สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
เราเป็นชาวพุทธ พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนว่าการทานเจเป็นบุญ ก็ถูก แต่เราคิดว่าการไม่เบียดเบียนชีวิตผู้อื่นก็เป็นบุญ เช่นกัน การที่สัตว์ทั้งหลายเกิดมาเป็นสัตว์เดรัจฉาน จริงอยู่ว่าสัตว์ทุกตัวมีกรรมเป็นของๆ ตน มีกรรมเป็นเครื่องกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ มีกรรมเป็นพวกพ้อง สัตว์ทุกตัวหลุดหนีจากบ่วงกรรมของตนไม่พ้น เพียงเพราะเราทานเจ ก็ไม่ได้ทำให้สัตว์เหล่านั้นหลุดหนีจากบ่วงกรรมพ้น" ตรงนี้ก็ถูกค่ะ แต่ถ้าสมมุติว่าเราทุกคน ทุกคนเลยนะค่ะ ไม่ทานเนื้อสัตว์ ก็จะไม่มีการฆ่าเพื่อนำมาเป็นอาหาร ก็จะไม่มีการเบียดเบียนเอาชีวิตผู้อื่น
การที่สัตว์ทั้งหลายเกิดมาคือการใช้กรรม ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นอาหารของใคร แค่เกิดมาเป็นสัตว์เดรัจฉาน ก็หมดสิทธิ์จะสร้างบุญแล้ว เป็นกรรมที่หนักพอควรแล้ว สมมุติว่าโลกนี้มียักษ์ที่กินคนเป็นอาหาร แต่ละวันคนก็ถูกยักษ์กินทุกวันๆๆๆๆ เชื่อเถอะว่าก็จะมีคนคิดและรู้สึกว่า เฮ้ย ฉันไม่ได้เกิดมาเพื่ออาหารของยักษ์นะ ทำไมแกไม่ไปกินผัก กินสัตว์อื่นแทนเป็นอาหารล่ะ ใจเขาก็ใจเรา
ใครสบายใจทานเจ ใครสบายใจไม่ทานเจ ก็แล้วแต่เจตนาของการกระทำ คนทานเจก็ไม่ใช่ว่าจะดีไปกว่าคนไม่ทานเจ หลายๆคนชอบเอามาข่มว่าฉันทานเจ คนไม่ทานเจ เป็นคนบาป
**ขอแชร์มุมมองความคิดเห็นบางส่วนค่ะ แต่ไม่ได้มีเจตนาขัดแย้ง หรือชี้ว่าความคิดใดถูกหรือผิดนะค่ะ ทุกความคิดมีเหตุผลในตัวของมันเองเสมอ
การที่สัตว์ทั้งหลายเกิดมาคือการใช้กรรม ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นอาหารของใคร แค่เกิดมาเป็นสัตว์เดรัจฉาน ก็หมดสิทธิ์จะสร้างบุญแล้ว เป็นกรรมที่หนักพอควรแล้ว สมมุติว่าโลกนี้มียักษ์ที่กินคนเป็นอาหาร แต่ละวันคนก็ถูกยักษ์กินทุกวันๆๆๆๆ เชื่อเถอะว่าก็จะมีคนคิดและรู้สึกว่า เฮ้ย ฉันไม่ได้เกิดมาเพื่ออาหารของยักษ์นะ ทำไมแกไม่ไปกินผัก กินสัตว์อื่นแทนเป็นอาหารล่ะ ใจเขาก็ใจเรา
ใครสบายใจทานเจ ใครสบายใจไม่ทานเจ ก็แล้วแต่เจตนาของการกระทำ คนทานเจก็ไม่ใช่ว่าจะดีไปกว่าคนไม่ทานเจ หลายๆคนชอบเอามาข่มว่าฉันทานเจ คนไม่ทานเจ เป็นคนบาป
**ขอแชร์มุมมองความคิดเห็นบางส่วนค่ะ แต่ไม่ได้มีเจตนาขัดแย้ง หรือชี้ว่าความคิดใดถูกหรือผิดนะค่ะ ทุกความคิดมีเหตุผลในตัวของมันเองเสมอ
แสดงความคิดเห็น
มีใครที่ไม่ทานเจเพราะเหตุผลว่า พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนว่า การทานเจเป็นการทำบุญ บ้างครับ
แต่มีหลักฐานว่า พระเทวทัตตั้งข้อเสนอให้พระสงฆ์ทานมังสวิรัติ แล้วพระพุทธเจ้าไม่เห็นด้วย เทวทัตจึงรวมกลุ่มบรรดาภิกษุสงฆ์ที่เห็นดีเห็นงามกับการทานมังสวิรัติ รวมถึงข้อเสนออื่นๆ แล้วแยกออกไปจากพระพุทธเจ้า
ถ้าชาตินี้เราทานเจเพราะเข้าใจว่า เป็นการทำบุญ เป็นการลดละการเบียดเบียน ลดการฆ่าสัตว์ ก็เท่ากับเรากำลังสั่งสมความเห็นผิดออกไปเรื่อยๆ ปีนี้ ปีต่อไป ปีต่อๆๆ ไป
แล้วก็ชาติต่อไป ชาติต่อๆๆๆๆๆ ไป ก็จะยิ่งเพิ่มพูนความเห็นผิดไปเรื่อยๆ
และหากเราโชคดีได้เกิดมาร่วมสมัยกับพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง แล้วพอมีคนอย่างเทวทัตยื่นข้อเสนอแบบนี้มา เราก็จะพลอยเห็นดีเห็นงามแล้วไปร่วมกับกลุ่มเทวทัตไปซะ
สัตว์ทุกตัวมีกรรมเป็นของๆ ตน มีกรรมเป็นเครื่องกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ มีกรรมเป็นพวกพ้อง สัตว์ทุกตัวหลุดหนีจากบ่วงกรรมของตนไม่พ้น เพียงเพราะเราทานเจ ก็ไม่ได้ทำให้สัตว์เหล่านั้นหลุดหนีจากบ่วงกรรมพ้น
การทานเนื้อสัตว์ไม่ใช่การทำบาป และการทานเจไม่ใช่การทำบุญ
ยิ่งทานเจมากเท่าไหร่ บางคนทานตลอดชีวิต ความรู้สึกที่มีต่อเนื้อสัตว์ก็จะเปลี่ยนไป กลายเป็นขยะแขยง แค่เนื้อสัตว์เข้าปาก ก็อยากจะอ้วก ได้กลิ่นก็จะอ๊วก ความรู้สึกนี้ ไม่ใช่บุญอะไรเลย แต่เป็นบาปด้วยซ้ำ เพราะเป็นอกุศลเจตสิกเกิดขึ้น และชาตินี้เป็นอย่างนี้ ชาติต่อไปก็จะเป็นอย่างนี้ สั่งสมมากไปเรื่อยๆๆๆๆๆ
พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า กลิ่นเนื้อสัตว์ไม่ใช่กลิ่นดิบ แต่กลิ่นดิบ คือกลิ่นของกิเลส
แต่ถ้าทานเจเพื่อสุขภาพ ลดละการทานเนื้อสัตว์ซักช่วงระยะหนึ่งในปี เพื่อให้เวลากระเพราะล้างพิษจากเนื้อสัตว์ที่สั่งสมมาตลอดปีออกไปเสียบ้าง ก็โอเคนะ