ยํ้าอีกครั้งเนาะมโนล้วนๆของคนแต่ง น้องสองคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ส่วนอันนี้เป็นลิ้ง fic วว กต ที่เขียนเคยไว้เนาะ
http://pantip.com/topic/32802054
http://pantip.com/topic/32703861
http://pantip.com/topic/32655351
http://pantip.com/topic/32755432
22222222222 222222222222 222222222222222 2222222222222222 2222222222222222
หลังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จผมหยิบกล้องที่ใช้ถ่ายภาพตลอดทริปท่องเที่ยวโครเอเชีย
มานั่งเปิดดูที่ปลายเตียงนอน
ผมยิ้มกว้างเมื่อมองดูรูปพี่ไวท์ในมุมต่างๆที่ตัวผมแอบถ่ายตอนพี่เขาเผลอ
“ดูอะไรอยู่ หืม….?”
“………….!!! ”
เสียงทุ้มอ่อนของพี่เขาเล่นเอาผมสะดุ้ง มัวดูรูปพี่เขาเพลินจนไม่รู้ตัวว่าอีกคนก็อาบน้ำเสร็จ
จนสวมกางเกงลำลองเสื้อยืดมายืนเอียงคอดูกล้องในมือผม
พี่เขานั่งลงข้างๆพร้อมใช้แขนโอบไหล่ผม ผมเอียงกล้องเข้าหาพี่เขานิดหน่อยเพื่อจะให้พี่เขาดูได้ถนัดขึ้น
ผมกดรูปในกล้องให้พี่เขาดูทีละชอต ร้อยละแปดสิบ รูปในกล้องผมมีแต่รูปพี่ไวท์
เราทั้งคู่หัวเราะพร้อมกันบ้าง ผมยิ้มขำคนเดียวบ้าง
บางทีพี่เขาก็ทำแก้มพองลมอย่างไม่พอใจงอนๆผม
เพราะเจอแต่รูปเปิ่นๆของตัวเองตอนเผลอตัว
“ ตัน ถ่ายรูปพี่ตอนนี้ด้วย น่าอายจะตาย ลบเหอะเสียภาพพจน์หมด ”
พี่เขาว่า หน้าแดงนิดๆ ผมส่ายหน้าปฏิเสธ พร้อมเบี่ยงตัวหันไปยกคิ้วส่งยิ้มล้อเลียนไปให้
“ ไม่ …. ผมจะโพสลงอินสตาแกรมให้แฟนคลับของเราในเมืองไทยดู”
พี่เขาคงหมั่นไส้ เลยยกมือข้างที่โอบไหล่ขึ้นตบหัวเกรียนผมไปหนึ่งที
“ หูย ”
ผมอุทานลูบหัวเกรียนตัวเองไปมาเบาๆ
แล้วอมยิ้มมองภาพในกล้องต่อ พี่เขานั่งกอดเข่าตัวสั่นหลับตาปี้เลยนะ มาเฟียหมดสภาพเลย
แค่ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าเมืองดูบรอฟนิก เพื่อขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ พี่เขากลัวมากจริงๆ
ผมยกกล้องที่คล้องคอมาแอบถ่ายพี่เขาไว้ ก่อนนั่งลงจับมือพี่เขามากุม ตอนนั้นพี่เขาลืมตาขึ้นมาสบสายตาผมนิ่ง
บางครั้งดวงตาก็สื่อความหมายได้ดีกว่าคำพูด ผมชอบจังเวลาพี่เขามองผมด้วยสายตาแบบนั้น
เราดูผ่านมาเรื่อยๆจนมาถึง รูปคู่ที่ใส่เสื้อเชิตลายใบไม้สีเทาเหมือนกัน
ตอนแรกดีใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อคิดว่ามันเป็นเสื้อคู่รักที่พี่เขาตั้งใจซื้อให้เรา
ก่อนจะหงอยลงทันควัน เพราะพี่ทิตก็มีเสื้อแบบนี้ด้วย
ผมตอบตัวเองไม่ถูกเหมือนกันว่าอะไรทำให้ผมถึงได้หงอยอะไรขนาดนั้น
เรียบกดผ่านดูรูปต่อไป คราวนี้ถึงกะ สตั้นไปสิบวิ
ทำไมแค่เห็นรูปที่พี่เขาเคยแท็กชื่อแฟนไว้ตรงกลางหน้าอกข้างซ้าย แล้วโพสลงอินสตาแกรม
มันทำให้ผมเจ็บหน่วงแบบแปลกๆ ที่รู้สึกแบบนี้มันเรียกว่าอะไร
ขณะที่ผมคิดหาเหตุผลตอบความรูสึกตัวเองที่มีต่อพี่เขา ก็ถูกอีกฝ่ายกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น
จนในที่สุดต้องพิงไหล่พี่เขากรายๆ เราทั้งคู่กดดูรูปไปเรื่อยๆโดยไม่มีใครพูดอะไรอีก
อ้อมกอดอบอุ่นแบบนี้ เมื่อเรากลับไปเมืองไทย มันจะยังคงเหมือนเดิมรึเปล่า เพราะที่นั่นพี่เขาก็มีคนของเขา ผมอยากอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆจัง
นี่ผมอินกับบทของโน่มากไปรึเปล่า
[ ........ ถ้าหากเราสวมบทบาทเป็นใครอีกคนนานๆ
ตัวตนของเราอาจถูกกลืนกินจนเป็นใครคนนั้น ......... ]
2222222 222222222 22222222 2222222 22 222222222222
ผมนอนลืมตาโพรงอยู่ในความมืด หันมองไปทางเจ้าเด็กหัวเหม่ง ที่นอนเปิดโคมไฟหัวเตียง
อยู่อีกฟากหนึ่งของห้องเป็นระยะ นาฬิกาข้อมือเรือนโปรดถูกยกขึ้นมาดู แสงจากพรายน้ำ
บอกเวลาว่ามันดึกมากแล้ว ทั้งๆที่ไม่แน่ใจ ทั้งๆที่ยังสับสน
หากไม่อาจต้านทานความรู้สึกภายในจิตใจ ผมขยับตัวลุกจากที่นอน
ก้าวเดินไปที่เตียงของใครอีกคน ล้มตัวลงนอนตะแคงเคียงข้างแผ่วเบา
แสงไฟสลัวจากโคมไฟหัวเตียงช่วยให้มองเห็นใบหน้าของเจ้าเด็กหัวเหม่ง
ผิวขาวๆกระจ่างใสชวนมอง น้องมันหลับตาพริ้ม หน้าอกสะท้อนขึ้นลงอย่างสม่ำเสมอ
บอกให้รู้ว่าหลับสนิทนานแล้ว
ผมจ้องมองอีกฝ่ายสะกดกลั้นอารมณ์ความรู้สึกตัวเอง กดมันให้จมลึกที่สุด
ผมล้ำเส้นเกินคำว่าพี่น้องมานานแล้ว หากยังต้องยั้งตัวเอง น้องมันเป็นผู้ชาย
ผมย้ำบอกตัวเองอีกหน ผมไม่รู้ว่าที่ผมรู้สึกจริงๆนั้นคืออะไร
เส้นแบ่งของความรู้สึก ที่แยกไม่ออกระหว่างความรู้สึกของปุณที่มีต่อโน่ หรือมันคือความรู้สึกของผมนายไวท์ที่มีต่อกัปตัน
ผมกำลังทรมานกับความรู้สึกของตัวเอง
ผมยิ้มแบบหน่วงปนเศร้า สายตาทอดอ่อนนอนมองน้องมัน ขณะที่ใช้ปลายนิ้วจิ้มเหม่ง
สลับกับจิ้มแก้มบ้าง ตาบ้าง จมูกบ้าง เบาๆไม่แรงเพราะกลัวน้องมันตื่น
!!!!!!
ผมสะดุ้งเมื่อจู่ๆ น้องมันก็ลืมตาขึ้นมา
ผมผงะขยับถอยตัวออกห่าง ร้อนรนลุกนั่งปลายเตียงเตรียมตัวลุกหนี กับถูกเจ้าเด็กหัวเหม่ง
คว้าแขนดึงรั้งไว้
“ ฝัน ”
“…………??”
นี่น้องมันละเมออยู่รึเปล่า ผมหันมองเจ้าเด็กหัวเหม่งซึ่งน้องมันก็มองผมอยู่ก่อนแล้ว
น้องมันไม่ได้ละเมอ หากแต่เจ้าเด็กนี่มันแกล้งหลับ สายตามันบอกผมแบบนั้น
“มันเป็นแค่ความฝัน ในฝันเราอยากทำอะไรก็ได้”
คราวนี้น้องมันลุกนั่งเคลื่อนตัวเข้าหา ดวงตาไหววูบน้ำเสียงเศร้ามือที่จับแขนผมไว้
สั่นจนผมสัมผัสได้ ความสดไสขี้เล่นหายไป
“ เราคิดว่าเรากำลังฝันอยู่ได้ไหมครับผม ”
น้องมันพูด ขณะที่โน้มตัวเข้าหาใบหน้าของผม
ใกล้เสียจน ผมรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ริมฝีปากบางๆนั่นก็แทบจะชิดปิดริมฝีปากผม
แววตาหวั่นไหวจ้องมองอย่างรอคอยคำตอบ
“ถ้าหากนี่คือความฝัน ตัน อยากทำอะไร”
“ ผมอยากมีพี่ไวท์ ”
[ ……ความรู้สึกที่ไม่มีทางออก หัวใจรักที่ไม่อาจตอบสนอง
ผมควรโยนทุกเหตุผลทิ้งไว้ในโลกแห่งความจริงสักครั้ง……..]
fic สั้นๆ วว&กต โครเอเชีย
ส่วนอันนี้เป็นลิ้ง fic วว กต ที่เขียนเคยไว้เนาะ
http://pantip.com/topic/32802054
http://pantip.com/topic/32703861
http://pantip.com/topic/32655351
http://pantip.com/topic/32755432
22222222222 222222222222 222222222222222 2222222222222222 2222222222222222
หลังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จผมหยิบกล้องที่ใช้ถ่ายภาพตลอดทริปท่องเที่ยวโครเอเชีย
มานั่งเปิดดูที่ปลายเตียงนอน
ผมยิ้มกว้างเมื่อมองดูรูปพี่ไวท์ในมุมต่างๆที่ตัวผมแอบถ่ายตอนพี่เขาเผลอ
“ดูอะไรอยู่ หืม….?”
“………….!!! ”
เสียงทุ้มอ่อนของพี่เขาเล่นเอาผมสะดุ้ง มัวดูรูปพี่เขาเพลินจนไม่รู้ตัวว่าอีกคนก็อาบน้ำเสร็จ
จนสวมกางเกงลำลองเสื้อยืดมายืนเอียงคอดูกล้องในมือผม
พี่เขานั่งลงข้างๆพร้อมใช้แขนโอบไหล่ผม ผมเอียงกล้องเข้าหาพี่เขานิดหน่อยเพื่อจะให้พี่เขาดูได้ถนัดขึ้น
ผมกดรูปในกล้องให้พี่เขาดูทีละชอต ร้อยละแปดสิบ รูปในกล้องผมมีแต่รูปพี่ไวท์
เราทั้งคู่หัวเราะพร้อมกันบ้าง ผมยิ้มขำคนเดียวบ้าง
บางทีพี่เขาก็ทำแก้มพองลมอย่างไม่พอใจงอนๆผม
เพราะเจอแต่รูปเปิ่นๆของตัวเองตอนเผลอตัว
“ ตัน ถ่ายรูปพี่ตอนนี้ด้วย น่าอายจะตาย ลบเหอะเสียภาพพจน์หมด ”
พี่เขาว่า หน้าแดงนิดๆ ผมส่ายหน้าปฏิเสธ พร้อมเบี่ยงตัวหันไปยกคิ้วส่งยิ้มล้อเลียนไปให้
“ ไม่ …. ผมจะโพสลงอินสตาแกรมให้แฟนคลับของเราในเมืองไทยดู”
พี่เขาคงหมั่นไส้ เลยยกมือข้างที่โอบไหล่ขึ้นตบหัวเกรียนผมไปหนึ่งที
“ หูย ”
ผมอุทานลูบหัวเกรียนตัวเองไปมาเบาๆ
แล้วอมยิ้มมองภาพในกล้องต่อ พี่เขานั่งกอดเข่าตัวสั่นหลับตาปี้เลยนะ มาเฟียหมดสภาพเลย
แค่ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าเมืองดูบรอฟนิก เพื่อขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ พี่เขากลัวมากจริงๆ
ผมยกกล้องที่คล้องคอมาแอบถ่ายพี่เขาไว้ ก่อนนั่งลงจับมือพี่เขามากุม ตอนนั้นพี่เขาลืมตาขึ้นมาสบสายตาผมนิ่ง
บางครั้งดวงตาก็สื่อความหมายได้ดีกว่าคำพูด ผมชอบจังเวลาพี่เขามองผมด้วยสายตาแบบนั้น
เราดูผ่านมาเรื่อยๆจนมาถึง รูปคู่ที่ใส่เสื้อเชิตลายใบไม้สีเทาเหมือนกัน
ตอนแรกดีใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อคิดว่ามันเป็นเสื้อคู่รักที่พี่เขาตั้งใจซื้อให้เรา
ก่อนจะหงอยลงทันควัน เพราะพี่ทิตก็มีเสื้อแบบนี้ด้วย
ผมตอบตัวเองไม่ถูกเหมือนกันว่าอะไรทำให้ผมถึงได้หงอยอะไรขนาดนั้น
เรียบกดผ่านดูรูปต่อไป คราวนี้ถึงกะ สตั้นไปสิบวิ
ทำไมแค่เห็นรูปที่พี่เขาเคยแท็กชื่อแฟนไว้ตรงกลางหน้าอกข้างซ้าย แล้วโพสลงอินสตาแกรม
มันทำให้ผมเจ็บหน่วงแบบแปลกๆ ที่รู้สึกแบบนี้มันเรียกว่าอะไร
ขณะที่ผมคิดหาเหตุผลตอบความรูสึกตัวเองที่มีต่อพี่เขา ก็ถูกอีกฝ่ายกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น
จนในที่สุดต้องพิงไหล่พี่เขากรายๆ เราทั้งคู่กดดูรูปไปเรื่อยๆโดยไม่มีใครพูดอะไรอีก
อ้อมกอดอบอุ่นแบบนี้ เมื่อเรากลับไปเมืองไทย มันจะยังคงเหมือนเดิมรึเปล่า เพราะที่นั่นพี่เขาก็มีคนของเขา ผมอยากอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆจัง
นี่ผมอินกับบทของโน่มากไปรึเปล่า
[ ........ ถ้าหากเราสวมบทบาทเป็นใครอีกคนนานๆ
ตัวตนของเราอาจถูกกลืนกินจนเป็นใครคนนั้น ......... ]
2222222 222222222 22222222 2222222 22 222222222222
ผมนอนลืมตาโพรงอยู่ในความมืด หันมองไปทางเจ้าเด็กหัวเหม่ง ที่นอนเปิดโคมไฟหัวเตียง
อยู่อีกฟากหนึ่งของห้องเป็นระยะ นาฬิกาข้อมือเรือนโปรดถูกยกขึ้นมาดู แสงจากพรายน้ำ
บอกเวลาว่ามันดึกมากแล้ว ทั้งๆที่ไม่แน่ใจ ทั้งๆที่ยังสับสน
หากไม่อาจต้านทานความรู้สึกภายในจิตใจ ผมขยับตัวลุกจากที่นอน
ก้าวเดินไปที่เตียงของใครอีกคน ล้มตัวลงนอนตะแคงเคียงข้างแผ่วเบา
แสงไฟสลัวจากโคมไฟหัวเตียงช่วยให้มองเห็นใบหน้าของเจ้าเด็กหัวเหม่ง
ผิวขาวๆกระจ่างใสชวนมอง น้องมันหลับตาพริ้ม หน้าอกสะท้อนขึ้นลงอย่างสม่ำเสมอ
บอกให้รู้ว่าหลับสนิทนานแล้ว
ผมจ้องมองอีกฝ่ายสะกดกลั้นอารมณ์ความรู้สึกตัวเอง กดมันให้จมลึกที่สุด
ผมล้ำเส้นเกินคำว่าพี่น้องมานานแล้ว หากยังต้องยั้งตัวเอง น้องมันเป็นผู้ชาย
ผมย้ำบอกตัวเองอีกหน ผมไม่รู้ว่าที่ผมรู้สึกจริงๆนั้นคืออะไร
เส้นแบ่งของความรู้สึก ที่แยกไม่ออกระหว่างความรู้สึกของปุณที่มีต่อโน่ หรือมันคือความรู้สึกของผมนายไวท์ที่มีต่อกัปตัน
ผมกำลังทรมานกับความรู้สึกของตัวเอง
ผมยิ้มแบบหน่วงปนเศร้า สายตาทอดอ่อนนอนมองน้องมัน ขณะที่ใช้ปลายนิ้วจิ้มเหม่ง
สลับกับจิ้มแก้มบ้าง ตาบ้าง จมูกบ้าง เบาๆไม่แรงเพราะกลัวน้องมันตื่น
!!!!!!
ผมสะดุ้งเมื่อจู่ๆ น้องมันก็ลืมตาขึ้นมา
ผมผงะขยับถอยตัวออกห่าง ร้อนรนลุกนั่งปลายเตียงเตรียมตัวลุกหนี กับถูกเจ้าเด็กหัวเหม่ง
คว้าแขนดึงรั้งไว้
“ ฝัน ”
“…………??”
นี่น้องมันละเมออยู่รึเปล่า ผมหันมองเจ้าเด็กหัวเหม่งซึ่งน้องมันก็มองผมอยู่ก่อนแล้ว
น้องมันไม่ได้ละเมอ หากแต่เจ้าเด็กนี่มันแกล้งหลับ สายตามันบอกผมแบบนั้น
“มันเป็นแค่ความฝัน ในฝันเราอยากทำอะไรก็ได้”
คราวนี้น้องมันลุกนั่งเคลื่อนตัวเข้าหา ดวงตาไหววูบน้ำเสียงเศร้ามือที่จับแขนผมไว้
สั่นจนผมสัมผัสได้ ความสดไสขี้เล่นหายไป
“ เราคิดว่าเรากำลังฝันอยู่ได้ไหมครับผม ”
น้องมันพูด ขณะที่โน้มตัวเข้าหาใบหน้าของผม
ใกล้เสียจน ผมรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ริมฝีปากบางๆนั่นก็แทบจะชิดปิดริมฝีปากผม
แววตาหวั่นไหวจ้องมองอย่างรอคอยคำตอบ
“ถ้าหากนี่คือความฝัน ตัน อยากทำอะไร”
“ ผมอยากมีพี่ไวท์ ”
[ ……ความรู้สึกที่ไม่มีทางออก หัวใจรักที่ไม่อาจตอบสนอง
ผมควรโยนทุกเหตุผลทิ้งไว้ในโลกแห่งความจริงสักครั้ง……..]