แผนก็มีดังนี้นะครับ
แผนธุรกิจ ขายทาโกะยากิใน โรงอาหารภายในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพ
กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
นักศึกษาภายใน มหาวิทยาลัย จำนวน 10,000 คน แต่เอาแค่นักศึกษาในคณะที่อยู่ใกล้โรงอาหาร 7,000 คน
( ตอนนี้ยังไม่รู้ตัวเลขที่ชัดเจนว่า มีนศ.มาทานอาหารในโรงอาหารวันละเท่าไหร่)
โอกาสทางธุรกิจ
ในทำเลนั้น ยังไม่มีใครขาย และนักศึกษานิยมทานกัน และมีอัตราการกลับมาซื้อซ้ำสูง (อาศัยจากประสบการณ์ที่เห็นร้านทาโกะยากิที่ขายหน้ามหาลัยที่รู้จักกัน)
เป้าหมายทางธุรกิจ
ขายได้มากกว่า 3 ถัง/วัน หรือประมาน 4,500 บาทต่อวัน หรือซื้อ 180 คน/วัน(เฉลี่ยซื้อคนละ 5 ลูกหรือ 25 บาท)
วิเคราะห์คู่แข่ง
คู่แข่งทางตรง : ไม่มี
คู่แข่งทางอ้อม : มีเต็มไปหมด โดยเฉพาะร้านอาหาร
ปัจจัยที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ
1. รสชาติต้องอร่อย
2. ไส้เยอะ
3. มาตรฐานต้องคงที่เหมือนกันทุกชิ้น
4. มีความสะอาดและปลอดภัย
วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน
Strength
1. กรอบนอก นุ่มใน ลูกใหญ่เต็มคำ : รสชาติอร่อยและได้เยอะ
2. มี barrier to entry สำหรับคู่แข่งรายใหม่ เนื่องจากมีสัญญาเช่าพื้นที่
3. ราคาถูก ทำให้ตัดสินใจซิ้อได้ง่าย
4. สามารถทานแทนข้าวได้ โดยเฉพาะผู้หญิง และนักศึกษาที่ต้องรีบไปเรียน
5. ในบริเวณนั้นไม่มีของทานเล่นอื่นขายเลย นอกจากพวกลูกชิ้นทอด
Weakness
1. ผู้บริโภคอาจจะตัดสินใจทาวข้าวหรือก๋วยเตี๋ยวมากกว่า
2. อาจจะหาพนักงานได้ยาก เนื่องจากทำงานแค่เดือนละ 22 วัน ทำให้ได้เงินเดือนน้อย( แต่ถ้าขายดีข้อนี้อาจจะแก้ไขปัญหาได้ โดยการเพิ่มเงินเดือนให้เหมาะสม)
3. เหนื่อย เพราะต้องคอยทำเกือบตลอดเวลา
4. บริหารจัดการค่อนข้างยาก โดยเฉพาะการจะรู้ยอดขายที่แท้จริงในแต่ละวัน(ลูกน้องโกงได้ง่าย)
Strategies (ทำยังไงให้ขายได้วันละ 4,500 บาท)
1. การทำให้เกิดการรับรู้ และส่งเสริมให้คนอยากมาลองซื้อ
- ติดโบรชัวร์ประชาสัมพันธ์ให้ทั่วทั้งมหาวิทยาลัย
- จัดโปรโมชัน ซื้อ 5 ลูก แถมฟรี 1 ลูก
- แจกให้ชิมฟรี
2. การขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขาย
- เพิ่มเมนูใหม่หรือไส้ใหม่ๆ เมื่อสินค้าเริ่มติดตลาด อาทิเช่นขายพิซซ่าญี่ปุ่นเพิ่ม
- บริการ delivery ภายในมหาวิทยาลัย เมื่อสั่งสินค้า 100 บาทขึ้นไป(หรืออาจจะ 50 บาท) ส่งฟรี
3. ในระยะยาวแล้วต้องการเพิ่มยอดขายต่อคนให้เพิ่มขึ้นจาก 25 เป็น 30 บาท (แต่ยังไม่รู้จะทำยังไง)
ความเสี่ยงและแผนสำรอง
1. หากยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ และสาเหตุเกิดจากตัวสินค้าไม่ใช่ทำเล ต้องหาสินค้าชนิดอื่นมาขายแทน และจะขาดทุนค่าอุปกรณ์ 20,000 บาท รวมถึงต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มในธุรกิจใหม่
2. หากยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ และสาเหตุเกิดจากทำเล ควรจะหยุดดำเนินกิจการทันที และจะขาดทุนทั้งหมด 50,000 บาท
3. หากลูกน้องลาออกกะทันหัน ต้องไปขายเองจนกว่าจะหาลูกน้องใหม่ได้
4. ความเสี่ยงที่ลูกน้องจะโกง ไม่สามารถควบคุมได้ 100% แต่ก็สามารถประเมิณคร่าวๆได้จากปริมาณวัตถุดิบที่ใช้ไป
Cash Flow Forecast

ค่าเช่าที่เดือนละ 10,000 บาท(ประมานวันละ 500 เพราะหยุดเสาร์ อาทิดย์) แต่ครั้งแรกต้องจ่ายมัดจำอีก 20,000 เลยรวมเป็น 30,000
ค่าจ้าง จ้างพนง. 2 คนคนละ 350 บาท = 700 บาท
พอดีว่าหากจะทำสัญญาเช่าที่ต้องตัดสินในภายในอาทิตย์หน้า เลยอยากขอคำแนะนำทุกคนหน่อยนะครับ ว่าผมควรเซ็นต์สัญญาเช่าที่ และทำธุรกิจนี้ดีมั้ย
ขอบคุณครับ
ผมลองเขียนแผนธุรกิจขายทาโกะยากิในมหาลัย ช่วยวิเคราะห์และแนะนำให้หน่อยครับ
แผนธุรกิจ ขายทาโกะยากิใน โรงอาหารภายในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพ
กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
นักศึกษาภายใน มหาวิทยาลัย จำนวน 10,000 คน แต่เอาแค่นักศึกษาในคณะที่อยู่ใกล้โรงอาหาร 7,000 คน
( ตอนนี้ยังไม่รู้ตัวเลขที่ชัดเจนว่า มีนศ.มาทานอาหารในโรงอาหารวันละเท่าไหร่)
โอกาสทางธุรกิจ
ในทำเลนั้น ยังไม่มีใครขาย และนักศึกษานิยมทานกัน และมีอัตราการกลับมาซื้อซ้ำสูง (อาศัยจากประสบการณ์ที่เห็นร้านทาโกะยากิที่ขายหน้ามหาลัยที่รู้จักกัน)
เป้าหมายทางธุรกิจ
ขายได้มากกว่า 3 ถัง/วัน หรือประมาน 4,500 บาทต่อวัน หรือซื้อ 180 คน/วัน(เฉลี่ยซื้อคนละ 5 ลูกหรือ 25 บาท)
วิเคราะห์คู่แข่ง
คู่แข่งทางตรง : ไม่มี
คู่แข่งทางอ้อม : มีเต็มไปหมด โดยเฉพาะร้านอาหาร
ปัจจัยที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ
1. รสชาติต้องอร่อย
2. ไส้เยอะ
3. มาตรฐานต้องคงที่เหมือนกันทุกชิ้น
4. มีความสะอาดและปลอดภัย
วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน
Strength
1. กรอบนอก นุ่มใน ลูกใหญ่เต็มคำ : รสชาติอร่อยและได้เยอะ
2. มี barrier to entry สำหรับคู่แข่งรายใหม่ เนื่องจากมีสัญญาเช่าพื้นที่
3. ราคาถูก ทำให้ตัดสินใจซิ้อได้ง่าย
4. สามารถทานแทนข้าวได้ โดยเฉพาะผู้หญิง และนักศึกษาที่ต้องรีบไปเรียน
5. ในบริเวณนั้นไม่มีของทานเล่นอื่นขายเลย นอกจากพวกลูกชิ้นทอด
Weakness
1. ผู้บริโภคอาจจะตัดสินใจทาวข้าวหรือก๋วยเตี๋ยวมากกว่า
2. อาจจะหาพนักงานได้ยาก เนื่องจากทำงานแค่เดือนละ 22 วัน ทำให้ได้เงินเดือนน้อย( แต่ถ้าขายดีข้อนี้อาจจะแก้ไขปัญหาได้ โดยการเพิ่มเงินเดือนให้เหมาะสม)
3. เหนื่อย เพราะต้องคอยทำเกือบตลอดเวลา
4. บริหารจัดการค่อนข้างยาก โดยเฉพาะการจะรู้ยอดขายที่แท้จริงในแต่ละวัน(ลูกน้องโกงได้ง่าย)
Strategies (ทำยังไงให้ขายได้วันละ 4,500 บาท)
1. การทำให้เกิดการรับรู้ และส่งเสริมให้คนอยากมาลองซื้อ
- ติดโบรชัวร์ประชาสัมพันธ์ให้ทั่วทั้งมหาวิทยาลัย
- จัดโปรโมชัน ซื้อ 5 ลูก แถมฟรี 1 ลูก
- แจกให้ชิมฟรี
2. การขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขาย
- เพิ่มเมนูใหม่หรือไส้ใหม่ๆ เมื่อสินค้าเริ่มติดตลาด อาทิเช่นขายพิซซ่าญี่ปุ่นเพิ่ม
- บริการ delivery ภายในมหาวิทยาลัย เมื่อสั่งสินค้า 100 บาทขึ้นไป(หรืออาจจะ 50 บาท) ส่งฟรี
3. ในระยะยาวแล้วต้องการเพิ่มยอดขายต่อคนให้เพิ่มขึ้นจาก 25 เป็น 30 บาท (แต่ยังไม่รู้จะทำยังไง)
ความเสี่ยงและแผนสำรอง
1. หากยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ และสาเหตุเกิดจากตัวสินค้าไม่ใช่ทำเล ต้องหาสินค้าชนิดอื่นมาขายแทน และจะขาดทุนค่าอุปกรณ์ 20,000 บาท รวมถึงต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มในธุรกิจใหม่
2. หากยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ และสาเหตุเกิดจากทำเล ควรจะหยุดดำเนินกิจการทันที และจะขาดทุนทั้งหมด 50,000 บาท
3. หากลูกน้องลาออกกะทันหัน ต้องไปขายเองจนกว่าจะหาลูกน้องใหม่ได้
4. ความเสี่ยงที่ลูกน้องจะโกง ไม่สามารถควบคุมได้ 100% แต่ก็สามารถประเมิณคร่าวๆได้จากปริมาณวัตถุดิบที่ใช้ไป
Cash Flow Forecast
ค่าเช่าที่เดือนละ 10,000 บาท(ประมานวันละ 500 เพราะหยุดเสาร์ อาทิดย์) แต่ครั้งแรกต้องจ่ายมัดจำอีก 20,000 เลยรวมเป็น 30,000
ค่าจ้าง จ้างพนง. 2 คนคนละ 350 บาท = 700 บาท
พอดีว่าหากจะทำสัญญาเช่าที่ต้องตัดสินในภายในอาทิตย์หน้า เลยอยากขอคำแนะนำทุกคนหน่อยนะครับ ว่าผมควรเซ็นต์สัญญาเช่าที่ และทำธุรกิจนี้ดีมั้ย
ขอบคุณครับ