[CR] แฝดนรกแชร์ประสบการณ์กับการลดน้ำหนักด้วย T25 และอื่นๆ

กระทู้รีวิว
สวัสดีค่ะ อันนี้เป็นกระทู้แรกของเราเกี่ยวกับการลดน้ำหนัก ถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

ก่อนอื่นขอบอกก่อนเลยว่า เรากับน้องสาวเราเนี่ยเป็นฝาแฝดแท้เกิดห่างกันเพียงแค่ 1 นาทีเท่านั้นและอ้วนมาตั้งแต่เด็กจนโต เนื่องจากเป็นอาหมวยด้วยแถมดันเกิดมาเป็นฝาแฝด ดังนั้นจึงเรียกร้องความสนใจได้มากพอสมควร แถมยังเป็นเด็กกินง่าย อะไรก็กิน ป้อนหายๆ ผู้ใหญ่เลยชอบมาก ดังนั้นจึงมีของกินไม่ขาดปากมาตั้งแต่เล็กจนโต ที่บ้านป๊ากับแม่เราก็ไม่เคยหวงของกินเรียกได้ว่ามีกินตลอด แม้บ้านช่วงนั้นจะตกอยู่ในสภาวะลำบากก็ตามแต่ก็ยังมีกินเสมอ จึงไม่ต้องแปลกใจค่ะว่า น้ำหนักตัวของเรากับน้องนั้นล้ำหน้ากว่าเพื่อนในรุ่นเสมอ เสื้อผ้าก็ต้องใส่ไซส์ใหญ่สุดตลอด น้ำหนักตอนนั้นสูงสุดก็คือ 70 ก.ก. ค่ะ ช่วงนั้นก็ได้ฉายาแฝดนรก, แฝดหมวยอ้วน จากเพื่อนๆ มากมาย เพราะนอกจากจะกินเก่งแล้ว ยังปากดีด้วย ช่วงนั้นก็ถือว่าเป็นที่รู้จักในรุ่นพอสมควรเลยทีเดียวค่ะ เพราะเป็นฝาแฝดคู่เดียว ณ ตอนนั้น

เกรียนตั้งแต่เด็กยันโต






จนมาสมัยเรียนอยู่ ม.ปลาย ฉายาแฝดนรกก็ยังไม่หนีไปไหน เป็นแฝดคู่เดียวของทั้งรุ่นอีกแล้ว ความซ่าเริ่มเยอะขึ้น และก็เริ่มที่จะรักสวยรักงามแล้ว ตอนนั้นก็พยายามลดน้ำหนักด้วยวิธีผิดๆ นั่นก็คือการอดอาหารค่ะ ประกอบกับช่วงนั้นต้องเตรียมสอบเข้ามหา’ลัยด้วย โหมอ่านหนังสือกันทั้งสองคนจนผอมซูบ ตอนเรียน ม.ปลาย เรากับน้องย้ายไปเรียนที่โคราชซึ่งเป็นบ้านของตายายค่ะ พอปิดเทอมก็กลับมากรุงเทพฯทีนึง ทีนี้ด้วยความที่อ้วนมาตลอดพอกลับมาที่บ้านเห็นก็ตกใจ โดยเฉพาะป๊าเราค่ะ แกคิดว่าเราไปกินยาลดความอ้วนบ้าง ติดยาบ้าง แต่สุดท้ายแล้วก็มารู้ว่า ที่ผอมลงไปเยอะก็เพราะอ่านหนังสือสอบและอดอาหาร และตอนนั้นผลข้างเคียงที่ได้จากการอดอาหารนั่นก็คือ เป็นโรคกระเพาะและไมเกรนค่ะ รวมไปถึงผิวแตกลายเนื่องจากอ้วนสุดแล้วพอน้ำหนักลดลงฮวบ แถมไม่ได้ออกกำลังกาย ผิวหนังก็เลยแตกแบบนี้ ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังมีรอยแตกให้เห็นอยู่ตามหัวไหล่ พุง ข้อพับหัวเข่า แต่เนื่องจากผิวค่อนข้างขาวก็เลยทำให้เห็นรอยไม่ค่อยชัด ตอนนั้นจากน้ำหนัก 70 ก.ก. ลดลงมาเหลือ 50 ก.ก. ภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือนค่ะ

เรากับน้องเราผลัดกันอ้วน-ผอมตลอดค่ะ บางช่วงเราอ้วนกว่า บางช่วงน้องเราก็อ้วนกว่า และเราทั้งคู่เป็นประเภทแบบน้ำหนักขึ้นเร็วและลงเร็ว และตอนนั้นยังไม่ตระหนักถึงสุขภาพและการออกกำลังกายอย่างเป็นกิจจะลักษณะเท่าไหร่ ป่วยง่าย ผลัดกันป่วย นอนห้องเดียวกันยิ่งติดกันง่ายใหญ่ แต่ตอนนั้นก็ยังไม่คิดที่จะออกกำลังกายใดๆ ทั้งสิ้น ยังคงลดน้ำหนักด้วยวิธีเดิมๆ คือ การอดอาหาร และเริ่มเสริมด้วยผลิตภัณฑ์ที่อวดอ้างสรรพคุณว่าดักจับไขมัน บล็อกแป้ง เร่งกระบวนการเผาผลาญ ฯลฯ ถาว่ามันได้ผลมั้ย ก็อาจจะนะคะ เพราะช่วงแรกๆ ที่กินยาพวกนี้พร้อมกับอดอาหาร น้ำหนักลงเร็วมาก แต่ก็นั่นแหละ โยโย่ก็กลับมาเร็วมากเช่นเดียวกัน

ช่วงเราเรียนจบออกมาทำงานใหม่ๆ ตอนนั้นทำงานที่ร้านหนังสือช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่ผอมมาก ผอมมากที่สุดในชีวิตแล้วมั้ง คือน้ำหนักอยู่ที่ 50 ก.ก. แต่ด้วยเรากับน้องเป็นคนที่มีโครงสร้างร่างกายใหญ่อยู่แล้ว สูงราวๆ 163 เซ็นฯ น้ำหนักตัวเท่านั้นก็ทำให้ดูเหมือนคนติดยาค่ะ หน้าตอบ แก้มตอบแขน ขาเก้งก้าง แต่พุงไม่ยุบนะคะ เพราะสะสมไขมันมาตั้งแต่เด็กและไม่เคยออกกำลังกายเฉพาะส่วนเลย ถึงภายนอกจะดูผอมแต่ก็ยังมีพุงค่ะ ส่วนน้องสาวของเราช่วงนั้นนางเรียน ป.โทไปด้วยทำงานไปด้วย เครียดทั้งงานเครียดทั้งเรียน ผลสุดท้ายระบายความเครียดด้วยการกินค่ะ กินดึก กินจุบจิบ น้ำอัดลมนี่ของโปรดเลย ดังนั้นน้ำหนักตัวของนางจึงเด้งไปอยู่ที่ 70 ก.ก.






เราเองค่ะ


น้องสาวเรา





จากนั้นเราก็เข้าสู่วงการท่องเที่ยวอย่างเต็มตัวค่ะ เรามีอาชีพเป็นไกด์ฟรีแลนซ์ ต้องเดินทางไปโน่นมานี่ ทำให้ตารางชีวิตเปลี่ยนไปค่ะ กิน นอน ไม่เป็นเวลา ไม่ออกกำลังกาย ร่างกายก็เลยแย่ลงตามลำดับและสะสมไขมันขึ้นตามลำดับด้วย อย่าเพิ่งคิดว่าการเป็นไกด์พาไปเที่ยวนี่จะต้องผอมนะคะ คือการไปเที่ยวกับทัวร์เนี่ยได้ทานครบ 3 มื้อค่ะ ปกติอยู่บ้านอาจจะทานแค่มื้อเดียวหรือไม่ทานเลยก็ยังได้ แต่เวลาไปเที่ยวกับทัวร์เนี่ยอาหารสามมื้อจัดเต็มค่ะ ส่วนไกด์อย่างดิฉันก็ต้องกักตุนอาหารเอาไว้ค่ะ คือถ้ากินได้ให้รีบกิน ถ้านอนได้ให้รีบนอน เพราะเราจะต้องทำงานตลอดเวลา กินสุดท้ายแต่ต้องเสร็จก่อน นอนทีหลังแต่ต้องตื่นก่อน และในเมื่อกิจวัตรเป็นแบบนี้ น้ำหนักตัวก็เพิ่มขึ้นค่ะ จาก 50 ก.ก. เด้งขึ้นมาอยู่ที่สูงสุด 65 ก.ก. และพ่วงมาด้วยโรคกระเพาะและอาการกรดไหลย้อนชนิดเฉียดพลันค่ะ กล่าวคือกินเสร็จแล้ววิ่งไปอ้วกทันที เพราะอาหารไม่ย่อย เนื่องจากเรารีบกิน เคี้ยวไม่ละเอียดและกินอาหารไม่ตรงเวลา ปล่อยให้ท้องว่างนานเกินไป ทรมานมากๆ

ส่วนน้องสาวของเรา เรียนจบรับปริญญาแล้วก็กลับไปทำงานต่อ นางถนัดกับงานออฟฟิศค่ะแต่เป็นออฟฟิศที่เครียดมากกก ทนไม่ไหวก็เลยลาออก เปลี่ยนงานอยู่อีก 2-3 ที่ ก็มาลงตัวอยู่ที่ สสส. แต่ช่วงเวลานั้นนางก็ยัง enjoy eating อยู่เหมือนเดิม คือใครจะหาว่าอ้วนข้าก็ไม่สน ข้ามีความสุขกับการกิน ข้ามีความสุขแบบนี้แล้วจะทำไม แต่พอมาเข้าทำงานที่ สสส. ก็ถูกจับให้ลดน้ำหนักตามเคมเปนลดพุงลดโรคและแกว่งแขนลดพุงค่ะ คือที่ สสส. สนับสนุนให้พนักงานทุกคนมีสุขภาพที่ดี แจก Step counter แบ่งเป็นทีมแล้วให้แต่ละทีมทั้งองค์กรแข่งกันว่าทีมไหนจะมีก้าวเดินที่เยอะที่สุด ทีมนั้นก็จะชนะไปค่ะ แล้วก็มีการให้ลงแข่งวิ่งตามงานต่างๆ อยู่เรื่อยๆ และพนักงานทุกคนต้องเข้าร่วมค่ะ น้องเราก็เลยได้อนิสงส์ในการลดน้ำหนักและโภชนาการอย่างถูกวิธีจากที่นี่ รวมไปถึงที่ออฟฟิศของ สสส. นั้นมีห้องฟิตเนสและมีเทรนเนอร์มาช่วยดูแลระหว่างการเล่น น้องเราจึงฟิตค่ะ เลิกงานแล้วไปเล่นฟิตเนสทุกวัน เวลาไปทำงานก็ใช้การเดินจากปากซอยเข้าไปที่ออฟฟิศ ระยะทางประมาณ 1 ก.ม., เดินขึ้นบันไดแทนลิฟท์ไปทำงานที่ชั้น 5 จนน้ำนักลดลงมาได้ประมาณนึง และมาชวนเราออกกำลังกายลดน้ำหนักแทนการอดอาหาร โดยเริ่มจากการ “แกว่งแขนลดพุง” นั่นเอง

ตอนไปเที่ยวพม่า ตัวจะแตก







ไปเที่ยวเกาหลี เกาะเชจู ตัวจะแตกยิ่งกว่า











ณ ตอนนั้นเราก็ยังเฉยๆ กับการออกกำลังกายอยู่ คือแอบขี้เกียจ เนื่องจากแม่เราเอาลูกของพี่ชายมาช่วยเลี้ยง เราก็เลยกลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กไป งานที่ทำอยู่ก็ตะลอนๆ ไปทั่ว เดินตลอดทั้งวัน นอนก็ไม่ค่อยพอ ช่วงนั้นน้ำหนักก็เลยลดลงมาค่ะ แต่ดูโทรมมากเพราะไม่ได้ดูแลตัวเอง พอตอนหลังทั้งหลานและงานเริ่มอยู่ตัวก็เลยสบายขึ้น แต่ร่างกายมันไม่ได้เบิร์นไงคะ แถมยังกินเท่าเดิม บางทีกินมากกว่าเดิมอีกเพราะเหนื่อยจากการทำงาน น้ำหนักก็เลยพุ่งขึ้นมา จากตอนแรกที่หนัก 65 ก.ก. ลดลงมาเหลือ 58 ก.ก. และพุ่งขึ้นไปที่ 65 ก.ก. ใหม่ T^T ส่วนน้องสาวเราก็ยังฟิตกับการออกกำลังกายที่ออฟฟิศของนางค่ะ น้ำหนักลดมา 3 ก.ก. จาก 70 ก.ก. เหลือ 67 ก.ก. ใกล้เคียงกันเลยใช่ม๊า.......

และแล้วการมาถึงของพี่ Shaun T แห่ง T25 บอกเลยแรกๆ ไม่สนใจมาก – มากที่สุด เพราะไม่เคยออกกำลังกายแบบหน้าจอแบบนี้ และไม่คิดว่ามันจะได้ผล ตอนนั้นคิดแค่ว่า แค่ฉันทำงานเดินทั้งวัน เลี้ยงหลาน เล่นกับหลาน พาหลานไปวิ่งเล่น เดินแกว่งแขน เท่านี้ก็น่าจะพอแล้ว แต่พอดีเพื่อนเอามาให้ลอง ก็เลยลองดูหน่อยจะเป็นไร วันแรกที่เล่นก็คือ Alpha Cardio โหยยยยยยยยยย จะตายเอาให้ได้ แถมยังเต้นเท้าเปล่าอีก แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดีนะคะ วันต่อๆ มาก็เลยลองอีก จนไปซื้อรองเท้าสำหรับเต้นโดยเฉพาะมาใส่เพื่อเล่น T25 จากนั้นคือกลายเป็นติดค่ะ ต้องเล่นทุกวันตามตารางที่แนบมา จนถึงทุกวันนี้ขึ้นเดือนที่ 6 ของการเล่น T25 ค่ะ ผลลัพท์ก็คือ น้ำหนักเราลงมา 5 ก.ก. ค่ะ จาก 65 ก.ก. เหลือ 60 ก.ก. แต่สัดส่วนลดลงเยอะมากกกกก เราสามารถเอาชุดเก่าๆ เสื้อ กางเกง สมัยยังผอมหนัก 50 ก.ก. มาใส่ได้แล้วค่ะ แต่บางตัวก็ใส่ไม่ได้นะคะ ใส่ไม่ได้ในที่นี้คือ มันหลวมหลุดกองลงไปกับพื้นเลย โดยเฉพาะกางเกง เนื่องจากเราเป็นคนสะโพกใหญ่ เวลาเราซื้อกางเกงเราต้องซื้อขนาดที่ใส่พอดีกับสะโพกค่ะ พอทีนี้สัดส่วนมันลดลงไปใช่ม๊ะ เอวลด สะโพกก็ลด กลายเป็นใส่ไม่ได้ค่ะ ความหวังที่จะไม่ต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่กลายเป็นหมันไปซะงั้น เพราะของเก่าก็ใส่ไม่ได้ ของเราเองไมได้วัดสัดส่วนอย่างเป็นกิจจะลักษณะ (อีกแล้ว) แต่ถ้าดูจากไซส์กางเกง เมื่อก่อนใส่เอว 31 ค่ะ แต่ตอนนี้กางเกงเอว 27 มาใส่ก็ยังหลวมนิดหน่อย

อันนี้เราล้วนๆ ค่ะ เพราะน้องไม่ถ่าย เล่นจบ Alpha



เล่นจบ Beta




ส่วนน้องสาวเรา นางเล่น T25 หลังเราค่ะ เพราะตอนนั้นนางยังติดกับการไปเล่นฟิตเนสที่ออฟฟิศอยู่ พอตอนหลังนางเห็นเราทำแล้วมันได้ผล นางก็เลยเล่นตามค่ะ จนถึงตอนนี้น้ำหนักนางลงมาอยู่ที่ 65 ก.ก. แต่สัดส่วนลดลงเยอะมาก เอวลดลงมา 3 นิ้ว แล้วพอนางไปลงแข่งวิ่ง 4 รายการกับที่ออฟฟิศก็วิ่งได้อึดขึ้น ทำเวลาดีขึ้น อาการบาดเจ็บทางร่างกายก็ลดน้อยลงไปด้วยค่ะ

เล่นจบ Alpha

ชื่อสินค้า:   ออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก T25
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่