ถ้าอยากลาออกในช่วงทดลองงานผิดไหมคะ

ในยุคที่การแข่งขันสูงแบบนี้ต้องบอกว่ากว่าจะได้งานไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย แต่พอได้ลองเข้าไปทำงานจริงกลับมีหลายอย่างที่ไม่ได้เป็นไปตามที่หวัง ทั้งเนื้องาน ความกดดัน เพื่อนร่วมงาน จนไปถึงหัวหน้า จะลาออกเลยดีมั้ย แล้วจะผิดอะไรหรือเปล่า? JobThai Tips กระทู้นี้จะพาไปหาคำตอบกันค่ะ 
 
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก “Probation หรือ การทดลองงาน” กัน 
การทดลองงานหรือ Probation มีความหมายตรงตัวเลยก็คือการทดลองทำงาน เพื่อให้บริษัทประเมินทักษะ ความสามารถ และความรับผิดชอบในการทำงานของเรา ว่าเพียงพอต่อความคาดหวังขององค์กรหรือไม่ รวมไปถึงดูว่าเราสามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบขององค์กรได้รึเปล่า ซึ่งไม่เพียงแค่บริษัทประเมินเราเท่านั้นในขณะเดียวกันเราก็จะได้ประเมินการทำงานที่นี่ด้วยว่าเหมาะกับเรามั้ย ผ่านการลองใช้ชีวิตกับวัฒนธรรมองค์กร ขั้นตอนการทำงาน และเพื่อนร่วมงาน 
   
เหตุผลในการลาออกช่วงทดลองงานของคนทำงานส่วนมาก 
เมื่อบริษัทไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวัง ความคิดที่อยากจะลาออกก็อาจเกิดขึ้นได้ เพราะมันก็เป็นไปได้ที่เมื่อได้ไปทำงานจริง ๆ แล้วมันไม่เหมือนกับที่เรารับรู้จากการหาข้อมูลบริษัทหรือตอนที่พูดคุยกันในตอนสัมภาษณ์งาน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้คนทำงานส่วนมากอยากลาออก คือ 
- รายละเอียดงานไม่ตรงกับที่เขียนไว้ในประกาศงาน หรือตรงตามที่คุยกันไว้ก่อนเริ่มงาน 
- ทัศนคติและแนวทางในการทำงานไม่ตรงกัน 
- สังคมในการทำงานแย่ (Toxic Environment) 
- การเดินทางเหนื่อยและยากลำบากกว่าที่คาดไว้ 
- ปัญหาภายในของบริษัทอย่างเรื่องโครงสร้างหรือเรื่องการเงิน 
- งานไม่ตรงกับความคาดหวังของตัวเอง 
- มีสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น และส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในองค์กร เช่น การลดสวัสดิการ หรือเงินเดือน 
- เข้ากับวัฒนธรรมองค์กรไม่ได้ 
  
แต่บางปัญหาก็อาจมีทางแก้ โดยที่ไม่ต้องลาออก บางครั้งการเปิดใจพูดคุยหรือปรึกษากับหัวหน้าแผนกหรือ HR อาจเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ตรงนี้เราอาจต้องลองไปขอคำปรึกษาเพื่อแก้ไขปัญหาดูก่อน เพราะถ้าสามารถแก้ไขได้ มันก็จะส่งผลดีต่อทั้งองค์กรและตัวเราเอง เช่น ถ้าเราทำงานแล้วรู้สึกน้อยใจหรือรู้สึกไม่ดีจนทำให้คิดลาออกเพราะหัวหน้าไม่ยอมมอบหมายงานที่เป็นชิ้นเป็นอันให้ ถ้าเราได้คุยกับหัวหน้าก่อน เราอาจจะพบว่าสาเหตุที่เป็นแบบนั้นอาจเป็นเพราะเรายังใหม่อยู่ และบางครั้งเขาก็อาจจะต้องการประเมินก่อนว่าเราเหมาะกับงานแบบไหน หรือมีวิธีการทำงานยังไง เราอาจต้องใช้เวลาเพื่อพิสูจน์ตัวเองสักพักก่อน 
 
สิ่งที่ต้องคิดให้ดีอีกครั้งก่อนยื่นใบลาออก 
การลาออก อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของชีวิตวัยทำงาน เพราะต้องย้ายที่ทำงาน เปลี่ยนวิธีเดินทาง ต้องไปทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมงาน จนกระทั่งการทำความคุ้นเคยกับวัฒนธรรมองค์กรของแต่ละที่ใหม่ คนทำงานแต่ละคนก็มีภาระที่ต้องรับผิดชอบไม่เท่ากัน ทั้งค่าใช้จ่ายทางบ้าน การใช้ชีวิต หรือหนี้สิน ปัญหาที่แต่ละคนต้องแบกรับก็มีน้ำหนักที่แตกต่างกัน ทำให้บางครั้งการลาออกไม่ใช่เรื่องง่ายเลย 

ดังนั้นก่อนที่จะลาออก ก็ต้องลองถามตัวเองดูอีกครั้งว่าเราได้ลองพิจารณาให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจแล้วหรือยัง เพราะการตัดสินใจของเราอาจส่งผลเสียได้อย่างมาก เราจึงควรคิดให้ดีและไม่เข้าข้างตัวเองจนมากเกินไป ซึ่งสิ่งที่ต้องคิดให้ดีอีกครั้งคือ 
- ไม่มีทางแก้ปัญหาวิธีอื่นแล้วนอกจากลาออก และไม่มีความสุขจริง ๆ ใช่มั้ยหากต้องทำงานที่นี่ต่อ  
- ตอนนี้เรามีเงินสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินเพียงพอไหม 
- เราสามารถหางานใหม่หรือมีองค์กรไหนที่เราเล็งไว้แล้วหรือยัง 
- มีเงินเก็บในการกินอยู่ในชีวิตประจำวันโดยที่ไม่เบียดเบียนเงินฉุกเฉินมากพอระหว่างที่ไม่มีงานทำรึเปล่า ซึ่งเงินก้อนนี้ควรมีให้พออย่างน้อย 3-6 เดือน 

นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องคิดให้ดีอย่างเรื่องของ “ความเสี่ยง” เพราะในยุคที่อะไรยังไม่แน่นอน อาจทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงมากมาย เราต้องคิดให้ดีว่าเรายอมรับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ไหม เช่น ไม่สามารถหางานใหม่ได้ในเวลารวดเร็ว หรือรายได้ของงานใหม่น้อยกว่างานปัจจุบันที่กำลังทดลองงานอยู่ 
  
ผิดมั้ยถ้าอยากลาออกในช่วงทดลองงาน? 
อย่างที่บอกไปว่าการทดลองงานไม่ใช่แค่บริษัทกำลังประเมินเราเพียงฝ่ายเดียวแต่เราก็กำลังประเมินบริษัทด้วยเหมือนกัน ถ้าการทำงานไม่เป็นไปตามที่หวัง ด้วยเหตุผลต่าง ๆ ที่เราได้ตัดสินใจแล้วว่าไม่สามารถแก้ไขด้วยตัวเองเพียงคนเดียวได้ “การลาออกในช่วงทดลองงานก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด” เพียงแต่เราต้องจัดการรายละเอียดต่าง ๆ ให้ถูกต้องก่อนจะโบกมือลาบริษัทและคนที่รับเราเข้ามาทำงาน ไม่ว่าจะเป็น การแจ้งล่วงหน้าอย่างตรงไปตรงมา หรือเคลียร์งานที่ทำอยู่ให้เรียบร้อย ซึ่งถ้าในระยะเวลาการทดลองงานเราไม่ได้มีหน้าที่รับผิดชอบงานที่สำคัญต่อองค์กรก็ไม่เป็นไร แต่หากว่าเรามีงานที่ต้องรับผิดชอบซึ่งสำคัญหรือติดพันอยู่ก็ควรแสดงความรับผิดชอบโดยการรับปากว่าจะทำงานชิ้นนั้นให้เสร็จก่อน หรืออยู่ให้ครบเวลาตามที่องค์กรต้องการ การทำแบบนี้จะเป็นการรักษามารยาทและแสดงออกถึงความเป็นมืออาชีพในการทำงานที่ดีอีกด้วย 
 
มีผลต่อการสมัครงานครั้งต่อไปมั้ย ต้องใส่ประสบการณ์การทำงานที่บริษัทนี้ในเรซูเม่หรือเปล่า? 
การลาออกในระยะทดลองงานอาจมีและไม่มีผลต่อการสมัครงานครั้งใหม่ได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับเหตุผลในการออกจากที่เก่าของเราและวิจารณญาณของผู้สัมภาษณ์ เพราะบางครั้งเหตุผลที่เรามีอาจเป็นเหตุผลที่เรามองจากมุมมองของเราเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งจะทำให้เราถูกตัดคะแนนไปอย่างมาก เช่น หัวหน้าไม่ยอมมอบหมายงานที่เป็นชิ้นเป็นอันให้สักทีเลยลาออก ความใจร้อนของเราตรงนี้ผู้สัมภาษณ์อาจมองว่าจะเกิดปัญหาขึ้นในอนาคต แต่ถ้าเหตุผลคือเนื้องานไม่ตรงกับที่คุยไว้ เกินขอบเขตหรือตำแหน่งเรามากเกินไป และไม่ใช่งานที่เราทำได้ ก็อาจจะเป็นเหตุผลที่เข้าใจได้ ซึ่งสิ่งสำคัญที่เราต้องจำไว้ก็คือไม่ควรโกหก และตอบอย่างระมัดระวังทุกครั้งไม่ให้เป็นการต่อว่าและโยนความผิดไปให้บริษัทเก่าเพียงอย่างเดียว 
  
ส่วนอีกหนึ่งคำถามที่คนทำงานหลายคนอยากถามอย่าง “ต้องใส่ประสบการณ์นั้นไว้ในเรซูเม่มั้ย?” คำตอบนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า ช่วงเวลา 1-3 เดือนในบริษัทนั้นให้อะไรเราบ้าง มีคุณค่า และมีประโยชน์กับการทำงานครั้งต่อไปแค่ไหน 
  
งานที่ควรใส่ไว้ในเรซูเม่ 
งานที่เราได้เรียนรู้อะไรมากมายผ่านการทำงานในระยะเวลาสั้น ๆ และมีประโยชน์ แต่เราอาจต้องหมายเหตุไว้สักหน่อยว่าทำไมระยะเวลาการทำงานถึงน้อย แล้วค่อยไปขยายเหตุผลระหว่างการสัมภาษณ์งานหากผู้สัมภาษณ์ถาม 
  
งานที่ไม่จำเป็นต้องใส่ในเรซูเม่ 
งานที่เราไม่ได้เรียนรู้อะไรมากมาย ระยะเวลาที่ทดลองทำงานค่อนข้างน้อย แต่กรณีนี้ก็ต้องเตรียมคำตอบที่สมเหตุสมผลไว้ด้วย เพราะเมื่อผู้สัมภาษณ์เห็นในเรซูเม่ว่ามีช่วงระยะเวลาที่เราว่างไป บางครั้งเขาอาจจะถามได้ว่าเราทำอะไรระหว่างนั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่