไมต้องช๊อค?
เราอัดไฟเข้าไป
เพื่อทำให้ทุกเซลล์อยู่ในภาวะพักฟื้นพร้อมกันให้หมด
หรือล้างกระดานใหม่
เพิ่มโอกาสให้ จังหวะหัวใจปกติกลับมา
ทำได้โดยใช้เครื่องกระตุกหัวใจในรพ. หรือ เครื่อง AED (Automated External Defibrillator) แบบพกพาเท่านั้น
ห้ามใช้ไฟบ้าน 220 V กระแสสลับ หรือ หม้อแปลงอะไรก็แล้วแต่
ตามหนังบางเรื่องนะครับ พลังงานที่ใช้ และ ทิศทางการส่งพลังงาน
ต้องได้ค่าที่เหมาะสมเท่านั้น
ในต่างประเทศถึงต้องบังคับให้มี AED ในพื้นที่สาธารณะหรือพื้นที่เสี่ยง
รวมทั้งบนเครื่องบินพาณิชย์ ที่บินไกลๆ (Airliners)
เมื่อเปิดกล่องมา มีคำแนะนำแบบ user-friendly ใครๆก็ใช้ได้
อันนี้เป็นคลิปการ์ตูนแนะนำ การใช้เครื่อง AED ของรพ.เอกชนแห่งหนึ่ง
เป็นภาษาไทยลองกดดูได้ครับ
7. มีส่วนน้อยมากที่ไม่ได้เกิดจากหัวใจเต้นเร็วหรือไฟฟ้าลัดวงจรในแบบข้อ 6
แต่เกิดจาก ทางเดินหายใจอุดตัน สำลักอาหาร จมน้ำ ซึ่งมักมีเหตุนำมา
ชัดเจน เป็นปัจจัยให้หัวใจไม่บีบตัวชั่วคราว การช๊อคไฟฟ้าไม่ช่วยอะไรนะครับ
พวกนี้เครื่อง AED ก็จะอ่านให้เราว่าไม่ต้องช๊อค
ให้เปิดทางเดินหายใจ ปั้มหัวใจ และรีบนำส่งรพ.
8. เรามักจะได้อ่านข่าว คนไข้หมดสติมีการปั๊มหัวใจ
เกือบทั้งหมดมักไม่รอด
ทุก 1 นาทีที่เราปั๊มหัวใจไปเรื่อยๆ โดยไม่มี AED
โอกาสรอดชีวิตลดลงไป 10%
ถ้าเราปั๊ม 5 นาที โดยยังไม่มี AED โอกาสรอดน้อยกว่าครึ่ง
9. เครื่อง AED มีประโยชน์มากมายขนาดนี้ ทำไมไม่มีให้ครบในสถานที่สำคัญ?
และฝึกฝนให้เจ้าหน้าที่ใช้เป็น เช่น ในฟิตเนส สนามบิน ศูนย์การค้า ตึกใหญ่ๆ
เป็นประเด็นที่ผมก็อยากได้คำตอบเหมือนกัน
เราเสียคนไข้ไปมากมายจากการที่ไม่มีเครื่อง AED มาเท่าไหร่แล้ว
ทั้งที่เป็นข่าว ไม่เป็นข่าว ทั้งมีคลิป และ ไม่มี คลิป
หน้าตาของมันเป็นแบบนี้นะครับ อันนี้เป็นรูปจากสนามบินแห่งหนึ่ง
(แฟนห้องบลู คนไหนอยากลองทายมั๊ยครับ ว่าสนามบินอะไร
สนามบินแห่งนี้ มีเจ้านี่กระจายอยู่หลายสิบตัวเลยทีเดียว)
ราคาของเครื่อง AED ขายที่บ้านเราอยู่ที่ 5 หมื่นถึงสองแสนกว่าบาทในรุ่นใหม่ๆ
ถือว่าแพงพอสมควร แต่ก็คุ้มแบบประเมินค่าไม่ได้นะครับ
10. ถ้าไปต่างประเทศ เกิดเหตุขึ้นให้หาป้ายสัญลักษณ์นี้นะครับ
จะเป็นป้ายชี้บอกว่าเครื่อง AED อยู่ที่ไหน
หากเกิดเหตุ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่สถานที่นั้นๆ เค้าจะ activate EMS ให้เราเองครับ
ขอฝากกระทู้นี้นะครับ
หนึ่ง หวังว่าจะเป็นประโยชน์หากวันนึงเราจำเป็นต้องได้ใช้ความรู้อันนี้
สอง ฝากถึงผู้ประกอบการและหน่วยงานต่างๆ โปรดเล็งเห็นถึงความสำคัญ
ยอมเสียเงินซื้อเครื่อง AED อย่างน้อยซักหนึ่งเครื่องก็ได้ครับ เอาตัวถูกๆ 5-6 หมื่นก็สุดยอดแล้ว
อย่างกิจการฟิตเนส เหล่าเทรนเนอร์ หรือ เจ้าหน้าที่ ควรต้องใช้เครื่องเป็น
ถ้าสามารถใช้มือถือส่งไลน์ได้ ใช้ AED ง่ายกว่าเยอะ
เพราะบางสิ่งอย่าง เราอาจต้องมานั่งเสียใจ เพราะมันไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้