จอดรถไว้แถวบ้านริมถนน
ตื่นเช้ามาพบกระดาษเสียบไว้
ที่หน้ากระจกรถ เห็นไกลๆนึกว่าใบสั่ง
พอเดินเข้ามาใกล้ๆ ก็พบว่า
เป็นกระดาษเขียนข้อความ ดังนี้
"อิสลามแด็กหมู
เนื้อหมูคาปาก
ชักแห็ง(แง็กๆ)
ตายทั้งครอบ "
ผมไม่รู้ว่ากระทู้นี้
จะถึงเจ้าของลายมือรึป่าว
แต่อยากจะบอกพี่
ที่เขียนกระดาษนี้ว่า
พี่กำลังเข้าใจผิดดังนี้ครับ
1. อิสลามเป็นชื่อเรียกศาสนา แต่คนที่นับถิอศาสนาจะถูกเรียกว่า มุสลิม
2. คำว่าแด็ก เป็นคำศัพท์ที่ไม่ค่อยสุภาพ ควรใช้คำว่า กิน หรือรับประทาน จะสวยงามในการใช้ภาษามากกว่า
3. ความจริงแล้ว มุสลิมสามารถทานเนื้อหมูได้ ใช่ครับฟังไม่ผิดหรอก เราสามารถทานเนื้อหมูได้หากเราไม่มีอะไรจะรับประทานแล้ว เพื่อให้เราสามารถมีชีวิตอยู่ต่อ และที่เราไม่ทานเนื้อหมูในช่วงเวลาปกติ ที่เรามีอาหารอื่น ๆ ทาน ก็เพราะเป็นหลักการศาสนาที่พระเจ้าได้แนะนำให้เราไม่รับประทานอาหารชนิดนี้ ซึ่งก็ยังมีอีกหลายชนิดที่เราทานไม่ได้ เช่น สุนัข เสือ ไก่ที่เป็นโรคตาย วัวที่ตายเอง ไก่และวัวที่ไม่ได้ถูกเชือดด้วยหลักการอิสลาม ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของชีวิตทั้งสิ้น และเราไม่รู้สึกลำบากหรอกครับ ที่เราได้รับการดูแลจากพระเจ้าไม่ให้เรากินสิ่งต่าง ๆ ข้างต้นนี้ เพราะพระเจ้ายังอนุมัติให้เรากินอาหารต่าง ๆ ได้อีกหลายอย่างเลยล่ะ
4. ปกติแล้วเป็นความเข้าใจผิดครับที่เมื่อมุสลิมกินเนื้อหมูแล้วจะทำให้ปากชา หรือ ชักน้ำลายฟูมปาก และคาดว่าผู้เขียนกระดาษ ก็คงไม่ได้เชื่ออย่างนั้น
5. เรื่องความตาย แน่นอนไม่มีมนุษย์คนไหนในยุคปัจจุบันนี้ เชื่อว่าตัวเองไม่ตาย... ครับ ทุกคนต้องตาย
แต่จะด้วยวิธีไหน อันนี้เราไม่ทราบได้ แต่อยากให้คำถามไปคิดต่อนิดนึง คิดหรือครับ ว่าผมเกิดมา เพื่อขับรถไปจอด และพี่ที่เขียนกระดาษมาแปะบนกระจกรถ ก็เกิดมาเพื่อทำแบบนี้..หากพี่ได้อ่านก็คงคิดเหมือนผมว่าไม่ใช่แน่ ๆ
ผมกำลังจะบอกว่า เราทุกคนเกิดมาเพื่อเดินทาง เดินทางเก็บเสบียงที่เรียกว่าความดี ดูแลเพื่อนมนุษย์ และธรรมชาติ เพื่อให้หัวใจเราสงบ ด้วยความดีต่าง ๆ ตามที่พระเจ้าผู้ทรงสร้างมนุษย์ ได้ระบุเอาไว้
มนุษย์ทุกคนต่างวิ่งเข้าแสวงหาความสงบสุขที่ว่านี้ จนกระทั่งเมื่อพวกเขาได้เสียชีวิตไป จึงจะไปพบกับชีวิตหลังความตาย เพื่อรับผลตอบแทนสิ่งต่างๆที่ทำไว้ในโลกนี้
ยืนยันครับ เราทุกคนต้องตาย
เพื่อไปสู่อีกโลกนึง
นั้นคือโลกแห่งการตอบแทน
ถึง พี่ผู้เขียนกระดาษใบนี้
ผมอยากจะมีโอกาสสักครั้ง
ได้นั่งสนทนากับพี่เพื่อบอกเล่า
ถึงสิ่งที่จะทำให้หัวใจสงบ
และเชิญชวนพี่เข้ามาร่วมเดินทาง
สู่ร่มเงาแห่งอิสลามด้วยกัน
หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้มีวันนั้น
ในช่วงเวลาอันใกล้นี้
ขอบคุณครับ
(ฮัมซ๊ะฮฺ เจ้าของรถ)
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1061174973908083&set=a.312101575482097.95707.100000467717486&type=1&theater
อิสลามแด็กหมู เนื้อหมูคาปาก ชักแห็ง(แง็กๆ) ตาย...
จอดรถไว้แถวบ้านริมถนน
ตื่นเช้ามาพบกระดาษเสียบไว้
ที่หน้ากระจกรถ เห็นไกลๆนึกว่าใบสั่ง
พอเดินเข้ามาใกล้ๆ ก็พบว่า
เป็นกระดาษเขียนข้อความ ดังนี้
"อิสลามแด็กหมู
เนื้อหมูคาปาก
ชักแห็ง(แง็กๆ)
ตายทั้งครอบ "
ผมไม่รู้ว่ากระทู้นี้
จะถึงเจ้าของลายมือรึป่าว
แต่อยากจะบอกพี่
ที่เขียนกระดาษนี้ว่า
พี่กำลังเข้าใจผิดดังนี้ครับ
1. อิสลามเป็นชื่อเรียกศาสนา แต่คนที่นับถิอศาสนาจะถูกเรียกว่า มุสลิม
2. คำว่าแด็ก เป็นคำศัพท์ที่ไม่ค่อยสุภาพ ควรใช้คำว่า กิน หรือรับประทาน จะสวยงามในการใช้ภาษามากกว่า
3. ความจริงแล้ว มุสลิมสามารถทานเนื้อหมูได้ ใช่ครับฟังไม่ผิดหรอก เราสามารถทานเนื้อหมูได้หากเราไม่มีอะไรจะรับประทานแล้ว เพื่อให้เราสามารถมีชีวิตอยู่ต่อ และที่เราไม่ทานเนื้อหมูในช่วงเวลาปกติ ที่เรามีอาหารอื่น ๆ ทาน ก็เพราะเป็นหลักการศาสนาที่พระเจ้าได้แนะนำให้เราไม่รับประทานอาหารชนิดนี้ ซึ่งก็ยังมีอีกหลายชนิดที่เราทานไม่ได้ เช่น สุนัข เสือ ไก่ที่เป็นโรคตาย วัวที่ตายเอง ไก่และวัวที่ไม่ได้ถูกเชือดด้วยหลักการอิสลาม ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของชีวิตทั้งสิ้น และเราไม่รู้สึกลำบากหรอกครับ ที่เราได้รับการดูแลจากพระเจ้าไม่ให้เรากินสิ่งต่าง ๆ ข้างต้นนี้ เพราะพระเจ้ายังอนุมัติให้เรากินอาหารต่าง ๆ ได้อีกหลายอย่างเลยล่ะ
4. ปกติแล้วเป็นความเข้าใจผิดครับที่เมื่อมุสลิมกินเนื้อหมูแล้วจะทำให้ปากชา หรือ ชักน้ำลายฟูมปาก และคาดว่าผู้เขียนกระดาษ ก็คงไม่ได้เชื่ออย่างนั้น
5. เรื่องความตาย แน่นอนไม่มีมนุษย์คนไหนในยุคปัจจุบันนี้ เชื่อว่าตัวเองไม่ตาย... ครับ ทุกคนต้องตาย
แต่จะด้วยวิธีไหน อันนี้เราไม่ทราบได้ แต่อยากให้คำถามไปคิดต่อนิดนึง คิดหรือครับ ว่าผมเกิดมา เพื่อขับรถไปจอด และพี่ที่เขียนกระดาษมาแปะบนกระจกรถ ก็เกิดมาเพื่อทำแบบนี้..หากพี่ได้อ่านก็คงคิดเหมือนผมว่าไม่ใช่แน่ ๆ
ผมกำลังจะบอกว่า เราทุกคนเกิดมาเพื่อเดินทาง เดินทางเก็บเสบียงที่เรียกว่าความดี ดูแลเพื่อนมนุษย์ และธรรมชาติ เพื่อให้หัวใจเราสงบ ด้วยความดีต่าง ๆ ตามที่พระเจ้าผู้ทรงสร้างมนุษย์ ได้ระบุเอาไว้
มนุษย์ทุกคนต่างวิ่งเข้าแสวงหาความสงบสุขที่ว่านี้ จนกระทั่งเมื่อพวกเขาได้เสียชีวิตไป จึงจะไปพบกับชีวิตหลังความตาย เพื่อรับผลตอบแทนสิ่งต่างๆที่ทำไว้ในโลกนี้
ยืนยันครับ เราทุกคนต้องตาย
เพื่อไปสู่อีกโลกนึง
นั้นคือโลกแห่งการตอบแทน
ถึง พี่ผู้เขียนกระดาษใบนี้
ผมอยากจะมีโอกาสสักครั้ง
ได้นั่งสนทนากับพี่เพื่อบอกเล่า
ถึงสิ่งที่จะทำให้หัวใจสงบ
และเชิญชวนพี่เข้ามาร่วมเดินทาง
สู่ร่มเงาแห่งอิสลามด้วยกัน
หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้มีวันนั้น
ในช่วงเวลาอันใกล้นี้
ขอบคุณครับ
(ฮัมซ๊ะฮฺ เจ้าของรถ)
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1061174973908083&set=a.312101575482097.95707.100000467717486&type=1&theater