สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกของผม สำหรับเวป Pantip ผมมีบางเรื่องราวที่อยากจะแบ่งปันให้ชาวบ้านได้รับรู้บ้างครับ เริ่มเลยแล้วกัน
เริ่มแรกเดิมทีครอบครัวของผมเป็นครอบครัวบ้านนอก ลูกชายคนเดียว ที่ประกอบอาชีพเกษตกร พอมีพอกิน พอส่งผมเรียนไปวันๆ ทางบ้านเริ่มประกอบอาชีพเลี้ยงสุกรของ CP ตั้งแต่ผมอยู่ช่วง ม. 3 หนี้สินของครอบครัวพอมีบ้าง ประมาณ 4 แสนบาท หลังจากผมจบ ม. 3 ผมก็เรียนต่อสายอาชีพ สาขาช่างไฟฟ้ากำลัง ซึ่งเป็นอะไรที่ตรงสายมากๆ ผมชอบมากๆ ถ้าพูดถึงความเก่งกาจในการเรียนตอบได้เลยว่า สมองก็เหมือนคนปกติทั่วไป แต่หัวไวกว่าชาวบ้าน การเรียนอยู่ในอันดับ Top ติด 1 ในสามของชั้นเรียน แต่ความขยันมีน้อยมาก ขี้เกียจทำงานส่ง เน้นสอบอย่างเดียว ชีวิตก็เรียนไปวันๆ
หลังจากเรียนจบ ปวส. ผมก็ได้โควต้าเรียนต่อ ป. ตรี ใน กทม เกรดโควต้าของผม 2.76 พอไปวัดไปวา ชีวิตก็เช่นเคย เรียนไปวันๆแบบชิวๆ ชีวิตผมเริ่มเปลี่ยนเมื่อตอนขึ้น ปี 2 ที่ห้องเช่าหน้า มหาลัย มีการติด Internet ที่ห้อง ลืมบอกไป ห้องพักของผม พักกันอยู่ 3 คน เป็นเพื่อนร่วมห้องที่ได้โควต้ามาที่เดียวกัน ชีวิตของชายวัยรุ่นกับหน้าคอมก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากการโหลดหนังโป๊ ดูไปวันๆ เรียนไปวันๆ จนผมเริ่มหาเห็นช่องทางการหาเงินทาง Internet คือทำเวปแบ่งปัน บลาๆ (เวปแนวสายเทา) จนพอมีรายได้เริ่มส่งตัวเองเรียนได้ ไม่ต้องขอค่ากินอยู่ ขอเพียงค่าเทอมบ้างเป็นครั้งคราว
พอขึ้นปี 3 รายได้เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ชีวิตก็เรียน กิน เที่ยว ไปวันๆ ผมทำเวปมาเรื่อยๆจนเรียนจบ เพื่อนๆก็มีงานทำกันหมดแล้ว แต่ผมไม่มีงาน ทำแต่เวปไปวันๆ ส่งเงินให้แม่ใช้หนี้สินจนหมด ภายในระยะเวลาไม่นาน หลังจากหนี้สินหมด ผมก็เก็บเงินดาวน์รถ ส่งค่างวดเดือนละประมาณ 9,000 กว่าบาทต่อเดือน แต่ชีวิตก็ยังหาจุดหมายที่แน่นอนไม่ได้ จนผมคิดได้ด้วยเห็นว่า งานตรงนี้มันไม่แน่นอน ต้องหาอะไรที่มันมั่นคง พอดีทางบ้านมีโครงการขยายฟาร์มสุกรเพิ่ม ทีนี้เริ่มเห็นช่องทาง เลยจัดไป กู้เงินเพื่อสร้างฟาร์สุกร ประมาณ 3 ล้านบาท แต่ทว่า ต้องมีเงินโชว์บัญชี 1.5 ล้านบาท ที่ดินก็มีผืนเดียวเอาจำนองกู้สามล้านไปแล้ว จึงได้พึ่งใบบุญคุณป้า ยืมที่ดินมาจำนอง เพื่อแค่เอาเงินโชว์บัญชี แต่ทำไปทำมา ทำเล้าเสร็จ ทั้งเงินกู้และเงินโชว์รวมประมาณ 4.5 ล้านบาท ใช้หมดพอดี
รายได้จากฟาร์มสุกรได้รับเป็นแบบรายเดือนๆละ 120,000 บาท หักค่าเงินกู้ เดือนละประมาณ 60,000 บาท ระยะเวลาส่ง 5 ปี ค่าใช่จ่ายประมาณเดือนละ 20,000 บาท เหลือใช้ต่อเดือนประมาณ 40,000 บาท รายได้ส่วนนี้ต้องแบ่งกับน้าคนละครึ่ง เพราะครอบครัวน้าชายย้ายที่ทำกินจากปากช่องมาเลี้ยงหมู ทำไร่ ก็แบ่งกันกับครอบครัวน้าชาย พออยู่พอกิน เงินกู้ส่วนที่เหลือ 1.5 ล้านบาท ผมทำหน้าที่ส่งเอง เพราะผมพอมีรายได้ ผมส่งเงินให้แม่ใช้หนี้เงินกู้เดือนละ 100,000 บาท ขาดบ้าง เกินบ้าง ใช้ระยะเวลาใช้หนี้ประมาณ 1.5 ปี หนี้สินส่วนที่ยืมป้ามาใช้ ก็หมด พอใช้หนี้หมด รายได้ผมก็เริ่มหดหาย โดนจับบ้าง โดนแบนบ้าง ต่างๆนาๆ อย่างว่า ผมทำเวปสายเทา มันต้องมีโดนกันบ้าง ตอนนี้ก็พอมีเงินส่งให้แม่ใช้บ้าง 3-5 หมื่นบาทต่อเดือน ลืมบอก ผมได้ขยับขยายตัวเองจากเช่าห้องเดือนละ 3,000 บาท ย้ายมาเช่าคอนโดเดือนละ 10,000 บาท อยู่กินกับแฟนสองคน มีแต่คนพูดว่า ทำไมไม่ซื้อไปเลยค่าเช่าตั้งเดือนละหมื่น (คิดในใจ แล้วมายุ่งอะไรกับชีวิตตรู 555) ที่ผมเช่าเพราะผมคิดว่า ชีวิตผมไม่ได้อยู่ที่ กทม ผมอยากกลับไปอยู่บ้าน ทำไร่ ทำสวน เลี้ยงหมู จะต้องเอาเงินเป็นล้านๆ มาซื้อคอนโดห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆทำไม
ผมเดินทางกลับบ้านแทบทุกสัปดาห์ เจอหน้าพ่อหน้าแม่ เจอหน้าหลานๆ รู้สึกว่ามันมีความสุขมากๆ พอผมได้ปลูกต้นไม้ ทำสวน ทำให้ผมรู้ซึ้งถึงตัวเองว่า นี่แหละชีวิตเรา เรารักธรรมชาติ ถ้าผมกลับไปอยู่บ้าน ผมจะไม่ใส่รองเท้า ใส่บ้างเป็นครั้งคราว เดินเท้าเปล่า รู้สึกดีมากกว่าใส่รองเท้าไม่เชื่อลองดู และแล้วก็มีความเปลี่ยนแหลงกับชีวิตผม แฟนผมท้อง ผมดีใจมาก ครอบครัวผมก็ดีใจมาก อายุ 29 แล้ว มีหลานให้พ่อแม่ได้ซักที ผมจะแต่งงานเดือน พ.ย. ที่จะถึงนี้ ถ้าลูกผมออก ถ้าแฟนอยากเลี้ยงน้องเอง ผมก็จะย้ายกลับไปอยู่ ตจว ทันทีครับ ที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา มีครอบครัวที่อบอุ่น กลับบ้านไปดูแลกิจการที่บ้าน ที่เราได้สร้างมันไว้ กลับไปดูแลสวน ที่เราชอบ คาดไว้ว่าอีก 2 ปีหนี้สินหมด ก็จะขอแม่กู้เงินสร้างบ้านหลังเล็กๆซักหลัง ใช้ชีวิตพอเพียง ทำไร่ ทำสวน อยู่กับธรรมชาติ
เอาภาพสวนผักหวานป่าเล็กๆ และฟาร์มหมูมาฝากครับ
กรอบสีแดงคือที่ดินบ้านผม พื้นที่ว่างๆสีดำ นี่แหละครับ จะเป็นที่ทำสวนปลูกต้นไม้ของผม
ขอบคุณที่อ่านบทความของผมจนจบนะครับ คำพูดอาจจะเรียบเรียงไม่สวยซักเท่าไหร่ ขออภัยด้วยนะครับ
*** ถามตัวเราเองดูนะครับ ว่าชีวิตเราต้องการอะไร หามันให้เจอ แล้วคุณจะมีความสุขครับ ***
วาระสุดท้ายของชีวิตเมืองกรุง
เริ่มแรกเดิมทีครอบครัวของผมเป็นครอบครัวบ้านนอก ลูกชายคนเดียว ที่ประกอบอาชีพเกษตกร พอมีพอกิน พอส่งผมเรียนไปวันๆ ทางบ้านเริ่มประกอบอาชีพเลี้ยงสุกรของ CP ตั้งแต่ผมอยู่ช่วง ม. 3 หนี้สินของครอบครัวพอมีบ้าง ประมาณ 4 แสนบาท หลังจากผมจบ ม. 3 ผมก็เรียนต่อสายอาชีพ สาขาช่างไฟฟ้ากำลัง ซึ่งเป็นอะไรที่ตรงสายมากๆ ผมชอบมากๆ ถ้าพูดถึงความเก่งกาจในการเรียนตอบได้เลยว่า สมองก็เหมือนคนปกติทั่วไป แต่หัวไวกว่าชาวบ้าน การเรียนอยู่ในอันดับ Top ติด 1 ในสามของชั้นเรียน แต่ความขยันมีน้อยมาก ขี้เกียจทำงานส่ง เน้นสอบอย่างเดียว ชีวิตก็เรียนไปวันๆ
หลังจากเรียนจบ ปวส. ผมก็ได้โควต้าเรียนต่อ ป. ตรี ใน กทม เกรดโควต้าของผม 2.76 พอไปวัดไปวา ชีวิตก็เช่นเคย เรียนไปวันๆแบบชิวๆ ชีวิตผมเริ่มเปลี่ยนเมื่อตอนขึ้น ปี 2 ที่ห้องเช่าหน้า มหาลัย มีการติด Internet ที่ห้อง ลืมบอกไป ห้องพักของผม พักกันอยู่ 3 คน เป็นเพื่อนร่วมห้องที่ได้โควต้ามาที่เดียวกัน ชีวิตของชายวัยรุ่นกับหน้าคอมก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากการโหลดหนังโป๊ ดูไปวันๆ เรียนไปวันๆ จนผมเริ่มหาเห็นช่องทางการหาเงินทาง Internet คือทำเวปแบ่งปัน บลาๆ (เวปแนวสายเทา) จนพอมีรายได้เริ่มส่งตัวเองเรียนได้ ไม่ต้องขอค่ากินอยู่ ขอเพียงค่าเทอมบ้างเป็นครั้งคราว
พอขึ้นปี 3 รายได้เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ชีวิตก็เรียน กิน เที่ยว ไปวันๆ ผมทำเวปมาเรื่อยๆจนเรียนจบ เพื่อนๆก็มีงานทำกันหมดแล้ว แต่ผมไม่มีงาน ทำแต่เวปไปวันๆ ส่งเงินให้แม่ใช้หนี้สินจนหมด ภายในระยะเวลาไม่นาน หลังจากหนี้สินหมด ผมก็เก็บเงินดาวน์รถ ส่งค่างวดเดือนละประมาณ 9,000 กว่าบาทต่อเดือน แต่ชีวิตก็ยังหาจุดหมายที่แน่นอนไม่ได้ จนผมคิดได้ด้วยเห็นว่า งานตรงนี้มันไม่แน่นอน ต้องหาอะไรที่มันมั่นคง พอดีทางบ้านมีโครงการขยายฟาร์มสุกรเพิ่ม ทีนี้เริ่มเห็นช่องทาง เลยจัดไป กู้เงินเพื่อสร้างฟาร์สุกร ประมาณ 3 ล้านบาท แต่ทว่า ต้องมีเงินโชว์บัญชี 1.5 ล้านบาท ที่ดินก็มีผืนเดียวเอาจำนองกู้สามล้านไปแล้ว จึงได้พึ่งใบบุญคุณป้า ยืมที่ดินมาจำนอง เพื่อแค่เอาเงินโชว์บัญชี แต่ทำไปทำมา ทำเล้าเสร็จ ทั้งเงินกู้และเงินโชว์รวมประมาณ 4.5 ล้านบาท ใช้หมดพอดี
รายได้จากฟาร์มสุกรได้รับเป็นแบบรายเดือนๆละ 120,000 บาท หักค่าเงินกู้ เดือนละประมาณ 60,000 บาท ระยะเวลาส่ง 5 ปี ค่าใช่จ่ายประมาณเดือนละ 20,000 บาท เหลือใช้ต่อเดือนประมาณ 40,000 บาท รายได้ส่วนนี้ต้องแบ่งกับน้าคนละครึ่ง เพราะครอบครัวน้าชายย้ายที่ทำกินจากปากช่องมาเลี้ยงหมู ทำไร่ ก็แบ่งกันกับครอบครัวน้าชาย พออยู่พอกิน เงินกู้ส่วนที่เหลือ 1.5 ล้านบาท ผมทำหน้าที่ส่งเอง เพราะผมพอมีรายได้ ผมส่งเงินให้แม่ใช้หนี้เงินกู้เดือนละ 100,000 บาท ขาดบ้าง เกินบ้าง ใช้ระยะเวลาใช้หนี้ประมาณ 1.5 ปี หนี้สินส่วนที่ยืมป้ามาใช้ ก็หมด พอใช้หนี้หมด รายได้ผมก็เริ่มหดหาย โดนจับบ้าง โดนแบนบ้าง ต่างๆนาๆ อย่างว่า ผมทำเวปสายเทา มันต้องมีโดนกันบ้าง ตอนนี้ก็พอมีเงินส่งให้แม่ใช้บ้าง 3-5 หมื่นบาทต่อเดือน ลืมบอก ผมได้ขยับขยายตัวเองจากเช่าห้องเดือนละ 3,000 บาท ย้ายมาเช่าคอนโดเดือนละ 10,000 บาท อยู่กินกับแฟนสองคน มีแต่คนพูดว่า ทำไมไม่ซื้อไปเลยค่าเช่าตั้งเดือนละหมื่น (คิดในใจ แล้วมายุ่งอะไรกับชีวิตตรู 555) ที่ผมเช่าเพราะผมคิดว่า ชีวิตผมไม่ได้อยู่ที่ กทม ผมอยากกลับไปอยู่บ้าน ทำไร่ ทำสวน เลี้ยงหมู จะต้องเอาเงินเป็นล้านๆ มาซื้อคอนโดห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆทำไม
ผมเดินทางกลับบ้านแทบทุกสัปดาห์ เจอหน้าพ่อหน้าแม่ เจอหน้าหลานๆ รู้สึกว่ามันมีความสุขมากๆ พอผมได้ปลูกต้นไม้ ทำสวน ทำให้ผมรู้ซึ้งถึงตัวเองว่า นี่แหละชีวิตเรา เรารักธรรมชาติ ถ้าผมกลับไปอยู่บ้าน ผมจะไม่ใส่รองเท้า ใส่บ้างเป็นครั้งคราว เดินเท้าเปล่า รู้สึกดีมากกว่าใส่รองเท้าไม่เชื่อลองดู และแล้วก็มีความเปลี่ยนแหลงกับชีวิตผม แฟนผมท้อง ผมดีใจมาก ครอบครัวผมก็ดีใจมาก อายุ 29 แล้ว มีหลานให้พ่อแม่ได้ซักที ผมจะแต่งงานเดือน พ.ย. ที่จะถึงนี้ ถ้าลูกผมออก ถ้าแฟนอยากเลี้ยงน้องเอง ผมก็จะย้ายกลับไปอยู่ ตจว ทันทีครับ ที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา มีครอบครัวที่อบอุ่น กลับบ้านไปดูแลกิจการที่บ้าน ที่เราได้สร้างมันไว้ กลับไปดูแลสวน ที่เราชอบ คาดไว้ว่าอีก 2 ปีหนี้สินหมด ก็จะขอแม่กู้เงินสร้างบ้านหลังเล็กๆซักหลัง ใช้ชีวิตพอเพียง ทำไร่ ทำสวน อยู่กับธรรมชาติ
เอาภาพสวนผักหวานป่าเล็กๆ และฟาร์มหมูมาฝากครับ
กรอบสีแดงคือที่ดินบ้านผม พื้นที่ว่างๆสีดำ นี่แหละครับ จะเป็นที่ทำสวนปลูกต้นไม้ของผม
ขอบคุณที่อ่านบทความของผมจนจบนะครับ คำพูดอาจจะเรียบเรียงไม่สวยซักเท่าไหร่ ขออภัยด้วยนะครับ
*** ถามตัวเราเองดูนะครับ ว่าชีวิตเราต้องการอะไร หามันให้เจอ แล้วคุณจะมีความสุขครับ ***