การเปิดเผยข้อมูลในประวัติอาชญากรรม

การจำเก็บข้อมูลลายพิมพ์นิ้วมือเป็นไปตามระเบียบลักษณะที่ 32 ซึ่งมีการแก้ไขล่าสุดปี 2561 เมื่อมีการรับแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือจากโรงพักเพื่อที่จะฟ้องเพิ่มโทษ ซึ่งในการทำงานแต่เดิมนั้นมี 16 หลักเกณฑ์ปัจจุบันมีการเพิ่มเติมเป็น 19 หลักเกณฑ์เพื่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การเปิดเผยและไม่เปิดเผยข้อมูล รวมทั้งให้สอดคล้องกับปัจจุบันซึ่งมีหลักเกณฑ์ดังนี้ กล่าวคือ

1.มีหลักฐานชัดเจนว่าเสียชีวิตแล้ว
2.ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ ถอนฟ้อง หรือยอมความกันโดยถูกต้องตามกฎหมาย
3.คดีที่พนักงานอัยการสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง หรือสั่งยุติการดำเนินคดีอาญาตามระเบียบว่าด้วยการดำเนินคดีของพนักงานอัยการ
4.ศาลสั่งยกฟ้องหรือไม่ประทับรับฟ้อง
5.ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้อง
6.พนักงานอัยการถอนฟ้องในชั้นศาล
7.เมื่อมีกฎหมายออกใช้ภายหลังการกระทำความผิดยกเลิกความผิดนั้น
8.มีกฎหมายยกเว้นโทษ
9.มีคำพิพากษาของศาลให้รื้อฟื้นคดีขึ้นมาพิจารณาใหม่ว่า บุคคลนั้นไม่ได้กระทำความผิด
10.เป็นคดีลหุโทษหรือคดีที่มีอัตราโทษไม่สูงกว่าลหุโทษ หรือความผิดตามกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก หรือความผิดตามกฎหมายอื่น ๆ ที่กำหนดให้มีโทษปรับสถานเดียว ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำการเปรียบเทียบปรับ หรือศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษปรับสถานเดียว
11.คดีอาญาที่มีข้อหาว่าเด็กหรือเยาวชนกระทำผิด โดยศาลไม่ได้มีคำพิพากษาลงโทษถึงจำคุก หรือมีการเปลี่ยนโทษเป็นวิธีการสำหรับเด็กและเยาวชน เช่น เด็กหรือเยาวชนที่ศาลมีคำพิพากษาลงโทษปรับหรือมีคำสั่งให้ว่ากล่าวตักเตือน แล้วปล่อยตัวไป โดยไม่กำหนดเงื่อนไขการคุมความประพฤติเด็กหรือเยาวชนพ้นระยะเวลาการฝึกและอบรมตามคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลด้วยดีแลศูนย์ฝึก และอบรมเด็กหรือเยาวชนได้ออกใบบริสุทธิ์ให้เด็กหรือเยาวชนที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้รอการลงโทษ หรือรอการกำหนดโทษ โดยกำหนดเงื่อนไขการควบคุมความประพฤติ หรือภายหลังปล่อย แต่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้กำหนดเงื่อนไขการควบคุมความประพฤติต่อและสามารถพ้นการคุมความประพฤติด้วยดีตามระยะเวลาที่ศาลกำหนด เป็นต้น
12.คดีตามกฎหมายว่าด้วยการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด เมื่ออนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ให้ปล่อยตัวผู้ผ่านการฟื้นฟูสมรรถผู้ติดยาเสพติดแล้วทั้งยังเพิ่มหลักเกณฑ์ตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยประมวลระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ 32 การพิมพ์ลายนิ้วมือ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556
13.คดีความผิดทุกประเภท ซึ่งศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษปรับสถานเดียว
14.คดีที่เป็นไปตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 หรือที่แก้ไขเพิ่มเติม
15.คดีเกี่ยวกับมาตรการพิเศษแทนการดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 86 และมาตรา 90 แห่งพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 หรือที่แก้ไขเพิ่มเติม
16.คดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ไต่สวนข้อเท็จจริงแล้วมีมติว่า ข้อกล่าวหาใด ไม่มีมูลให้ข้อกล่าวหานั้นเป็นอันตกไป ซึ่งเป็นไปตามหมวด 8 มาตรา 91 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 หรือที่แก้ไขเพิ่มเติม
17.ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยึดทรัพย์หรือรอการกำหนดโทษ หรือให้มีเงื่อนไขการคุมประพฤติ
18.ไม่ใช้ผู้ต้องหา
19.การทำลายแผ่นลายพิมพ์นิ้วมือ

                          อยากสอบถามผู้รู้ครับ   ตอนนี้ผมกำลังจะได้ไปพิมพ์ลายนิ้วมือ   ตรวจประวัติอาชญากรรม  และผมเองก้เคยถูกศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุก  แต่ให้รอการลงโทษใว้ 2 ปี  และบำเพ็ญประโยชน์คุมประพฤติ  หากเข้าเงื่อนไขนี้  ประวัติของผมก็จะไม่ถูกเปิดเผยใช้ไหมครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่