เล่ห์วิมาน ตอนที่ ๑

กระทู้คำถาม
แนะนำตัวละคร http://pantip.com/topic/32797760

บทนำ

ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ วิมานเข็นกระเป๋าเดินทาง ตรงมายังผู้โดยสายขาออกเพื่อเรียกรถแท็กซี่ให้ไปส่งที่บ้านของเขา เมื่อแท็กซี่จอดรถเขาเดินลงมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ มีคนมาเปิดประตูให้ ชายหนุ่มเดินเข้าบ้านอย่างอารมณ์ดี ภายในบ้านไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมและเขาสุขใจที่ได้กลับมา              
            “ผมกลับมาแล้วครับคุณแม่”
            สิ้นเสียงตนเอง ชายหนุ่มโผลเข้ากอดมารดาด้วยความดีใจที่ตนเองได้กลับมาอยู่บ้านที่ประเทศไทยอย่างถาวรแล้ว หลังจากที่ได้ไปร่ำเรียนด้านบริหารที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นระยะเวลา6เดือน มารดากอดตอบพลางลูบหัวเจ้าลูกชายตัวดีแล้วหอมแก้มซ้ายหอมแก้มขวาด้วยความคิดถึง
                “ทำไมไม่บอกแม่ละตาวิมาน ว่าจะกลับมาวันนี้ แม่จะได้ให้คนไปรับ”
            “ถ้าผมบอก ก็ไม่เซอร์ไพร์คุณแม่นะสิครับ”
            “จ๊ะ ลูกชายฉัน ชอบทำแม่ตื่นเต้นหัวใจจะวายทุกที แล้วนี่ทานอะไรมายังละลูก”
            “ยังเลยครับ ผมรอทานพร้อมคุณแม่”
            “ดีเลยจ๊ะ เดี๊ยวแม่จะบอกคนรับใช้ให้ทำกับข้าวให้นะลูก”
            “ครับแม่”
            “เอาของไปเก็บก่อนลูก อาบน้ำอาบท่าให้สบายตัวแล้วค่อยลงมา”
            “ครับผม”
            ชายหนุ่มรับคำแล้วปฏิบัติตาม วิมานเดินขึ้นไปบริเวณข้างบนบ้าน และมุ่งหน้าไปที่บริเวณห้องนอนของตนเอง เมื่อเปิดประตูห้องนอนเข้าไปวิมานกระโดดขึ้นเตียงนอนแผ่ราบอย่างสบายอกสบายใจ ก่อนที่จะบังคับตนเองให้ลุกไปอาบน้ำอาบท่า หลังจากที่เขาอาบน้ำเสร็จจึงรีบแต่งตัวเพื่อลงมารับประทานอาหารข้างล่าง ภายในโต๊ะอาหารถูกจัดวางไว้อย่างเรียบร้อยเพื่อเป็นการต้อนรับการกลับมาของลูกชายถึงแม้ว่าจะฉุกละหุกไปหน่อยแต่ก็จัดโต๊ะอาหารเสร็จได้อย่างรวดเร็ว วิมานเดินมาถึงโต๊ะอาหารพลางลูบท้องตนเองแสดงอาการหิวนิดหน่อย
                “น่าทานมากเลยครับคุณแม่”
            “ใช่สิจ๊ะ ลูกชายแม่กลับมาทั้งที นี่มีแต่ของโปรดที่ลูกชอบทั้งนั้นเลยนะ”
            “ขอบคุณครับแม่”
            “ตักข้าวให้คุณวิมานสิจ๊ะ”
            คนรับใช้รีบกุลีกุจรนำทัพพีตักข้าวให้กับวิมานในทันที
                “เดี๊ยวพรุ่งนี้วิมานไปธุระกับแม่หน่อยสิ”
            “ธุระอะไรหรอครับ”
            “แม่อยากให้เรารู้จักกับเพื่อนของแม่ไว้ เวลามีปัญหาเดือดร้อนอะไร เขาจะได้ช่วยเราได้นะลูก”
            “อ่อ ได้สิครับ กี่โมงหรอครับ”
            “สักประมาณบ่ายโมงกว่าๆนะลูก เตรียมตัวให้พร้อม แต่งตัวให้หล่อๆ เขาจะได้ไม่เอาไปนินทาเอาได้ว่าลูกชายบ้านนี้ไร้รสนิยม
                “โถ่ ระดับผมแล้ว สาวที่ไหนเห็นเป็นต้องกริ๊ดใส่ผมครับคุณแม่”
            วิมานพูดพลางอมยิ้มใส่มารดา มารดาหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดีที่เจ้าลูกชายตัวดีคนนี้เจ้าเล่ห์ซะเหลือเกิน แต่หารู้ไม่ว่ามารดาของเขาจะพาวิมานไปให้กับเพื่อนสาวของตนเองดูตัว เป็นการนัดรับประทานอาหารมื้อนี้ที่สำคัญยิ่งนัก สำหรับวันพรุ่งนี้!





เริ่ม
ตอนที่ ๑




รถยนต์ปอร์เช่รุ่น911สีขาวแล่นปราดเข้ามาจอดเทียบหน้าประตูโรงแรม เจ้าหน้าที่กุลีกุจรมาเปิดประตูรถให้ด้วยท่าทีนอบน้อม ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำเรียบหรูก้าวลงมาจากรถและส่งกุญแจให้เจ้าหน้าที่นำรถไปจอด ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปภายในโรงแรมหรูย่านสุขุมวิท วิมานเดินตรงไปที่ร้านอาหารภายในโรงแรม เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นวิมานจึงกล่าวคำต้อนรับ พร้อมกับเดินนำไปยังโต๊ะอาหารที่ถูกจองไว้แล้ว เมื่อเดินมาถึงภายในโต๊ะอาหารมีแขกคนสำคัญรออยู่ก่อนหน้านี้แล้วนั่นคือ คุณหญิงวิมลผู้เป็นแม่และคุณลียานักธุรกิจสาวเจ้าของห้างสรรพสินค้า สถานะโสด ถึงแม้เจ้าตัวจะอายุขึ้นเลขสี่แล้วก็ตาม แต่ด้วยใบหน้าที่เต่งตึงและรูปร่างที่กระชับเข้ารูปอยู่ ราวกับหญิงสาววัยอายุยี่สิบต้นๆ ต้องยกความดีความงามให้กับการศัลยกรรมในสมัยนี้เสียจริง
    วิมานยกมือไหว้คุณลียาแขกของผู้เป็นแม่ ก่อนที่จะขยับเก้าอี้นั่งลง ผู้เป็นแม่ตำหนิลูกชายตัวดีที่มาสายเกินไปสิบห้านาทีจากเวลาที่นัด ลูกชายตัวดีรีบชิงพูดตัดบทก่อนว่า รถในเมืองติดยิ่งเสียกว่าอะไรดี คงไม่แปลกใจที่เขาจะมาสาย คุณลียาเห็นด้วยกับคำตอบของวิมาน ก่อนที่จะหันหน้าไปทางชายหนุ่ม มองด้วยสายตาที่เย้ายวน
    “ทานอะไรดีจ๊ะ หื้ม”
    “ไม่เป็นไรดีกว่าครับ ผมยังไม่ค่อยหิว”
    วิมานบอกไปตามตรงเพราะตนเองยังไม่รู้สึกหิวจริงๆ และก็ไม่อยากทนอยู่กับบรรยากาศอึดอัดเช่นนี้ คุณลียาก็พยายามเอาใจถามไถ่
    “ถ้าทานไม่ตรงเวลา สุขภาพจะมีปัญหาได้นะจ๊ะ”
    “ขอบคุณนะครับ ที่เป็นห่วง”
    วิมานกล่าวคำขอบคุณ ก่อนจะยิ้มให้กับคุณลียาตามมารยาท คุณลียาเหลือบมองชายหนุ่มแอบอมยิ้มพร้อมกับส่งสายตาหวานเยิ้ม เล่นเอาชายหนุ่มรู้สึกขนลุกขนพองเสียวสันหลังโดยมิใช่น้อย คุณหญิงวิมลเอ่ยปากขอตัวไปเข้าห้องน้ำเพื่อเปิดทางให้ลูกชายตนเองได้มีโอกาสคุยกับคุณลียากันสองต่อสอง
    “เดี๊ยวพี่มานะคะ ขอไปทำธุระส่วนตัวนิดนึง”
    คุณหญิงวิมลส่งสายตาไปทางคุณลียาให้เป็นนัยๆว่าเธอเปิดทางให้แล้วนะ คุณลียายิ้มรับ ก่อนที่คุณหญิงวิมลจะหันหน้ามามองลูกชายตัวดี ลูกชายตัวดีมองไปที่คุณหญิงวิมล ส่งสายตาเว้าวอนว่าเมื่อไหร่จะเสร็จธุระจากตรงนี้เสียที เมื่อคุณหญิงวิมลเดินหันหลังขวับหายไป เหลือเพียงชายหนุ่มที่นั่งตรงข้ามกับหญิงสาววัยกลางคนกันแค่สองต่อสอง คุณลียาชวนชายหนุ่มพูดคุย เพื่อไม่ให้บรรยากาศดูเงียบไปมากกว่านี้
    “เป็นไงบ้างจ๊ะ ได้ข่าวว่าเพิ่งกลับจากสวิตเซอร์แลนด์”
    “ก็ดีครับ ได้เจออะไรใหม่ๆ”
    “แล้วตอนนี้วิมานมีแฟนหรือยังจ๊ะ”
    “อ่อ ผมยังไม่ได้คิดเรื่องนั้นหรอกครับ ผมอยากทำงานก่อน”
    “ก็ดีนะจ๊ะ ฉันชอบคนทำงาน  ยิ่งอายุน้อยๆแบบนี้แล้วยังขยันทำงานอีก อนาคตไกลแน่ๆเลยจ๊ะ”
    วิมานสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินคำพูดของคุณลียาที่ดูเหมือนว่ากำลังจะจีบตนอยู่ คุณลียาพูดพลางจ้องหน้าชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้าม เล่นเอาชายหนุ่มนั่งเกรงไปทั้งตัว
    “อ่อครับ”
    ชายหนุ่มตอบกลับพร้อมกับยิ้มแหย แล้วหันหน้ามองไปทางอื่น คุณลียาจึงแกล้งเอามือไขว้หลังดันซิปชุดเกาะอกให้ซิปรูดลง ซึ่งก่อนหน้าที่เธอใส่ชุดนี้ซิปมันดูเหมือนว่าจะฝืดอยู่แล้ว เวลาดันซิปขึ้นซิปจึงไม่ค่อยรูดขึ้นไป
    “อุ๊ย ตายแล้ว”
    หญิงสาววัยกลางคนร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ ทำให้ชายหนุ่มหันกลับมามองด้วยความแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
    “วิมานช่วยรูดซิปให้ฉันหน่อยได้ไหมจ๊ะ ฉันมองไม่เห็นข้างหลัง”
    หญิงสาววัยกลางคนทำทีเอามือไว้ด้านหลังเพื่อดันซิปที่ติดอยู่ เมื่อชายหนุ่มเห็นท่าทางของหญิงสาววัยกลางคนต้องการความช่วยเหลือ ชายหนุ่มจึงรับคำและลุกจากเก้าอี้เดินไปที่หญิงสาววัยกลางคนนั่งอยู่
    “ขอโทษนะครับ”
    ชายหนุ่มรีบกล่าวคำขอโทษ พร้อมกับเอามือแตะไปที่ซิปชุดเกาะอกของคุณลียา วิมานโน้มตัวลงไปดันซิปแต่ซิปเจ้ากรรมไม่ยอมรูดขึ้นไปสักที เป็นจังหวะเดียวกันกับที่หญิงสาวสองคนเดินออกมาจากในลิฟท์ จึงทำให้เห็นภาพว่าชายหนุ่มกำลังจะทำอะไรหญิงสาวที่อยู่ภายในโต๊ะอาหาร
    “หนูเภา แกดูนั่นสิ”
    “น่าเกลียดชะมัด คนสมัยนี้ทำอะไรพะเจิดพะเจ้อ ไปเถอะแก”
    หนูเภาลากแขนเพื่อนสาวคนสนิทเดินออกไปทางล็อบบี้ของโรงแรม เล่นเอาเกษราแทบเซล้มไปกับความเร่งรีบของหนูเภา เมื่อเดินมาถึงประตูทางออกของโรงแรมเจ้าหน้าที่ได้เรียกรถแท็กซี่ให้เข้ามาจอดรับสองสาว สองสาวกล่าวคำขอบคุณและเปิดประตูเข้าไปนั่ง เจ้าหน้าที่ปิดประตูรถก่อนที่รถแท็กซี่จะขับออกไป ทางด้านวิมาน เมื่อรูดซิปเจ้าปัญหาให้เสร็จเรียบร้อยแล้วจึงกลับมานั่งที่เก้าอี้ในใจคิดว่าเมื่อไรมารดาของเขาจะกลับมาเสียที ถ้าปล่อยให้เขานั่งนานอยู่แบบนี้มีหวังเขาต้องหนีกลับก่อนเป็นแน่ และเหมือนว่าวิมานจะส่งกระแสจิตไปได้ผล เพียงชั่วครู่มารดาของเขาได้เดินกลับมาพอดี
วิมานจึงพูดเหน็บแนมมารดาของเขาที่ปล่อยให้เขารอนาน
    “ผมนึกว่าคุณแม่ไปทำธุระถึงเชียงใหม่”
    “ตาวิมาน ก็...”
    คุณหญิงวิมลพูดเชิงยิ้มแหยๆ เพราะเจ้าลูกชายตัวดีดันรู้ทันไปเสียทุกเรื่อง คุณลียาหัวเราะอากัปกิริยาของชายหนุ่ม ก่อนที่จะหันไปคุยกับคุณหญิงวิมลต่อ
    “คุณพี่คะ น้องว่าน้องอยากได้ผู้ช่วยสักคนไปดูแลงานที่ห้างสรรพสินค้า ถ้าคุณพี่ไม่ขัดข้อง น้องอยากจะให้วิมานไปเป็นผู้ช่วยของน้องคะ”
    คุณลียาพูดเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาและไม่ต้องอ้อมค้อมใดๆ เพราะเขาต้องการตัววิมานอยู่แล้ว และยิ่งเขาเห็นใบหน้าและอากัปกิริยาท่าทางของชายหนุ่มทำให้เขายิ่งชอบใจนัก อยากจะได้วิมานมาเป็นสามีเสียจริงแต่ติดตรงที่ว่าชายหนุ่มจะเห็นดีเห็นงามด้วยหรือไม่ ทางด้านคุณหญิงวิมลไม่ได้คัดค้านอะไรและเป็นฝ่ายสนับสนุนให้ลูกชายไปทำงานกับคุณลียาด้วยความเต็มใจเป็นล้นพ้น
    “อุ๊ย พี่ไม่ขัดข้องหรอกคะ พี่เห็นด้วยกับคุณน้องเสมอ ยิ่งถ้าให้ตาวิมานไปคอยช่วยดูแลกิจการของคุณน้องแล้วละก็ งานต้องออกมาดีแน่ๆ”
    “ค่ะ น้องก็เชื่อว่าอย่างนั้น ยิ่งได้หนุ่มไฟแรงมาช่วยน้อง น้องคงมีกำลังใจทำงานเยอะขึ้นเลยคะ”
    ทั้งมารดาของเขาและคุณลียาต่างพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน มีแต่เพียงชายหนุ่มที่นั่งร่วมโต๊ะกำลังทำตัวไม่ถูกและไม่รู้จะพูดอย่างไรเขาอยากจะตะโกนออกไปว่า ไม่ถามความคิดเห็นของเขาบ้างเลยหรือ ยังเห็นหัวเขาอยู่บ้างไหม ในที่สุดเขาจึงปลีกตัวออกมาจากการสนทนาที่มีมารดาของเขาและแขกของมารดา วิมานหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแกล้งกดรับสาย
    “สวัสดีครับ ได้ครับ เดี๊ยวผมจะรีบไป”
    วิมานทำสีหน้าเคร่งเครียดคุณหญิงวิมลกับคุณลียาพลางหันหน้าจ้องมาที่ชายหนุ่ม ชายหนุ่มแสดงอาการเรียบเพื่อไม่ให้มีพิรุธว่าเขากำลังโกหกทั้งสองคนอยู่
    “พอดีผมลืมไป ว่าวันนี้นัดแขกคนสำคัญเอาไว้ ยังไงผมก็ขอตัวก่อนนะครับ”     
    “เลื่อนนัดไม่ได้หรอ ตาวิมาน”
    “ไม่ได้หรอกครับคุณแม่ ผมไม่อยากผิดนัดใคร”
    วิมานพูดพลางทำสีหน้าจริงจังจนทำให้มารดาของเขาเชื่อสนิทใจ วิมานลุกออกจากเก้าอี้ที่เขานั่งอยู่ แล้วหันหน้าไปทางคุณลียาเพื่อจะกล่าวคำร่ำลา
    “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ สวัสดีครับ”
    “จ๊ะ ฉันหวังว่าเราคงจะได้ร่วมงานกันในเร็วๆนี้นะจ๊ะ”
    วิมานยกมือไหว้คุณลียาพลางยิ้มแหย ก่อนที่จะหันหลังเดินกลับออกไป เผยยิ้มมุมปากนิดๆว่าเขาจะต้องไม่ตกอยู่สถานการณ์ที่น่าเบื่อแบบนั้นอีกแล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่ของโรงแรมเห็นวิมานเดินออกมา เจ้าหน้าที่จึงกุลีกุจรไปนำรถของเขามาจอดที่บริเวณหน้าประตูโรงแรม ทางด้านคุณหญิงวิมลก็รีบพูดขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่เรื่องของวิมานที่อยู่คุยกันได้ไม่นาน
    “พี่ต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่ตาวิมาน..”
    คุณหญิงวิมลพูดไม่ทันจบ คุณลียาก็พูดแทรกขึ้นมา
    “ไม่เป็นไรหรอกคะ น้องไม่ถือสา น้องชอบคะ ผู้ชายแบบนี้”
    คุณลียาพูดจบพลางนึกถึงใบหน้าของวิมาน คุณหญิงวิมลรู้เท่าทันจึงรีบพูดข้อเสนอของตนเอง โดยการใช้ลูกชายเป็นเครื่องมือในการหาผลประโยชน์จากคุณลียา
    “คุณน้องคะ ยังจำเรื่องที่เราคุยกันได้อยู่ไหม ว่าพี่จะขอ เอ่อ..”
    “อ่อ เรื่องนั้น จำได้สิคะ คุณพี่จะขอยืมเงิน40ล้าน”
    “จุ๊ๆ ใช่คะ คุณน้องก็พูดเสียงดังไป ถ้าพี่หาเงินมาได้เมื่อไหร่ พี่จะรีบใช้เงินคืนคุณน้องครบทุกบาททุกสตางค์เลยนะคะ”
    “เรามันคนกันเองคะคุณพี่ น้องจะให้เงินคุณพี่50ล้าน แต่มีข้อแม้ว่าลูกชายคุณพี่จะต้องแต่งงานกับน้อง โดยที่คุณพี่ไม่ต้องนำเงินมาคืนน้องแต่อย่างใด ตกลงไหมคะ”
    “เอ่อ คือ”
    “ถ้าคุณพี่ตกลง น้องจะเซ็นเช็ค50ล้าน ให้คุณพี่เดี๊ยวนี้เลยคะ”
    “ตกลงคะ พี่จะให้ตาวิมานแต่งงานกับคุณน้อง เดี๊ยวพี่จะไปหาฤกษ์หายามมาให้นะคะ”
    “ดีคะ”
    
v
v
v
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งนิยาย
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่