จขกท. ปัจจุบันอายุ 33 ปี จัดว่าเป็นคนเปลี่ยนงานบ่อย ส่วนใหญ่อยู่ที่ละประมาณ 1-2 ปี ถ้าเท่าที่จำได้จากที่เรียนจบก็ประมาณนี้
- ที่ทำงานแรกหลังจากเรียนจบ ทำได้ประมาณ 5 เดือน ก็ลาออก เพราะว่าเจออิทธิพลมืดจากการเมืองภายในบริษัทฯ ที่นี่ทำให้รู้สึกว่าโลกการทำงานที่สวยงามดูมืดหม่นลงในทันที
- บริษัทที่ 2 ที่นี้เป็นองค์กรใหญ่ที่เป็นที่รู้จัก และเป็นที่ที่ให้โอกาสและให้ความรู้ดีๆ ติดตัวมาจนถึงปัจจุบันนี้ เรียกได้ว่าความรู้ที่ได้จากบริษัทนี้เป็นสิ่งที่ทำประโยชน์ให้กับการทำงานที่ต่อๆ มาได้จนถึงปัจจุบัน แต่ก็อยู่ที่นี่ได้แค่ 1 ปีเศษๆ ก็ออก เป็นเพราะว่าองค์กรใหญ่มาก scope งานเน้นแค่ด้านเดียว อยากเรียนรู้งานด้านอื่นๆ ที่กว้างขึ้น
- บริษัทที่ 3 บริษัทนี้เป็นบริษัทข้ามชาติที่เปิดโอกาสให้เข้าไปทำงานทั้งๆ ที่ภาษาอังกฤษงูๆ ปลาๆ มาก นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ได้ทำงานที่อยากทำมากๆ ทั้งๆ ที่ไม่มีประสบการณ์ในงานด้านนี้โดยตรงแต่ก็เปิดโอกาสให้ทำ ก็ได้ทำงานที่อยากทำเต็มตัว แต่ก็อยู่ได้แค่เกือบๆ 2 ปีเท่านั้น เพราะว่าเพื่อนร่วมงานในแผนกไม่ support งานกัน เอาเปรียบและเอาตัวรอดในการทำงาน ทำให้ทำงานเหนื่อยมากๆ
- บริษัทที่ 4 ก็เป็นบริษัทข้ามชาติเหมือนกัน แต่ที่นี่บริหารงานโดยคนไทย 100% ไม่มีคนต่างชาติเลยสักคน ทำงานที่นี่นานที่สุด นานเกือบ 6 ปี ที่นี่มีข้อดีข้อเสียต่างๆ มากมายเต็มไปหมด ข้อดีคือ ได้ทำงานหลากหลาย เรียนรู้งานได้เกือบครบทุกด้าน ที่สำคัญมากๆ ที่ทำให้อยู่ได้นานคือ ได้เพื่อนร่วมงานในแผนกดีมากๆ รักกันเหมือนพี่น้องจริงๆ หัวหน้างานดีสุดๆ เรียกได้ว่าเป็น Role Model ได้เลย และที่สำคัญปรับเงินเดือนให้แต่ละปีใน % ที่เยอะกว่าบริษัทอื่นๆ ที่เคยทำมา แต่ที่ออกเพราะว่าระบบงานที่ไม่เป็นระบบ ผู้บริหารระดับสูงทำงานตามใจฉันแบบไม่มีหลักการอะไรเลย แต่ที่ทำให้ไม่อยากอยู่ต่อก็คือ ความเฉื่อยในตัวเพราะอยู่มานาน รู้นั่นนี่ไปหมดจนไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น มีแต่ความรู้สึกว่าน่าเบื่อ และที่สำคัญหัวหน้างานที่เป็น Role Model ของเราลาออกไป
- บริษัทปัจจุบัน เป็นบริษัทที่ 5 เพิ่งมาทำงานได้แค่ 4 เดือนเป็นบริษัทไทยแท้ๆ 100% เดือนแรกมารู้สึกตื่นเต้น เพราะไม่ได้เจออะไรใหม่ๆ มานานเกือบ 6 ปี แต่ความตื่นเต้นอยู่ได้ไม่ถึง 2 เดือนก็หมดลง เพราะการบริหารงานที่นี่เรียกว่าเป็นไทยแท้ๆ แบบราชการเลย คือ มีระบบเส้นสาย มียศถาบรรดาศักดิ์ CEO บริษัททำตัวเหมือนเป็นฮ่องเต้ที่จะเอาอะไรต้องได้ ไม่ว่าเรื่องเล็กใหญ่อยากได้ก็จะเอา แล้วยังเปลี่ยนใจไปมาโดยไม่คำนึงว่าพนักงานทำงานกันลำบากขนาดไหน อยากจะเปลี่ยนก็เปลี่ยน และที่สำคัญที่ทำให้รับไม่ได้คือ ระบบรับพนักงานที่นี่ขั้นตอนการ approve การขอคนก็ทำขั้นตอนถูกต้องหมด แต่พอถึงเวลารับคนถ้า CEO บอกไม่รับ ถึงแม้ว่าเซ็นสัญญาจ้างไปแล้วก็ต้องไม่รับ รู้สึกว่าองค์กรแบบนี้ไม่น่าทำงานด้วยเลย ไม่มีความเป็นมืออาชีพกันเลย
ตอนนี้ทำงานที่ปัจจุบันแล้วรู้สึกอยากมองหางานใหม่อีกครั้งแต่คนรอบข้างก็มักจะพูดว่า จะเปลี่ยนงานอีกแล้วเหรอ? เปลี่ยนงานบ่อยๆ ไม่ดีนะ... ทำงานที่ไหนก็เป็นแบบนี้เหมือนกันแหล่ะ.... ที่ทำงานทุกที่มีปัญหาทั้งนั้นแหล่ะ.......
ตอนนี้เลยรู้สึกว่าเราควรทำยังไงดีระหว่างไม่สนใจคำพูดคนอื่นเดินหน้าหางานต่อไป หรือ ทำใจยอมรับกับองค์กรนี้แล้วทำงานต่อไปจนเกษียณ
แต่โดยส่วนตัวรู้สึกว่าอายุ 33 ยังไม่จำเป็นต้องหยุดอยู่ที่องค์กรนี้ เพราะยังมีเวลาที่จะหาที่ๆ เหมาะกับเรามากกว่านี้ได้ เรามองว่า ถ้าทำที่ปัจจุบันต่อไปเราก็จะเหมือนคนทำงานไปวันๆ ขาดแรงบันดาลใจ ไม่มีความสุขกับการทำงาน แต่ถ้าเราหางานที่อื่นเราก็ยังมีโอกาส 3 อย่างคือ เจอที่ที่แย่กว่าที่ปัจจุบัน เจอที่ที่ดีกว่าที่ปัจจุบัน และ เจอที่ที่ไม่ต่างกับที่ปัจจุบัน เราคิดแบบนี้ถูกรึเปล่านะ?
แต่จากประสบการณ์การเปลี่ยนงานที่ผ่านๆ มาของเรา เราเห็นว่าเราได้ข้อดีมากมายเลย เช่น ได้เรียนรู้งานหลากหลาย ได้เห็นวิธีการทำงานที่แตกต่าง ได้เพื่อนร่วมงานเพิ่มขึ้น ได้ความรู้สึกตื่นเต้นสดชื่นกับสิ่งใหม่ๆ และที่สำคัญได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด (ถ้าอยู่ที่เดิมนานๆ เงินเดือนคงน้อยกว่านี้)
แต่สิ่งที่ทำให้คิดมากเป็นเพราะคำพูดจากคนรอบข้างใกล้ตัวซะส่วนใหญ่ เลยทำให้รู้สึกว่าควรจะหางานใหม่ดีหรือไม่
ใครมีประสบการณ์หรือคำแนะนำรบกวนให้คำแนะนำด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ
ผู้ใหญ่และคนรอบข้างชอบบอกว่าเปลี่ยนงานบ่อยๆ ไม่ดี การเปลี่ยนงานบ่อยๆ ไม่ดีจริงรึเปล่า ?
- ที่ทำงานแรกหลังจากเรียนจบ ทำได้ประมาณ 5 เดือน ก็ลาออก เพราะว่าเจออิทธิพลมืดจากการเมืองภายในบริษัทฯ ที่นี่ทำให้รู้สึกว่าโลกการทำงานที่สวยงามดูมืดหม่นลงในทันที
- บริษัทที่ 2 ที่นี้เป็นองค์กรใหญ่ที่เป็นที่รู้จัก และเป็นที่ที่ให้โอกาสและให้ความรู้ดีๆ ติดตัวมาจนถึงปัจจุบันนี้ เรียกได้ว่าความรู้ที่ได้จากบริษัทนี้เป็นสิ่งที่ทำประโยชน์ให้กับการทำงานที่ต่อๆ มาได้จนถึงปัจจุบัน แต่ก็อยู่ที่นี่ได้แค่ 1 ปีเศษๆ ก็ออก เป็นเพราะว่าองค์กรใหญ่มาก scope งานเน้นแค่ด้านเดียว อยากเรียนรู้งานด้านอื่นๆ ที่กว้างขึ้น
- บริษัทที่ 3 บริษัทนี้เป็นบริษัทข้ามชาติที่เปิดโอกาสให้เข้าไปทำงานทั้งๆ ที่ภาษาอังกฤษงูๆ ปลาๆ มาก นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ได้ทำงานที่อยากทำมากๆ ทั้งๆ ที่ไม่มีประสบการณ์ในงานด้านนี้โดยตรงแต่ก็เปิดโอกาสให้ทำ ก็ได้ทำงานที่อยากทำเต็มตัว แต่ก็อยู่ได้แค่เกือบๆ 2 ปีเท่านั้น เพราะว่าเพื่อนร่วมงานในแผนกไม่ support งานกัน เอาเปรียบและเอาตัวรอดในการทำงาน ทำให้ทำงานเหนื่อยมากๆ
- บริษัทที่ 4 ก็เป็นบริษัทข้ามชาติเหมือนกัน แต่ที่นี่บริหารงานโดยคนไทย 100% ไม่มีคนต่างชาติเลยสักคน ทำงานที่นี่นานที่สุด นานเกือบ 6 ปี ที่นี่มีข้อดีข้อเสียต่างๆ มากมายเต็มไปหมด ข้อดีคือ ได้ทำงานหลากหลาย เรียนรู้งานได้เกือบครบทุกด้าน ที่สำคัญมากๆ ที่ทำให้อยู่ได้นานคือ ได้เพื่อนร่วมงานในแผนกดีมากๆ รักกันเหมือนพี่น้องจริงๆ หัวหน้างานดีสุดๆ เรียกได้ว่าเป็น Role Model ได้เลย และที่สำคัญปรับเงินเดือนให้แต่ละปีใน % ที่เยอะกว่าบริษัทอื่นๆ ที่เคยทำมา แต่ที่ออกเพราะว่าระบบงานที่ไม่เป็นระบบ ผู้บริหารระดับสูงทำงานตามใจฉันแบบไม่มีหลักการอะไรเลย แต่ที่ทำให้ไม่อยากอยู่ต่อก็คือ ความเฉื่อยในตัวเพราะอยู่มานาน รู้นั่นนี่ไปหมดจนไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น มีแต่ความรู้สึกว่าน่าเบื่อ และที่สำคัญหัวหน้างานที่เป็น Role Model ของเราลาออกไป
- บริษัทปัจจุบัน เป็นบริษัทที่ 5 เพิ่งมาทำงานได้แค่ 4 เดือนเป็นบริษัทไทยแท้ๆ 100% เดือนแรกมารู้สึกตื่นเต้น เพราะไม่ได้เจออะไรใหม่ๆ มานานเกือบ 6 ปี แต่ความตื่นเต้นอยู่ได้ไม่ถึง 2 เดือนก็หมดลง เพราะการบริหารงานที่นี่เรียกว่าเป็นไทยแท้ๆ แบบราชการเลย คือ มีระบบเส้นสาย มียศถาบรรดาศักดิ์ CEO บริษัททำตัวเหมือนเป็นฮ่องเต้ที่จะเอาอะไรต้องได้ ไม่ว่าเรื่องเล็กใหญ่อยากได้ก็จะเอา แล้วยังเปลี่ยนใจไปมาโดยไม่คำนึงว่าพนักงานทำงานกันลำบากขนาดไหน อยากจะเปลี่ยนก็เปลี่ยน และที่สำคัญที่ทำให้รับไม่ได้คือ ระบบรับพนักงานที่นี่ขั้นตอนการ approve การขอคนก็ทำขั้นตอนถูกต้องหมด แต่พอถึงเวลารับคนถ้า CEO บอกไม่รับ ถึงแม้ว่าเซ็นสัญญาจ้างไปแล้วก็ต้องไม่รับ รู้สึกว่าองค์กรแบบนี้ไม่น่าทำงานด้วยเลย ไม่มีความเป็นมืออาชีพกันเลย
ตอนนี้ทำงานที่ปัจจุบันแล้วรู้สึกอยากมองหางานใหม่อีกครั้งแต่คนรอบข้างก็มักจะพูดว่า จะเปลี่ยนงานอีกแล้วเหรอ? เปลี่ยนงานบ่อยๆ ไม่ดีนะ... ทำงานที่ไหนก็เป็นแบบนี้เหมือนกันแหล่ะ.... ที่ทำงานทุกที่มีปัญหาทั้งนั้นแหล่ะ.......
ตอนนี้เลยรู้สึกว่าเราควรทำยังไงดีระหว่างไม่สนใจคำพูดคนอื่นเดินหน้าหางานต่อไป หรือ ทำใจยอมรับกับองค์กรนี้แล้วทำงานต่อไปจนเกษียณ
แต่โดยส่วนตัวรู้สึกว่าอายุ 33 ยังไม่จำเป็นต้องหยุดอยู่ที่องค์กรนี้ เพราะยังมีเวลาที่จะหาที่ๆ เหมาะกับเรามากกว่านี้ได้ เรามองว่า ถ้าทำที่ปัจจุบันต่อไปเราก็จะเหมือนคนทำงานไปวันๆ ขาดแรงบันดาลใจ ไม่มีความสุขกับการทำงาน แต่ถ้าเราหางานที่อื่นเราก็ยังมีโอกาส 3 อย่างคือ เจอที่ที่แย่กว่าที่ปัจจุบัน เจอที่ที่ดีกว่าที่ปัจจุบัน และ เจอที่ที่ไม่ต่างกับที่ปัจจุบัน เราคิดแบบนี้ถูกรึเปล่านะ?
แต่จากประสบการณ์การเปลี่ยนงานที่ผ่านๆ มาของเรา เราเห็นว่าเราได้ข้อดีมากมายเลย เช่น ได้เรียนรู้งานหลากหลาย ได้เห็นวิธีการทำงานที่แตกต่าง ได้เพื่อนร่วมงานเพิ่มขึ้น ได้ความรู้สึกตื่นเต้นสดชื่นกับสิ่งใหม่ๆ และที่สำคัญได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด (ถ้าอยู่ที่เดิมนานๆ เงินเดือนคงน้อยกว่านี้)
แต่สิ่งที่ทำให้คิดมากเป็นเพราะคำพูดจากคนรอบข้างใกล้ตัวซะส่วนใหญ่ เลยทำให้รู้สึกว่าควรจะหางานใหม่ดีหรือไม่
ใครมีประสบการณ์หรือคำแนะนำรบกวนให้คำแนะนำด้วยนะคะ
ขอบคุณค่ะ