fic สั้นๆ วว&กต อินกระแส2

อันนี้มโนล้วนๆเนาะ น้องสองคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนตัวชอบแต่งแบบตัวพระนายเล่าเรื่องในมุมของตัวเองทั้งคู่
       ตอนที่แล้วเล่าในมุมน้องกต ตอนนี้ขอเล่าในมุม วว บ้างเนาะ


            2222222222222 22222222222222 222222222222222 22222222222222222
         

                    

       วันนี้ผมมาทำงานถ่ายแบบแฟชั่นขึ้นปกนิตยสารรายปักษ์ คู่กับเจ้าเด็กหัวเหม่ง เจ้าเด็กนี่มันตั้งใจทำงานมาก
ซึ่งเซ็ตแรกผมกับน้องถ่ายเสร็จไปแล้ว และเราทั้งคู่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อถ่ายแบบเซ็ตที่สอง
ผมรู้ตัวตลอดว่าน้องมันแอบมองผมบ่อยๆ ตันมันเป็นเด็กดี คงรู้ว่าผมเครียดที่โดนแฟนครับ
บางคนต่อว่าในทางที่ไม่ดี หลายๆเรื่อง ทั้งที่ตัวน้องมันเองก็โดนผลกระทบ แต่ก็ยังห่วงผม
เมื่อวานถึงขนาดติดแท็ก  จับมือไวท์แล้วไปด้วยกัน
น้องมันคงอยากให้ผมรู้สึกดี ผมกลับห้ามตังเองไม่ให้คิดไม่ได้  ปรกติผมก็เป็นคนแบบ
ไม่ซีเรียสอยู่แล้ว แต่หนนี้มันแรงมากแถมพาดพึงถึงครอบครัวผมด้วย มันไม่ใช่
แบบ ผมทำอะไรผิดถึงได้โดนต่อว่าขนาดนั้น ผมรู้สึก เหนื่อย และท้อมากเลยตอนนี้
ทั้งที่ผมตั้งใจทำงานเต็มที่แล้ว  
บาง………..ที………….

ผมควรถอนตัวจากการเป็น  
ปุณ……..       

ภูมิพัฒน์ …………..

ถอนตัวเพราะไม่อยากเจอดร่าม่าอะไรแบบนี้อีก
รู้สึกใจหายแบบแปลกๆ  เมื่อคิดจะถอนตัว ? ถ้าผมถอนตัวจริงๆ ผมยังจะได้เจอเจ้าเด็กหัวเหม่งนี่อีกไหม
เวลาน้องมันมีปัญหามันยังจะมาปรึกษาผมอีกรึเปล่า ถึงตรงนี้ผมว่าผมผูกพันกับน้องมันมาก
คงเพราะผมเป็นลูกคนเดียวพอได้อยู่ใกล้เจ้าเด็กหัวเหม่งนี่  เลยเหมือนมีน้องชายเพิ่มเข้ามาในชีวิต ผมรู้สึกดี อยู่ด้วยแล้วมีความสุข
ตอนนี้ผมไม่รู้ต้องทำยังไงแล้ว ผมแค่ไม่อยากให้ทุกอย่าง ระหว่างผมกับน้องมันเปลี่ยนไป
ผมควรเป็น ปุณ   หรือถอนตัวดี

“ พี่ ไวท์ ”
เสียงเรียกกึ่งกลัวๆกล้าๆของไอ้เจ้าเด็กหัวเหม่งหยุดความคิดวุ่นวายที่ตีกันในหัวผม

“ ฮื่อ……” ผมขานรับในลำคอ ตวัดสายตาขึ้นจากการติดกระดุมเสื้อเชิ้ต สบตาน้องมัน
“ ผมมีเรื่อง อยากให้พี่ช่วย ”
คำขอให้ช่วย พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความกังวลใจ ส่งมาให้ผม น้องมันมีเรื่องอะไรอยากให้ผมช่วยกันแน่ ดูเหมือนน้องมันเก็รงๆ ยิ่งเพิ่มความอยากรู้ ให้ผม


“เรื่องอะไรละ” ผมถาม
“ ถ้าพี่ไวท์ คิดจะถอนตัวจากบทปุณ  ผมขอ ให้พี่ล้มเลิกความคิดนั้น ได้ไหม ”


                 “ทำไม  ? ”   ผมมองสบตาคนตรงหน้า น้องมันดูเหมือนประหม่ามาก
ใบหน้าเริ่มซับสีเลือดให้เห็นแล้วก็พูดเบาๆพอให้ได้ยินกันแค่สองคน

“ ผมอยากให้พี่เป็นผู้ชายคนแรกที่จูบผม และเป็นผู้ชายคนสุดท้ายที่ได้จูบผมด้วย  ”
“ห๊ะ…..!”
ผมร้องเสียงหลงเบาๆกับ คำตอบซื่อๆนั่น เล่นเอาผมขนลุกเขินจนไปไม่เป็น
ตัวแดงหน้าแดงแข่งกะเจ้าเด็กหัวเหม่ง ยิ่งตัวมันขาวๆยิ่งเห็นชัด
ปากแดงๆถูกเจ้าตัวกัดเม้มจนเป็นเส้นตรง
ตาหรี่ลงข้างหนึ่งสีหน้างี้ลุ้นคำตอบ ทำให้ผมรู้สึกว่า น้องมันน่ารัก
ผมรู้เจ้าเด็กหัวเหม่งนี่มันไม่ได้คิดอะไร น้องมันก็เด็กแมนๆ และก็รู้ดีว่าทำไมน้องมันถึงอยากไห้ผมเป็นคนแรกและคนสุดท้ายที่ได้จูบมัน
ผมยิ้มกว้างนึกเอ็นดูน้องมันจับหัวใจ จนต้องโยกหัวเหม่งๆของเจ้าเด็กขี้อ่อยไปมาเบาๆ
“  ตัน ………  ผมจะพยามไม่สนใจใคร
       ถ้า ตันรับบทเป็นโน่อยู่   ………ต่อไปใครจะด่าใครจะว่าผม หรือถ้ามีคนมาพูด
            พี่จะไม่ยอม……………ผมก็จะพยามปรับตัวเอง
                 ยกบทปุณให้ใคร………อะไรที่เครียดๆผมก็จะไม่รับรู้ให้ตัวเองรู้สึกท้อ
                                                                                                  เพื่อใครอีกคน


“  สัญญานะ ”  
  น้องมันยิ้มแฉ่งชูนิ้วก้อยยื่นมาตรงหน้าผม ขอสัญญาเสียงอ้อน
  “สัญญา”  
เจ้าเด็กหัวเหม่งยิ้มอย่างดีใจทำหน้าทำตาแป้นแล้นทันที ที่ผมใช้นิ้วก้อยของผมเกี่ยวก้อยอีกฝ่ายเป็นการตอบรับสัญญา ผมมองดูรอยยิ้มที่สดใส ตาเป็นประกาย
ของน้องแล้วอดยิ้มตามอย่างมีความสุขไม่ได้

“ คิดว่า พี่จะทำอะไรตัน!    ”
ผมอมยิ้มขำเมื่อเจ้าเด็กหัวเหม่งถึงกับสะดุ้ง!!
เอียงตัวหนีหลบใบหน้าผม ที่โน้มตัวเข้าหาปลายจมูกเกือบชนแก้มอีกฝ่าย
โดยน้องมันไม่ทันตั้งตัว เจ้าเด็กหัวเหม่งนี่คิดว่าผมจะทำอะไร
“พี่ก็แค่ …. อยากบอกว่าตันนะเป็นทูตแห่งรอยยิ้มสำหรับพี่นะ ”
ผมกระซิบบอกเสียงนุ่มข้างหู  ผลคือทูตแห่งรอยยิ้มของผมหัวเราะเขินจนตาปิดไปเลย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่