ตอนอวสาน
ฉันอยู่ที่ไหน...
เอมี่ลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องสีขาวโพลน อบอวลไปด้วยกลิ่นน้ำยาเคมีเหมือนอยู่ในโรงพยาบาล หญิงสาวนอนนิ่งจ้องมองเพดานอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกมึนงงสับสนในสมองว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง พอขยับแขนขาก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่าถูกพันธนาการไว้กับเตียงที่นอนอยู่ เอียงหน้าไปดูถึงรู้ว่ามันเป็นเตียงนอนสำหรับผู้ป่วยในโรงพยาบาลจริง ๆ
ฉันอยู่ในโรงพยาบาลเหรอ ฉันป่วยเป็นอะไร...ครุ่นคิดอย่างแตกตื่น
แอ๊ด....เสียงประตูห้องน้ำด้านข้างเปิดออก ผู้ชายคนหนึ่งเดินถือผ้าขนหนูผืนเล็กออกมา สายตาอบอุ่นมองมาที่เธอแล้วเผยอยิ้มให้ นิคนั่นเอง...ทันใดนั้นเธอก็จำเรื่องราวที่ผ่านมาได้ทั้งหมด!
“นิค ใช่เธอจริง ๆ ด้วย โอ้ ขอบคุณพระเจ้า เธอไม่เป็นไรใช่ไหม"
เอมี่พยายามดิ้นรนลุกขึ้นนั่ง แต่ติดเชือกผ้าที่รั้งร่างไว้กับเตียง ทำได้เพียงผงกศีรษะขึ้นมองเขาอย่างแสนดีใจ นิคเดินยิ้มเข้ามาหา เขานั่งลงข้างเตียง ใช้ผ้าขนหนูเปียกหมาด ๆ บรรจงแตะซับตามใบหน้าและลำคอให้เธอ สัมผัสของเขาอ่อนโยนนุ่มนวล
"เธอเพิ่งฟื้นจากเป็นลม นอนพักก่อนเถอะนะ อย่าเพิ่งลุกขึ้น ตอนที่ยังไม่รู้สึกตัว เธอดิ้นใหญ่เลย ถีบเตะโครมครามจนหมอต้องสั่งให้ตรึงเธอไว้กับเตียงแบบนี้"
เอมี่มองหน้าคนรักอย่างคลางแคลงใจ เหตุการณ์ในห้องพักเริ่มแจ่มชัดขึ้นในสมอง เธอจำได้ว่าเห็นนิคนอนจมกองเลือดอยู่ในอ้อมแขนตัวเอง ก่อนทั้งร่างของเขาจะละลายกลายเป็นของเหลวสีแดง
"ตอบฉันมาก่อน เธอไม่...ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม"
หญิงสาวเบี่ยงหน้าหลบผ้าในมือเขา ภาพร่างโชกเลือดของเขายังจำได้ติดตา คาดคั้นเอาคำตอบที่ยังคาใจอยู่ นิคสบตาเธอ นัยน์ตาของเขาหมองลง
"อย่าห่วงฉันเลย ห่วงตัวเองให้เยอะ ๆ เถอะ ฉันเป็นห่วงเธอเหลือเกิน" เขาไม่ตอบคำถามเธอ เลี่ยงไปบอกถึงความเป็นห่วงเป็นใย โน้มตัวลงจุมพิตหน้าผากเธอ แล้วแนบใบหน้ากระซิบข้างหู
"เอมี่ ฉันรักเธอ จำไว้นะว่าฉันรักเธอเสมอ รักเท่าชีวิต"
หญิงสาวแปลกใจต่อท่าทีของคนรัก เขายังไม่ตอบคำถามเธอ แต่ดูแล้วก็เห็นเขาเป็นปกติดี ร่างสูงโปร่งไม่มีร่องรอยบาดเจ็บตรงไหน ไม่มีรอยถูกสับฟันกลางอกจนเลือดสาดกระจาย ใบหน้าคมสันก็ไม่ได้ซูบตอบเผือดซีดเหมือนคนตาย หรือว่าภาพน่ากลัวทั้งหมดเป็นแค่ฝันร้ายเท่านั้นเอง มันไม่ได้เกิดขึ้นจริง เธอฝันแบบเดียวกับที่เคยฝันเห็นอัลแบโต้นั่นแหละ พอคิดแบบนี้เอมี่ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ยังอยากฟังคำตอบชัด ๆ จากปากเขาอยู่ดี
(มีต่อ)
กีตาร์ล่าวิญญาณ ตอนอวสาน
ฉันอยู่ที่ไหน...
เอมี่ลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องสีขาวโพลน อบอวลไปด้วยกลิ่นน้ำยาเคมีเหมือนอยู่ในโรงพยาบาล หญิงสาวนอนนิ่งจ้องมองเพดานอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกมึนงงสับสนในสมองว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง พอขยับแขนขาก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่าถูกพันธนาการไว้กับเตียงที่นอนอยู่ เอียงหน้าไปดูถึงรู้ว่ามันเป็นเตียงนอนสำหรับผู้ป่วยในโรงพยาบาลจริง ๆ
ฉันอยู่ในโรงพยาบาลเหรอ ฉันป่วยเป็นอะไร...ครุ่นคิดอย่างแตกตื่น
แอ๊ด....เสียงประตูห้องน้ำด้านข้างเปิดออก ผู้ชายคนหนึ่งเดินถือผ้าขนหนูผืนเล็กออกมา สายตาอบอุ่นมองมาที่เธอแล้วเผยอยิ้มให้ นิคนั่นเอง...ทันใดนั้นเธอก็จำเรื่องราวที่ผ่านมาได้ทั้งหมด!
“นิค ใช่เธอจริง ๆ ด้วย โอ้ ขอบคุณพระเจ้า เธอไม่เป็นไรใช่ไหม"
เอมี่พยายามดิ้นรนลุกขึ้นนั่ง แต่ติดเชือกผ้าที่รั้งร่างไว้กับเตียง ทำได้เพียงผงกศีรษะขึ้นมองเขาอย่างแสนดีใจ นิคเดินยิ้มเข้ามาหา เขานั่งลงข้างเตียง ใช้ผ้าขนหนูเปียกหมาด ๆ บรรจงแตะซับตามใบหน้าและลำคอให้เธอ สัมผัสของเขาอ่อนโยนนุ่มนวล
"เธอเพิ่งฟื้นจากเป็นลม นอนพักก่อนเถอะนะ อย่าเพิ่งลุกขึ้น ตอนที่ยังไม่รู้สึกตัว เธอดิ้นใหญ่เลย ถีบเตะโครมครามจนหมอต้องสั่งให้ตรึงเธอไว้กับเตียงแบบนี้"
เอมี่มองหน้าคนรักอย่างคลางแคลงใจ เหตุการณ์ในห้องพักเริ่มแจ่มชัดขึ้นในสมอง เธอจำได้ว่าเห็นนิคนอนจมกองเลือดอยู่ในอ้อมแขนตัวเอง ก่อนทั้งร่างของเขาจะละลายกลายเป็นของเหลวสีแดง
"ตอบฉันมาก่อน เธอไม่...ไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม"
หญิงสาวเบี่ยงหน้าหลบผ้าในมือเขา ภาพร่างโชกเลือดของเขายังจำได้ติดตา คาดคั้นเอาคำตอบที่ยังคาใจอยู่ นิคสบตาเธอ นัยน์ตาของเขาหมองลง
"อย่าห่วงฉันเลย ห่วงตัวเองให้เยอะ ๆ เถอะ ฉันเป็นห่วงเธอเหลือเกิน" เขาไม่ตอบคำถามเธอ เลี่ยงไปบอกถึงความเป็นห่วงเป็นใย โน้มตัวลงจุมพิตหน้าผากเธอ แล้วแนบใบหน้ากระซิบข้างหู
"เอมี่ ฉันรักเธอ จำไว้นะว่าฉันรักเธอเสมอ รักเท่าชีวิต"
หญิงสาวแปลกใจต่อท่าทีของคนรัก เขายังไม่ตอบคำถามเธอ แต่ดูแล้วก็เห็นเขาเป็นปกติดี ร่างสูงโปร่งไม่มีร่องรอยบาดเจ็บตรงไหน ไม่มีรอยถูกสับฟันกลางอกจนเลือดสาดกระจาย ใบหน้าคมสันก็ไม่ได้ซูบตอบเผือดซีดเหมือนคนตาย หรือว่าภาพน่ากลัวทั้งหมดเป็นแค่ฝันร้ายเท่านั้นเอง มันไม่ได้เกิดขึ้นจริง เธอฝันแบบเดียวกับที่เคยฝันเห็นอัลแบโต้นั่นแหละ พอคิดแบบนี้เอมี่ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ยังอยากฟังคำตอบชัด ๆ จากปากเขาอยู่ดี
(มีต่อ)