รันายพรชัย รุจิประภา รมว. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า เตรียมออกแท็ปเล็ตแบรนด์ไทย ภายใต้ชื่อ "คืนความสุข" ตามนโยบายของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องให้มีแท็ปเล็ตแบรนด์ไทยราคาถูกให้ประชาชนซื้อได้
ทั้งนี้ ทางไอซีทีได้ร่วมมือกับยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา เช่น ซีเกท ไมโครซอฟท์ กูเกิล ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่เดินทางมาพบนายกรัฐมนตรีรวมถึงไอซีทีเมื่อวันที่ 3 พ.ย. โดยไมโครซอฟท์จะเข้ามาช่วยในเรื่องซอฟต์แวร์ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายสนับสนุนดิจิทัล อีโคโนมี
นอกจากนี้ ได้เสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อออก พ.ร.บ ดิจิทัล อีโคโนมี ซึ่งจะเป็นกฏหมายฉบับหลักในการควบคุมอำนาจและแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อผลักดันดิจิทัล อีโคโนมี ทั้งหมดและจะเห็นชัดจนถึงช่วงเดือน ธ.ค. นี้
สำหรับกฏหมายฉบับดังกล่าวเป็นกฏหมายหลักเพื่อเอื้อต่อการทำงานดิจิทัล อีโคโนมี มากขึ้น ซึ่งจะแยกกับกฏหมายทั้ง 13 ฉบับที่ต้องแก้ไข เช่น พ.ร.บ ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ พ.ร.บ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
นายมนู อรดีดลเชษฐ์ หนึ่งในคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัล อีโคโนมี กล่าวว่า ขณะนี้ได้ส่งร่างกฏหมายที่เกี่ยวข้องให้ สนช. พิจารณาแล้วประมาณ 2-3 ฉบับ จากทั้งหมด 13 ฉบับ และกำลังเร่งปรับร่าง พ.ร.บคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเสนอต่อ สนช. เพิ่มเติม ซึ่งกฏหมายดังกล่าวเป็นสิ่งที่รัฐบาลหลายสมัยพยายามผลักดันให้เกิด เพราะจะมีประโยชน์ต่อประชาชนในหลายด้าน เช่น ด้านสาธารณสุข หากข้อมูลสุขภาพของคนไข้ แพทย์ทุกโรงพยาบาลสามารถดึงข้อมูลกลางได้ ก็จะทำให้การรักษาสะดวกและรวดเร็วขึ้น เป็นต้น
Source :
Post Today
กระทรวงไอซีทีตั้งแบรนด์ "คืนความสุข" แท็บเล็ตราคาถูกเพื่อมวลมหาประชาชน
รันายพรชัย รุจิประภา รมว. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า เตรียมออกแท็ปเล็ตแบรนด์ไทย ภายใต้ชื่อ "คืนความสุข" ตามนโยบายของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องให้มีแท็ปเล็ตแบรนด์ไทยราคาถูกให้ประชาชนซื้อได้
ทั้งนี้ ทางไอซีทีได้ร่วมมือกับยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา เช่น ซีเกท ไมโครซอฟท์ กูเกิล ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่เดินทางมาพบนายกรัฐมนตรีรวมถึงไอซีทีเมื่อวันที่ 3 พ.ย. โดยไมโครซอฟท์จะเข้ามาช่วยในเรื่องซอฟต์แวร์ ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายสนับสนุนดิจิทัล อีโคโนมี
นอกจากนี้ ได้เสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อออก พ.ร.บ ดิจิทัล อีโคโนมี ซึ่งจะเป็นกฏหมายฉบับหลักในการควบคุมอำนาจและแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อผลักดันดิจิทัล อีโคโนมี ทั้งหมดและจะเห็นชัดจนถึงช่วงเดือน ธ.ค. นี้
สำหรับกฏหมายฉบับดังกล่าวเป็นกฏหมายหลักเพื่อเอื้อต่อการทำงานดิจิทัล อีโคโนมี มากขึ้น ซึ่งจะแยกกับกฏหมายทั้ง 13 ฉบับที่ต้องแก้ไข เช่น พ.ร.บ ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ พ.ร.บ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
นายมนู อรดีดลเชษฐ์ หนึ่งในคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัล อีโคโนมี กล่าวว่า ขณะนี้ได้ส่งร่างกฏหมายที่เกี่ยวข้องให้ สนช. พิจารณาแล้วประมาณ 2-3 ฉบับ จากทั้งหมด 13 ฉบับ และกำลังเร่งปรับร่าง พ.ร.บคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเสนอต่อ สนช. เพิ่มเติม ซึ่งกฏหมายดังกล่าวเป็นสิ่งที่รัฐบาลหลายสมัยพยายามผลักดันให้เกิด เพราะจะมีประโยชน์ต่อประชาชนในหลายด้าน เช่น ด้านสาธารณสุข หากข้อมูลสุขภาพของคนไข้ แพทย์ทุกโรงพยาบาลสามารถดึงข้อมูลกลางได้ ก็จะทำให้การรักษาสะดวกและรวดเร็วขึ้น เป็นต้น
Source : Post Today