จริงๆไปดูกระทู้เรื่องอื่น แต่มี คห.นึง เอาเรื่อง Gen มาพูด ผมขอยกมาเลยแล้วกัน
คห.เขาพูดถึง Gen X
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถึง Gen Y
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พูดถึงทำไม Gen Y ต้องเป็นอย่างนั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วก็ชีวิตของ Gen Y ส่วนใหญ่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปัญหาที่ผมเจอส่วนใหญ่คือ(ย้ำว่าส่วนใหญ่แต่ที่ไม่ใช่ก็มี) Gen Y มั่นใจตัวเองเกินไป อยากทำงานน้อยๆได้เงินมากๆ และไม่รู้หน้าที่ เอาแต่เรียกร้องสิทธิ์ ยิ่งปลาย Gen Y เท่าไหร่เรื่องแบบนี้ยิ่งเข้มข้น คน 30 กลางๆจะเป็นบ้าง แต่เข้มข้นไปที่ 20 กว่าๆมากกว่า เมื่อก่อนคิดว่าเราต้องปรับตัวหาเขา ทำอะไรก็ต้อง Motivate ต้องแสดงฝีมือ ก็พยายามทำไป หลังๆรู้สึกเหนื่อย เพราะเขาจะถือว่าสิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานที่หัวหน้างานต้องทำ หรือก็คือทำดีเสมอตัว หย่อนเมื่อไหร่คือเราดูแย่ ทั้งยังอยากก้าวหน้าไวเกินประสบการณ์ อยากทำงานน้อยได้ผลมากแต่สิ่งที่ทำกลับกัน คือไปทำอะไรยากๆเยอะๆ แต่ได้ผลน้อย อีกปัญหาคือถ้ามองมุมเขาแล้วเรากินแรงก็จะมีอาการต่อต้านทันทีทั้งๆที่เราเป็นหัวหน้างาน งานด้านบริหารต้องใช้ทักษะบางเรื่องที่อธิบายได้ยาก ความจงรักภักดีกับองค์กรณ์น้อย ค่อนข้างไปทางอยากได้มากๆองค์กรมีหน้าที่หามาให้เขา ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของ How To ต่างๆ ที่บีบคั้นให้ต้องประสบผลสำเร็จ ได้ใช้ชีวิตอย่างคนรวยทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้เป็นอย่างนั้น องค์กรคนอื่นเจอบ้างมั้ย แล้วเหนื่อยกันมั้ยครับที่ต้อง Motivate คนเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา
สำหรับคน Gen Y ผมไม่โทษคุณนะที่เป็นอย่างนี้ เพราะพวกคนก่อนหน้านี่แหละที่ทำให้รู้สึกว่าคุณพิเศษทุกคนและต้องประสบผลสำเร็จเป็นยอดพีระมิด บางทีมันก็ตีกลับมาที่คน Gen ก่อนหน้าเอง ผมเองก็รู้สึกหลงตัวเองมากขึ้น ทำอะไรก็ต้องอ้างว่ารู้จักคนสำคัญมีความเกี่ยวโยงกับอะไรที่มีหน้ามีตา หลงจนบางครั้งต้องขอร้องให้คนอื่นช่วยวิจารณ์และเบรคความอหังการณ์ แต่ผมไปเจอ คห. นั้นผมกระตุกคิดแล้วล่ะ และกลับไปเชื่อแบบคนโบราณว่า "ทำงานมาก ผลตอบแทนมาก" ยอมเป็นมดงานให้ภาพรวม ดีกว่ามาเป็นมดโดดเดี่ยวที่อณาจักรไม่แข็งแรง ภาพรวมก็เสียหายไปด้วย แต่ก็ต้องเอาข้อดีที่ว่าทำงานด้วยสมองให้มากของคน Gen Y มาใช้ร่วมด้วย สรุปคืออะไรที่ดีของ Gen ที่แตกต่างกันเราต้องประยุกต์ให้เป็น
ใครรู้สึกมั่งว่า Gen Y นี่ ในการทำงานเราต้องเอาใจเขาเป็นพิเศษจนองค์กรเหนื่อย
คห.เขาพูดถึง Gen X
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถึง Gen Y
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พูดถึงทำไม Gen Y ต้องเป็นอย่างนั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วก็ชีวิตของ Gen Y ส่วนใหญ่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปัญหาที่ผมเจอส่วนใหญ่คือ(ย้ำว่าส่วนใหญ่แต่ที่ไม่ใช่ก็มี) Gen Y มั่นใจตัวเองเกินไป อยากทำงานน้อยๆได้เงินมากๆ และไม่รู้หน้าที่ เอาแต่เรียกร้องสิทธิ์ ยิ่งปลาย Gen Y เท่าไหร่เรื่องแบบนี้ยิ่งเข้มข้น คน 30 กลางๆจะเป็นบ้าง แต่เข้มข้นไปที่ 20 กว่าๆมากกว่า เมื่อก่อนคิดว่าเราต้องปรับตัวหาเขา ทำอะไรก็ต้อง Motivate ต้องแสดงฝีมือ ก็พยายามทำไป หลังๆรู้สึกเหนื่อย เพราะเขาจะถือว่าสิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานที่หัวหน้างานต้องทำ หรือก็คือทำดีเสมอตัว หย่อนเมื่อไหร่คือเราดูแย่ ทั้งยังอยากก้าวหน้าไวเกินประสบการณ์ อยากทำงานน้อยได้ผลมากแต่สิ่งที่ทำกลับกัน คือไปทำอะไรยากๆเยอะๆ แต่ได้ผลน้อย อีกปัญหาคือถ้ามองมุมเขาแล้วเรากินแรงก็จะมีอาการต่อต้านทันทีทั้งๆที่เราเป็นหัวหน้างาน งานด้านบริหารต้องใช้ทักษะบางเรื่องที่อธิบายได้ยาก ความจงรักภักดีกับองค์กรณ์น้อย ค่อนข้างไปทางอยากได้มากๆองค์กรมีหน้าที่หามาให้เขา ตกอยู่ภายใต้การครอบงำของ How To ต่างๆ ที่บีบคั้นให้ต้องประสบผลสำเร็จ ได้ใช้ชีวิตอย่างคนรวยทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้เป็นอย่างนั้น องค์กรคนอื่นเจอบ้างมั้ย แล้วเหนื่อยกันมั้ยครับที่ต้อง Motivate คนเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา
สำหรับคน Gen Y ผมไม่โทษคุณนะที่เป็นอย่างนี้ เพราะพวกคนก่อนหน้านี่แหละที่ทำให้รู้สึกว่าคุณพิเศษทุกคนและต้องประสบผลสำเร็จเป็นยอดพีระมิด บางทีมันก็ตีกลับมาที่คน Gen ก่อนหน้าเอง ผมเองก็รู้สึกหลงตัวเองมากขึ้น ทำอะไรก็ต้องอ้างว่ารู้จักคนสำคัญมีความเกี่ยวโยงกับอะไรที่มีหน้ามีตา หลงจนบางครั้งต้องขอร้องให้คนอื่นช่วยวิจารณ์และเบรคความอหังการณ์ แต่ผมไปเจอ คห. นั้นผมกระตุกคิดแล้วล่ะ และกลับไปเชื่อแบบคนโบราณว่า "ทำงานมาก ผลตอบแทนมาก" ยอมเป็นมดงานให้ภาพรวม ดีกว่ามาเป็นมดโดดเดี่ยวที่อณาจักรไม่แข็งแรง ภาพรวมก็เสียหายไปด้วย แต่ก็ต้องเอาข้อดีที่ว่าทำงานด้วยสมองให้มากของคน Gen Y มาใช้ร่วมด้วย สรุปคืออะไรที่ดีของ Gen ที่แตกต่างกันเราต้องประยุกต์ให้เป็น