นิยายแฟนตาซี - Deep อาณาจักรจิตเสมือน ตอนที่ 3 (การรวมกลุ่ม)

กระทู้สนทนา
Deep : อาณาจักรจิตเสมือน
การรวมกลุ่ม



            “หมี !!!!!!!” อนุสรณ์ อุทานออกมาเบาๆ ด้วยความตกใจ

            ขนาดของมันใหญ่มากเมื่อเทียบกับหมาป่าตัวก่อนหน้าที่พบตรงลำธารที่เขาจุติ นั่นสร้างความน่าสะพรึงกลัวให้กับ ชายหญิงคู่นั้นได้ไม่น้อย เพราะพวกเขาไม่รู้จักการต่อสู้กับสัตว์ป่า ซึ่งนั่นเหมือนสวรรค์ให้โอกาส อนุสรณ์รีบคว้ากิ่งไม้ขนาดพอเหมาะ นำเศษไม้แห้งมาพันไว้กับกิ่งไม้ แล้วกระโจนวิ่งข้ามลำธาร ตรงไปจุดไฟ และเข้าสกัด เส้นทางการจู่โจมของหมีตัวนั้น

            ได้ผล!!! หมีกลัวไฟ อย่างที่อนุสรณ์คาดการณ์ไว้ มันหยุดการจู่โจม ชายหญิงทั้งสอง และมองอย่างแน่นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ถึงแม้ไฟจะทำให้หมีหยุดการจู่โจมได้ชั่วขณะ แต่หัวใจของอนุสรณ์ยังคงเต้นแรง เพราะไม่มั่นใจว่าจะทำให้มันนิ่งอยู่แบบนี้ได้นานแค่ไหน ชายหญิงทั้งสอง เมื่อได้เห็นว่าหมีกลัวไฟ ด้วยสัญชาตญาณการเรียนรู้ จึงได้หยิบท่อนไม้ขึ้นมาจุดไฟบ้าง นั่นเท่ากับว่า ตอนนี้มีคบไฟสามดวง สู้กับหมีหนึ่งตัว ทำให้หมีค่อยๆ ล่าถอยหนีไปในที่สุด

            หลังจากหมีล่าถอยไป มนุษย์ผู้ชายได้หันมาทางอนุสรณ์ แล้วคุกเข่าลงทันที คล้ายเป็นการแสดงความเคารพและขอบคุณไปพร้อมกัน ส่วนหญิงสาวเห็นอากัปกิริยาที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จึงมีอาการที่งุนงง เงอะงะอยู่สักพัก จึงคุกเข่าตามเพื่อนผู้ชายคนนั้น การกระทำของทั้งสองอยู่ในสายตาของอนุสรณ์ทุกรายละเอียด ตอนแรกเขารู้สึกประหลาดใจที่มนุษย์เพศชายแสดงท่าทีดังกล่าวออกมา แต่บัดนี้รอยยิ้มมุมปากของ อนุสรณ์ได้เปิดเผยออกมา พร้อมกับการคิดคำนวณในสมองอย่างรวดเร็วว่า นี่คือโอกาสที่จะได้รวมกลุ่มกับมนุษย์ชายหญิงคู่นี้ ซ้ำยังได้ของแถมคือความเคารพเสียอีก ช่างเป็นอะไรที่โชคดีเสียจริง ถ้าเป็นแบบนี้เขาจะสามารถคุมเกมไว้ได้ทั้งหมด

            “เจ้าสองคน เกิดจากแสง ใช่หรือไม่?” ประโยคคำถาม ที่ซับซ้อนหลายคำ ออกมาจากปากของอนุสรณ์โดยโดยที่ชายหญิงทั้งสองไม่ท่านตั้งตัว อนุสรณ์ตัดสินใจเปล่งคำพูดออกมาแม้มันจะสุ่มเสี่ยงในการถูกคัดออกจากการแข่งขันก็ตาม

            “ท่าน ท่าน” มีเพียงคำพูดคำเดียวออกมาจากปากผู้ชาย แต่ทั้งคู่ยังคุกเข่าก้มหน้า ด้วยความหวาดหวั่นอยู่เช่นนั้น
            อนุสรณ์เห็นท่าทีดังกล่าว จึงคิดว่าคงต้องปล่อยเลยตามเลยแล้ว จากนั้นจึงขึ้นไปนั่งบนโขดหินใกล้ๆ ด้วยท่าทีองอาจ แล้วเปล่งเสียงที่เปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจ ออกมา

            “ลุกขึ้น” ผู้ชายมีท่าทีตอบสนองทันที และรีบคว้าผู้หญิงให้ลุกขึ้นตาม
            “มองข้า” ผู้ชายหันมามอง เหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่ อนุสรณ์พูด
            “เจ้า พูดได้หรือ?”  ประโยคคำถามที่พรุ่งตรงไปยังมนุษย์ผู้ชาย พร้อมทั้งมือที่ชี้ไปยังมุมปาก ทำให้ผู้ชายเข้าใจว่า อนุสรณ์กำลังถามว่าเขาสามารถพูดได้ใช่หรือไม่ จึงผงกศีรษะตอบรับ  เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่า ชายคนนั้นเข้าใจ สิ่งที่อนุสรณ์ต้องการจะสื่อ ซึ่งทำให้อนุสรณ์ยิ้มออกมาอย่างมีความหวัง

            “ข้าชื่อ สอน, ข้าคือ เทพ” อนุสรณ์บอกชื่อที่เรียบง่ายออกไป พร้อมทั้งโกหกว่าตัวเองเป็นเทพมาจุติ
            “ข้าจะสอน เจ้า และเจ้า” อนุสรณ์ทดสอบโดยการพูดออกไป อีก 3 ประโยค ชายผู้นั้นก็เข้าใจและตอบรับเป็นอย่างดี เขาถึงกับคุกเข่าลงไปคำนับเป็นครั้งที่สอง จนอนุสรณ์ต้องบอกให้ลุกขึ้น ซึ่งเขาก็พอใจกับบททดสอบนี้มาก

            “เรียกชื่อ ข้า” อนุสรณ์ทดสอบอีกครั้ง
            “เรียกชื่อ ข้า .............. ” อนุสรณ์ตะโกนออกไปอย่างกราดเกรี้ยวเมื่อไม่มีปฏิกิริยา ตอบสนอง
            “ซซซ... ซอน” ชายผู้นั้นละล่ำละลักออกมาด้วยความกลัว บททดสอบสุดท้ายนี้ทำให้เขารู้ว่า ผู้ชายคนนี้มีความสามารถในเรื่องการใช้ภาษา แต่ยังไม่มีผู้ที่ขัดเกลาจึงสามารถใช้ฟังหรือฟังได้เพียงคำง่ายๆเท่านั้น และยังออกเสียงผิดเพี้ยนบ้าง ส่วนผู้หญิงคงไม่สามารถรับรู้อะไรได้มากเท่าไหร่ จึงได้แต่มองกลับไปกลับมาระหว่างอนุสรณ์และเพื่อนชายของเธอแบบงุนงง

            “ดีมาก ต่อไปนี้ ข้าจะสอน เจ้าพูด จงคำนับข้า” อนุสรณ์ เริ่มพูดในประโยคที่ยากขึ้น ซึ่งการตอบสนองก็ยังคงเป็นไปในทางบวก ถึงแม้จะต้องคอยย้ำอยู่บ้าง แต่สุดท้าย ชายหญิงทั้งสองก็สามารถทำความเข้าใจได้ และได้คุกเข่า คำนับเป็นครั้งที่สาม

            “ข้าจะตั้งชื่อให้เจ้า เจ้าชื่อ ดิน ส่วนเจ้าชื่อ น้ำ” เทพสอนตั้งชื่อให้กับผู้ชายว่า ‘ดิน’ และผู้หญิงว่า ‘น้ำ’ มนุษย์ผู้ชายรับคำตามที่เทพสอนบอก แล้วอธิบายให้ผู้หญิงเข้าใจ ซึ่งดูเหมือนเขาทั้งสองจะมีวิธีสื่อสารกันในแบบที่คาดไม่ถึง ทำให้ผู้หญิงสามารถเข้าใจความหมายได้ และพูดชื่อตัวเองออกมาเป็นครั้งแรก

            เมื่อมีชื่อเรียกขานแล้ว สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับต่อไปในหัวของเทพสอนคือ ต้องสร้างสิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตนั่นคือ ปัจจัยสี่ อันได้แก่ อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค ซึ่งสามในสี่อย่างแรก เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะยากเกินความสามารถของบุคคลทั้งสามที่อยู่ร่วมกัน ณ ตอนนี้ เพราะเท่าที่เฝ้าสังเกต ผู้หญิงนั้นมีความสามารถเรื่องการทำอาหารอยู่พอสมควร ส่วนเครื่องนุ่งห่มและที่อยู่อาศัยนั้น ลำพังเพียงความสามารถของเทพสอนก็เพียงพอที่จะสร้างขึ้นมาได้ แต่เรื่องยารักษาโรคยังคงเป็นเรื่องยาก แม้เทพสอนจะมีความสามารถในการประดิษฐ์แต่เขาไม่มีความรู้เรื่องยาหรือการรักษาเลย แต่เรื่องนั้นยังไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับบุคคลทั้งสามเพราะพวกเขายังไม่ได้แสดงอาการเจ็บป่วยใดๆ ให้เห็นเลย

            เมื่อเวลาเลยผ่าน การเรียกขานชื่อเริ่มผิดเพี้ยนไป จาก หญิงน้ำ กลายเป็น “ยิงนัม” จากชายดิน กลายเป็น “ไชดิน” และจากท่านสอน กลายเป็น “ทันซอน” ถึงแม้เทพสอนจะคอยย้ำเรื่องการออกเสียงให้ถูกต้อง แต่สุดท้ายพวกเขาก็สามารถพูดได้เพียงเท่านั้น นานวันเข้าเทพสอนเลยละเว้นความผิดเพี้ยนดังกล่าวและยอมรับมันเสีย เพราะถ้าหากพูดคำที่มันชัดเกินไปอาจทำให้ถูกจับผิดได้ ด้วยเหตุนี้ ทำให้ทันซอนหรืออนุสรณ์ซึ่งมีความสามารถในการประดิษฐ์ ได้คิดประดิษฐ์อักษรขึ้น เป็นอักษรง่ายๆ อ้างอิงมาจากภาษาไทย ลดรูปพยัญชนะที่ซ้ำกันให้เหลือน้อยที่สุดแล้วตั้งชื่อชุดอักษรเหล่านี้ว่า พาซา (เพี้ยนมาจากคำว่า ภาษา ได้แนวคิดมาจาก การเรียกชื่อเพี้ยน และอยากสร้างอารยธรรมของตัวเอง ตามนิสัยของนักสร้าง) นอกจากนี้ทันซอนยังได้สร้างชุดตัวเลขขึ้นมาใช้งานโดยอ้างอิงจากตัวเลขอารบิกที่เขารู้จัก แต่เปลี่ยนรูปเสียใหม่ และตั้งชื่อชุดตัวเลขนี้ว่า นัมบา (เพี้ยนมาจาก นัมเบอร์ ในภาษาอังกฤษที่แปลว่าตัวเลข)

            ทันซอน ได้นำ ชุดอักษร พาซา และชุดตัวเลข นัมบา ที่คิดค้นขึ้นมานำไปสอน ไชดินและยิงนัม แน่นอนว่า ไชดินสามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วเพราะมีความสามารถในด้านภาษาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ส่วนยิงนัมถึงแม้จะเรียนรู้ได้ช้ากว่า แต่ได้นำความรู้ที่ได้มาแยกแยะวัตถุดิบอาหาร ทำให้งานด้านการทำอาหารมีความสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากทุกวันที่จะต้องเรียนเกี่ยวกับชุดอักษรพาซา การผสมคำ และตัวเลขนัมบาแล้ว ทั้งไชดินและยิงนัมยังได้เรียนรู้การทักษะการสานเป็นลูกมือช่วยทันสอน ทำให้ทั้งสาม มีเครื่องนุ่มห่ม และเครื่องมือเครื่องใช้ในที่สร้างมาจากยาซาน (เพี้ยนมาจาก หญ้าสาน) เวลาผ่านไปสามเดือน พวกเขา มีทั้งชุดอักษรพาซา ชุดตัวเลขนัมบา เครื่องมือเครื่องใช้และที่อยู่อาศัยที่สร้างมาจากยาซาน ทันซอนสร้างกระท่อมขึ้น 2 หลังให้กับตัวเขาและคู่ชายหญิง ไชดิน ยิงนัม ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่สะดวกสบายขึ้นเป็นอย่างมาก    
    …………..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่