สวัสดีค่ะ..เจอกันอีกครั้งจากกระทู้เดิมที่เคยตั้งไว้
http://m.pantip.com/topic/32654876
>>วันนี้มาสรุปทุกอย่างทุกขั้นตอน หลังจากดูแลด้วยเองด้วยการควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างมีระบบ ครบ1เดือนเต็มค่ะ
>>ตอนนั้นที่พี่ได้เคยมาตั้งกระทู้ไว้ เพื่อบอกเล่าประสบการณ์ในการคิดที่จะเปลี่ยนแปลงรูปร่างของตัวเอง รวมถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างความพยายามนั้น จนมาถึงวิธีค้นพบว่าเราควรจัดการกับร่างกายตัวเองอย่างไรในเวลานั้น
วันนั้นที่ตั้งกระทู้คือวันที่ใช้เวลาครบ 1 อาทิตย์กับอีก 4 วัน ที่ทำตามตารางการกิน+การออกกำลังทั้งแบบคาร์ดิโอและเวทให้กับตัวเอง โดยมีที่ปรึกษาเป็นน้อง1-2คนของสมาชิกห้องสวนลุมแห่งนี้นี่ล่ะค่ะ
>>และมาถึงวันนี้ก็เลยถือโอกาสมาบอกเล่าถึงความเปลี่ยนแปลงของร่างกายอีกครั้งค่ะ เมื่อวาน 19/10/57 คือวันที่ปฏิบัติตามโปรแกรมมาครบ 1 เดือน
(4 week)
**เริ่มพาตัวเองเข้าสู่โปรแกรมเมื่อวันที่22ก.ย.57 นะคะ
อวดรูปปัจจุบันนิดนึงค่ะ เพิ่งไปลั๊ลลาที่ทะเลมาค่ะ
>>รายละเอียดการกิน ช่วงเวลาและวันพักของการออกกำลังกายขอให้ย้อนกลับไปดูในกระทู้เดิมนะคะ
>>เอาล่ะค่ะ มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ในวันที่ตั้งกระทู้ครั้งนั้น หนัก45 เอว25 สะโพก34.5 ค่ะ ซึ่งตอนนั้นทั้งน้ำหนักและสัดส่วนก็เป็นที่พอใจมากๆแล้วค่ะ คิดว่าจะคงอยู่ที่เท่านั้นก็คงพอ แต่การควบคุมอาหารและการออกกำลังฯมาตลอด1เดือน มันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอีก2ครั้งจนมาถึง ณ ปัจจุบันนี่ค่ะ
>>เมื่อเวลาผ่านไป2อาทิตย์ (จากวันเริ่มโปรแกรม) ตอนนั้น น้ำหนักเขยิบขึ้นมานิดนึงโดย นน.อยู่ที่45.5 กก. เอว24 สะโพก35 **เอวลดลงค่ะ สะโพกเพิ่มขึ้น แต่ภาพโดยรวมคือตัวบาง สะโพกผาย ก้นเล็กลง ขาเล็กลงค่ะ
>>และมาถึงวันนี้ผ่านมาจะครบ1เดือน น้ำหนัก46.5 กก. เอว23.5 สะโพก35 **จะเห็นได้ว่าน้ำหนักดีดตัวขึ้นมาเท่ากับตอนที่ยังไม่ออกกำลังกายเลยค่ะ แต่เอวลดลงมากเลยทีเดียว สะโพกยังคงที่อยู่ที่35"
**และภาพโดยรวมคือสัดส่วนกลับได้รูป เอวคอดลงมาก ทั้งๆที่น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาเท่าเดิมเลย ทำไมมันเป็นแบบนั้น???
>>เป็นเพราะไขมันลดลงและมีกล้ามเนื้อเข้ามาแทน ซึ่งกล้ามเนื้อนั้นก็มีน้ำหนักค่ะ แต่1กก.ของกล้ามเนื้อมันเล็กกว่า1กก.ของไขมันทั้งๆที่ทั้ง2อย่างมีน้กหนักเท่ากัน มันเลยทำให้น้ำหนักที่มาจากกล้ามเนื้อมีขนาดเล็กกว่าน้ำหนักที่มาจากไขมัน ผลที่ได้เลยทำให้น้ำหนักพี่ขึ้นมาเท่าเดิมแต่รูปร่างกลับเล็กกว่าเดิม หรือสมส่วนกว่านั่นเอง
**ขอสรุปเรื่องการควบคุมอาหาร+การออกกำลังกายดังนี้นะคะ**
>>ส่วนตัวให้ความสำคัญกับอาหาร70% และออกกำลังฯ30%ค่ะ **อาหารคือสิ่งที่สำคัญมากเลยค่ะในการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของเรา พี่ควบคุมปริมาณคาร์บซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการตัวหนาในกระทู้แรก และกินโปรตีนให้เพียงพอสำหรับการสร้างกล้ามเนื้อ ส่วนไขมันก็ต้องกินบ้างค่ะเพราะไขมันก็จำเป็นต่อร่างกายเราเช่นกัน การอดไขมันไปเลยก็ไม่ใช่ทางออกที่ดี ไม่เน้นกินคลีนค่ะเพราะยังติดรสชาติ ยังอยากกินน้ำจิ้ม กินซอส เลยเลือกเดินทางสายกลาง วัตถุดิบที่เลือกมาประกอบอาหารล้วนอยู่ในกลุ่มของอาหารโปรตีนสูงค่ะ
>>เพื่อไม่ให้ร่างกายเครียดเกินไป จะมีวันรีแล็กซ์ 1 มื้อ/สัปดาห์ค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะออกไปทานไอศครีม ขนมเค้ก ประมาณนี้ค่ะ
ส่วนเรื่องการออกกำลังกาย จะคาร์ดิโอ 30 นาทีตอนเช้า และเวทหลังเลิกงานประมาณ1ช.ม.ค่ะ หลังจากกระทู้ที่แล้วมีคนติดต่อหลังไมค์ถามเข้ามามากว่าออกกำลังฯท่าไหน ออกยังไง ซึ่งก็ตอบไปเท่าที่พอทราบนะคะ แต่บอกก่อนเลยว่า 1 เดือนที่ทำตามตารางมานี่เน้นไปทางอาหารมากกว่าเลยค่ะ ออกกำลังฯปกติ ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากหลายๆคนที่ทำอยู่เลยค่ะ แต่อย่างที่บอกอาหารการกินช่วยเราได้เยอะ เมื่อควบคุมปริมาณอาหารได้อย่างดี ทุกอย่างมันจะมาเอง กล้ามเนื้อชัดขึ้นเพราะไขมันลดลง ขาเล็กลงเพราะไขมันต้นขาหายไป เพียงแค่เพิ่มความกระชับและได้กล้ามน้อยๆมาจากการเวทเท่านั้นเอง
อีกอย่างนึงที่อยากขอโอกาสตอบ
**หลังจากมีคนถามเข้ามาอีกเช่นกัน ขออนุญาตตอบรวมๆในกระทู้นี้เลยแล้วกันนะคะ**
มีคนถามว่า...หลังจากเพิ่งทานข้าวอิ่มท้องพี่ป่องมั้ย จะบอกว่ามันก็มีบ้างค่ะเพราะพี่ยังไม่สามารถกำจัดไขมันหน้าท้องได้แบบเกลี้ยงเกลา แต่มันน้อยกว่าเมื่อก่อนมากๆๆๆ มากจริงๆค่ะ และป่องน้อยหลังกินอิ่มมันยุบลงเร็วกว่าเมื่อก่อนมากเมื่อก่อนจะแบนแค่หลังตื่นนอน และพอกินอาหารเช้าก็จะป่องแบบคนท้องอ่อนๆทั้งวัน ซึ่งตอนนี้ปัญหานั้นหมดไปแล้วค่ะ
รูปนี้ได้ถ่ายไว้ทันทีหลังจากเพิ่งทานอาหารมื้อกลางวันอิ่ม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเองค่ะ แต่พี่คิดว่าถ้ากล้ามท้องแข็งแรงกว่านี้มันก็อาจจะไม่ป่องเลยก็ได้นะ เพราะกล้ามเนื้อที่แข็งแรงมากๆมันคงช่วยบดบังความอวบอิ่มของกระเพาะที่เพิ่งใส่อาหารเข้าไปได้นะ (คิดเอง)
จากรูป..คงพอจะยืนได้ว่าหลังกินอิ่มท้องไม่ยื่นจริงๆค่ะ
>>สุดท้าย...ของกระทู้นี้ อยากบอกว่าการลดน้ำหนักไม่ได้หมายความว่าเราต้องมีน้ำหนักที่ลดลงทุกครั้งที่เรากระโดดขึ้นตาชั่งค่ะ การที่เราจะรับรู้ได้ว่ารูปร่างของเราเปลี่ยนแปลงไปหรือยังแนะนำให้ใช้สายวัดแทนตาชั่ง (ข้อนี้มีสมาชิกหลายท่านเคยกล่าวไว้ ขออนุญาตยืมมาสรุปหน่อยนะคะ) ลองวัดสัดส่วนดูค่ะบางทีน้ำหนักเราเพิ่มขึ้นแต่สัดส่วนเราอาจลดลงโดยไม่รู้ตัว และเสียงจากคนรอบข้างสามารถยืนยันได้ว่าเราผอมลง เพราะเค้าพวกนั้นจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนได้มากกว่าเราที่มัวสนใจแต่น้ำหนักบนตาชั่งค่ะ
เปลี่ยนมาลดไขมันกันนะคะ ไม่ใช่คิดจะลดแต่น้ำหนักอย่างเดียว
>>สุดท้ายอีกหนึ่งสุดท้าย ขออนุญาตอวดรูปปัจจุบันกับลูกชายนิดนึงนะคะ

ลูกชายโตเป็นหนุ่มแล้วค่ะ และสิ่งที่ภูมิใจกับวินัยและความพยายามเอาชนะความขี้เกียจของตัวเอง เวลามีคนทักว่านี่แม่หรือพี่สาว แล้วดูสิแม่ตัวแค่เนี๊ยลูกจะโตทันแม่แล้วเนี่ย ท้องแบนแบบนี้มีลูกโตขนาดนี้แล้วหรอเนี่ย...คำพูดพวกนี้จากคนรอบข้างมันทำให้เรายิ้มไม่หุบเลยทีเดียวเชียวนะคะเนี่ย
และนี่คงเป็นกระทู้สุดท้าย(หรือเปล่า) ที่จะมาบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงรูปร่างค่ะ หลังจากนี้ไปพี่ก็ยังจะดำเนินชีวิตเหมือนเดิมทุกอย่างเพื่อรักษาสิ่งนี้เอาไว้กับตัวให้นานที่สุดค่ะ ตอนนี้บอกได้เลยว่าเสพติดการออกกำลังกายเข้าซะแล้วสิคะ...
ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆคนที่พยายามเปลี่ยนแปลงรูปร่างตัวเองนะคะ ขอให้ทุกคนทำสำเร็จค่ะ
ลดน้ำหนักเหรอ??? คำนี้ไม่เคยมีอยู่ในสมอง...บอกเลย
>>วันนี้มาสรุปทุกอย่างทุกขั้นตอน หลังจากดูแลด้วยเองด้วยการควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างมีระบบ ครบ1เดือนเต็มค่ะ
>>ตอนนั้นที่พี่ได้เคยมาตั้งกระทู้ไว้ เพื่อบอกเล่าประสบการณ์ในการคิดที่จะเปลี่ยนแปลงรูปร่างของตัวเอง รวมถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างความพยายามนั้น จนมาถึงวิธีค้นพบว่าเราควรจัดการกับร่างกายตัวเองอย่างไรในเวลานั้น
วันนั้นที่ตั้งกระทู้คือวันที่ใช้เวลาครบ 1 อาทิตย์กับอีก 4 วัน ที่ทำตามตารางการกิน+การออกกำลังทั้งแบบคาร์ดิโอและเวทให้กับตัวเอง โดยมีที่ปรึกษาเป็นน้อง1-2คนของสมาชิกห้องสวนลุมแห่งนี้นี่ล่ะค่ะ
>>และมาถึงวันนี้ก็เลยถือโอกาสมาบอกเล่าถึงความเปลี่ยนแปลงของร่างกายอีกครั้งค่ะ เมื่อวาน 19/10/57 คือวันที่ปฏิบัติตามโปรแกรมมาครบ 1 เดือน
(4 week)
**เริ่มพาตัวเองเข้าสู่โปรแกรมเมื่อวันที่22ก.ย.57 นะคะ
อวดรูปปัจจุบันนิดนึงค่ะ เพิ่งไปลั๊ลลาที่ทะเลมาค่ะ
>>รายละเอียดการกิน ช่วงเวลาและวันพักของการออกกำลังกายขอให้ย้อนกลับไปดูในกระทู้เดิมนะคะ
>>เอาล่ะค่ะ มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ในวันที่ตั้งกระทู้ครั้งนั้น หนัก45 เอว25 สะโพก34.5 ค่ะ ซึ่งตอนนั้นทั้งน้ำหนักและสัดส่วนก็เป็นที่พอใจมากๆแล้วค่ะ คิดว่าจะคงอยู่ที่เท่านั้นก็คงพอ แต่การควบคุมอาหารและการออกกำลังฯมาตลอด1เดือน มันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอีก2ครั้งจนมาถึง ณ ปัจจุบันนี่ค่ะ
>>เมื่อเวลาผ่านไป2อาทิตย์ (จากวันเริ่มโปรแกรม) ตอนนั้น น้ำหนักเขยิบขึ้นมานิดนึงโดย นน.อยู่ที่45.5 กก. เอว24 สะโพก35 **เอวลดลงค่ะ สะโพกเพิ่มขึ้น แต่ภาพโดยรวมคือตัวบาง สะโพกผาย ก้นเล็กลง ขาเล็กลงค่ะ
>>และมาถึงวันนี้ผ่านมาจะครบ1เดือน น้ำหนัก46.5 กก. เอว23.5 สะโพก35 **จะเห็นได้ว่าน้ำหนักดีดตัวขึ้นมาเท่ากับตอนที่ยังไม่ออกกำลังกายเลยค่ะ แต่เอวลดลงมากเลยทีเดียว สะโพกยังคงที่อยู่ที่35"
**และภาพโดยรวมคือสัดส่วนกลับได้รูป เอวคอดลงมาก ทั้งๆที่น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาเท่าเดิมเลย ทำไมมันเป็นแบบนั้น???
>>เป็นเพราะไขมันลดลงและมีกล้ามเนื้อเข้ามาแทน ซึ่งกล้ามเนื้อนั้นก็มีน้ำหนักค่ะ แต่1กก.ของกล้ามเนื้อมันเล็กกว่า1กก.ของไขมันทั้งๆที่ทั้ง2อย่างมีน้กหนักเท่ากัน มันเลยทำให้น้ำหนักที่มาจากกล้ามเนื้อมีขนาดเล็กกว่าน้ำหนักที่มาจากไขมัน ผลที่ได้เลยทำให้น้ำหนักพี่ขึ้นมาเท่าเดิมแต่รูปร่างกลับเล็กกว่าเดิม หรือสมส่วนกว่านั่นเอง
**ขอสรุปเรื่องการควบคุมอาหาร+การออกกำลังกายดังนี้นะคะ**
>>ส่วนตัวให้ความสำคัญกับอาหาร70% และออกกำลังฯ30%ค่ะ **อาหารคือสิ่งที่สำคัญมากเลยค่ะในการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของเรา พี่ควบคุมปริมาณคาร์บซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการตัวหนาในกระทู้แรก และกินโปรตีนให้เพียงพอสำหรับการสร้างกล้ามเนื้อ ส่วนไขมันก็ต้องกินบ้างค่ะเพราะไขมันก็จำเป็นต่อร่างกายเราเช่นกัน การอดไขมันไปเลยก็ไม่ใช่ทางออกที่ดี ไม่เน้นกินคลีนค่ะเพราะยังติดรสชาติ ยังอยากกินน้ำจิ้ม กินซอส เลยเลือกเดินทางสายกลาง วัตถุดิบที่เลือกมาประกอบอาหารล้วนอยู่ในกลุ่มของอาหารโปรตีนสูงค่ะ
>>เพื่อไม่ให้ร่างกายเครียดเกินไป จะมีวันรีแล็กซ์ 1 มื้อ/สัปดาห์ค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะออกไปทานไอศครีม ขนมเค้ก ประมาณนี้ค่ะ
ส่วนเรื่องการออกกำลังกาย จะคาร์ดิโอ 30 นาทีตอนเช้า และเวทหลังเลิกงานประมาณ1ช.ม.ค่ะ หลังจากกระทู้ที่แล้วมีคนติดต่อหลังไมค์ถามเข้ามามากว่าออกกำลังฯท่าไหน ออกยังไง ซึ่งก็ตอบไปเท่าที่พอทราบนะคะ แต่บอกก่อนเลยว่า 1 เดือนที่ทำตามตารางมานี่เน้นไปทางอาหารมากกว่าเลยค่ะ ออกกำลังฯปกติ ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากหลายๆคนที่ทำอยู่เลยค่ะ แต่อย่างที่บอกอาหารการกินช่วยเราได้เยอะ เมื่อควบคุมปริมาณอาหารได้อย่างดี ทุกอย่างมันจะมาเอง กล้ามเนื้อชัดขึ้นเพราะไขมันลดลง ขาเล็กลงเพราะไขมันต้นขาหายไป เพียงแค่เพิ่มความกระชับและได้กล้ามน้อยๆมาจากการเวทเท่านั้นเอง
อีกอย่างนึงที่อยากขอโอกาสตอบ
**หลังจากมีคนถามเข้ามาอีกเช่นกัน ขออนุญาตตอบรวมๆในกระทู้นี้เลยแล้วกันนะคะ**
มีคนถามว่า...หลังจากเพิ่งทานข้าวอิ่มท้องพี่ป่องมั้ย จะบอกว่ามันก็มีบ้างค่ะเพราะพี่ยังไม่สามารถกำจัดไขมันหน้าท้องได้แบบเกลี้ยงเกลา แต่มันน้อยกว่าเมื่อก่อนมากๆๆๆ มากจริงๆค่ะ และป่องน้อยหลังกินอิ่มมันยุบลงเร็วกว่าเมื่อก่อนมากเมื่อก่อนจะแบนแค่หลังตื่นนอน และพอกินอาหารเช้าก็จะป่องแบบคนท้องอ่อนๆทั้งวัน ซึ่งตอนนี้ปัญหานั้นหมดไปแล้วค่ะ
รูปนี้ได้ถ่ายไว้ทันทีหลังจากเพิ่งทานอาหารมื้อกลางวันอิ่ม เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเองค่ะ แต่พี่คิดว่าถ้ากล้ามท้องแข็งแรงกว่านี้มันก็อาจจะไม่ป่องเลยก็ได้นะ เพราะกล้ามเนื้อที่แข็งแรงมากๆมันคงช่วยบดบังความอวบอิ่มของกระเพาะที่เพิ่งใส่อาหารเข้าไปได้นะ (คิดเอง)
จากรูป..คงพอจะยืนได้ว่าหลังกินอิ่มท้องไม่ยื่นจริงๆค่ะ
>>สุดท้าย...ของกระทู้นี้ อยากบอกว่าการลดน้ำหนักไม่ได้หมายความว่าเราต้องมีน้ำหนักที่ลดลงทุกครั้งที่เรากระโดดขึ้นตาชั่งค่ะ การที่เราจะรับรู้ได้ว่ารูปร่างของเราเปลี่ยนแปลงไปหรือยังแนะนำให้ใช้สายวัดแทนตาชั่ง (ข้อนี้มีสมาชิกหลายท่านเคยกล่าวไว้ ขออนุญาตยืมมาสรุปหน่อยนะคะ) ลองวัดสัดส่วนดูค่ะบางทีน้ำหนักเราเพิ่มขึ้นแต่สัดส่วนเราอาจลดลงโดยไม่รู้ตัว และเสียงจากคนรอบข้างสามารถยืนยันได้ว่าเราผอมลง เพราะเค้าพวกนั้นจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนได้มากกว่าเราที่มัวสนใจแต่น้ำหนักบนตาชั่งค่ะ
เปลี่ยนมาลดไขมันกันนะคะ ไม่ใช่คิดจะลดแต่น้ำหนักอย่างเดียว
>>สุดท้ายอีกหนึ่งสุดท้าย ขออนุญาตอวดรูปปัจจุบันกับลูกชายนิดนึงนะคะ
ลูกชายโตเป็นหนุ่มแล้วค่ะ และสิ่งที่ภูมิใจกับวินัยและความพยายามเอาชนะความขี้เกียจของตัวเอง เวลามีคนทักว่านี่แม่หรือพี่สาว แล้วดูสิแม่ตัวแค่เนี๊ยลูกจะโตทันแม่แล้วเนี่ย ท้องแบนแบบนี้มีลูกโตขนาดนี้แล้วหรอเนี่ย...คำพูดพวกนี้จากคนรอบข้างมันทำให้เรายิ้มไม่หุบเลยทีเดียวเชียวนะคะเนี่ย
และนี่คงเป็นกระทู้สุดท้าย(หรือเปล่า) ที่จะมาบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงรูปร่างค่ะ หลังจากนี้ไปพี่ก็ยังจะดำเนินชีวิตเหมือนเดิมทุกอย่างเพื่อรักษาสิ่งนี้เอาไว้กับตัวให้นานที่สุดค่ะ ตอนนี้บอกได้เลยว่าเสพติดการออกกำลังกายเข้าซะแล้วสิคะ...
ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆคนที่พยายามเปลี่ยนแปลงรูปร่างตัวเองนะคะ ขอให้ทุกคนทำสำเร็จค่ะ