...............................................................
นักวิชาการ นักทฤษฏี จะคิดเชิงระบบเพื่อภววิสัย
นักปฏิบัติ จะคิดถึงความเป็นไปได้ โดยตั้งบนฐานบทบาทหน้าที่
ไม่ก็คิดเชิงกลยุทธ ไม่ได้เน้นความมีเหตุผลมากกว่าประสิทธิภาพเชิงดำเนินการ
เพื่อขับเคลื่อน ปรับเปลี่ยนโลก โดยมีตัวเขาเป็นตัวเร่ง หรือเครื่องมือการเปลี่ยนแปลง
นักปฏิบัติจะมีกรอบการมองที่มีแรงจูงใจ จากเจตจำนงมุ่งกระทำต่อโลกที่เป็นจริง
มีการชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย ไม่ได้เล็งผลเลิศ และยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบของผลลัพธ์ในทุกกรณี
พร้อมกับมีความยืดหยุ่นต่อการปรับเปลี่ยน...ตลอดเวลา เขาจะสนุกกับการรับรู้และเลือกและลงมาทำ ..
เขาคือผู้ได้สัมผัสกับความภาคภูมิใจจากความเพียรพยายามของตนเอง และรู้รสชาติของความเหน็ดเหนื่อยกับการหยุดพัก
เพราะ เมื่องานจบตามกำหนดเวลา เขาก็จักได้เสรีภาพที่จะโบยบิน โดยไร้ตัวตนบนตัวตนแห่งการอุทิศให้กับภารกิจ นั้นแล้ว
นักปฏิบัติ
นักวิชาการ นักทฤษฏี จะคิดเชิงระบบเพื่อภววิสัย
นักปฏิบัติ จะคิดถึงความเป็นไปได้ โดยตั้งบนฐานบทบาทหน้าที่
ไม่ก็คิดเชิงกลยุทธ ไม่ได้เน้นความมีเหตุผลมากกว่าประสิทธิภาพเชิงดำเนินการ
เพื่อขับเคลื่อน ปรับเปลี่ยนโลก โดยมีตัวเขาเป็นตัวเร่ง หรือเครื่องมือการเปลี่ยนแปลง
นักปฏิบัติจะมีกรอบการมองที่มีแรงจูงใจ จากเจตจำนงมุ่งกระทำต่อโลกที่เป็นจริง
มีการชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย ไม่ได้เล็งผลเลิศ และยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบของผลลัพธ์ในทุกกรณี
พร้อมกับมีความยืดหยุ่นต่อการปรับเปลี่ยน...ตลอดเวลา เขาจะสนุกกับการรับรู้และเลือกและลงมาทำ ..
เขาคือผู้ได้สัมผัสกับความภาคภูมิใจจากความเพียรพยายามของตนเอง และรู้รสชาติของความเหน็ดเหนื่อยกับการหยุดพัก
เพราะ เมื่องานจบตามกำหนดเวลา เขาก็จักได้เสรีภาพที่จะโบยบิน โดยไร้ตัวตนบนตัวตนแห่งการอุทิศให้กับภารกิจ นั้นแล้ว