เปลี่ยนแปลงตัวเองเพราะคำว่า "กะเทยควาย" จาก 98 กิโลเหลือ...

โอเคครับแนะนำตัวกันก่อนชื่อเจนะครับผม ตอนนี้ก็อายุ 20 ปีแล้วครับเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
เริ่มแรกก่อนที่ผมจะลดความอ้วน ขอย้อนไปตั้งแต่ม.ต้นก่อน ผมเป็นผู้ชายเรียบร้อย (แถวบ้านเรียกตุ๊ด) ตั้งใจเรียน ไม่ได้ดูแลสุขภาพอะไร เพราะคิดว่าเรื่องสุขภาพมันไม่สำคัญ เอาเรื่องก่อนดีกว่า ย้อนไปดูตอนม.ต้นกันก่อนครับ ในรูปตอนนี้หนัก 88 กิโล อายุตอนนั้นแค่ 15 ปี โดนเพื่อนล้อตลอดทุกๆคำเหยียดหยาม เช่น กะเทยควาย คางคก หน้าปรุ ตัวดำ อ้วนดำ เหมือนตัวโน้นตัวนี้ผสมกันบ้างละ ถามว่าเสียใจไหม เสียใจแต่ร้องไห้ไม่ได้เพราะมันคือความจริง
ความจริงที่ว่าอยากให้ดูรูปครับ





เรื่องมันเกิดจากวันที่ผมไปกินหมูกะทะกับเพื่อนที่จะต้องแยกจากกันเมื่อจบม.3 บังเอิญไปเจอพี่ผู้ชายคนนึง ซึ่งหล่อมาก หน้าตาดี ผิวพรรณดี เป็นนักกีฬาโรงเรียน ผมก็รู้สึกว่าชอบมากๆถ้าได้เจอทุกวัน ไปเรียนแล้วเห็นหน้าทุกวันก็คงจะดี แต่ก็ไม่น่าเชื่อมันจะเป็นจริง พี่เขาเรียนโรงเรียนเดียวกับผม
สงสัยขึ้นม.ปลายเริ่มคัน เลยมองพี่เขาบ้างแต่ก็เหมือนฟ้าจะเป็นใจอีกเพื่อนผมดันเป็นแฟนกับเพื่อนพี่เขาในกลุ่ม เวลาพักกลางวัน หรือ เวลาว่างๆก็ชอบไปนั่งเล่นแถวๆที่กลุ่มพวกพี่ที่ผมปลื้มเขานั่งกัน เราก็มองพี่คนนั้นไป โดนแซวกันไป พี่เขาเป็นผู้ชายแท้ๆ จึงไม่แปลกว่าทำไมพี่เขายิ้มและทำตัวเฉยๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ผมดันขึ้นไปไกลละ ยันแต่งงานเลยมั้ย ? <<< มโนล้วนๆ
ไม่แปลกใจอีกอย่างคือว่าทำไมพี่เขาไม่สนใจ ไม่แยแส ไม่ดูดูดีอะไรเรา ดูสภาพกันเลย ตอนนั้นก็เพิ่มจากม.ต้น 88 กิโล เป็น 98 กิโล






คนหน้าตาดี ดูดี นักกีฬายังไงก็ต้องชอบคนที่ดูดี วิน วิน ทั้งคู่อยู่แล้ว ผมเลยไม่คิดอะไรนอกจากแอบรักพี่คนนั้นเขาไปเรื่อยๆทุกวันๆ หวังว่าวันนึงเขาคงมองเห็นใจเราที่ผมชอบเขา
ผมแอบชอบพี่คนนี้ถึง 4 ปี และไม่มองใครอีกเลยแม้แต่คนเดียว หวังอยากคบ อยากมีความรู้สึกดีๆร่วมกัน ทั้งๆที่ตัวเราเองก็รู้ว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลยสักนิด พร้อมกับคำด่าอีกมากมาย ที่เพิ่มมาจากม.ต้น เช่น หนังหน้าอย่างใครจะเอา ชอบใครไม่ดูสารรูปตัวเองเลย จะสวยมากถ้าตัดหัวทิ้งบ้างละ
จนในที่สุด วันที่มันทำให้ผมเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองสาเหตุมันมาจากเหตุการณ์นี้ละครับ คือวันนั้นผมไปเข้าห้องน้ำกับเพื่อน แต่ยังเป็นเวลาเรียนของเด็กมัธยมอยู่จึงไม่ค่อยมีใครเดินไปผ่านมาสักเท่าไหร่ ทำให้บรรยากาศเงียบมาก ผมก็อยู่ในห้องน้ำเหมือนกัน แต่ผมสามารถได้ยินเสียงข้างนอกทั้งหมด
เพื่อน : อ้าวพี่...ไปไหนอ่ะ ?
พี่ที่ผมแอบชอบ : ไปเรียนๆ
เพื่อน : พี่...เจคิดถึงอ่ะ
พี่ที่ผมชอบ : ใครคือเจ ?
เพื่อน : ก็เพื่อนหนูไงที่มันชอบพี่อ่ะ
พี่ที่ผมชอบ : อ๋อ !!! อีกะเทยควายนั่นน่ะเหรอ 555555
ใครด่าก็ช่าง มันไม่เจ็บเท่าคนที่เราชอบมา 4 ปี ผมแทบทรุดเมื่อได้ยินคำนั้น อยากจะร้องไห้เหมือนกัน แต่เราก็ร้องไม่ได้เพราะต้องขึ้นเรียนต่อ ผมนั่งซึมครุ่นคิดคำพูดของพี่คนนั้นอยู่ทุกวัน
จนตอนเย็นของวันนั้นผมเริ่มตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง ครั้งยิ่งใหญ่และไม่คิดว่าผมจะทำได้ด้วย
ผมตั้งคำสัตย์กับตัวเองว่าจะผอม ดูดีกว่านี้เพื่อตัวเองและเหยียบย่ำคำด่านั้น
เริ่มเดือนที่ 1 ผมเริ่มกินไข่ต้ม 1 ฟอง และไม่กินอะไรอีกเลยทั้งวัน กลับมาบ้านกินน้ำวันละครึ่งแกลอน เพื่อขับถ่ายและฉี่ + อุจจาระบ่อยๆก
เริ่มเดือนที่ 2 ผมก็ทำเหมือนจากเดือนแรก แต่เพิ่มการออกกำลังกายโดยการกระโดดตบในห้องน้ำ วันแรก 50 ครั้งและเพิ่มไปเรื่อยๆวันละ 20 ครั้ง แตะเท้าสลับครึ่งนึงของการกระโดดตบต่อวัน บิดไปบิดมาให้ครบ 1 ชั่วโมงต่อวัน เวลาที่ผมออกกำลังกายคือเวลา 17.00 - 18.00 ในห้องน้ำเท่านั้นเพราะอากาศเวลานี้มันจะเริ่มอบอ้าว <<< จิตวิทยาล้วนๆ และทำให้เหงื่อออกมากกว่าปกติ
ปล.เดือนที่1และเดือนที่2 ที่ผมกินผมไม่แนะนำให้กินแบบนี้นะครับนอกจากจะทำร้ายตัวเองมากๆแล้ว ยังอ่อนเพลียอีกด้วย เคยเป็นลมคาบ้านอตัวเองครั้งนึงด้วย
เดือนที่ 3 ผมเริ่มเปลี่ยนการกิน มื้อเช้าเวลา 7.00 - 10.00 เท่านั้นกินปลานิ่ง + ข้าวครึ่งถ้วยเท่านั้น
มื้อกลางวัน กินก๋วยเตี๋ยวน้ำใสไม่ใส่กระเทียมเจียวเน้นผัก
มื้อเย็น ห้ามเกิน 16.00 กินสลัดน้ำใสและออกกำลังกายเพิ่มจากเดือนที่ 2 มากขึ้นเรื่อยๆ
ผมใช้เวลาประมาณ 7-8 เดือนในการลดน้ำหนัก ทั้งการควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย จนน้ำหนักเหลือ 49
เมื่อไปโรงเรียนประมาณต้นปีเปิดเทอมพอดี เพื่อนเกือบทุกคนว่า "เป็นเอดส์ป่ะ ? ติดยาเหรอ? กินยาลดความอ้วนอะไร? เครียดอะไรปะเนี่ย?"
หลายคนอาจจะคิดว่ามันขนาดนั้นเลยหรอ ลองดูตอนม.ต้นกับม.ปลายและมาเทียบกับรูปข้างล่างนี้ครับ







อย่างที่เห็นละครับผมลดน้ำหนักจนเหลือแค่ 49 แต่มันก็ยังไม่สมส่วน ไม่พอดี เพราะว่าเพื่อนหลายคนรวมถึงคนรอบข้างก็บอกว่า "ผอมเกินไปไหม เหมือนเป็นโรคเลยนะ"
ผมเลยตัดสินใจตามใจปากอยู่พักนึงและก็ควบคุมอาหารให้คงที่ด้วยปัจจุบันก็น้ำหนัก 59-62 ขึ้นลงไม่เกินนี้ครับ







พี่ๆเพื่อนๆน้องๆคนไหนที่อยากจะลดน้ำหนัก ผมมีทริคส่วนตัวครับ
1.หาแรงบันดาลใจที่จะลดน้ำหนักให้เจอ หรือมีไอดอลต้นแบบ คำด่า คำเหยียดหยามมากมายก็คำสัญไม่แพ้กันสามารถนำมาใช้ได้
2.ลดเพื่อใคร ถ้าเพื่อคนที่เขาไม่รักเรา ทำยังไงก็ไม่มีประโยชน์ แต่ส่วนตัวผมทำเพื่อประชดพี่คนนั้นและหาให้ได้ดีกว่า
3.เป็นข้อที่ผมคิดว่ามันยากมากๆและยากที่สุด อดใจกับสิ่งที่เคยกินให้ได้และดูรายการอาหารที่อร่อยๆเพื่อทำให้ท้องเราหิวมากขึ้นแต่เราห้ามกินเด็ดขาด ย้ำ !!! ห้ามกินเด็ดขาด หักดิบให้ได้เมื่อเราหิวมากๆท้องก็จะร้อง คนส่วนที่ลดน้ำหนักจะตายกันตรงนี้ละอดใจไม่ไหวแต่ถ้าทำได้จะเวริคมากๆ
4.ออกกำลังกายสำคัญมากๆครับ ถ้าเราอดแต่อาหาร ไม่ออกกำลังกายก็เหมือนเราชงนมให้เด็กแต่ไม่เขย่าครับ <<< ลองคิดตามดู แหะๆ
5.เมื่อลดลงมาได้แล้วอย่าฉลองการลดน้ำหนักด้วยหมูกะทะหรือของที่ทำให้อ้วนมากกว่าเดิม
6.เมื่อท้อใจ เหนื่อย ไม่ไหว ไม่มีกำลังใจให้กลับไปดูข้อ 1 ใหม่ครับสู้ๆ
โดนด่าเก็บไปคิดได้ครับคิดมี 2 แบบ
คิดไปตอกย้ำตัวเอง หรือ คิดแล้วเอาไปปรับปรุงให้ดีขึ้น

ฝากถึงพี่คนนั้นที่ผมแอบชอบนะครับ เมื่อก่อนผมอาจจะเป็นของเล่นของพี่ แต่ตอนนี้ผมเป็นของเล่นราคาแพงที่พี่ไม่สามารถซื้อได้แล้วครับ ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่