ได้คำตอบแล้วค่ะ
พอดีไปเจอภาพนี้ในเฟสบุคของน้องๆ ม.บูรพามา
พร้อมกับมีบางภาพที่น้องกล่าวว่า
มีตำรวจมาสุ่มสอบประวัติให้กรอกแยกชายหญิงตามนโยบาย [ แต่ก็มีข้อแย้งว่าจริงๆคุณตำรวจมาเพื่อตรวจสอบหอพักเถื่อน ]
มีท่านใดที่ติดตามอย่างใกล้ชิดละพอทราบบ้างมั้ยคะว่า นโยบายนี้คือเรื่องจริงจังหรือไม่
ภาพใบประกาศเป็นเรื่องจริงหรือไม่
โดยส่วนตัวขออนุญาตยังไม่ออกความเห็นเพราะไม่ได้ตามอ่าน และคิดว่าตัวเอง บรรลุนิติภาวะพอทีจะป้องกันตัวเองจากการตั้งครรภ์และโรคได้ค่ะ
ข้อกฎหมายเกี่ยวกับห้องพักประเภทต่างๆ หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า “หอพัก” มีกฎหมายเป็นการเฉพาะ คือ พ.ร.บ.หอพัก พ.ศ. 2507 ที่ใน มาตรา 6 ระบุไว้ชัดเจน ให้แยกเป็น “หอพักชาย” และ “หอพักหญิง”
นอกจากนี้ ใน มาตรา 30 ยังย้ำด้วยว่า ผู้ดูแลหอพักต้องกวดขันมิให้ผู้ชายเข้าไปในหอพักหญิง และมิให้ผู้หญิงเข้าไปในหอพักชาย
หากปล่อยปละละเลย..มาตรา 30 ระบุไว้ ผู้ดูแลต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ!!!
ที่ต้องบัญญัติกฎหมายไว้เช่นนี้ เพราะในอดีต ผู้ใช้บริการหอพักมักจะเป็น “นักเรียน-นักศึกษา” จึงต้องมีมาตรการออกมาดูแล มิให้ประพฤติตนนอกลู่นอกทาง ไม่ว่าจะเป็นการจับคู่อยู่กันฉันชู้สาวระหว่างชาย-หญิง หรือการมั่วสุมอบายมุข จำพวกเสพเครื่องดื่มมึนเมา ยาเสพติด และการเล่นพนัน
ดังข้อสังเกต..กฎหมายฉบับนี้ ในหลายมาตรา เช่น มาตรา 26 ระบุให้ผู้ดูแลหอพัก ต้องเก็บประวัติผู้เข้าพัก นอกจากชื่อและอายุแล้ว ยังรวมไปถึงสถาบันการศึกษาต้นสังกัด ตลอดจนชื่อผู้ปกครองของผู้เข้าพักด้วย นอกจากนี้ ใน มาตรา 27 ยังย้ำให้ผู้ดูแลหอพัก ต้องให้ความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาต้นสังกัดของผู้เข้าพัก ในการดูแลความประพฤติของผู้เข้าพักด้วยเช่นกัน
ชัดเจนว่า..เน้นหนักไปที่การดูแลคนวัยเรียนเป็นพิเศษ!!!
อ่านข่าวฉบับเต็มได้ที่ :
http://www.naewna.com/scoop/119609
เยี่ยม
กระจ่างมากๆสำหรับข่าวอันนี้ ขอบคุณที่หลายๆล้อกอินตอบมาค่ะ
มีใครติดตามประเด็น หอพักห้ามนักศึกษาที่เป็นแฟนกัน อยู่ด้วยกันอย่างใกล้ชิดอยู่บ้างมั้ยคะ
พอดีไปเจอภาพนี้ในเฟสบุคของน้องๆ ม.บูรพามา
พร้อมกับมีบางภาพที่น้องกล่าวว่า
มีตำรวจมาสุ่มสอบประวัติให้กรอกแยกชายหญิงตามนโยบาย [ แต่ก็มีข้อแย้งว่าจริงๆคุณตำรวจมาเพื่อตรวจสอบหอพักเถื่อน ]
มีท่านใดที่ติดตามอย่างใกล้ชิดละพอทราบบ้างมั้ยคะว่า นโยบายนี้คือเรื่องจริงจังหรือไม่
ภาพใบประกาศเป็นเรื่องจริงหรือไม่
โดยส่วนตัวขออนุญาตยังไม่ออกความเห็นเพราะไม่ได้ตามอ่าน และคิดว่าตัวเอง บรรลุนิติภาวะพอทีจะป้องกันตัวเองจากการตั้งครรภ์และโรคได้ค่ะ
ข้อกฎหมายเกี่ยวกับห้องพักประเภทต่างๆ หลายคนอาจจะไม่ทราบว่า “หอพัก” มีกฎหมายเป็นการเฉพาะ คือ พ.ร.บ.หอพัก พ.ศ. 2507 ที่ใน มาตรา 6 ระบุไว้ชัดเจน ให้แยกเป็น “หอพักชาย” และ “หอพักหญิง”
นอกจากนี้ ใน มาตรา 30 ยังย้ำด้วยว่า ผู้ดูแลหอพักต้องกวดขันมิให้ผู้ชายเข้าไปในหอพักหญิง และมิให้ผู้หญิงเข้าไปในหอพักชาย
หากปล่อยปละละเลย..มาตรา 30 ระบุไว้ ผู้ดูแลต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ!!!
ที่ต้องบัญญัติกฎหมายไว้เช่นนี้ เพราะในอดีต ผู้ใช้บริการหอพักมักจะเป็น “นักเรียน-นักศึกษา” จึงต้องมีมาตรการออกมาดูแล มิให้ประพฤติตนนอกลู่นอกทาง ไม่ว่าจะเป็นการจับคู่อยู่กันฉันชู้สาวระหว่างชาย-หญิง หรือการมั่วสุมอบายมุข จำพวกเสพเครื่องดื่มมึนเมา ยาเสพติด และการเล่นพนัน
ดังข้อสังเกต..กฎหมายฉบับนี้ ในหลายมาตรา เช่น มาตรา 26 ระบุให้ผู้ดูแลหอพัก ต้องเก็บประวัติผู้เข้าพัก นอกจากชื่อและอายุแล้ว ยังรวมไปถึงสถาบันการศึกษาต้นสังกัด ตลอดจนชื่อผู้ปกครองของผู้เข้าพักด้วย นอกจากนี้ ใน มาตรา 27 ยังย้ำให้ผู้ดูแลหอพัก ต้องให้ความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาต้นสังกัดของผู้เข้าพัก ในการดูแลความประพฤติของผู้เข้าพักด้วยเช่นกัน
ชัดเจนว่า..เน้นหนักไปที่การดูแลคนวัยเรียนเป็นพิเศษ!!!
อ่านข่าวฉบับเต็มได้ที่ : http://www.naewna.com/scoop/119609
เยี่ยม
กระจ่างมากๆสำหรับข่าวอันนี้ ขอบคุณที่หลายๆล้อกอินตอบมาค่ะ