นี่เป็นกระทู้แรกของฉันในพันทิป ที่เข้ามาตั้งกระทู้วันนี้ ไม่ได้ต้องการความเห็นใจ หรือคำแนะนำในการแก้ไขปัญหา เพราะดิฉันรู้ดีว่าปัญหาของดิฉันจะจบลงได้ด้วยวิธีไหน เพียงแต่ ณ วันนี้ดิฉันยังทำใจไม่ได้เท่านั้นเอง ถ้าอ่านแล้วสามารถด่าดิฉันว่าโง่ ว่าเลว ได้เลยค่ะ ดิฉันไม่โกรธ เพราะมันคือความจริง แต่สิ่งที่ดิฉันต้องการคือ คุณผู้หญิงอย่าได้ทำแบบดิฉันก็พอใจแล้วค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า ดิฉันได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเขาเป็นสุภาพบุรุษ เป็นผู้นำ ความคิดเฉลียวฉลาด ไม่ดื่มเหล้า ไม่ดูดบุหรี่ ไม่ชอบสุงสิงกับใคร ประมาณว่าโลกส่วนตัวสูงมาก ซึ่งคุณสมบัติทุกอย่างในตัวเขา เชื่อว่าเป็นที่ต้องการของผู้หญิงเกือบทุกคนรวมทั้งดิฉันด้วย เขามีครอบครัวและมีลูกแล้ว แต่ว่าไม่ได้อยู่ด้วยกัน เพราะภรรยาของเขาไม่ได้ทำงาน จึงต้องกลับไปเลี้ยงลูกอยู่ต่างจังหวัด เราทำงานที่เดียวกัน โอกาสในการพูดคุยใกล้ชิดกันมีมากขึ้น เวลาที่ฉันมีปัญหาอะไรจะชอบปรึกษาเขา ซึ่งไม่ผิดหวังเลยในการปรึกษาเขาแต่ละครั้ง กลายเป็นว่าพอได้พูดคุยและปรึกษากันไปเรื่อย ๆ กลายเป็นว่าฉันกลับตกหลุมรักเขาแบบถอนตัวไม่ขึ้น ตอนที่รู้ว่าได้ยกหัวใจให้เขาไปแล้ว ดิฉันโกรธตัวเองมากที่ไปหลงรักคนมีเจ้าของ ร้องไห้ทุกวัน พยายามเรียกหัวใจตัวเองกลับคืนมา แต่มันก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ยิ่งห่างกันยิ่งคิดถึง เขาก็รับรู้ว่าเรามีใจให้เขา และพูดเตือนเราว่า "ตัดใจจากผมซะ เพราะผมมีครอบครัวแล้ว ยังงัยครอบครัวผมต้องมาเป็นที่หนึ่ง ผมไม่อยากให้คุณเสียใจมากไปกว่านี้ ผมไม่ได้รักคุณ ผมคิดกับคุณแค่เพื่อน และอย่าพยายามอยู่ใกล้ชิดกับผมให้มากนัก เพราะยังงัยผมก็เป็นผู้ชาย ถ้าเกิดพลาดพลั้งอะไรขึ้นมา คนที่เสียใจและเสียหายที่สุดก็คือคุณ" นี่คือคำเตือนจากปากของเขา ซึ่งมันเป็นความจริงทุกอย่าง มันทำให้ดิฉันร้องไห้แทบเป็นบ้า พยายามตัดใจจากเขา แต่เพราะต้องทำงานที่เดียวกัน เห็นหน้ากันทุกวัน มันทำให้ตัดเขาไม่ได้ ยิ่งพยายามยิ่งคิดถึง ฉันรู้ตัวว่าตัดเขาไม่ได้จริง ๆ เหมือนเขาก็สงสารเราที่รักเขามาก เราทั้งสองเลยปล่อยเลยตามเลย เราแอบคุยกันไปเรื่อย ๆ ตั้งใจว่าจะเป็นกำลังใจให้กันไปตลอด และจะไม่ทำอะไรที่มันผิดศีลธรรม เพราะสงสารลูกเมียของเขา ลูกเมียของเขาไม่ได้ทำอะไรผิด แต่แล้วมันก็ผิดพลาดจนได้ ครั้งแรกที่เรามีอะไรกัน ต่างคนต่างร้องไห้ เขาร้องไห้ที่ทำผิดต่อครอบครัว ส่วนฉันร้องไห้เพราะเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องทำผิดต่อลูกเมีย และคิดว่าถ้าเมียเขารู้ เมียเขาจะเสียใจขนาดไหน จากนั้นเราก็ห่างกันไปพักหนึ่ง เพราะความละอายในบาปที่ได้กระทำลงไป เราตัดสินใจที่จะยุติทุกอย่างลง เพราะไม่อยากให้ลูกเมียเขาเสียใจ แต่เพราะความรักของฉันที่มีให้เขาอย่างล้นหลามหรือจะเรียกว่าความเห็นแก่ตัวก็ได้มั้ง ฉันยังเฝ้าคิดถึงเขาตลอดเวลา ช่วงนั้นฉันแทบจะเป็นบ้า สภาพโทรมมาก ร้องไห้จนตาบวมไปทำงานทุกวัน เฝ้าโทษตัวเองตลอดว่าเป็นเพราะเรา ที่ทำให้เขาต้องทำผิดกับครอบครัว รู้ทั้ง ๆ รู้ขนาดนี้ แต่ฉันเลิกกับเขาไม่ได้ สุดท้ายเพราะเขาสงสารดิฉัน เรากลับมาแอบคบกันใหม่ ท่ามกลางความรู้สึกผิดที่เกาะกินอยู่ในใจตลอด ไม่ว่าจะกินจะเที่ยวอะไร ก็ไม่เคยมีความสุขได้เต็มที่ เพราะความรู้สึกผิดมันทำลายความสุขที่ควรจะได้รับไปซะเกือบหมด
เขามีตำแหน่งหน้าที่ที่ดีกว่าฉัน แต่เงินเดือนของเขาก็ไม่ค่อยจะพอใช้ เพราะต้องจ่ายค่าเช่าห้อง ค่าผ่อนรถ ค่าครองชีพในเมืองกรุงที่ค่อนข้างจะแพงและส่งกลับไปให้ทางบ้านด้วย เขาเป็นคนที่ประหยัดมาก แต่ละวันเขาใช้เงินไม่ถึง 50 บาท เพราะอาศัยกินข้าวฟรีจากสวัสดิการของบริษัท แต่กระนั้นเงินก็ยังไม่ค่อยพอใช้ ส่วนฉันเงินเดือนไม่เยอะ ตัวคนเดียว ไม่มีภาระหนี้สินอะไรต้องจ่าย เงินเดือนก็พอใช้ในแต่ละเดือน บางเดือนที่เขาต้องกลับไปหาลูกเมีย ซึ่งต้องใช้เงินเยอะ เงินก็ไม่พอใช้ถึงสิ้นเดือน ค่าผ่อนรถฉันก็จะช่วยออกให้ หลายอย่างที่อยู่ในกรุงเทพฯ ฉันจะช่วยดูแลจัดการให้ เวลาที่ฉันไปหาเขา จะซื้ออาหารแห้ง และอาหารสำเร็จรูปไปเตรียมไว้ให้เขาตลอด เพราะฉันเข้าใจดีว่า เขาทำงานคนเดียว ภาระทุกอย่างอยู่ที่เขาหมด สิ่งไหนที่พอจะช่วยได้ก็จะช่วยตลอด แต่ตลอดระยะเวลาที่เราแอบคบกันมาเกือบ 3 ปี เขาไม่เคยแสดงออกให้เห็นเลยว่า เขารักฉัน เกือบ 3 ปี เขาโทรหาฉันแค่ครั้งเดียว เวลาที่ฉันโทรหาเขา หลังเลิกงาน โทรไปเขาก็ไม่เคยรับ ทุกวันนี้จะโทรหาเขา ต้องบอกก่อนล่วงหน้าว่าจะโทรหา เขาถึงจะรับสาย เวลาเจ็บไข้ได้ป่วย เขาก็ไม่เคยถามว่าเป็นยังงัยบ้าง บางครั้งฉันน้อยใจที่เขาไม่เคยห่วงใยกันเลย ก็ถามออกไปว่า เคยห่วงใยกันบ้างมั้ย คำตอบที่ได้กลับมา ก็คือ "คุณก็รู้ว่าสิ่งพวกนี้มันไม่เคยมีจากใจผม คุณอย่าเรียกร้องหามันเลย ต่อให้ 10 ปี ผมก็ไม่รักคุณ ที่ผมยังคบกับคุณเพราะเรามีอะไรกันผมต้องรับผิดชอบในส่วนที่ผมทำผิด ต้องประคับประคองไปจนกว่าคุณจะตัดใจจากผมได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทำให้ผม ผมรับรู้ แต่จะให้ผมเปลี่ยนไปรักคุณมันเป็นไปไม่ได้" เขาชัดเจนเสมอ ว่าเขาคิดยังงัยกับฉัน แต่ปัญหามันอยู่ที่ฉันคนเดียว ที่ไม่สามารถตัดใจจากเขาได้ สำหรับเขาทุกวันนี้ เหมือนไม่มีฉันอยุ่ในความคิดเขาเลย เพียงแต่ฉันที่ยังติดต่อเขาอยู่ ถ้าวันไหนฉันหายไปจากเขา ก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นสำหรับเขา ที่ฉันบอกว่าตัวเองโง่ก็เพราะว่า รุ้ทั้งรู้ว่าเขาไม่รัก แต่ทำไมฉันไม่เคยเลิกรักเขาเลย บางเดือนเงินเดือนไม่พอใช้ เขาก็มาเอาที่ฉัน ค่าน้ำมันรถไม่มีฉันก็ออกให้ แต่ที่น่าสมน้ำหน้าตัวเองที่สุด คือ เวลาที่เขาไม่มีเงินจะกลับไปหาลูกเมีย และมันเกือบ 2 เดือนแล้วที่เขาไม่กลับบ้าน ฉันกลับนึกถึงหัวอกเมียของเขาว่าจะคิดถึงผัวขนาดไหน ฉันเป็นฝ่ายให้เงินเขาและบอกกับเขาว่า"กลับไปหาลูกเมียเถอะ ฉันเป็นผู้หญิงด้วยกัน ฉันรู้ว่าเขาต้องคิดถึงคุณขนาดไหน" ให้เงินเขากลับไปมีความสุขกับลูกเมีย แต่ฉันกลับนอนร้องไห้ เจ็บปวดทุกครั้งที่คิดถึงภาพว่าเขาจะมีความสุขกับครอบครัวขนาดไหน บ่อยๆครั้งที่เขากลับไปหาลูกเมียเงินค่าเดินทางค่าน้ำมันรถ เป็นเงินของฉัน ใครจะว่าฉันโง่ไม่ผิดหรอกค่ะ ฉันโง่จริง ๆ ทั้งที่เขาไม่รัก แต่ยังทุ่มเททั้งตัวและเงินทองให้เขา แต่สำหรับฉันคิดแค่ว่า ถ้าสิ่งไหนที่ทำให้เขามีความสุข ฉันจะทำ ทั้งที่ตัวเองเจ็บปวดก็จะยอม บางครั้งเขาอยากจะไปรับลูกเมียมาอยู่ด้วย แต่ไม่มีเงิน ฉันก็ออกค่าใช้จ่ายให้ ให้เงินเขาแล้ว ตัวเองก็แอบไปร้องไห้ในห้องน้ำ เกลียดตัวเองที่ทำไมไม่เคยตัดใจจากเขาได้เสียที ถามตัวเองว่าทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ ถ้าเป็นพวกเมียน้อยคนอื่น จะมีใครหน้าโง่ทำเหมือนฉันบ้าง เอาเงินของตัวเองซึ่งก็เป็นเมียอีกคน(แต่เขาไม่เคยยอมรับ) เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับเมียอีกคน ถามว่าเมียน้อยคนไหนจะทำได้แบบนี้ ฉันไม่เคยเรียกร้องขออะไรจากเขา แบบที่พวกเมียน้อยคนอื่น ๆ เขาทำกัน แต่ฉันกลับเป็นฝ่ายให้เขาและคอยช่วยเหลือเขาตลอด บางครั้งฉันก็อยากได้ยินจากปากเขาสักครั้งที่เรียกฉันว่า "เมีย" เคยขอร้องให้เขาเรียกฉันว่าเมีย คำตอบที่ได้คือ "ผมไม่เคยคิดว่าคุณเป็นเมีย เพราะผมมีเมียแค่คนเดียว คุณคือชู้" นี่คือคำพูดของเขาที่ทำให้ฉันแทบเป็นบ้า ขนาดคำพูดที่ทำร้ายจิตใจขนาดนี้ ฉันยังตัดใจจากเขาไม่ได้ ฉันยังเฝ้ารักและห่วงใยเขาตลอดเวลา คำพูดของเขาที่บอกว่า "เวลาที่ผมกอดลูกเมียทุกครั้ง ผมละอายใจมาก" คำพูดนี้ของเขา มันทำให้ฉันอยากจะจบปัญหาทุกอย่างลงด้วยการจบชีวิตของตัวเอง เพราะคิดว่าการมีชีวิตอยู่ของฉัน มันทำให้คนที่ฉันรักต้องละอายกับบาป และอนาคตข้างหน้าก็อาจจะทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่มีความผิดอะไรเลย ต้องมาเจ็บช้ำกับการกระทำอันเห็นแก่ตัวของฉัน
ฝากถึงคุณผู้หญิงทุกท่าน อย่าเอาดิฉันเป็นเยี่ยงอย่าง ทุกสิ่งทุกอย่างของเรื่องนี้ ความผิดฉันยอมรับไว้คนเดียว ผู้ชายไม่เคยเรียกร้องเงินทองจากฉัน เพียงแต่ฉันทนเห็นความลำบากของเขาไม่ได้จึงต้องยื่นมือไปช่วย ขอแค่เขามีความสุข ฉันก็ยิ้มได้ ถึงแม้มันจะเป็นความสุขบนดงดอกงิ้วก็ตามที
รู้ทั้งรู้ ยอมเป็นชู้เพราะรักจนโง่
เรื่องมีอยู่ว่า ดิฉันได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเขาเป็นสุภาพบุรุษ เป็นผู้นำ ความคิดเฉลียวฉลาด ไม่ดื่มเหล้า ไม่ดูดบุหรี่ ไม่ชอบสุงสิงกับใคร ประมาณว่าโลกส่วนตัวสูงมาก ซึ่งคุณสมบัติทุกอย่างในตัวเขา เชื่อว่าเป็นที่ต้องการของผู้หญิงเกือบทุกคนรวมทั้งดิฉันด้วย เขามีครอบครัวและมีลูกแล้ว แต่ว่าไม่ได้อยู่ด้วยกัน เพราะภรรยาของเขาไม่ได้ทำงาน จึงต้องกลับไปเลี้ยงลูกอยู่ต่างจังหวัด เราทำงานที่เดียวกัน โอกาสในการพูดคุยใกล้ชิดกันมีมากขึ้น เวลาที่ฉันมีปัญหาอะไรจะชอบปรึกษาเขา ซึ่งไม่ผิดหวังเลยในการปรึกษาเขาแต่ละครั้ง กลายเป็นว่าพอได้พูดคุยและปรึกษากันไปเรื่อย ๆ กลายเป็นว่าฉันกลับตกหลุมรักเขาแบบถอนตัวไม่ขึ้น ตอนที่รู้ว่าได้ยกหัวใจให้เขาไปแล้ว ดิฉันโกรธตัวเองมากที่ไปหลงรักคนมีเจ้าของ ร้องไห้ทุกวัน พยายามเรียกหัวใจตัวเองกลับคืนมา แต่มันก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ยิ่งห่างกันยิ่งคิดถึง เขาก็รับรู้ว่าเรามีใจให้เขา และพูดเตือนเราว่า "ตัดใจจากผมซะ เพราะผมมีครอบครัวแล้ว ยังงัยครอบครัวผมต้องมาเป็นที่หนึ่ง ผมไม่อยากให้คุณเสียใจมากไปกว่านี้ ผมไม่ได้รักคุณ ผมคิดกับคุณแค่เพื่อน และอย่าพยายามอยู่ใกล้ชิดกับผมให้มากนัก เพราะยังงัยผมก็เป็นผู้ชาย ถ้าเกิดพลาดพลั้งอะไรขึ้นมา คนที่เสียใจและเสียหายที่สุดก็คือคุณ" นี่คือคำเตือนจากปากของเขา ซึ่งมันเป็นความจริงทุกอย่าง มันทำให้ดิฉันร้องไห้แทบเป็นบ้า พยายามตัดใจจากเขา แต่เพราะต้องทำงานที่เดียวกัน เห็นหน้ากันทุกวัน มันทำให้ตัดเขาไม่ได้ ยิ่งพยายามยิ่งคิดถึง ฉันรู้ตัวว่าตัดเขาไม่ได้จริง ๆ เหมือนเขาก็สงสารเราที่รักเขามาก เราทั้งสองเลยปล่อยเลยตามเลย เราแอบคุยกันไปเรื่อย ๆ ตั้งใจว่าจะเป็นกำลังใจให้กันไปตลอด และจะไม่ทำอะไรที่มันผิดศีลธรรม เพราะสงสารลูกเมียของเขา ลูกเมียของเขาไม่ได้ทำอะไรผิด แต่แล้วมันก็ผิดพลาดจนได้ ครั้งแรกที่เรามีอะไรกัน ต่างคนต่างร้องไห้ เขาร้องไห้ที่ทำผิดต่อครอบครัว ส่วนฉันร้องไห้เพราะเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องทำผิดต่อลูกเมีย และคิดว่าถ้าเมียเขารู้ เมียเขาจะเสียใจขนาดไหน จากนั้นเราก็ห่างกันไปพักหนึ่ง เพราะความละอายในบาปที่ได้กระทำลงไป เราตัดสินใจที่จะยุติทุกอย่างลง เพราะไม่อยากให้ลูกเมียเขาเสียใจ แต่เพราะความรักของฉันที่มีให้เขาอย่างล้นหลามหรือจะเรียกว่าความเห็นแก่ตัวก็ได้มั้ง ฉันยังเฝ้าคิดถึงเขาตลอดเวลา ช่วงนั้นฉันแทบจะเป็นบ้า สภาพโทรมมาก ร้องไห้จนตาบวมไปทำงานทุกวัน เฝ้าโทษตัวเองตลอดว่าเป็นเพราะเรา ที่ทำให้เขาต้องทำผิดกับครอบครัว รู้ทั้ง ๆ รู้ขนาดนี้ แต่ฉันเลิกกับเขาไม่ได้ สุดท้ายเพราะเขาสงสารดิฉัน เรากลับมาแอบคบกันใหม่ ท่ามกลางความรู้สึกผิดที่เกาะกินอยู่ในใจตลอด ไม่ว่าจะกินจะเที่ยวอะไร ก็ไม่เคยมีความสุขได้เต็มที่ เพราะความรู้สึกผิดมันทำลายความสุขที่ควรจะได้รับไปซะเกือบหมด
เขามีตำแหน่งหน้าที่ที่ดีกว่าฉัน แต่เงินเดือนของเขาก็ไม่ค่อยจะพอใช้ เพราะต้องจ่ายค่าเช่าห้อง ค่าผ่อนรถ ค่าครองชีพในเมืองกรุงที่ค่อนข้างจะแพงและส่งกลับไปให้ทางบ้านด้วย เขาเป็นคนที่ประหยัดมาก แต่ละวันเขาใช้เงินไม่ถึง 50 บาท เพราะอาศัยกินข้าวฟรีจากสวัสดิการของบริษัท แต่กระนั้นเงินก็ยังไม่ค่อยพอใช้ ส่วนฉันเงินเดือนไม่เยอะ ตัวคนเดียว ไม่มีภาระหนี้สินอะไรต้องจ่าย เงินเดือนก็พอใช้ในแต่ละเดือน บางเดือนที่เขาต้องกลับไปหาลูกเมีย ซึ่งต้องใช้เงินเยอะ เงินก็ไม่พอใช้ถึงสิ้นเดือน ค่าผ่อนรถฉันก็จะช่วยออกให้ หลายอย่างที่อยู่ในกรุงเทพฯ ฉันจะช่วยดูแลจัดการให้ เวลาที่ฉันไปหาเขา จะซื้ออาหารแห้ง และอาหารสำเร็จรูปไปเตรียมไว้ให้เขาตลอด เพราะฉันเข้าใจดีว่า เขาทำงานคนเดียว ภาระทุกอย่างอยู่ที่เขาหมด สิ่งไหนที่พอจะช่วยได้ก็จะช่วยตลอด แต่ตลอดระยะเวลาที่เราแอบคบกันมาเกือบ 3 ปี เขาไม่เคยแสดงออกให้เห็นเลยว่า เขารักฉัน เกือบ 3 ปี เขาโทรหาฉันแค่ครั้งเดียว เวลาที่ฉันโทรหาเขา หลังเลิกงาน โทรไปเขาก็ไม่เคยรับ ทุกวันนี้จะโทรหาเขา ต้องบอกก่อนล่วงหน้าว่าจะโทรหา เขาถึงจะรับสาย เวลาเจ็บไข้ได้ป่วย เขาก็ไม่เคยถามว่าเป็นยังงัยบ้าง บางครั้งฉันน้อยใจที่เขาไม่เคยห่วงใยกันเลย ก็ถามออกไปว่า เคยห่วงใยกันบ้างมั้ย คำตอบที่ได้กลับมา ก็คือ "คุณก็รู้ว่าสิ่งพวกนี้มันไม่เคยมีจากใจผม คุณอย่าเรียกร้องหามันเลย ต่อให้ 10 ปี ผมก็ไม่รักคุณ ที่ผมยังคบกับคุณเพราะเรามีอะไรกันผมต้องรับผิดชอบในส่วนที่ผมทำผิด ต้องประคับประคองไปจนกว่าคุณจะตัดใจจากผมได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทำให้ผม ผมรับรู้ แต่จะให้ผมเปลี่ยนไปรักคุณมันเป็นไปไม่ได้" เขาชัดเจนเสมอ ว่าเขาคิดยังงัยกับฉัน แต่ปัญหามันอยู่ที่ฉันคนเดียว ที่ไม่สามารถตัดใจจากเขาได้ สำหรับเขาทุกวันนี้ เหมือนไม่มีฉันอยุ่ในความคิดเขาเลย เพียงแต่ฉันที่ยังติดต่อเขาอยู่ ถ้าวันไหนฉันหายไปจากเขา ก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นสำหรับเขา ที่ฉันบอกว่าตัวเองโง่ก็เพราะว่า รุ้ทั้งรู้ว่าเขาไม่รัก แต่ทำไมฉันไม่เคยเลิกรักเขาเลย บางเดือนเงินเดือนไม่พอใช้ เขาก็มาเอาที่ฉัน ค่าน้ำมันรถไม่มีฉันก็ออกให้ แต่ที่น่าสมน้ำหน้าตัวเองที่สุด คือ เวลาที่เขาไม่มีเงินจะกลับไปหาลูกเมีย และมันเกือบ 2 เดือนแล้วที่เขาไม่กลับบ้าน ฉันกลับนึกถึงหัวอกเมียของเขาว่าจะคิดถึงผัวขนาดไหน ฉันเป็นฝ่ายให้เงินเขาและบอกกับเขาว่า"กลับไปหาลูกเมียเถอะ ฉันเป็นผู้หญิงด้วยกัน ฉันรู้ว่าเขาต้องคิดถึงคุณขนาดไหน" ให้เงินเขากลับไปมีความสุขกับลูกเมีย แต่ฉันกลับนอนร้องไห้ เจ็บปวดทุกครั้งที่คิดถึงภาพว่าเขาจะมีความสุขกับครอบครัวขนาดไหน บ่อยๆครั้งที่เขากลับไปหาลูกเมียเงินค่าเดินทางค่าน้ำมันรถ เป็นเงินของฉัน ใครจะว่าฉันโง่ไม่ผิดหรอกค่ะ ฉันโง่จริง ๆ ทั้งที่เขาไม่รัก แต่ยังทุ่มเททั้งตัวและเงินทองให้เขา แต่สำหรับฉันคิดแค่ว่า ถ้าสิ่งไหนที่ทำให้เขามีความสุข ฉันจะทำ ทั้งที่ตัวเองเจ็บปวดก็จะยอม บางครั้งเขาอยากจะไปรับลูกเมียมาอยู่ด้วย แต่ไม่มีเงิน ฉันก็ออกค่าใช้จ่ายให้ ให้เงินเขาแล้ว ตัวเองก็แอบไปร้องไห้ในห้องน้ำ เกลียดตัวเองที่ทำไมไม่เคยตัดใจจากเขาได้เสียที ถามตัวเองว่าทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ ถ้าเป็นพวกเมียน้อยคนอื่น จะมีใครหน้าโง่ทำเหมือนฉันบ้าง เอาเงินของตัวเองซึ่งก็เป็นเมียอีกคน(แต่เขาไม่เคยยอมรับ) เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับเมียอีกคน ถามว่าเมียน้อยคนไหนจะทำได้แบบนี้ ฉันไม่เคยเรียกร้องขออะไรจากเขา แบบที่พวกเมียน้อยคนอื่น ๆ เขาทำกัน แต่ฉันกลับเป็นฝ่ายให้เขาและคอยช่วยเหลือเขาตลอด บางครั้งฉันก็อยากได้ยินจากปากเขาสักครั้งที่เรียกฉันว่า "เมีย" เคยขอร้องให้เขาเรียกฉันว่าเมีย คำตอบที่ได้คือ "ผมไม่เคยคิดว่าคุณเป็นเมีย เพราะผมมีเมียแค่คนเดียว คุณคือชู้" นี่คือคำพูดของเขาที่ทำให้ฉันแทบเป็นบ้า ขนาดคำพูดที่ทำร้ายจิตใจขนาดนี้ ฉันยังตัดใจจากเขาไม่ได้ ฉันยังเฝ้ารักและห่วงใยเขาตลอดเวลา คำพูดของเขาที่บอกว่า "เวลาที่ผมกอดลูกเมียทุกครั้ง ผมละอายใจมาก" คำพูดนี้ของเขา มันทำให้ฉันอยากจะจบปัญหาทุกอย่างลงด้วยการจบชีวิตของตัวเอง เพราะคิดว่าการมีชีวิตอยู่ของฉัน มันทำให้คนที่ฉันรักต้องละอายกับบาป และอนาคตข้างหน้าก็อาจจะทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่มีความผิดอะไรเลย ต้องมาเจ็บช้ำกับการกระทำอันเห็นแก่ตัวของฉัน
ฝากถึงคุณผู้หญิงทุกท่าน อย่าเอาดิฉันเป็นเยี่ยงอย่าง ทุกสิ่งทุกอย่างของเรื่องนี้ ความผิดฉันยอมรับไว้คนเดียว ผู้ชายไม่เคยเรียกร้องเงินทองจากฉัน เพียงแต่ฉันทนเห็นความลำบากของเขาไม่ได้จึงต้องยื่นมือไปช่วย ขอแค่เขามีความสุข ฉันก็ยิ้มได้ ถึงแม้มันจะเป็นความสุขบนดงดอกงิ้วก็ตามที